คอมพิวเตอร์ที่ทับทิมใช้เป็นประจำคือโน๊ตบุ๊คสีดำซึ่งมีอายุการใช้งานสองปี ตั้งแต่เจ้าของของมันจากไป เจ้าโน๊ตบุ๊คก็ถูกวางอย่างไม่ได้รับความสนใจอยู่ในซองเก็บบนชั้นวางของ พิมพ์พลอยเดินทางกลับมาที่ห้องพักเพื่อจะนำมันไปใช้งานอีกครั้งขณะนักเขียนหนุ่มอาสารออยู่ในลานจอดรถด้านล่าง พิมพ์พลอยหยิบโน๊ตบุ๊คของพี่สาวมาวางไว้ในห้องนั่งเล่นก่อนจะแวบเข้าห้องน้ำไปล้างหน้าเรียกความสดชื่น เธอบอกตนเองว่าอีกไม่นานเธอจะต้องสืบให้รู้เรื่องให้ได้ว่าพี่สาวไปทำอะไรเอาไว้ พิมพ์พลอยไม่อยากคิดว่าพี่ทับทิมของเธอจะเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย แต่ถึงกระนั้น เงินลึกลับหนึ่งล้านบาทก็มักบั่นทอนความเชื่อมั่นของเธอทุกครั้งที่นึกถึง
พิมพ์พลอยไม่รู้ว่าหากภาคีไม่ยอมยื่นมือเข้ามาช่วย เธอจะทำอย่างไรดี เธอนึกเกลียดตัวเองที่กลั้นน้ำตาไม่อยู่ เธอรู้ดีว่าที่ภาคีกลับมาช่วยเธอนั้นก็เพราะความสงสาร ซึ่งพิมพ์พลอยไม่ชอบให้ใครมาสงสาร เธอไม่เคยปล่อยให้ใครเห็นเธอร้องไห้มาก่อนนอกจากพี่สาว
แต่ความรู้สึกบางอย่างในใจก็บอกเธอว่า วันนี้ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปแล้ว
หญิงสาวเห็นกริยาท่าทางของภาคี เห็นสีหน้าอันเปี่ยมล้นความตั้งใจช่วยเหลือเธอ ทั้งที่ในตอนแรกเธอคิดว่าเขาจะไม่เต็มใจ แต่เมื่อได้นั่งรถไป – เธอเป็นคนขับ เขาเป็นคนนั่ง และเป็นการขับรถครั้งแรกๆ ในรอบสัปดาห์ของเธอ - ได้พูดคุยทำความรู้จักกันระหว่างขับรถไปธนาคาร มันทำให้พิมพ์พลอยรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาอย่างประหลาด
ภาคีที่เธอเห็นเป็นคนที่มีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ในดวงตา สีหน้าของเขาเหมือนคนที่ชอบครุ่นคิดเรื่องต่างๆ ตลอดเวลา และไม่ยอมให้ใครเข้าใจความคิดหรือเข้าใกล้ตัวตนที่แท้จริงได้ง่ายๆ ความรู้สึกบางอย่างบอกพิมพ์พลอยว่า ภาคีเคยผ่านประสบการณ์ความเจ็บปวดทางจิตใจขั้นสาหัสมาแล้ว
ภาคีบอกเธอว่าเขาเป็นนักเขียน ส่วนใหญ่จะเป็นแนวสืบสวนตำรวจจับผู้ร้ายหรือนิยายฆาตกรรมทั่วไป ซึ่งพิมพ์พลอยไม่เคยอ่าน แต่เมื่อเธอบอกเขาว่าตัวเธอเองกำลังเรียนด้านสังคมสงเคราะห์ นัยน์ตาของเขากลับเป็นประกาย
หญิงสาวแทบไม่อยากเชื่อว่าตัวเองจะเล่าเรื่องราวเหล่านั้นให้คนที่เพิ่งเจอหน้ากันเพียงสองครั้งและรู้จักกันได้แค่ไม่กี่ชั่วโมงอย่างภาคีฟัง พิมพ์พลอยเริ่มไม่เข้าใจตัวเอง เธอไม่เคยทำอย่างนี้กับใครมานานมากแล้ว กำแพงที่เธอสร้างไว้ห่อหุ้มจิตใจเหมือนจะเริ่มสลายลงช้าๆ เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา
หญิงสาวสลัดความคิด จ้องมองเงาสะท้อนในกระจกของตัวเอง ใบหน้าขาวซีดเซียวที่มีขอบตาบวมแดงจ้องตอบกลับมา พิมพ์พลอยสูดหายใจเข้าเต็มปอดแล้วเดินออกจากห้องน้ำ เช็ดหน้าให้แห้งและจัดการแต่งหน้าบางๆ กลบเกลื่อนร่องรอยทั้งหมดก่อนจะหยิบซองเก็บโน๊ตบุ๊คของพี่สาว และก้าวออกจากห้อง ลงลิฟท์กลับไปหาเขาที่ลานจอดรถอีกครั้ง
********
ภาคีเพิ่งเสร็จสิ้นการโทร.ไปบอกแฮ็คเกอร์เพื่อนรักว่าจะไปหาและมีเรื่องรบกวนขอความช่วยเหลือ นักเขียนหนุ่มแจ้งเบื้องต้นว่าต้องการหาข้อมูลเกี่ยวกับคนที่ชื่อวราวุธ ใจโหด( - “สาบานนะว่านั่นคือชื่อคน?” มหาสมุทรแทรกขึ้นพร้อมหัวเราะลั่น - ) แต่ภาคียังไม่ได้บอกว่าต้องการหาไปเพื่ออะไร เขาตั้งใจจะอธิบายเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนฟังทีหลัง “คุณนี่เจ๋งจังเลยนะ มีเพื่อนเป็นแฮ็กเกอร์ด้วย” ทับทิมชวนคุยเมื่อชายหนุ่มยัดแบล็คเบอร์รี่ย์เก็บใส่กระเป๋า “ผมรู้จักกับเพื่อนคนนี้ตั้งแต่มันยังเป็นเด็กติดเกมส์อยู่เลย” นักเขียนหนุ่มกล่าว “พอมันเป็นแฮ็กเกอร์ มันก็ช่วยผมหาข้อมูลเขียนหนังสือได้ดีกว่าห้องสมุดทั่วโลกรวมกันซะอีก”
ภาคียืนพิงรถเก๋งสีดำของพิมพ์พลอย ทับทิมเองก็กำลังยืนพิงรถอยู่ข้างๆ เขาเช่นกัน เลือดของเธอไหลทะลักได้ตลอดเวลาอย่างไม่มีหมดและไม่มีหยุด แต่ที่ภาคีสังเกตเห็นก็คือ ครั้งนี้ยิ่งทับทิมคุยไป ร่างกายของเธอก็ยิ่งโปร่งใสมากขึ้นทุกที
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมวันนี้ดูจางๆ ชอบกล” ภาคีถามอย่างสงสัย
จากคุณ |
:
ทะเลเดือดพันธุ์ร็อค
|
เขียนเมื่อ |
:
5 พ.ย. 54 11:24:46
|
|
|
|