Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
บ้านอุ่น...ล้อมรั้วรัก บทที่ ๑๒ เหตุผลคนไม่พอใจ ติดต่อทีมงาน

บทที่ ๑๑ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11265998/W11265998.html หรือตามอ่านตอนเก่าๆ จากบล็อกนะคะ


เช้าวันใหม่ของสัปดาห์ใหม่ ได้เวียนมาถึงอีกครั้ง ภาพฝันคว้ากระบอกใส่แบบอันเดิม กระเป๋าสะพายคู่ใจ ในนั้นมีอุปกรณ์การวาดที่เตรียมพร้อมไว้ตลอดเวลา เธอก้าวออกจากห้องก่อนจะกวาดสายตาไปรอบๆ ชินแล้วกับความเงียบที่เผชิญอยู่ทุกวัน เพียงแต่เมื่อ มองไปยังโต๊ะหน้าโซฟาตัวเก่า ขนมที่ป้าไพฝากมาเมื่อคืน ยังวางอยู่ที่เดิม

หญิงสาวยืนนิ่งมองถุงขนมนั้นอยู่ชั่วครู่ แล้วจึงก้มลงไปหยิบทั้งถุงขนมและกระดาษโน้ตที่เขียนบอกไว้ ติดมือออกมาด้วย

โยนทั้งสองอย่างลงถังขยะหน้าบ้าน แล้วเดินออกไปตามสะพานสายแคบเช่นเคย


แผงไม้ระแนงสีน้ำตาลเข้มถูกปูไว้เป็นทางยาว เหนือร่องน้ำที่เพิ่งโรยหินแม่น้ำลงไป ทั้งหมดล้อมด้วยหินธรรมชาติที่สูงขึ้นมาเกือบหัวเข่า เป็นเส้นทางเชื่อมจากสระน้ำที่กำลังปูกระเบื้องจนถึงสวนกล้วยไม้ที่มีคนงานกำลังก่อหินศิลาแลงขึ้นเป็นกำแพงเตี้ยๆ ใกล้ๆ มีต้นไม้เรียงสลับกันสี่ห้าต้น ชมพูพันธุ์ทิพย์สองต้นที่อยู่ติดกำแพงสูงกว่าแก้วเจ้าจอมและศรีตรังที่อยู่ถัดออกมา

“ตอนเที่ยงน้องฝันอยากทานอะไรครับ” ธีรภัครยกมือขึ้นดูนาฬิกาข้อมือก่อนเอ่ยถามขึ้น ขณะเดินมาตามเส้นทางนี้ด้วยกัน

“วันนี้พี่พุดทำอะไรกินคะ” ภาพฝันถามถึงแม่ครัวประจำไซต์

“ไม่รู้สิ พี่ยังไม่ได้ถามเลย” ธีรภัครหันมายิ้มกว้าง ลูบท้ายทอยแก้เขิน ก่อนจะหาเรื่องชวนคุยต่อ “ว่าแต่น้องฝันเก่งนะ เป็นภูมิสถาปนิกได้ด้วย สวนข้างนอกเสร็จไปอีกฝั่งแล้ว เหลือส่วนตัวอาคาร อย่าบอกนะว่าน้องฝันจะเป็นมัณฑนากรด้วย”

“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ ตกแต่งภายในคงต้องพึ่งมัณฑนากรตัวจริง ที่จริงฝันก็เคยเรียนแลนด์สเคปมาบ้าง ก็เลยพอออกแบบได้ แต่ถ้าสวนใหญ่ๆ ก็คงต้องให้มืออาชีพค่ะ” ภาพฝันหามันยิ้มตอบ ดูเหมือนธีรภัครจะเป็นคนเดียวที่หาเรื่องคุยกับเธอได้ตลอดเวลา

“ถ่อมตัวจังเลยนะครับ สวนอีกฝั่งน้องฝันจะทำเป็นแบบโมเดิร์นใช่ไหม” วิศวกรหนุ่มยังเปิดประเด็นต่อไปได้เรื่อยๆ ในขณะที่เดินข้ามถนนมาถึงริมหาด “พอดีพี่เห็นในแบบน่ะ”

“ค่ะ ฝั่งโน้นอยู่ติดกับตัวอาคารมากกว่า สวนกับอาคารเลยต้องเป็นแบบโมเดิร์นเหมือนกันค่ะ”

หญิงสาวหันมายิ้มตอบอีกครั้ง เธอคงหยุดบทสนทนาติดพันยาวเหยียดแบบนี้ไม่ได้อีกเช่นเคย จึงต้องนั่งอยู่บนเก้าอี้สีขาวทางลงทะเลจนเกือบเที่ยง บทสนทนาก็เป็นเรื่องงานเสียส่วนใหญ่ เลยปลีกตัวไม่เคยจะได้ ลองได้พูดคุยกัน ก็ลากยาวไปเสียทุกที

แม้อีกคนจะพูดได้เรื่อยๆ แต่ดูเหมือนภาพฝันไม่ได้ใส่ใจเขามากนัก ฟังบ้าง ไม่ฟังบ้าง เจ้าตัวมัวหันกลับไปมองทางฝั่งรีสอร์ทเสียมากกว่า วิศวกรอีกคนที่นั่งคิดบัญชีค่าใช้จ่ายอยู่ในตัวอาคาร คล้ายจะเบื่อตัวเลขที่อยู่บนกระดาษด้วยเช่นกัน เขาจึงเหลือบมามองทะเลเพื่อพักสายตาอยู่บ่อยๆ


“นายซ่าง มือนี้มีตำบักหุ่ง แซบหล๊าย หลาย บักจิตมันคืนเมือบ้านมา ได้ปลาแดกมาเต็มไห”

เมื่อตะวันตั้งตรงศีรษะ คนงานก็ทยอยมาสมทบ ช่วงพักกลางวันทุกคนจะมารวมตัวกันที่นี่ มื้อนี้คงหนีไม่พ้นส้มตำ เมื่อหลายคนยกทั้งครก ทั้งเครื่องปรุงกันมาอย่างครบครัน โดยเฉพาะคนถือไหปลาร้ายกขึ้นอวดสรรพคุณเต็มที่

“นายซ่างปูน มาๆ มือนี้ปลาแดกมาต่วงคักแท้” คนถือไหปลาร้าเปิดฝาแล้วสูดดม ก่อนจะกวักมือนายช่างอีกคนที่เพิ่งเดินมาร่วมสมทบ

‘นายซ่างปูน’ ถึงกับหน้าทำหน้าไม่ถูก เมื่อวานเพิ่งเผชิญกับสารพัดตำมา ได้แต่ส่งยิ้มกลับไปให้ แล้วเหลือบมามองวิศวกรอีกคน ท่าทางจะยินดีกับปาร์ตี้ส้มตำเสียเหลือเกิน

ภาพฝันเงยหน้ามองดูคนมาใหม่แล้วอดยิ้มไม่ได้ ใบหน้าอมพะนำราวกับอยากบอกอะไรบางอย่าง แล้วทำได้แต่ยิ้มแห้งๆ ให้กับคนงานคนนั้น

เพียงแต่สายตาที่หันมามองเธอนี่สิ ทำไมจึงได้เฉยชา บึ้งตึงนัก

“พี่พุดจ๊ะ มีตำไทยไหม ฝันขอหนึ่งจานใส่พริกหนึ่งเม็ดก็พอนะจ๊ะ”

“น้องฝันกินเผ็ดไม่ได้เหรอครับ เดี๋ยวพี่ไปสั่งข้าวผัดรีสอร์ทข้างๆ ให้” ธีรภัครรีบออกปากทันที

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฝันพอทานได้ แต่อย่าให้เผ็ดมากก็พอ อีกอย่างเห็นมีปลาดุก กับคอหมูย่างด้วย”

ภาพฝันตอบออกไป แต่คล้ายจะเงยหน้าไปบอกอีกคน

บรรยากาศปาร์ตี้ส้มตำเป็นไปอย่างรื่นเริง คนงานหลายคนมาจากบ้านเดียวกัน อาจจะมีต่างถิ่นต่างภาษาปะปนกันบ้าง แต่ทุกคนก็สื่อสารกันอย่างเข้าใจ แล้วเหตุไฉนอีกคนของเธอทำหน้าเหมือนไม่สบอารมณ์กับอะไรสักอย่าง

ไม่นานจานตำไทยก็อยู่ตรงหน้า ภาพฝันยิ้มให้กับแม่ครัวประจำไซต์ แล้วหันมาเอ่ยปากชวนคนนั่งข้างๆ “พี่พีท กินด้วยกันไหมคะ”

“ไม่ล่ะ พี่ชอบจัดๆ แบบต้นฉบับมากกว่า” คนข้างๆ ตอบพลางชูจานตำปลาร้าในมือ

ภาพฝันร้องอ้ออย่างเข้าใจ ก่อนจะเดินไปหาอีกคน ดูแล้วตรงหน้าเขาจะมีกระติบข้าวเหนียวเพียงใบเดียว

“นายซ่างกินตำปลาแดกได้บ่คับ” ไม่ทันได้ไปถึง ก็มีอีกจานยื่นให้ชายหนุ่มเสียก่อน

“ได้ครับลุง ขอบคุณครับ” นั่นเองจึงได้เห็นรอยยิ้ม แต่ดูเหมือนจะเป็นการรักษาน้ำใจมากกว่า

คนรับมาแข็งใจเอาเข้าปากไปสองคำแล้วทำท่าประดักประเดิด เพราะพริกสีแดงที่อยู่ในจานนั้นเยอะกว่าเส้นมะละกอเสียอีก เพียงแต่เขายังส่งยิ้ม ยกหัวแม่โป้งให้กับคนที่ยื่นจานนั้นมาให้

“พี่ปูนลองส้มตำจานนี้สิคะ ฝันว่าอร่อยดี”

ว่าพลางภาพฝันถือจานตัวเองไปนั่งแหมะลงใกล้ๆ ก่อนเอื้อมมือไปตักส้มตำอีกจานมาชิมบ้าง หันไปมองเจ้าของอีกครั้ง...ก็รู้อยู่ว่าเผ็ดแล้วจะฝืนไปทำไม

อีกคนทำท่าเขยิบห่างเธอออกไปอีก หันไปอีกทางราวกับไม่ได้ยินเสียงเชิญชวน
ตำไทยใส่พริกหนึ่งเม็ดจานนั้น คงไม่เป็นที่สนใจสักเท่าไร คุณชายได้แต่แทะข้าวเหนียวและเล็มมะละกอในจานตัวเองทีละเส้นจนหมด ...ไม่พูด ไม่เจรจา


เป็นอะไรไปอีกล่ะนี่ เมื่อเช้ายังอารมณ์ดีๆ อยู่เลย

จากคุณ : pormare
เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 54 21:44:11




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com