มนต์ไพร บทที่ 12 : เบื้องหลังเงาร้าย
|
 |
บทที่ 12 เพิ่งรู้ว่ายอกย้อนคนอื่นก็เป็นด้วยเหมือนกัน ความคิดขำปนเอ็นดูบังเกิดขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่คลี่บนใบหน้าสีแทน ชายหนุ่มเงยหน้ามองเรือนยอดไม้รกครึ้มที่บดบังแสงจันทร์ซึ่งคล้อยต่ำใกล้จะลับหายไปจากขอบฟ้ายามค่ำคืน ความเงียบยามดึกในป่าเช่นนี้จะว่าน่ากลัวก็ใช่ แต่จะว่าเหมาะสำหรับการฟุ้งซ่านคิดถึงใครก็ย่อมได้อีก กลิ่นหอมจางๆ ลอยมาเข้าจมูกจนวนาสณฑ์เผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว เขาสะดุ้งตื่นเมื่อเสียงแผ่วพลิ้วราวกับฝันปลุกเขาพร้อมกับสัมผัสเย็นชื้นแตะข้างแก้ม ฝากฟ้า ภาพหญิงสาวที่ยืนท่ามกลางไอหมอกรอบตัวทำให้วนาสณฑ์ลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ เมื่อร่างที่เห็นส่งรอยยิ้มแล้วหมุนตัวออกเดินไปทางราวป่าชายหนุ่มก็สาวเท้าออกเดินตามไปคล้ายคนละเมอ แต่ยังไม่ทันที่เท้าซึ่งสวมรองเท้าเดินป่าราคาแพงจะก้าวออกนอกพ้นแสงสว่างของกองไฟ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านหลัง หัวหน้า ร่างที่กำลังอยู่ในอาการมึนงงสะดุ้งเฮือก และหันขวับกลับมาตามต้นเสียง สีหน้าเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน จะไปไหนครับ พรานอ่องท่าย วนาสณฑ์เหลียวมองรอบตัว กะพริบตาสองสามครั้ง ไม่มีภาพที่เห็นก่อนหน้านี้ หมายความว่าเขาฝันไปอย่างนั้นหรือ แล้วทำไมตอนนี้ถึงได้เดินห่างออกมาจากกองไฟเล่า? หัวหน้ามองหาใครหรือครับ ชายหนุ่มยังไม่ตอบ การได้พูดคุยกับฝากฟ้าก่อนที่ฝ่ายนั้นจะเข้านอนบวกกับความคิดคำนึงถึงเธออยู่เนิ่นนานคงทำให้เขาเก็บมาฝัน ชายหนุ่มสะบัดหน้าไล่ความมึนงงจนพรานเฒ่าเลิกคิ้วสูง อึดใจจึงเดินเข้ามาหาแล้วเอามือแตะแขนคนอ่อนวัยกว่าก่อนจะพาเดินไปทรุดตัวลงนั่งบนผ้าพลาสติกข้างกองไฟ เมื่อกี้ผมเห็นหัวหน้าเดินเหมือนคนละเมอ เหมือน...กำลังตามใครสักคน วนาสณฑ์เบนหน้าไปทางเต็นท์ที่สุภาพสตรีสองคนนอนอยู่ เพ่งมองอยู่ครู่ราวกับจะมองทะลุเข้าไปข้างในว่าคนที่เขาเห็นยังอยู่ในนั้นหรือเปล่า สุดท้ายจึงเอ่ยออกมาในที่สุด ผมเห็นฝากฟ้า แต่ผมไม่เห็นใครเลยนะครับหัวหน้า สีหน้าพรานเฒ่าปรากฏรอยประหลาดใจ ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่อึดใจกว่าจะมีสีหน้าเป็นปกติ แล้วโน้มตัวเอื้อมมือไปหยิบฟืนใส่กองไฟสองสามดุ้น จากนั้นก็ดึงถุงพลาสติกในกระเป๋าเสื้อ เริ่มมวนยา ในป่ามีอะไรอย่างนี้เสมอแหละครับหัวหน้า บางทีอาจเป็นอาถรรพ์ป่าทำให้เห็นภาพลวงตาได้ ขึ้นอยู่กับว่ายามนั้นจิตใจของคนเจอจะอ่อนแอจนอำนาจลึกลับมีอำนาจเหนือกว่าแล้วบันดาลให้เห็นอะไร แล้วฝากฟ้ามาเกี่ยวอะไรด้วย ทำไมผมถึงเห็นภาพเธอ พรานอ่องท่ายหยิบดุ้นฟืนที่ติดไฟแดงมาจ่อกับบุหรี่แล้ววางลงตามเดิม พ่นบุหรี่ปุ๋ยๆ สายตาของผู้ที่เคยผ่านการเดินป่ามานานมองผ่านม่านควันมายังผู้อ่อนวัยกว่าด้วยรอยยิ้ม บางทีเจ้าสิ่งที่มาวนเวียนอยู่ใกล้ตัวหัวหน้าอาจรู้ว่าหัวหน้าห่วงแม่หนูนั่น หรือไม่ก็...หัวหน้าอาจจะคิดถึงแต่แม่หนูฝากฟ้าจนคิดไปเอง ประกายตาคนพูดมีแววเย้าแหย่ พรานกำลังล้อผมเล่นหรือเปล่า พรานเฒ่าหัวเราะเบาๆ ผมไม่ได้ล้อเล่นหรอก แต่ผมว่าทางที่ดีหัวหน้าควรจะรักษาพระเครื่องไว้ให้ดีจะได้ช่วยป้องกันผีสางได้ ป่าไม้หนุ่มหลุบตาลงจับพระเครื่องที่คล้องคอขึ้นมาคลำไปมาด้วยท่าทางครุ่นคิด เขาไม่ได้เชื่องมงายในวัตถุมงคล แต่สิ่งลี้ลับที่พบเจอเพียงคืนเดียวสองเหตุการณ์ทำให้นึกถึงอำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย คาถาชินบัญชรที่เขาท่องบ่อยๆ จนจำได้ขึ้นใจผุดเข้ามาในความคำนึง หัวหน้าไม่ต้องคิดมากนะครับ ก่อนมานี่ผมดูดวงแล้ว หัวหน้าเป็นคนดวงแข็ง ยังไงก็ไม่เป็นอะไรง่ายๆ ชายหนุ่มอ่อนวัยกว่าหัวเราะหึๆ หัวหน้าไม่เชื่อผมหรือ เปล่า...เพียงแต่กำลังคิดว่าสงสัยจะเป็นอย่างที่พรานอ่องท่ายพูด เพราะผมเข้าป่าตั้งแต่สมัยเรียนมาจนทำงาน เจออันตรายมานักต่อนักแล้ว ทั้งช้างป่า น้ำป่า และไข้ป่ามาเลเรีย แต่ก็รอดมาได้อย่างหวุดหวิดทุกทีทั้งที่แต่ละครั้งก็หนักหนาจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดเหมือนกัน พรานอ่องท่ายตบเข่าฉาด เห็นไหมล่ะครับ ผมดูไม่ผิดจริงๆ แล้วนี่ไม่นอนแล้วหรือ ชายหนุ่มก้มลงมองนาฬิกาข้อมือราคาไม่น้อยซึ่งเป็นรุ่นสมบุกสมบันเหมาะสำหรับคนทำงานลุยป่าลุยดงอย่างเขา นี่ก็ตีสองกว่าแล้ว เดี๋ยวจ่าแก้วก็จะมารับช่วงอยู่ยามต่อ พวกเรานั่งคุยกันอย่างนี้ไม่รู้จะตื่นกันหมดหรือเปล่า ไม่ง่วงแล้วเท่าไหร่ครับ คุยกับหัวหน้าแล้วตาสว่าง พูดแล้วก็เบือนหน้าไปอีกด้าน เงยหน้านิดหนึ่ง จันทร์ตกเสียแล้ว อ้าว ฝนตกนี่ ชายหนุ่มอุทานเมื่อหยดน้ำฝนตกลงมาบนมือและมากขึ้นเรื่อยๆ เสียงฝนตกกระทบใบไม้ดังเปาะแปะทำให้ป่าที่เงียบสงบเริ่มมีชีวิตอีกครั้ง ชายต่างวัยทั้งสองคนช่วยกันหาผ้าพลาสติกที่ว่างอยู่ขึ้นมาคลุมเหนือกองไฟอย่างรวดเร็วโดยใช้เชือกฟางโยงกับต้นไม้ใกล้ๆ บริเวณนั้นแล้วใช้ไม้สอดกลางเพื่อให้น้ำไหลลงสองด้านสะดวก หน้าฝนในป่าหมอกดำจะตกเยอะกว่าที่อื่นและตกแบบไม่เตือนล่วงหน้า ตอนผมมาครั้งแรกไม่ค่อยรู้ ฝนมันเทมาแบบค้นหาผ้ากันฝนไม่ทันเลยเปียกหมด พรานเฒ่าพูดให้ฟัง ฝนตกหนาเม็ดขึ้นแต่ยังไม่หนักมาก วนาสณฑ์ปัดน้ำฝนออกจากมือ พอดีเหลือบไปเห็นจ่าแก้วเดินเข้ามาในผ้าพลาสติก ท่าทางงัวเงียยังมีอยู่ ชายหนุ่มเอ่ยทักเบาๆ ตรงเวลาดีจริงจ่าแก้ว กลัวจะกินเวลานอนหัวหน้าครับ แต่ทำไมง่วงจังเลย พูดแล้วก็เอามือปิดปากหาว สะบัดศีรษะไปมา ผมอยู่ยามให้ก่อนก็ได้ครับจ่า ตอนนี้ตาสว่างแล้ว ถึงไปนอนก็คงนอนไม่หลับ พรานอ่องท่ายอาสา เอางั้นหรือ คนที่มีท่าทีงัวเงียตาแจ่มใสทันที พรานอ่องท่ายพยักหน้า แล้วแต่นะ ผมขอตัวไปนอนเก็บแรงไว้ก่อน วนาสณฑ์บอกแล้วขยับตัวลุกขึ้น อึดใจจึงวิ่งผ่านฝนเข้าเต็นท์ไป เมื่อตกลงกันได้แล้ว จ่าแก้วจึงเดินกลับไปมุดเข้าเต็นท์ของตัวเองตามเดิม ทิ้งไว้เพียงพรานเฒ่าที่ทำปากขมุบขมิบแล้วเป่าปากไปทั้งสี่ทิศด้วยท่าทางเอาจริงเอาจัง ก่อนจะมองเข้าไปในป่ามืดมิดอย่างไม่เกรงกลัวสิ่งใด แน่ล่ะ...ถ้ากลัว ก็คงไม่กล้าเข้าออกป่าหมอกดำเพื่อล่าสัตว์ตั้งแต่สมัยเป็นหนุ่มเมื่อครั้งรัฐบาลยังไม่ได้ประกาศให้ป่าแถบนี้เป็นป่าอนุรักษ์และห้ามไม่ให้ใครเข้ามาล่าสัตว์อีกต่อไป ******************* ในความมืดมิดของราตรีกาลบนเนินเขากลางป่าในหมู่บ้านฟ้าลั่น ความเงียบปกคลุมทั่วทั้งหมู่บ้านเช่นเดียวกับบ้านไม้ยกสูงหลังหนึ่ง แต่เมื่อเงาดำหนึ่งลอยวูบหายวับเข้าทางหน้าต่าง ในห้องก็ไม่ได้เงียบอีกต่อไป ร่างของชายชราที่นอนหลับตาอยู่บนฟูกในบ้านไม้กระตุกนิดหนึ่ง เงาดำปรากฏขึ้นข้างกาย คนที่นอนอยู่จึงลืมตาแล้วลุกขึ้นนั่ง ดวงตาโหลลึกกวาดตามองเงาดำซึ่งกำลังเปลี่ยนรูปเป็นร่างชายผอมสวมเสื้อสีแดงคุกเข่าคุดคู้ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เกิดอะไรขึ้น เสียงที่พูดขึ้นแหบพร่าและสั่นเครือแต่ดูแข็งกระด้าง ข้าถูกกระสุนอาคม ไอ้พรานนำทางมันยิงข้า แววตาของชายชราเป็นประกายลุกเรือง เอ่ยด้วยเสียงเกรี้ยวกราด ทำยังไงถึงเสียท่ามันได้ ทำไมไม่เล่นงานมันทีเผลอ ก็เล่นทีเผลอตอนดึกแล้ว แต่มันดันตื่นขึ้นมาก่อน...โอย...ช่วยด้วยพ่อเฒ่า ข้าปวดแสบปวดร้อนไปหมดแล้ว ถ้าไม่รีบช่วย วิญญาณข้าจะสลายแน่แล้ว เจ้าของเสียงร้องครวญครางอย่างน่าสงสาร เสียแรงที่ข้าให้ไปเล่นงานมันให้หายแค้นจะได้ไม่ต้องอวดดีเบ่งอำนาจมาขับไล่พี่น้องเราอีก ข้าพยายามแล้ว แต่... ไม่ต้องแก้ตัว ไม่อยากจะฟัง ชายชราขัดเสียงห้วนต่ำสั่นเครือ ใบหน้าเหี่ยวย่นไม่สบอารมณ์ แล้วก็ต้องชะงักเมื่อมีเสียงหนึ่งร้องถามมาจากห้องถัดไป มีอะไรหรือพ่อ ไม่มีอะไรหรอกอ่องส่า ข้านอนไม่หลับ ไม่มีเสียงตอบกลับมาอีก เนื่องจากบุตรชายเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้เป็นพ่อจะตื่นขึ้นมาพึมพำกลางดึกอยู่บ่อยๆ และเมื่อได้รับการยืนยันจากผู้เฒ่าอีกฝ่ายจึงเงียบเสียงไป พ่อเฒ่าจอบิวัยเก้าสิบห้าปียื่นมือเข้าไปในกระเป๋าย่ามไม่ห่างจากตัวนักแล้วหยิบเอาไฟแช็คออกมา คลานเข่าไปทางหัวนอนพร้อมกับดึงเอาย่ามติดมือไปด้วยแล้วนั่งขัดสมาธิหลังงองุ้ม ก่อนจะกดไฟแช็คสองสามครั้งจุดตะเกียงเก่าแก่สีดำให้ความสว่างทั้งห้อง ส่องให้เห็นกระดาษสีเหลืองมีตัวอักษรเขียนโย้ไปเย้มาที่วางอยู่ตรงหน้าและวัตถุเครื่องรางต่างๆ วางในเครื่องจักสานไม้ไผ่ขนาดเล็ก มือเหี่ยวย่นหยิบสร้อยเส้นหนึ่งขึ้นมาแล้วบริกรรมคาถาขณะที่ตามองกระดาษ เพียงชั่วครู่จึงหมุนตัวกลับมาและเป่าไปยังวิญญาณที่ครางเสียงแผ่วเบาเป็นระยะ อึดใจร่างนั้นก็ยืดตัวนั่งปกติ คราวหลังถ้ายังทำพลาดอีก ข้าจะไม่ช่วยเจ้าแล้ว พ่อเฒ่าขู่ ข้าก็ไม่อยากพลาดหรอก แต่หลานสาวของพ่อเฒ่าน่ะสิ เจ้าว่าอะไรนะ? น่อโพ พ่อเฒ่าจอบิขึ้นเสียงแหบสูง โยดีมันทำไม ข้ากำลังจะไปลากเอาหัวหน้าออกมาทีไร โยดีก็เข้าไปขัดทุกที ใบหน้าชายชราเครียดตึงเมื่อได้ยินคำบอกเล่าของวิญญาณน่อโพ อึดใจจึงเอ่ยเสียงแหบเครือต่ำลึก โยดีมันคงรักหัวหน้าคนนั้น ใช่พ่อเฒ่า โยดีรักหัวหน้า ไม่อยากให้หัวหน้าเป็นอันตราย ข้าไม่อยากจะขัดใจมันจึงไม่กล้าว่าอะไรมัน สิ้นคำพูดเงาดำหนึ่งก็ลอยวูบเข้ามารวมตัวกัน แต่พี่น่อโพก็ทำเขาเจ็บ เสียงแผ่วเบาแต่ค่อนข้างกระด้างดังขึ้นจากเงาดำ ก่อนจะกลายร่างเป็นสาวน้อยในชุดสีขาว ดวงหน้าขาวเผือด ดูเศร้าสร้อย เจ้ามันบ้า คิดว่าเขาจะมารักผีอย่างเจ้าหรือ พ่อเฒ่าจอบิเค้นเสียงออกมาแล้วไอโขลกๆ ถึงเขาจะไม่รัก แต่หลานก็ไม่อยากให้เขาเป็นอะไรจากน้ำมือของพ่อเฒ่า สาวน้อยตอบด้วยเสียงแผ่วเบา มีแววของความเกรงอยู่ไม่น้อย ข้าก็แค่จะปกป้องพวกญาติพี่น้องของพวกเราจากการรุกรานของพวกมัน ญาติพี่น้องเราทำมาหากินและทำอย่างนี้มีมาเป็นร้อยๆ ปี แต่พอพวกนี้มามันก็จะทำให้พวกเราไม่มีที่อยู่ที่กินเสียแล้ว ป่าเป็นบ้านของข้า เป็นบ้านของพวกเจ้าและพ่อของเจ้า แม่ของเจ้า รู้หรือเปล่า แต่หัวหน้าสนเขาทำตามหน้าที่ โยดีบอกด้วยเสียงกล้าๆ กลัวๆ มีสายตาของน่อโพมองมาด้วยสายตาบ่งบอกถึงความรักที่ซุกซ่อนไว้ ยามที่โยดีมีชีวิตอยู่มันก็เป็นเพียงชายในหมู่บ้านที่แอบหลงรักหลานสาวของพ่อเฒ่าจอบิซึ่งมีอายุมากที่สุดในหมู่บ้าน จนกระทั่งมันตายเพราะเข้าไปล่าสัตว์แล้วถูกหมีตะปบกลับมาเป็นไข้นอนซมก่อนจะตายอย่างทุกข์ทรมานและเป็นวิญญาณเร่ร่อนได้ไม่นาน พ่อเฒ่าก็ใช้คาถาเรียกมันมาเลี้ยงมันไว้เพื่อใช้งาน ยามนั้นมันก็ได้แต่แอบดูโยดีในยามค่ำคืน และเมื่อโยดีเป็นไข้ป่าตายมันก็พยายามติดตามโยดีห่างๆแต่ดูเหมือนสาวน้อยผู้เป็นดวงใจจะมุ่งตามหาเจ้าหัวหน้าป่าไม้คนนั้นเพียงคนเดียว ยิ่งพอรู้ว่าเขาจะทำร้ายหัวหน้า โยดีก็คงจะยิ่งเกลียดมัน เจ้าเข้าข้างมันเกินไปแล้ว โยดี ทำไมเจ้าไม่คิดบ้างว่าพี่น้องเราหนีมาหาที่อยู่ที่กินในป่าโน้น ถูกพวกมันยิงตายถูกจับไปกี่คนแล้ว ส่วนพวกเราก็ไม่รู้ว่าจะถูกไล่ที่เมื่อไหร่ พ่อเฒ่าจอบิเอ่ยกับวิญญาณหลานสาวอย่างมีอารมณ์ แต่โยดีเคยได้ยินหัวหน้าบอกว่า ถ้าเราไม่บุกรุกต่อก็จะไม่เป็นอะไร พวกเรายังอยู่ที่เดิมได้เพียงแต่ต้องทำตามกฎระเบียบที่เขาตั้งขึ้น ไม่ล่าสัตว์ ไม่เผาป่า แล้วจะให้พวกเราอยู่กินยังไงล่ะ ที่ดินนิดเดียว ลูกหลานก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ข้าจะทำให้มันไม่กล้ามายุ่งวุ่นวายกับเรา ให้มันรู้ว่าเราอยู่มาก่อน...อยู่มานานก่อนมันอีก ตอนท้ายพ่อเฒ่าเน้นเสียงหนักต่ำลึก เจ้าอย่าไปยุ่งอย่าไปขัดขวางไอ้น่อโพมันได้ยินไหม...ไม่อย่างนั้น ข้าจะจับเจ้าขังไว้จนกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย คำขู่ทำเอาใบหน้าเผือดยิ่งขาวซีดลงกว่าเดิมทั้งที่แสงตะเกียงเป็นสีส้มเรือง พ่อเฒ่าใจร้าย มีคาถาอาคมแต่เอาไปเล่นงานหัวหน้าสน ทำไมไม่เอาไปช่วยชาวบ้านเราที่เป็นโรคร้ายไข้ป่าตายกันหลายคน แล้วใครกันล่ะที่ทำให้พวกเจ้าอยู่รอดปลอดภัยจากผีป่ามาจนถึงทุกวันนี้ ไม่ใช่ข้าเหรอ ไป ! ข้าไม่อยากเห็นหน้าเจ้าอีก แล้วก็จำคำของข้าไว้ให้ดีด้วย โยดีก้มหน้าก่อนจะกลายเป็นเงาดำลอยออกไปทางหน้าต่าง แกก็ด้วยเหมือนกัน น่อโพ กลัวโยดีมันทำไม มันไม่ใช่แม่ไม่ใช่เมียเจ้า ถ้ายังปล่อยให้โยดีหลานข้าเพ่นพ่านจนไม่เป็นทำอะไรล่ะก็ เจ้าก็สมควรจะเป็นผีเร่ร่อนอดอยากต่อไป จำคำข้าไว้ ข้าจะจำไว้พ่อเฒ่า เมื่อน่อโพกลายรูปเป็นเงาดำลอยออกไปทางหน้าต่างแล้ว พ่อเฒ่าจอบิจึงถอนใจหนักๆ เพราะไม่ได้ดังใจกับผลงานตามที่คาดหวัง นี่ถ้าพวกมันหลงไปเจอพี่น้องที่อยู่ตามแนวชายแดนล่ะก็ ข้าก็คงจะไม่ต้องเหนื่อย จะปล่อยให้พวกนั้นจัดการมันให้ไม่เหลือซากเลย พ่อเฒ่าผู้มีอำนาจแห่งหมู่บ้านฟ้าลั่นคิด รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมผุดขึ้นตรงริมฝีปากดำคล้ำ ร่างผ่ายผอมขยับไปล้มตัวลงนอนบนฟูก ไอโขลกๆ ออกมาติดกัน ถ้าไม่เหนื่อยเกินไป ป่านนี้พวกนั้นคงจะไม่เป็นผู้เป็นคนด้วยฝีมือข้าไปแล้ว รอดูอีกสักหน่อยเถอะ รอให้ข้ามีแรงกว่านี้อีกนิด ยิ่งโก่งตัวไอมากเท่าไหร่ ลมหายใจของชายชราก็ดูเหมือนจะหอบถี่เร็วมากขึ้น นานเป็นชั่วโมงกว่าที่จะสงบลงและหลับลงไปในที่สุด ******************
จากคุณ |
:
permanent stream
|
เขียนเมื่อ |
:
9 พ.ย. 54 06:29:22
|
|
|
|