กีฏมนตรา บทที่ 22, 23 และ 24
|
 |
สำหรับตอนที่ผ่านมาครับ (บทที่ 20-21) http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11298840/W11298840.html
ก่อนอื่นขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านด้วยนะครับ ขอบคุณกิฟต์จากคุณมน Setakan, เรียวรุ้ง, แก้วกังไส, ฉันน่ะนางฟ้าอยู่แล้ว, npuiy, wor_lek, Hermosa, นารีจำศีล, รพิชา, มานีโอลา, อินทรายุธ, Travel to the moon, และคุณไก่ kdunagin ด้วยครับ
กีฏมนตราช่วงนี้มาเร็วไปเร็วครับ เพราะคนเขียนก็รอเปิดเทอม และรอน้ำมา (จะได้ผ่านๆไปซะที)
คุณมน : เรื่องนี้ต้องการเล่นกับอารมณ์และจิตใต้สำนึกจริงๆครับ คนเขียนยังจำความรู้สึกเครียดตอนเขียนได้อยู่เลยครับ เข็ดจริงๆ
คุณแก้ว : บุรโชติเป็นอีกตัวละครหนึ่ง ที่พยายามสร้างให้แตกต่างครับ
คุณปุ้ย : บุรโชติ จะถูกจัดการ จากสิ่งที่อยู่ในใจของตัวเขาเองครับ
คุณ Hermosa : เกตุมาลา จะมีบทบาทตอนถัดไปอีกสักหน่อยครับ ช่วงนี้จะมาในโหมดของนงลักษณ์ต่อครับ
คุณ ไก่ : สองคนนี้เริ่มต้นคล้ายๆกันครับ แต่ปลายทางอยู่ที่การเลือกของแต่ละคนครับ
คุณอิน : บ้านศิลาทราย น่าจะมีอยู่ของรวมสาส์นนะครับ ถ้ามีโอกาสเจอจะติดต่อไปให้นะครับ
คุณ scottie : เป็นความต้องการของคนเขียนให้คลุมเครือ ครับ
ติดตามต่อได้เลยนะครับ คราวนี้มาแบบ 3 ตอนรวดครับผม
บทที่ 22
คันธรส...
ลูกศิษย์สาวระดับปริญญาตรีในวิชาที่เขาอำนวยการสอนอยู่นั่นเอง เด็กสาวเอ่ยปากขออภัยแล้วก้าวเข้ามาส่งรายงาน สบนัยน์ตาเขาและมันเพียงแวบหนึ่งเท่านั้นก่อนจะรีบเดินตัวลีบกลับออกไป เขามองเห็นสายตาวามวาวของบุรโชติมองตามร่างนั้นออกไปด้วย แต่ก็เพียงแวบเดียวเท่านั้นก่อนที่มันจะหันกลับมา
ถ้าอย่างนั้น ก็ให้เวลานายคิดดูก่อน แล้วค่อยมาเอาคำตอบทีหลัง
บทจะผละการสนทนาที่ดูเหมือนจะยืดเยื้อ บุรโชติก็ทำได้อย่างหน้าตาเฉย ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนเต็มความสูงตระหง่านของตน แล้วผลักประตูตามลูกศิษย์สาวของเขาออกไป ธุมชาลได้แต่หวังว่าคงมีคันธรสเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่ได้เห็นเขากับบุรโชตินั่งคุยอยู่ด้วยกัน ตอนนี้แทบไม่ต้องการจะเกี่ยวข้องกับสหายผู้นี้อีก ไม่ว่าจะด้วยกรณีใด
ความเข้าใจและคาดหวังนั้นสำเร็จเพียงครึ่งเดียว ไม่มีโอกาสรู้เลยว่า บุรโชติพุ่งเป้าหมายไปยังคันธรสตั้งแต่เมื่อใด ไม่รู้ความสัมพันธ์ลึกเร้นของทั้งคู่ที่ดำเนินไปภายหลังจากนั้น แม้กระทั่งการติดต่อให้เป็นคนแอบขโมยซากผีเสื้อในโครงการวิจัยไปให้มัน รวมถึงข้อมูลการออกสำรวจแหล่งผีเสื้อในพื้นที่ป่าธรรมชาติผาติ้วในเวลาต่อมา
ธุมชาลนึกแต่เพียงว่า คงไม่มีโอกาสได้พบกันอีกในเมื่อไม่ได้ติดต่อกลับมาอีกเลยหลังจากวันนั้น ความโล่งใจเกิดขึ้นเพียงชั่วเวลาสั้นๆ จนได้รับโทรศัพท์อีกครั้ง เมื่อโครงการวิจัยที่กำลังจะดำเนินการอยู่ร่วมกับคาเรนได้รับการอนุมัติพอดี
เสียงหัวเราะที่มากับปลายสายทำให้เขาขนลุก
เพื่อนรัก... เรารู้ข่าวการเดินทางไปเก็บตัวอย่างผีเสื้อที่ผาติ้วแล้วล่ะชาญ และนี่แหละจะเป็นสิ่งที่ต้องการให้นายช่วยเหลือตามข้อตกลง
รู้เรื่องนี้ได้ยังไง?
ประโยคนั้นแทบไม่ต่างกับข้อเรียกร้องหรือคำสั่งสักอย่างที่ทำให้กระอักกระอ่วนใจและประหลาดใจข้อมูลในมืออีกฝ่าย เรื่องของเขากับมันดูเหมือนควรจะจบลงไปแล้ว แต่เมื่อได้รับโทรศัพท์ติดต่อกลับมา ธุมชาลก็รู้ดีว่ายังไม่อาจเขวี้ยงงูพิษตัวนี้ให้พ้นคอไปได้ ซ้ำยังย้อนกลับมาพันรัดรอบคอจนไม่อาจปลดทิ้งไปได้เสียอีก
ทำไมจะไม่รู้ล่ะ ถ้ามันเป็นเรื่องที่น่าสนใจ?
แกต้องการอะไรกันแน่วะ บุรโชติ?
ก็ต้องการจะร่วมไปกับขบวนนักวิจัยของนาย เพื่อเข้าไปในป่าผาติ้วด้วยกันน่ะสิ!!
แล้วถ้าตอบว่าไม่ล่ะ...
เสียงหัวเราะหึหึดังมาจากปลายสาย น้ำเสียงยิ่งอ่อนโยนแต่แฝงไปด้วยความหมายที่ กินนัยลึกซึ้ง
นายก็รู้นี่นา ว่าเราเคย ติดค้างอะไรกันไว้
นี่แกกำลังขู่ฉันอยู่นะ บุรโชติ
เขาเกือบเผลอผรุสวาทออกไป หากยังห้ามตัวเองไว้ได้ทัน
ไม่ได้ขู่ เพียงแต่บอกให้รับรู้เอาไว้เท่านั้น เท่าที่รู้มา นายเป็นหัวหน้าชุดโครงการวิจัยส่วนภาคสนามอยู่แล้วนี่หว่า เห็นว่าถือโอกาสออกไปเก็บตัวอย่างพร้อมทีมเด็กๆที่จะไปออกค่ายด้วยไม่ใช่หรือวะเพื่อน?
มันพูดอย่างคนที่รู้ข้อมูลภายในชัดเจน นอกจาก เงื่อนไข ที่เสนอมาแล้ว รายละเอียดบางอย่างก็ทำให้เขาต้องอึ้ง
นายกำลังคิดอะไรอยู่?
ไม่จำเป็นต้องตอบ แต่สิ่งสำคัญคือ เรากำลังรอคอยคำตอบจากนายอยู่ต่างหาก ชาญ ว่าไงล่ะ... เป็นอันว่าจะตกลงหรือเปล่า? นายไม่มีเวลาแล้วนะ
สำหรับเรื่องผาติ้ว เขาพยายามผัดเวลาเพื่อให้คำตอบเหมาะสมที่สุดกับอีกฝ่าย คาเรนจะต้องไม่พอใจอย่างมากถ้ามีผู้ร่วมทีมเป็นคนภายนอกคณะที่หล่อนไม่รู้จักมาก่อน ศาสตราจารย์สาวผู้นั้นค่อนข้าง เลือกทีมวิจัยอยู่ไม่น้อย ทุกรายชื่อที่จะออกเดินทางไปกับเธอจะต้องผ่านการตรวจสอบและเห็นชอบเป็นการตัดสินใจครั้งสุดท้าย นอกจากเขาจะหาทางให้บุรโชติร่วมทีมไปในฐานะอื่น?
และระหว่างการพยายามหาหนทางอยู่นั้นเอง ก็ได้เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้นกับนงลักษณ์ นักวิทย์คนสำคัญของภาควิชา มันมาพร้อมกับการปรากฏตัวของชื่อ ผีเสื้อหิมะ ที่เขาไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนในชีวิต...
ผีเสื้อสีขาวประหลาดที่กระตุ้นความอยากเห็นให้บังเกิดเป็นอย่างยิ่ง
เรื่องเริ่มต้นภายหลังการเดินทางกลับมาของคาเรน และหล่อนก็มอบหมายให้กับเกตุมาลานำไปศึกษาโครงสร้างทางกายภาพ นี่เป็นเรื่องเดียวที่คาเรนไม่ได้บอกให้เขารับรู้มาก่อน เขามั่นใจว่าชื่อเรียกผีเสื้อหิมะเช่นนั้น ไม่เคยปรากฏในสารบบอนุกรมวิธานของผีเสื้อสายพันธุ์ใดในโลก นี่ย่อมเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดา หากคาเรนไม่เคยแม้แต่จะเอ่ยปากบอกเรื่องนี้กับเขา แต่ได้ยินมาจากบทสนทนาของคนอื่นแทน
ธุมชาล เชษฐภักดี พยายามข่มนัยน์ตาลงอย่างยากเย็น พรุ่งนี้แล้วที่เขานัดกับโปรเฟสเซอร์หัวหน้าโครงการวิจัยชุดนี้ และจะต้องนำเรื่องของบุรโชติเข้าอธิบายกับอีกฝ่ายให้ชัดเจน ก่อนจะออกเดินทางในไม่กี่วันต่อจากนั้น
ภาพสุดท้ายในความคิดก่อนจะดิ่งลงสู่ห้วงภวังค์คือเสียงกรีดร้องอย่างคลุ้มคลั่งของนงลักษณ์ ภาพที่ไม่เคยคิดฝันว่าหล่อนจะต้องมาพานพบกับชะตากรรมเช่นนี้
สังหรณ์ใจ ว่ามันน่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องราวทั้งหมด และที่สำคัญ มันคงจะไม่เกิดขึ้นกับนงลักษณ์เลย ถ้าไม่เป็นเพราะเขาคือสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้หล่อนต้องอยู่ห้องแล็บเพียงลำพังในคืนวันนั้น...
คือก่อนเกิดเหตุ!!
********************
นงลักษณ์นอนลืมตาโพลงในความมืดของหอผู้ป่วยหญิงโรงพยาบาลจิตเวช ไฟดับเกือบหมดเหลือเพียงแสงโคมสีเหลืองจางๆที่มุมห้อง และเงาตะคุ่มของคนไข้บนเตียงข้างๆที่ห่มผ้าคลุมมิดชิด ตอนนั้นเองที่หญิงสาวเริ่มได้ยินเสียงกระซิบ... แต่แรกมันดังเพียงแผ่วหวิวจนจับใจความอะไรไม่ได้เลย จากนั้นก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ หล่อนเงยศีรษะขึ้นจากหมอน ไม่มีใครอยู่ข้างเตียงเลยสักคนเดียว ในเงาตะคุ่มมีแต่เพียงคนไข้ที่นอนส่งเสียงกรนเบาๆอยู่ที่เตียงข้างๆ ในขณะที่เตียงอีกข้างหนึ่งก็เป็นเตียงเปล่า
นงลักษณ์...
จดจำเสียงเรียกนั้นได้ติดตา เสียงของกีฏยา จิตรางคนางค์!! ผู้หญิงคนที่ทำให้หล่อนเกิดความหวาดกลัวมาจนถึงบัดนี้
จำได้ว่ากำลังจัดการบรรจุจัดเก็บหมวดหมู่บรรดาแมลงและผีเสื้อสตาฟฟ์ตัวงามที่ได้มาจากอาจารย์คาเรน หลังจากที่อีกฝ่ายเดินทางกลับมาจากการประชุมโดยไม่บอกอะไรล่วงหน้า หีบไม้หลายกล่องบรรจุตัวอย่างศึกษาจำนวนมากมายสำหรับมาจัดโชว์ในพิพิธภัณฑ์ที่จะเปิดทำการในอีกไม่นานข้างหน้า
นงช่วยเตรียมรายการพวกนี้ให้ด้วยนะครับ ผมอาจจะต้องใช้สาธิตให้นักศึกษาในแล็บสัปดาห์หน้า
ธุมชาลแวะขึ้นมาหาภายหลังจากนั้นไม่นาน รายการผีเสื้อสตาฟฟ์ที่เขาทำเรื่องขอยืมจากคาเรนมาใช้เป็นตัวอย่างแล็บสาธิตนั่นเอง โชคร้ายที่มันเป็นตัวอย่างผีเสื้อที่หล่อนเพิ่งแอบจำหน่ายออกไปพอดี!
แต่จำได้ว่าในรายการที่เกตุมาลาไปเก็บตัวอย่างมา ก็ยังมีกลุ่มผีเสื้อส่วนนี้ รอการสตาฟฟ์อยู่ด้วย นักศึกษาสาวน้อยผู้นั้น นำมาฝากหล่อนไว้พอดี เพื่อจัดทำชุดรายการตัวอย่างผีเสื้อ บางที หล่อนอาจจะหาจากคลังที่เก็บเอาไว้มาให้ธุมชาลใช้ก่อน
ไม่มีปัญหาค่ะอาจารย์ชาล
ตอบออกไปเรียบๆตามสไตล์ ซ่อนความยินดีเอาไว้ไม่ให้อีกฝ่ายรับรู้ ท่าทางอาจารย์หนุ่มจะเกรงใจและกังวลใจอยู่ไม่น้อย เมื่อรู้ว่าเป็นงานเร่งด่วนโดยที่เขาเองก็เพิ่งทราบไม่นานจนไม่ทันเตรียมตัวมาก่อน อันที่จริงเนื้อหาที่เขาจะต้องสอนจะอยู่ถัดออกไปอีกสองคาบ แต่อาจารย์ผู้สอนเนื้อหาในสัปดาห์นี้เกิดติดธุระกะทันหันพอดี
แต่สำหรับนงลักษณ์แล้ว เป็นโอกาสเหมาะที่จะหาสาเหตุมาอ้างกับคาเรนอีกทางหนึ่ง
ถ้างั้นหนูคงต้องขออยู่ทำงานเย็นหน่อยนะคะ
หล่อนเอ่ยปากด้วยน้ำเสียงเรียบร้อยอ่อนน้อมอันเป็นบุคลิกที่น่าเอ็นดูสำหรับผู้พบเห็น น่าแปลกคราวนี้คาเรนไม่เอ่ยอะไรมาก ดูเหมือนหลังจากเดินทางกลับมาจากอังกฤษอย่างเงียบเชียบจนแทบไม่เป็นข่าวสำหรับคนภายนอก อีกฝ่ายจะนิ่งมากขึ้น ไม่มีอาการวีนใส่ลูกน้องหรือจู้จี้จุกจิกไปตามอารมณ์สาวใหญ่ใกล้เกษียณอย่างเคย
คะเนด้วยสายตาแล้วจำนวนของในหีบเหล่านี้มากมายเสียจนแน่ใจว่าคาเรนไม่ทันตรวจเช็คมาก่อนแน่นอน ในเมื่อบัญชีข้าวของทุกอย่างอยู่ในกำมือแต่เพียงผู้เดียว โปรเฟสเซอร์ผู้เปรื่องปราดเฉียบแหลมเฉพาะศาสตร์แห่งแมลง แต่สำหรับเรื่องการซิกแซก และการทำ ธุรกิจ แล้ว นับว่าสอบตกโดยสิ้นเชิง!!
นงลักษณ์ตั้งใจว่าจะใช้โอกาสปลอดคนที่ว่านี้แหละ จัดแบ่งแมลงสตาฟฟ์เหล่านั้นเอาไว้ เพื่อให้กับเอเยนต์คนสำคัญที่ส่งออร์เดอร์มาให้หล่อนล่วงหน้าแล้ว...
ฉันจะให้กีฏยาอยู่เป็นเพื่อนเธอเองนะ นงลักษณ์
เสียงเย็นๆของโปรเฟสเซอร์คาเรนในเงามืดดังขึ้น ปลุกภวังค์ให้ร้อนรุ่มขึ้นมากะทันหัน
ไม่เป็นหรอกไรค่ะ อาจารย์ หนูเกรงใจกีฏยาเขา ทุกทีหนูก็ทำเองคนเดียวได้สบายอยู่แล้ว
รีบแก้ตัว เรื่องอะไรจะให้คนอื่นมายุ่งด้วย หล่อนต้องการรายได้คนเดียวเป็นกอบเป็นกำ โดยไม่ต้องหักเปอร์เซ็นต์ค่าปิดปากให้ใครอีกต่างหาก!
โชคดีที่ควบคุมอารมณ์นั้นได้ทันมิให้เกิดพิรุธ มีรอยยิ้มบางๆปรากฏมุมปากอย่างที่อ่านไม่ออก กีฏยาเป็นยืนสงบนิ่งอยู่เบื้องหลังอาจารย์สาวใหญ่โดยไม่ปริปากพูดอะไรออกมาสักคำเดียว
ตกลง... ในเมื่อเธอเป็นฝ่ายตัดสินใจเลือกเองนะ นงลักษณ์
ประโยคนั้นแปร่งแปลกไปและกินนัยอย่างที่ไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย จากโปรเฟสเซอร์คาเรนคนเดิม ที่มีอีโกสูงจนพูดอะไรก็โพล่งออกมาตามความเคยชินโดยไม่เคยคิดถึงความรู้สึกคนอื่น คราวนี้กลับเก็บปากเก็บคำเอาแต่นิ่งเงียบและใช้การมองด้วยวสายตาแทน แต่นงลักษณ์ก็ไม่ทันได้สนใจในความผิดปกตินั้น โดยเฉพาะคำถามย้ำอย่างจงใจ
ในเมื่อเธอเป็นฝ่ายเลือก... เลือกอะไร?...
แต่ก็ตัดสินใจตอบออกไปตามความคิดในขณะนั้น
ค่ะหนูยินดี...
ถ้างั้นก็... ตามใจ
เสียงอีกฝ่ายตอบกลับมาลอยๆ ไม่บ่งถึงความรู้สึกใดทั้งสิ้น บัดนี้ ทุกอย่างเป็นไปดังใจปรารถนาแล้ว
วันนั้นนงลักษณ์ถ่วงเวลาทำงานจนมืดค่ำ อันที่จริงภารกิจการจัดลำดับแมลงเหล่านั้นให้เป็นหมวดหมู่ นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญอย่างหล่อนใช้เวลาไม่นานก็เสร็จเรียบร้อย เหลือเพียงแค่การเขียนคำอธิบายรายละเอียด สำหรับใช้ในการจัดแสดงเท่านั้นเอง เกือบทุ่มเศษกระมังเมื่อเห็นเหมวดีเดินกลับออกไปเป็นคนสุดท้าย ก่อนจากไป ฝ่ายนั้นยังแสร้งทำเป็นเดินขึ้นมาเยี่ยมเยียนเหมือนเห่วงใยเสียเต็มประดา
เฮ้อ... งานเยอะหน่อยนะจ๊ะนงลักษณ์ แต่ก็คงได้โอทีคุ้มล่ะ ว่ามั๊ย?
ก็แค่พยักหน้ารับโดยไม่พูดตอบด้วย หล่อนไม่เคยชอบเหมวดีมาแต่ไหนแต่ไร แม้จะเป็นเพื่อนร่วมงานในภาควิชาเดียวกันก็ตาม เกลียดเสียงพูดแปร๋นๆของอีกฝ่ายจับใจพอๆกับสายตาอยากรู้อยากเห็นนั่นอีกด้วย
แต่ก็ฝืนเก็บความรู้สึกเอาไว้ได้โดยไม่ให้อีกฝ่ายสังเกตเห็น ด้วยท่าทีเรียบๆเฉยเมยเหมือนไม่รู้สึกรู้สมใดๆกับคำถากถางแกมเยาะของอีกฝ่าย จนเหมวดีล่าถอยไปเองเพราะไม่รู้ว่าจะสนทนาอะไรด้วย นงลักษณ์ทำให้หล่อนรู้สึกเหมือนคนบ้าที่พยายามตบมือให้เกิดเสียงอยู่เพียงข้างเดียว
จากนั้นบรรยากาศในห้องแล็บก็เงียบสงัด ปราศจากบุคคลที่สองอีกต่อไป ทุกอย่างเหมาะสมลงตัวยิ่งนัก เวลาของการจัดการตามรายการที่ได้รับมาแล้ว หล่อนรีบนำกล่องผีเสื้อในหีบไม้ออกมาวางเรียงกันบนโต๊ะทีละกล่องทีละกล่อง บางตัวถูกสตาฟฟ์เอาไว้เรียบร้อย และบางตัวต้องการการทำความสะอาดด้วยน้ำยาฟีนอลเสียก่อน เพื่อป้องกันเชื้อรา
มือล้วงลงไปภายในกล่องสัมผัสกล่องโลหะใบหนึ่งซึ่งอยู่ชั้นล่างสุด นงลักษณ์ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย นี่ไม่ใช่กล่องไม้สำหรับเก็บแมลงอย่างที่คุ้นเคย หล่อนหยิบมันออกมาพิจารณาด้วยความพิศวง ลวดลายประหลาดตาที่สลักเสลาบนกล่องโลหะยิ่งทำให้รู้สึกที่สิ่งที่สูงค่าบรรจุอยู่ภายใน มันไม่น่าจะถูกนำมารวมอยู่ภายในหีบแมลงเหล่านี้เลย
ความสงสัย ทำให้พลิกลองกล่องไปมาเพื่อมองหาสลักสำหรับเปิด หล่อนพบมันภายในเวลาไม่นาน และไม่รอช้าที่กดเปิดมันออก เสียง กริ๊กดังขึ้นเบาๆในความเงียบ ก่อนที่ฝากล่องจะดีดตัวออกจากกันช้าๆ
นงลักษณ์ถึงกับเบิกนัยน์ตาโพลงเมื่อมองเห็นสิ่งที่วางอยู่ภายในนั้น...
***********************
ในสายตาของนักวิทยาศาสตร์ทางแมลงที่คุ้นเคยกับบรรดาผีเสื้อนานาชนิดเป็นอย่างดี นงลักษณ์กล้าสาบานกับตัวเองว่ายังไม่เคยเห็นผีเสื้อลักษณะพิเศษเช่นนี้มาก่อนในชีวิต สีขาวโพลนของมันปรากฏเต็มนัยน์ตา ราวกับตัวทั้งตัวถูกชุบลงไปในน้ำสี หรือมิเช่นนี้เกล็ดสีของมันก็คงจะถูกชะออกด้วยสารฟอกบางชนิดจนเหลือเพียงสีขาวโพลนราวโรยไว้ด้วยผงแป้ง หากที่น่าพิศวงไปยิ่งกว่าก็คือ เมื่อพลิกกล่องบรรจุนั้นไปมา แผงปีกสีขาวแต่แรกก็ดูเหมือนจะเลื่อมประกายระยิบระยับ ราวกับประจุเอาไว้ด้วยเกล็ดสีเงินตระการตายิ่งนัก
ลักษณะสีเหลือบเช่นนี้ แทบไม่ต่างกับเหลือบเขียวของปีกแมลงทับ นงลักษณ์เคยศึกษามาเหมือนกันว่ามันปรากฏเฉพาะผีเสื้อในตระกูลมอร์โฟ (morpho butterfly) ซึ่งอาศัยอยู่ในแถบละติน อเมริกาเท่านั้น หากสีเหลือบที่ว่าก็ปรากฏบนผืนปีกสีน้ำตาลหม่นของผีเสื้อมอร์โฟ หาได้เป็นสีขาวเงินยวงสวยงามราวกับผีเสื้อเหลือบเงินหรือหิมะเช่นนี้ไม่
การเหลือบสีบนปีกผีเสื้อแบบนี้ เป็นลักษณะเฉพาะที่ไม่ได้มาจากเม็ดสีหรือเกล็ดสีบนปีกเหมือนกับผีเสื้อทั่วไป แต่เกิดจากโครงสร้างในระดับจุลภาคซึ่งทำให้เกิดการแทรกสอดของแสงที่ส่องลงมากระทบ เกิดการสะท้อน-ดูดกลืน จนมองเห็นเป็นสีเหลือบอันสวยงาม อนุภาคขนาดเล็กที่เรียงซ้อนกันเหล่านี้สามารถมองเห็นได้ด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็คตรอนเท่านั้น
โอ ช่างสวยเหลือเกิน... นี่มันผีเสื้ออะไรกันนี่?
ค่อยๆบรรจงวางมันลงกับพื้นพลางหยิบแว่นขยายพิเศษออกมา ส่องขยายภาพเบื้องหน้าด้วยความรู้สึกมหัศจรรย์ใจเกินบรรยาย ภาพสะท้อนที่ขยายรายละเอียดผ่านเลนส์กระจกทำให้แน่ใจในทันทีว่านี่คือสิ่งมีชิวิตที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นอย่างแท้จริง หาใช่ผีเสื้อสังเคราะห์ที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นเองจากน้ำมือมนุษย์ไม่...
ในทันทีนั้นเอง ความคิดอย่างหนึ่งก็พลุ่งวาบขึ้นในสมองอย่างรวดเร็ว ผีเสื้อสายพันธุ์ใหม่ตัวนี้ กับจำนวนเงินมหาศาลที่จะนำมาใช้ต่อรองกับ เจ้าของออร์เดอร์ นักสะสมแมลงตัวยงคนนั้น...
น่าจะรีบถ่ายรูปมันเก็บเอาไว้เป็นหลักฐานก่อน แล้วจากนั้นจึงค่อยหาโอกาสสำหรับการนำมันออกไปจากพิพิธภัณฑ์
มืออันสั่นเทาด้วยอารมณ์กระหายอยากภายในใจ ทำให้กล่องโลหะพลัดหลุดจากมือหล่นกลิ้งลงไปบนพื้น หัวใจนงลักษณ์หายวับจนแทบจะหลุดออกไปจากอก เสียงกระทบของกล่องกับพื้นพรมหนานุ่มแม้จะบางเบา แต่ก็เหมือนจะกังวานไปทั้งศีรษะ หญิงสาวรีบทรุดกายลงพลิกกล่องที่คว่ำให้ตะแคงขึ้น เพื่อประคองซากผีเสื้อที่ถูกคว่ำปิดอยู่ขึ้นมา
พริบตา ประกายสีเงินก็พุ่งวาบปะทะจนนัยน์ตาพร่าพรายไปชั่วขณะ
ผีเสื้อตัวนั้นมีชีวิต!!
อย่างลืมตัว รีบถลาลุกพรวดขึ้น แล้ววิ่งตามแมลงแสนสวยที่บินโฉบร่อนผ่านหน้าไปยังด้านหลังอย่างกระชั้นชิด ถ้าโปรเฟสเซอร์คาเรนรู้ว่าหล่อนเป็นคนทำผีเสื้อตัวนี้หายไป ทุกอย่างจะจบสิ้นลงแน่นอน ก่อนที่จะเตรียมวางแผนใดๆเพื่อหาทางนำมันออกไปจากที่นี่เสียด้วยซ้ำ
จากห้องเตรียมแล็บประตูห้องด้านในเปิดกว้าง และกลีบปีกเงินยวงระยิบระยับก็ผลุบวูบผ่านเข้าไปในความมืดด้านในอันเป็นตำแหน่งห้องเก็บรักษาสภาพแมลง นงลักษณ์เร่งสาวเท้าตามเข้าไปโดยไม่คิดอะไรทั้งสิ้น สีเงินยวงเรืองรองในความมืดเป็นจุดเล็กๆไม่ต่างกับปลายอุโมงค์มืดมิดกลางรัตติกาล รู้ดีว่าภายในห้องแคบๆแห่งนี้เป็นห้องปิดตายที่บรรจุซากแมลงนับร้อยพันชนิด สำหรับการเตรียมจัดเก็บเอาไว้ภายในนั้น ผีเสื้อตัวนั้นไม่มีทางหนีรอดเงื้อมมือไปได้เด็ดขาด! หล่อนรีบดึงบานประตูกระจกให้ปิดกลับเข้ามา แล้วกดสวิทช์ไฟทันที
แชะ!!
แสงไฟสว่างวาบขึ้นเพียงวูบเดียว ก่อนจะดับลงอีกครั้งเหมือนไฟช็อต แต่ประกายความสว่างที่เกิดเพียงครั้งเดียวเท่านั้น หล่อนก็ถึงกับยืนตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นว่าในห้องนั้นยังมีใครอีกคนหนึ่งกำลังยืนอยู่เบื้องหน้าอย่างเงียบเชียบ
กีฏยา?
นักวิทยาศาสตร์สาวหลุดปากอุทาน ทั้งด้วยความประหลาดใจ ไม่คาดคิดว่าในเวลามืดค่ำ เวลาที่หล่อนแน่ใจแล้วว่าไม่มีใครจะอยู่ในห้องแล็บชั้นบนอีกต่อไป จะมีร่างของนักวิจัยลูกมือคนใหม่ของคาเรนยืนนิ่งอยู่ในห้อง ไม่ต่างกับหุ่นไร้ชีวิต
อ้าว... นี่ยังไม่กลับอีกหรือ กีฏยา?
กีฏยาสาวเท้าตรงเข้ามาข้างหน้า เมื่อนั้นเองจึงเห็นว่าบนหลังมือมีผีเสื้อสีขาวเกาะสงบนิ่งอยู่ การกระพือปีกของมันเท่านั้นที่ทำให้เกิดประกายเงินยวงเหลือบแสงสะท้อนขึ้นมาเป็นประกายน่าพิศวง
ผีเสื้อตัวนั้น...
เป็นความต้องการของเธอเองใช่ไหมนงลักษณ์? เธออยากได้ผีเสื้อตัวนี้ไว้ในครอบครอง ในที่สุดเธอก็พ่ายแพ้ต่อความต้องการ ความโลภของตัวเอง
ฉันไม่เข้าใจที่เธอพูด ผีเสื้อตัวนี้มันหลุดออกมาจากกล่องเก็บแมลง แล้วก็บินหนีออกมาเอง มะ-ไม่ได้ตั้งใจ...
คำพูดติดค้างอยู่ที่ริมฝีปากเมื่อรอยยิ้มที่มุมปากอีกฝ่ายเบิกขึ้น รอยยิ้มอย่างรู้เท่าทันความคิดจนทำให้ต้องรีบแก้ตัวเป็นพัลวันอยู่นี่เอง
นั่น ไม่ใช่ อย่างที่เธอคิดนะ กีฏยา ฉะ-ฉัน...
สายตาผู้ช่วยคนใหม่ของคาเรนเหลือบมองลงที่ผีเสื้อบนข้อมือ เหมือนจะเอ่ยปากถามไถ่ในประโยคที่หล่อนไม่เข้าใจ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง
มันจะไม่เกิดเหตุการณ์นี้เลย ถ้าเธอจะไม่ ปลุกมันให้ตื่นขึ้นมา ด้วยแรงกิเลสของตัวเองหรอก นงลักษณ์!!
หล่อนยืนนิ่งงัน ไม่อาจตอบโต้อะไรได้ถูกเมื่ออีกฝ่ายยื่นมือออกมาเหมือนกับต้องการจะส่งผีเสื้อมหัศจรรย์ตัวนั้นคืนกลับมาให้ ราวต้องมนตร์สะกดและด้วยความต้องการจากจิตใต้สำนึกทำให้หล่อนรีบยื่นมือออกไปรับทันที กีฏยาหงายมือออกจากกันเหมือนเป็นสัญญาณ แล้วผีเสื้อขาวเหลือบเงินยวงก็พลิ้วปีกโบยบินตรงเข้ามาหาเป็นเป้าหมาย ทว่า...
กลับมีกลุ่มผีเสื้อนับร้อยพันตัวพุ่งผ่านออกมาจากการคลายมือของกีฏยาไม่ต่างกับฝูงผีเสื้อที่ถูกปล่อยให้หลุดจากพันธนาการ กลีบปีกโบกสะบัดรายล้อมโดยมิอาจเบนหลบ
พวกมันต่างพุ่งร่างตรงเข้าหาหล่อนเป็นเป้าหมาย!!
***********************
จากคุณ |
:
สามปอยหลวง
|
เขียนเมื่อ |
:
วันลอยกระทง 54 15:35:14
|
|
|
|