“หรืออีกนัยหนึ่ง ชายที่ชื่อยุทธนา อาจจะไม่ได้เป็นคนฆ่านายวราวุธก็ได้” ภาคีกล่าวขึ้น เงยหน้าจากกระดาษแผ่นสุดท้าย มองแฮ็คเกอร์หนุ่มแวบหนึ่งแล้วหันมาจ้องตาพิมพ์พลอยผู้ยืนอยู่ด้านข้าง “คุณคิดยังไงกับข้อมูลพวกนี้บ้าง?”
หญิงสาวเบือนหน้าจ้องมองไปทางอื่นอย่างอึดอัดใจ เธอไม่พูดอะไรขณะย่างกายก้าวไปที่หน้าต่าง แง้มม่านออกเล็กน้อย เหม่อมองออกไปที่ท้องฟ้ายามราตรีที่ประดับดวงดาววิบวาวเบื้องนอก
“ไม่รู้สิคะ” พิมพ์พลอยตอบ ยังคงทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่าง “มันดูน่าเหลือเชื่อไปหมด พี่ทับทิมไม่น่าจะไปเกี่ยวข้องกับคนพวกนั้นได้”
ความเงียบงันแผ่ตัวลงปกคลุมห้องทำงานของแฮ็คเกอร์หนุ่มชั่วขณะ
ภาคีสบตามองกับมหาสมุทรและเหลือบมองไปที่แผ่นหลังของพิมพ์พลอย แล้วเขานึกขึ้นได้ว่า ตั้งแต่เข้ามาในห้องแห่งนี้ ตั้งแต่ความลับอันดำมืดส่วนหนึ่งของทับทิมถูกเปิดเผย เขายังไม่ได้ยินเสียงผีสาวผู้เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดพูดอะไรเลยสักคำ
แต่ทันใดนั้น เสียงของทับทิมก็กระซิบขึ้นเป็นครั้งแรก
“ภาคีคะ”
ผู้ถูกเรียกสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองทางต้นเสียงซึ่งแน่นอนว่าพบแต่ความว่างเปล่า แต่ภาคีรู้ว่าทับทิมยืนอยู่ตรงนั้น เขาเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม เสียงของผีสาวก็กล่าวต่อว่า
“ฉันคิดว่าจำอะไรบางอย่างได้แล้วค่ะ!”
“อะไรนะ?!” นักเขียนหนุ่มโพล่งออกมาอย่างตกใจ ส่งผลให้มหาสมุทรและพิมพ์พลอยหันมาจ้องมองเขาเป็นตาเดียว “คุณจำอะไรได้แล้วงั้นเหรอ?”
“แกพูดกับใครวะนั่น?” มหาสมุทรส่งเสียงถาม หน้านิ่วมองเพื่อนสนิทอย่างไม่เข้าใจ ในขณะที่สายตาของพิมพ์พลอยจ้องจับมาที่ภาคีด้วยประกายบางอย่าง เธอรู้ดีว่าภาคีกำลังพูดคุยอยู่กับใคร
“พูดกับผี”ภาคีหันไปตอบแฮ็คเกอร์ซึ่งเมื่อได้รับคำตอบก็งงหนักเป็นสองเท่าเพราะภาคียังไม่ได้เล่าเรื่องวิญญาณของทับทิมให้ฟัง และเพื่อไม่ให้เพื่อนรักงุนงงเกินไปนัก นักเขียนหนุ่มจึงขอตัวเดินออกมาจากห้อง เขาเดินสวนกับแพรฟ้าขณะลงบัดไดมาที่ชั้นล่าง แล้วก้าวปราดๆ ออกมาหยุดยืนข้างแปลงดอกไม้ที่เป็นมุมเงียบสงบในสนามหญ้าด้านนอก
เมื่อรอบบริเวณมีแต่ภาคีอยู่ในความมืดของค่ำคืนเพียงลำพัง ทับทิบก็ปรากฏกายวูบขึ้นตรงหน้าเขาพร้อมทั้งละล่ำละลักพูดระรัวจนลิ้นพันกันฟังแทบไม่รู้เรื่อง
“ฉันจำบางอย่างได้แล้ว ภาคี ฉันจำได้แล้วว่ายุทธนาคือคนรักของฉัน เขาทำงานอยู่ในแก๊งค้ายาเสพติดที่ใหญ่ที่สุดแก๊งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร เขากับฉันร่วมมือกันส่งอีเมล์ขู่เรียกเงินจากหัวหน้าแก๊ง ยุทธนาขโมยข้อมูลขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นตลอดอีกสามเดือนข้างหน้านี้มาให้ฉันเก็บไว้เป็นเครื่องมือต่อรองกับพวกมัน ฉันเก็บข้อมูลพวกนั้นไว้ในแฟลชไดร์ฟอันหนึ่งและในวันที่เกิดอุบัติเหตุ มันก็อยู่ในกระเป๋าถือของฉัน!”
ภาคีสูดหายใจ เขาไม่เข้าใจว่าหญิงสาวธรรมดาอย่างทับทิมจะมีคนรักเป็นหนึ่งในแก๊งค้ายาได้อย่างไร แต่เขาพอจะรู้แล้วว่าที่ทับทิมถูกฆ่าและพิมพ์พลอยเกือบจะตามรอยพี่สาวไป เรื่องทั้งหมดมีที่มาจากข้อมูลที่ทับทิมเก็บไว้ในแฟลชไดร์ฟนั่นเอง
“ถ้าอย่างนั้น” นักเขียนหนุ่มกล่าว “ทางตำรวจก็คงส่งกระเป๋าถือใบนั้นกลับมาพร้อมศพของคุณเรียบร้อยแล้วตั้งแต่หลายวันก่อน ผมจะขึ้นไปถามน้องสาวคุณว่าเก็บกระเป๋าและของที่อยู่ด้านในไว้ที่ไหน แล้วเราจะเปิดดูว่าในแฟลชไดร์ฟนั้นบรรจุข้อมูลอะไรอยู่บ้าง เมื่อพบกับข้อมูลที่ต้องการ ผมจะรีบมอบข้อมูลเหล่านั้นให้กับตำรวจทันที”
ทับทิมผงกศีรษะช้าๆ อย่างเห็นด้วย "งั้นก็รีบไปกันเถอะค่ะ"
สายลมโชยพลิ้วพัดเส้นผมของเธอปลิวสยายก่อนผีสาวจะหายตัวไปในวินาทีต่อมา ปล่อยให้ภาคีจ้องมองความว่างเปล่าเบื้องหน้าอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเขาก็รีบกลับเข้าบ้านไปอีกครั้งด้วยจิตใจอันร้อนรน _______________
แก้ไขเมื่อ 11 พ.ย. 54 09:55:19
จากคุณ |
:
ทะเลเดือดพันธุ์ร็อค
|
เขียนเมื่อ |
:
11 พ.ย. 54 09:53:56
|
|
|
|