ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๔ รูปจำลองเสมือนจริง)
|
 |
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๑ ศพเดินได้) http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11309801/W11309801.html ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๒ คนบ้าในกรงขัง) http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11321605/W11321605.html ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๓ ชายหนุ่มและสมมุติฐาน) http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11331282/W11331282.html
บทที่ ๔ รูปจำลองเสมือนจริง
ชายสามคนนั่งล้อมกองไฟกองเล็กๆ ที่ก่อขึ้นหน้าเถียงนาของนายสมชายวัยห้าสิบปี สมศักดิ์อ้างว่าจะมาขอนอนเฝ้านากับผู้เป็นบิดาพร้อมกับอัศวินที่อยากจะมานอนดูดาวบนกองฟางเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ สองหนุ่มได้หนูนาย่างเป็นกับแกล้มสาโทสองขวดที่พกมาด้วย พร้อมกับนั่งคุยกันไปเรื่อยเปื่อยจนกระทั่งนายสมชายฉุกถามถึงหญิงสาวผู้เลอโฉมจากต่างถิ่น ผู้เป็นเป็นเพื่อนสนิทของอรอนงค์ คานพิภพ
แต่สิ่งที่น่าสนใจมากกว่ารูปโฉมอันงดงามของฟ้าฉายที่ทำให้เหล่าชายบ้านนาทั้งหนุ่มและแก่ต้องเหลียวหลังมองนั่นก็คือ... ทั้งรูปร่างและหน้าตาของเธอดันไปละม้ายคล้ายคลึงกับหญิงรับใช้แห่งบ้านคานพิภพที่หายสาบสูญไปเมื่อยี่สิบปีก่อน ใบหน้าคมเข้มที่สะท้อนกับเปลวเพลิงในกองไฟได้แต่นิ่งค้างเมื่อหวนคิดถึงหญิงสาวผู้บอบบางอย่างฟ้าฉายที่ดันไปหน้าเหมือนกับจันทร์หอม ไม่รู้ว่าหากเจ้าฆาตกรมันได้พบเธอจะรู้สึกเช่นไร... เธอจะเป็นอันตรายรึเปล่านะ
นอกจากนั้นแล้วนายสมชายยังบอกอีกว่า... ในตอนที่จันทร์หอมยังมีชีวิตอยู่เธอเป็นที่สนใจของชายในหมู่บ้านมาก รวมทั้งเป็นที่ต้องตาของผู้ชายในบ้านคานพิภพที่เธออาศัยอยู่ด้วยเช่นกัน
บักภูมิพงษ์มันกะคือสิหาโอกาสเข้าใกล้แม่จันทร์หอมอยู่นั่นหละ...แต่กะคือสิย่านเมีย ชายสูงวัยหัวเราะหึๆ ใบหน้ามันเยิ้มสะท้อนแสงไฟเบื้องหน้าภายหลังจากนินทาเหล่าชายในบ้านคานพิภพที่ต่างก็หมายจะได้ครอบครองจันทร์หอม ทั้งเหมราช ภูมิพงษ์และทรงพล แต่คนที่เห็นจะมีดึงดันและหลงหญิงสาวหัวปักหัวปำคงเป็นลูกชายคนกลางของนายท่านเหมราช คานพิภพนั่นแหละ... ทั้งพ่อ ลูกชาย และลูกเขย ต่างก็อยากได้ผู้หญิงคนเดียวกัน นึกๆ ไปก็น่าขันไม่น้อย
อัศวินนิ่วหน้าคิดด้วยความสับสน เดาไม่ออกเลยว่าแท้จริงแล้วภูมิพงษ์เป็นคนเช่นไร เขาดูเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยวและมีความเป็นผู้นำ ทำตัวได้น่าเคารพสมวัยหากแต่สมัยยังเป็นหนุ่มจะมีใครซักกี่คนที่รู้ถึงความคึกคะนองของเขาที่อาจถูกเก็บซ่อนไว้ภายใต้รูปลักษณ์ที่สุขุมเยือกเย็น ทำไมภรรยาเขาต้องทิ้งลูกและสามีหนีไปบวชชีทั้งที่เธอก็มีพร้อมทุกอย่างทั้งทรัพย์สินและเงินทองที่ได้จากคานพิภพ ทำไมแม่ชีขจีเกศถึงตัดสินใจละทิ้งทุกอย่างจากภูมิพงษ์ไปทั้งที่เธอก็รักเขานักหนา ไม่มีใครจะรู้ดีไปกว่าตัวของภูมิพงษ์และแม่ชีขจีเกศเอง
เพราะอย่างนี้นี่เอง...เพราะว่าฟ้าหน้าเหมือนผู้หญิงที่ชื่อจันทร์หอมใช่มั้ยบัวเรียว ทุกคนในบ้านถึงได้มองฟ้าด้วยสายตาแบบนั้น... หญิงสาวลากเสียงค้าง จ้องมองบัวเรียวที่ทรุดนั่งเคียงข้างหลังจากที่หญิงรับใช้ได้ไขข้อข้องใจให้กับหญิงสาวแล้ว แต่เหตุที่บัวเรียวไม่รู้สึกตกใจที่เห็นเธอในครั้งแรกที่ได้พบกันนั่นก็เพราะอรอนงค์เคยเอารูปของฟ้าฉายให้กับบัวเรียวดูแล้ว
ตอนเห็นรูปที่คุณอรเอาให้นะคะ บัวเรียวก็ตกใจเหมือนกันหละค่ะคุณฟ้า เพราะใบหน้าคุณฟ้ากับพี่จันทร์หอมนี่เหมือนกันราวกับฝาแฝดน่ะค่ะ
จริงเหรอบัวเรียว เหมือนกันมากขนาดนั้นเลยเหรอ? เสียดายที่คนบ้านคานพิภพไม่มีรูปถ่ายของจันทร์หอมเลย แต่ในขณะที่จันทร์หอมอาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้ตอนนั้นบัวเรียวบอกว่าตนเองอายุราวๆ สิบเอ็ดสิบสองปี แล้วจันทร์หอมเธอเป็นคนยังไงเหรอจ้ะ... ฟ้าฉายเลิกคิ้วสูง
พี่จันทร์เธอเป็นคนดี มีน้ำใจค่ะ แถมยังเก่งเรื่องงานบ้านงานเรือนอีกต่างหาก ทั้งเรื่องทำกับข้าวและทอผ้า บัวเรียวบอกเสียงใส พลันนั้นฟ้าฉายก็นึกไปถึงเรื่องผ้าซิ่นสีแดงผืนนั้นขึ้นมา
เออบัวเรียว ในบ้านคานพิภพนี่มีใครที่มีผ้าไหมสีแดงลายสร้อยดอกหมากมั้ยจ้ะ? คำถามของหญิงสาวทำให้บัวเรียวต้องขมวดคิ้วมุ่นด้วยความลำบากใจ หญิงรับใช้จ้องหน้าฟ้าฉายก่อนยิ้มแหย ก้มหน้านึกอยู่นานโข
บัวเรียวเองก็มีอยู่ผืนนึงค่ะแต่ทอจากฝ้าย ส่วนคุณยายผุสดีก็มีค่ะ เธอทอเองสมัยสาวๆ และก็ถ้าจำไม่ผิดคุณแม่ชีขจีเกศกับคุณพิมพ์พาก็น่าจะมีเหมือนกัน...
บัวเรียวจำผ้าซิ่นผืนที่ฉันใส่ในวันนั้นได้มั้ยจ้ะ อรอนงค์บอกว่านั่นเป็นผ้าไหมที่จันทร์หอมทอขึ้นและตัดเป็นผ้าซิ่นมอบให้แม่ชีขจีเกศ จันทร์หอมคงตัดเป็นผ้าซิ่นมากกว่าหนึ่งผืนใช่มั้ยจ้ะ? บัวเรียวอ้าปากค้าง กลอกตามองฟ้าฉายด้วยความสับสน
ค่ะ...บัวเรียวจำได้ว่าพี่จันทร์หอมมอบให้กับคุณแม่ขจีเกศและคุณพิมพ์พาในงานวันแต่งงานของคุณพิมพ์พาคนละผืน... คำตอบที่ได้ยินทำเอาฟ้าฉายนิ่งค้างพูดอะไรไม่ออก บุญยืนพบศพจันทร์หอมในวันรุ่งขึ้นหลังจากผ่านงานแต่งงานของพิมพ์พา หญิงสาวเม้มปากแน่นพร้อมหรี่ตาจ้องหน้าบัวเรียว
แล้วผ้าซิ่นที่จันทร์หอมมอบให้คุณพิมพ์พายังอยู่รึเปล่า? บัวเรียวยิ้มฝืดๆ ให้กับคนที่จ้องมองเธออย่างจริงจัง
ก็...ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ บัวเรียวไม่เคยเห็นเธอใส่เลยซักครั้ง แต่ผ้าซิ่นสีแดงผืนอื่นๆ ก็ยังเห็นเธอใส่และอยู่ในสภาพดีนะคะ คุณพิมพ์พาเธอเป็นคนหวงข้าวของอย่างกับอะไรดี หญิงสาวพยักหน้ารับสองสามที ทำไมพ่อเธอถึงไม่สืบเรื่องผ้าซิ่นที่นายบุญยืนกล่าวถึงในตอนที่เขาพบศพจันทร์หอมนะ หรือเพราะว่าไม่มีหลักฐานที่จับต้องได้ มันก็ใช่นะ... นายบุญยืนอาจจะโกหกก็ได้ แต่ถ้าเกิดเขาพูดความจริงขึ้นมาล่ะฟ้าฉาย... เธอน่าจะให้เขาดูลายผ้าซิ่นของแม่ชีขจีเกศที่อรอนงค์ให้เธอใส่ในวันนั้นว่าเป็นลายเดียวกันกับที่ใช้มัดมือเท้าจันทร์หอมรึเปล่า?
บัวเรียวทำท่าว่าจะลุกขึ้นจากไปแต่ทว่าฟ้าฉายก็ฉุดดึงข้อมืออีกฝ่ายไว้ก่อน หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองสองตาที่เบิกกว้างของหญิงแม่บ้าน คลายยิ้มเจ้าเล่ห์ส่งให้บัวเรียว อย่าพึ่งไปจ้ะ ฉันมีเรื่องจะถามบัวเรียวอีกเรื่อง คำขอร้องของฟ้าฉายทำให้บัวเรียวค่อยๆ ย่อตัวลงนั่งเคียงข้างเธอดังเดิม
หญิงต่างเมืองกลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่ สองตากลมใสจ้องมองใบหน้าคล้ำแดดของบัวเรียว ฉันอยากรู้ว่าตอนที่จันทร์หอมอยู่ที่นี่ เธอเป็นยังไงบ้าง...มีใครรังแกหรือเกลียดชังเธอรึเปล่า? คำถามของฟ้าฉายทำให้บัวเรียวต้องนิ่งค้างราวกับหุ่นไล่กาที่ถูกทิ้งไว้กลางทุ่ง ลมหนาวในเวลาย่ำค่ำพัดมากระทบสองร่างที่นั่งคุยกันหน้าชานเรือนของนายภูมิพงษ์ กลิ่นหอมฉุนของดอกพญาสัตบรรณที่ออกดอกสีขาวบานเต็มต้นเริ่มทำให้ทั้งสองเวียนหัว ฟ้าฉายสังเกตเห็นความผิดปกติบนใบหน้าของหญิงรับใช้ บัวเรียวเม้มปากแน่น สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นโกรธขึ้งและขมขืน หัวคิ้วย่นเข้าหากันในขณะที่หางคิ้วลู่ต่ำลง
ค่ะ...มีหลายคนที่คอยรังแกพี่จันทร์หอม โดยเฉพาะนายผู้ชายในบ้าน... บัวเรียวกัดริมฝีปากล่างเมื่อพูดจบ สิ่งที่ได้ยินทำให้ฟ้าฉายนิ่วหน้าคิดอย่างไม่อยากเชื่อหูตัวเอง นายผู้ชายในบ้านคานพิภพคอยรังแกจันทร์หอมงั้นหรือ?
แล้วเพราะอะไรล่ะ...ทำไมพวกเขาถึงต้อง... ฟ้าฉายขยับกายเข้าไปใกล้บัวเรียว
เพราะพี่จันทร์หอมเป็นคนสวยไงค่ะ เธอสวยมาก... บัวเรียวหันมาจ้องหน้าฟ้าฉายตรงๆ สองตาของหญิงแม่บ้านที่เบิกกว้างทำให้ฟ้าฉายรู้สึกขนลุกขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว บัวเรียวจุดยิ้มทั้งที่น้ำตาคลอเบ้า จ้องมองฟ้าฉายประหนึ่งว่าเธอคือตัวแทนของจันทร์หอมผู้สาบสูญ
ฟ้าฉายค่อยๆ เอื้อมมือไปจับสองมือของบัวเรียวที่กุมแน่นไว้ หยดน้ำตาพร่างพรูอาบเปื้อนแก้มของหญิงผู้ต่ำต้อยราวกับสายฝน ฟ้าฉายรับรู้ได้ถึงความโกรธแค้นและเสียใจที่ฉายชัดอยู่ในสีหน้าและแววตาของบัวเรียว บัวเรียวคงรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในบ้านคานพิภพมากมายหลายเรื่อง แต่ไม่ใช่ตอนนี้...เธอไม่ควรจะถามหญิงรับใช้ในตอนนี้
บัวเรียวรีบขอตัวไปทำงานบ้านช่วยนางผุสดีที่เรือนใหญ่ในขณะที่สามพ่อลูกกำลังเดินเคียงข้างกันตรงมายังที่พักด้วยสีหน้ายิ้มแย้มหลังจากออกไปทำธุระที่หมู่บ้านร่วมกัน คำพูดของหญิงรับใช้ที่เอ่ยบอกแก่ฟ้าฉายเมื่อครู่นี้ยังก้องอยู่ในสองหูของเธอ
ภูมิพงษ์ก้าวขาขึ้นบันไดตามหลังลูกทั้งสองขึ้นสู่เรือนที่พักในขณะที่ฟ้าฉายรีบลุกขึ้นส่งยิ้มให้อรอนงค์และเศรษฐพงษ์ก่อนที่ดวงหน้าหวานละมุนจะเพ่งมองไปยังใบหน้าของภูมิพงษ์
บัวเรียวบอกว่านายผู้ชายในบ้านนี้ชอบรังแกจันทร์หอม... หากเธอหน้าตาคล้ายจันทร์หอมจริง พวกเขาก็ต้องรู้สึกหวั่นไหวต่อสายตาของเธอแน่ ดวงตากลมใสปานลูกแก้วจ้องมองใบหน้าคร้ามแดดของชายวัยสี่สิบพร้อมกับคลี่ยิ้ม สายตาที่แฝงไปด้วยเลศนัย์บางอย่างทำให้สองตาของชายสูงวัยนิ่งค้างราวกับต้องมนตร์สะกด ดวงตาดุจพญาเหยี่ยวที่ได้พบหนูนาตัวน้อยครอบครองใบหน้านวลเนียนปานจะกลืนกิน ชั่วแวบเดียวที่ฟ้าฉายเผลอลองใจชายสูงวัยตรงหน้ามันก็ทำให้หญิงสาวตกอยู่ในความไม่ปลอดภัยเสียแล้ว เมื่อความคึกคะนองเลือนหายไปใบหน้างามงอนจึงสะบัดหนีอย่างรวดเร็ว
หญิงสาวรีบเดินตามอรอนงค์เข้าสู่ห้องพักขณะที่หัวใจยังเต้นโครมครามอยู่ในอก ไม่รู้ว่านายภูมิพงษ์จะตีความหมายของสายตาที่เธอมองเขาเมื่อครู่ว่าอย่างไร แต่ที่เธอรู้คือ...บิดาของอรอนงค์คิดกับเธอมากกว่าเพื่อนสนิทของลูกสาว หรืออาจจะเป็นเพราะเขาเคยพอใจในตัวจันทร์หอม เมื่อได้พบเธอความเสน่หาอันเร่าร้อนนั้นจึงลุกโชนมาอีกครั้ง จันทร์หอมไม่ได้รักเขา และเขาเองก็มีคนรักอยู่แล้ว...ความต้องการที่ถูกขวางกั้นโดยอุปสรรคมากมาย มันคงพอจะหยุดยั้งไม่ให้ภูมิพงษ์ทำเรื่องร้ายแรงและไม่น่าให้อภัยได้นะ แต่ก็ไม่มีใครจะรู้ดีไปกว่าตัวเขาเอง... ไม่มีใครบอกได้ว่าใครเป็นคนฆ่าจันทร์หอมและศพเธอหายไปได้อย่างไร...
ฟ้าฉายทิ้งตัวลงยังที่นอนด้วยความสับสนที่เกาะกุมหัวใจ เย็นนี้เธอไม่มีกระจิตกระใจออกไปทานข้าวพร้อมกับนายภูมิพงษ์ได้อีก เธอไม่น่าหาเรื่องใส่ตัวเลยฟ้าฉาย... หากภูมิพงษ์คิดกับเธอเกินเลยแล้วถ้าหากว่าเขากล้าทำในสิ่งไม่คาดคิดแล้วตัวเธอจะเป็นเช่นไร...
อรอนงค์ยกจานของว่างมาให้คนที่อ้างว่าไม่หิวข้าว ฟ้าฉายเปิดห่อข้าวต้มมัดออกก่อนยกกัดเข้าปากด้วยความหิวโซจนอรอนงค์ต้องหรี่ตามองอย่างแปลกใจ ฟ้าฉายยกแก้วน้ำขึ้นดื่มจนครึ่งแก้วก่อนเอ่ยปาก
ไปทำอะไรที่หมู่บ้านมาเหรออร...กลับซะค่ำเชียว อรอนงค์หย่อนตัวลงนั่งบนเตียงนอนก่อนถอนหายใจยาว
ไปช่วยอาไพรินทร์ซ่อมแซมอุปกรณ์ทอผ้านิดหน่อย อันที่จริงฉันไม่ได้ทำหรอก ก็นั่งมองคุณพ่อและพวกคนงานเค้าน่ะ อรอนงค์คลี่ยิ้มก่อนที่ฟ้าฉายจะแกะห่อข้าวต้มมัดอีกอัน
แล้ววสันต์ล่ะ?... จบคำฟ้าฉายก็เอาข้าวต้มมัดป้อนใส่ปาก
คุณพ่อให้คุมคนงานเลื่อยไม้ให้เสร็จน่ะ กว่าจะกลับก็คงทุ่มสองทุ่มนู้นแหละ
ดูเค้าไม่ค่อยจะสนิทกับแม่เลยเน่าะ... ฟ้าฉายว่าขณะที่ปากยังเคี้ยวอาหาร
ก็เพราะว่าพ่อตายไปตั้งแต่ยังเด็ก ซ้ำยังเป็นผู้ชาย วสันต์ก็เลยไมได้ไปคลุกคลีกับอาไพรินทร์ที่โรงไหมเท่าไหร่น่ะ แต่คุณอาไพรินทร์รักวสันต์มากนะ... เขาเองก็เป็นลูกชายคนเดียวเสียด้วย อรอนงค์คลี่ยิ้มเรียบๆ
แล้ว...คุณศักดิ์นี่เป็นคนที่ไหนเหรอ? ฟ้าฉายเลิกคิ้วถาม
ศรีสะเกษ...วสันต์เองก็เกิดที่ศรีสะเกษนะ สิ่งที่ได้ยินทำเอาหญิงสาวต่างเมืองต้องทำตาโตก่อนที่อรอนงค์จะเล่าต่อ ตอนนั้นคุณอาไพรินทร์เธอท้องได้สักสามเดือนนี่แหละ ตอนนั้นคุณอาศักดิ์กลับไปเยี่ยมญาติที่บ้านแล้วก็เกิดล้มป่วยเพราะพิษไข้ อาไพรินทร์เป็นห่วงสามีก็เลยเดินทางไปศรีสะเกษเพื่อดูอาการและก็อยู่จนกระทั่งคลอดวสันต์...
ไปทั้งที่ยังท้องนี่นะ แล้วคุณปู่เธอไม่ว่าเหรอ? คำถามของฟ้าฉายทำให้ใบหน้ากลมอิ่มค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด
ว่าสิ... อรอนงค์สะบัดเสียง น้อยครั้งมากที่ฟ้าฉายจะเห็นเพื่อนสนิทคนนี้โกรธ แต่ที่คุณปู่โกรธอารินทร์มากก็เพราะคุณอาพิมพ์พาแต่งเรื่องไร้สาระขึ้นมาว่าคุณอาไพรินทร์ไม่เคยเห็นคุณปู่อยู่ในสายตาทั้งที่ความจริงแล้วเธอแค่อยากจะไปพบหน้าสามีที่ล้มป่วยเท่านั้นเอง...นี่แหละคือความร้ายกาจของอาพิมพ์พา...ผู้หญิงที่ร้ายที่สุดในบ้านคานพิภพ ทั้งน้ำเสียง สีหน้าและแววตาของอรอนงค์ตลอดจนเรื่องที่เธอเล่าให้ฟังทำให้ฟ้าฉายพูดไม่ออก เรื่องผ้าซิ่นสีแดงลายสร้อยดอกหมากอีกผืนเธอไม่มีวันลืมแน่ หญิงสาวผู้ร้ายกายที่สุดในบ้านคานพิภพงั้นเหรอ?... แสดงว่านอกจากจันทร์หอมจะต้องคอยหลบนายผู้ชายในบ้านที่มักจะหาทางรังแกเธอเมื่อมีโอกาสแล้วเธอก็ต้องคอยหลีกหญิงสาวผู้ร้ายกาจอย่างเช่นพิมพ์พาด้วยกระนั้นหรือ?
แก้ไขเมื่อ 16 พ.ย. 54 19:03:12
จากคุณ |
:
ผีเสื้อสีดำ
|
เขียนเมื่อ |
:
16 พ.ย. 54 08:45:50
|
|
|
|