Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
(นิยายกำลังภายใน) วิหคดั้นเมฆา ผู้กล้าฝ่ายุทธจักร ตอนที่ 77 ติดต่อทีมงาน

โต่วอี้เหรินกัดฟันกรอด รวบรวมกำลังกระโดดหนีสองพี่น้องออกมาเสียไกล ทว่าทันทีที่เท้าแตะพื้น มันกลับทรุดร่างลงด้วยอาการบอบช้ำแสนสาหัส

นับตั้งแต่เอาตัวรอดจากการคัดเลือกของบิดาบุญธรรมเมื่อสิบสามปีที่แล้วเป็นต้นมา โต่วอี้เหรินมิเคยบาดเจ็บหนักถึงเพียงนี้มาก่อน

วานรเขากระดูกแสยะยิ้ม ย่างเข้าหาเหยื่อตรงหน้าทีละก้าวด้วยย่ามใจ โต่วอี้เหรินรับรู้รังสีฆ่าฟันซึ่งกดดันจากรอบด้าน จนใจที่แค่ยกกระบี่ยังไม่หลงเหลือเรี่ยวแรง

แม้วานรเขากระดูกและวานรเขี้ยวกระดูกสองพี่น้องจะสังกัดพรรคอสุราอาฆาต ทว่าระดับมันย่อมไม่มีทางล่วงรู้ถึงความร่วมมือลับ ๆ ระหว่างโจซานตงประมุขพรรคกับตระกูลโต่ว ดังนั้นต่อให้พวกมันทราบว่าโต่วอี้เหรินคือใคร มันก็ยังคงลงมืออย่างอำมหิตเช่นนี้ไม่แปรเปลี่ยน

โต่วอี้เหรินแทบไม่เหลือหนทางรอดแม้แต่น้อย

จังหวะที่เล็บมือของวานรเขากระดูกพุ่งลงยังเป้าหมายตรงหน้า มือมันกลับพลิกเบี่ยงทิศฉับพลัน เพื่อฟาดใส่บางอย่างที่ลอยคว้างหมายเข้ายังใบหน้ามัน

ตุ้บ!

ท่อนไม้โดนพลังวัตรฟันเป็นสองเสี่ยงตกลงพื้น สือจินหลิงยืนหอบตัวโยนห่างจากพวกมันไม่ไกล ในมือยังเหลือไม้อยู่อีกท่อน โต่วอี้เหรินเห็นนางเข้าถึงกับตกใจจนแทบบ้า ตะโกนว่า

“จินหลิง เจ้ากลับมาทำไม!”

“ข้าไล่เพ่ยเพ่ยไปตามคนมาช่วยแล้ว ท่านไม่ต้องห่วงหรอกนะ ข้ารู้ว่าพี่ใหญ่พาคนลาดตระเวณอยู่แถวนี้นี่เอง ไม่นานต้องมีคนมาช่วยเราแน่”

ชายหนุ่มนิ่งเงียบ มันรู้ดีว่าสือหย่งจวินมิได้อยู่แถวนี้หรอก มิฉะนั้นนางคงไม่กล้านัดมันมาพบใกล้หูใกล้ตาพี่ชาย สือจินหลิงจงใจพูดเพื่อข่มขู่สองพี่น้องวานรเท่านั้น คาดว่าหลังสั่งสาวใช้ประจำตัวให้รีบหาสือหย่งจวินแล้ว นางค่อยตัดสินใจย้อนกลับมาหวังช่วยถ่วงเวลารอความช่วยเหลือ

“ฮ่า ๆ” วานรเขี้ยวกระดูกผู้ยืนอยู่ทางด้านหลังสุดระเบิดหัวเราะสนั่น “นางย้อนกลับมาเสียก็ดี พวกข้าจะได้ไม่ต้องเสียเวลาตามหา”

หลานสาวสกุลสือหน้าซีด หากยังพยายามยืดตัวทำท่าเข้มแข็ง

“พี่ชายข้าสือหย่งจวินใกล้มาถึงแล้ว ทางที่ดีพวกท่านรีบหนีไปเสียเถอะ”

“ที่แท้นางคือหลานสาวของตระกูลสือนี่เอง ฮึ ๆ ข้าเองก็อยากทดสอบวิชากระบี่ของคุณชายใหญ่ผู้เลื่องชื่อของตระกูลสืออยู่เช่นกัน เฮ้ย...”

พอได้สัญญาณจากน้องชาย วานรเขากระดูกก็พุ่งกายเข้าหาสือจินหลิงทันที หลานสาวสกุลสือเบิกตากว้าง คว้าเศษหินกิ่งไม้ใกล้มือโยนใส่คนจู่โจมเป็นจ้าละหวั่น หากสำหรับยอดยุทธอย่างวานรเขากระดูก สิ่งเหล่านี้คล้ายเพียงแมลงวันบินมาตอมให้รำคาญ มันหลบซ้ายป่ายขวาอย่างเชี่ยวชาญ ระยะทางระหว่างมันและหญิงสาวหดลงรวดเร็วยิ่ง

โต่วอี้เหรินขบกรามแน่น โชคดีสือจินหลิงถ่วงเวลาให้มันลอบเดินลมปราณรักษาตัวได้บางส่วน ยามนี้จึงลุกพรวด โยนกระบี่ใส่วานรเขี้ยวกระดูกทางด้านหลังจนมันเสียจังหวะ พร้อมถีบกายพุ่งไปทางสือจินหลิงโดยพลัน ทว่าวานรเขากระดูกผู้ล่วงหน้ามาถึงตัวนางก่อน เฒ่าชั่วช้าตะปบแขนเสื้อสือจินหลิงหมายดึงเข้าหาตัว โต่วอี้เหรินกลับพลิกร่างมาประกบเบื้องหลังนางด้วยความรวดเร็วสุดหยั่ง เตะสกัดมือวานรเขากระดูกจนแขนเสื้อสือจินหลิงขาดติดมือมันไป แล้วอุ้มหญิงสาวหายเข้าป่าด้านข้างทันที

วานรเขากระดูกตกตะลึงกับความว่องไวของชายหนุ่ม ก่อนจะได้สติจากเสียงเรียกของน้องชาย จากนั้นทั้งคู่ต่างกระโจนติดตามสองหนุ่มสาวไปไม่ลดละ

โต่วอี้เหรินแม้สามารถเร่งความเร็วในพริบตา แต่อาการบาดเจ็บทำให้ความเร็วเริ่มตกลง ไม่นานศัตรูก็ตามประชิดแทบหายใจรดต้นคอ อาศัยว่าชายหนุ่มชำนาญภูมิประเทศกว่า การขับเคี่ยวไล่ล่าจึงคงระยะอย่างสูสี ยิ่งนานอารมณ์โกรธของวานรเขากระดูกยิ่งปะทุ จนต้องตะโกนใส่หลังสองหนุ่มสาวว่า

“หยุดเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้นหากข้าจับตัวได้เมื่อไหร่ จะฆ่าเสียทั้งคู่เลย”

ทว่าใครจะยอมหยุดตามคำมัน โต่วอี้เหรินรีบเร่งฝีเท้าขึ้นจนทิ้งห่างผู้ไล่ตามมาได้ไกล แต่แล้วมันก็ชะงัก ปล่อยร่างหญิงสาวในอ้อมอกเพื่อล้มตัวพิงต้นไม้ แล้วงอเอวอาเจียนโลหิตกองโต

“ท่านเป็นอย่างไรบ้าง” สือจินหลิงผวามาดูอาการมันอย่างเป็นห่วง ทว่าอีกฝ่ายกลับผลักไสนางออก

“รีบหนีไป ข้าจะถ่วงพวกมันไว้เอง”

“ไม่” นางปฏิเสธเสียงแข็ง “ข้าจะไม่ทิ้งท่าน...ไม่ทิ้งพี่อี้เหริน”

แววตาเย็นเฉียบของชายหนุ่มพลันบังเกิดประกายลุกโชน โต่วอี้เหรินประคองสองแก้มนางไว้ เอ่ยเสียงพร่า “เจ้า...เรียกข้าว่าอันใดนะ”

“พี่อี้เหริน” สือจินหลิงพูดย้ำด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว นัยน์ตางามซึ้งคู่นั้นสะท้อนแต่เงาบุรุษตรงหน้าเพียงผู้เดียว “นะ...อย่าให้ข้าไปเลย ถึงอย่างไรข้าก็หนีไม่พ้นอยู่ดี”

โต่วอี้เหรินรั้งร่างบอบบางมากอดแน่น สือจินหลิงก็โอบมันตอบ ทั้งที่ควรหวาดกลัวจับจิต แต่ใจสองหนุ่มสาวกลับรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด

ขอเพียงพวกมันยังมีกัน ความตายก็หาใช่ความสยดสยองอันใดไม่...

เสียงฝีเท้าไล่หลังดังกระชั้นขึ้นอีกครา โต่วอี้เหรินจึงจำใจปล่อยมือ ขณะหยิบยาเม็ดลูกกลอนยื่นให้นาง

“นี่เป็นยาพิษออกฤทธิ์เร็ว คนตระกูลโต่วต้องเก็บติดตัวไว้ทุกคน หากข้ามีอันเป็นไปแล้วพวกมันหมายหยามเกียรติเจ้า...”

สือจินหลิงคว้ายามากำไว้แน่น พยักหน้าด้วยอาการรับรู้ ฟากชายหนุ่มค่อยระบายลมหายใจอ่อนล้า รีบดันตัวนางไปแอบทางด้านหลังระหว่างมันกับต้นไม้ เผชิญหน้าสองผู้เฒ่าซึ่งกระโดดมายืนจังก้าด้วยกิริยากระหยิ่ม

วานรเขากระดูกจับจ้องรอยเลือดที่เปื้อนเสื้อโต่วอี้เหริน ก่อนว่า

“เฮอะ ดูท่าจะมาถึงที่สุดแล้วล่ะซิ”

ส่วนวานรเขี้ยวกระดูกไม่พูดพร่ำทำเพลง รวบเล็บมือเตรียมแทงใส่หน้าชายหนุ่มทันที โต่วอี้เหรินรวบรวมกำลังเฮือกสุดท้ายหวังเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย หากพริบตาก่อนที่ชายหนุ่มจะทันขยับตัว กลับมีฝ่ามือหนึ่งทะลวงผ่านจากด้านข้างมัน เข้าปะทะกรงเล็บวานรเขี้ยวกระดูกกระเด็นถอยหลังอย่างไม่ได้ตั้งตัว สองหนุ่มสาวรีบสะบัดหน้าหาที่มาของฝ่ามือลึกลับ ค่อยพบแขนข้างหนึ่งโผล่มาจากหลังต้นไม้ที่พวกมันพิงอยู่ ก่อนเจ้าของความช่วยเหลือจะเดินอ้อมออกมาช้า ๆ

มันเป็นชายชรารูปร่างสันทัด ไว้หนวดเคราสีขาวโพลน เสื้อผ้าตัดเย็บตามแบบคนนอกด่าน สวมใส่รองเท้าหนังครึ่งหน้าแข็ง สะพายย่ามใบใหญ่ แม้สือจินหลิงจะไม่เคยเห็นหน้ามันมาก่อน แต่ตาแววตาอย่างผู้ใหญ่ใจดีของมันก็พาให้ใจชื้นอย่างประหลาด

ชายชราแปลกหน้ากวาดตามองคู่หนุ่มสาวชั่วแวบ ก่อนเลยไปหยุดที่สองพี่น้องผู้กำลังมองมาอย่างนึกประเมินเช่นกัน แล้ววานรเขากระดูกจึงเอ่ยว่า

“หากรักชีวิต ก็อย่ามายุ่งเกี่ยวเรื่องพวกเรา”

ชายชราแปลกหน้าเลิกคิ้วสูง “พวกท่านตั้งใจทำร้ายผู้อ่อนแอกว่าด้วยวิธีต่ำทราม คนทั่วไปย่อมสอดมือเข้าช่วยได้อยู่แล้ว ไม่นับว่าข้าเองยังมีอาชีพเป็นหมอพเนจร เห็นคนตกทุกข์จะดูดายได้อย่างไร”

วานรเขี้ยวกระดูกฉวยโอกาสระหว่างการสนทนา จู่โจมใส่ชายชราแปลกหน้าฉับพลัน อีกฝ่ายรีบยกฝ่ามือต้านรับ กลายเป็นวานรเขี้ยวกระดูกที่ต้องถอยร่นไม่เป็นขบวน แต่ทางฝั่งวานรเขากระดูกแทนที่จะเข้าช่วยน้องชาย มันกลับโถมเข้าหาสองหนุ่มสาวอย่างรวดเร็ว

การกระทำแลประมาท แต่ความจริงวานรเขากระดูกเป็นผู้รอบคอบยิ่ง

มันคำนวณในใจมั่นเหมาะแล้วว่า สมควรคร่ากุมคนไว้เป็นตัวประกันต่อรอง แม้ชายชราแปลกหน้าเก่งกาจแค่ไหน เจอไม้นี้ย่อมมิอาจคลี่คลายสถานการณ์โดยง่าย

ทว่าก่อนตัวมันจะรุดถึงเป้าหมาย ย่ามใบใหญ่พลันถูกเหวี่ยงมาขวางหน้าไว้ เป็นย่ามของชายชราแปลกหน้าผู้เดิม

วานรเขากระดูกแทบไม่มีวันเชื่อว่า คนซึ่งถูกน้องชายมันตั้งใจพัวพันอยู่ จะสามารถแบ่งสมาธิมาสนใจทางด้านอื่นได้อีก ทว่าชายชราแปลกหน้าทำได้ และทำได้ดีเสียด้วย!

มือหนึ่งมันเหวี่ยงย่ามเป็นวงกว้าง ขณะเดียวกันขาก็สะบัดขึ้นเตะโดนส่วนอกของวานรเขี้ยวกระดูก เพื่ออาศัยเป็นฐานหมุนตัวจู่โจมใส่วานรเขากระดูกที่อยู่อีกฟาก เมื่อวานรเขากระดูกยกแขนขึ้นต้านอย่างทุลักทุเล ชายชราแปลกหน้าก็รีบสับส้นเท้าตอกหัวมันในท่าต่อเนื่อง แล้วไม่รอดูวานรเขากระดูกล้มกลิ้งโค่โร่หากสวนฝ่ามือกระเรียนล่าลมฟาดวานรเขี้ยวกระดูกที่โถมพุ่งมาจนทรุดไปกองตามพี่ชาย

ชายชราแปลกหน้าหมุนตัวอีกครั้ง ย่ามใบใหญ่พลันสะพายกลับเข้าที่ มันผายมือไปทางสองพี่น้อง กล่าวว่า

“คราวนี้ ข้ายังยุ่งเกี่ยวเรื่องพวกท่านได้หรือไม่”

ขณะที่มันพูด บังเกิดเสียงโหวกเหวกดังแว่วจากชายป่า สือจินหลิงเงี่ยหูฟังแล้วอุทานว่า

“เสียงรหัสของตระกูลสือ เพ่ยเพ่ยคงตามตัวพี่ใหญ่มาได้แล้ว”

สองผู้เฒ่าสบตากันวูบ ก่อนกระโดดขึ้นโดยพร้อมเพรียง เร้นกายหายไปในป่ารอบด้านทันควัน ชายชราแปลกหน้าแค่นเสียงเฮอะ ขยับตัวนิดเดียว ปรากฏเป็นเงาวูบไล่ตามสองพี่น้องไปติด ๆ

จากคุณ : จันทร์พันฝัน
เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 18:19:26




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com