Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
กลร้ายในเงารัก - บทที่ 12 ติดต่อทีมงาน

http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11331638/W11331638.html

บทที่ 12

ผู้กองหนุ่มใหญ่หัวเราะในลำคอ ไม่ถือสาที่พ่อหม้ายตาพิการชั่วคราวย่นคิ้วพร้อมกับขยับแว่นตาดำคล้ายไม่ค่อยพอใจที่ได้ยินเขาถามซ้ำซากว่า 'รู้จักอคินมานานแค่ไหนแล้ว'

"เอาเถอะ ผมเปลี่ยนคำถามก็ได้" เขาบอกกลั้วหัวเราะเบาๆ ประกายตายังฉายอารมณ์ครึกครื้นระยิบระยับ

"บางทีผมก็อยากจะตำหนิผู้กองเหมือนกันนะครับ เพราะเริ่มจะเห็นด้วยกับอคิน และไม่แปลกใจว่าทำไมอคินจึงไม่ค่อยชอบผู้กองเลย"

"คุณไม่ใช่คนแบบนั้นนี่ เท่าที่ผมสืบประวัติ เอ้อ แหม ใช้คำนี้เดี๋ยวคุณดนัยดลจะเคืองอีก เท่าที่ผมฟังคนใกล้ตัวและรอบตัวคุณเล่าๆ มา คุณเป็นคนดีมาก โลกของคุณมีแค่สองสี คือขาวกับชมพู"

"ครับ ผมไม่เถียงหรอกว่าผมใจดี และพยายามหาข้อดีหรือเหตุผลดีๆ ไปแก้ตัวให้คนอื่น"

"ใช่ นั่นล่ะ ข้อดีมากของคุณที่ผมชื่นชม"

"มันไม่ใช่ความคิดที่แปลกประหลาดอะไรไม่ใช่หรือครับ คนอื่นๆ ก็น่าจะคิดคล้ายๆ กับผม ที่อยากเห็นคนทุกคนอยู่ร่วมโลกใบเดียวกันอย่างปรองดองและมีความสุข แม้จะไม่ถึงกับต้องสามัคคีกันทุกวินาที แต่ก็จะไม่เบียดเบียนกันตลอดไป"

"อย่าใช้ตัวเองเป็นบรรทัดฐานวัดคนอื่นเลยคุณดนัยดล คนแต่ละคนมีความเหมือนและความต่างใกล้ชิดกันมากแทบจะแยกไม่ออก เหมือนคุณกับคุณอคินไง"

"ยังไงครับ"

"เป็นเพื่อนสนิทกัน ทำงานเก่งเหมือนกัน รูปหล่อเหมือนกัน รักความก้าวหน้าเหมือนกัน แต่การใช้ชีวิต การคิด และการกระทำ ก็ไม่แน่ว่าจะเหมือนกัน อ้อ นิสัยด้วย จริงไหม"

ดนัยดลส่ายหน้าแล้วหันไปทางอื่น มือบนตักบีบกันเบาๆ ในสมองเวลานี้ ไม่อยากรับรู้ข้อมูลข่าวสารหรือหลักปรัชญาการคบหาเพื่อนสนิท การตีความผู้คนที่ไม่ใช่ตัวเอง นอกจากคิดถึงและโหยหาภรรยายาหยี

ซึ่งหากจะถกกันตามหลักการแล้ว ผู้กองตั้นก็น่าจะใส่ใจในเรื่องนี้ รีบตามหาศพคนดีให้เจอโดยเร็ว ไม่ใช่แวะเวียนมาที่นี่ แล้วใช้ประโยคแต่ละประโยคดั่งจะเชือดเฉือนมิตรภาพระหว่างเขากับอคินให้ขาดสะบั้น

"ภรรยาของคุณเคยมีศัตรูที่ไหนหรือเปล่า" ผู้กองตั้นตั้งคำถามผ่านเสียงทุ้มนุ่ม ไม่อยากให้คุณพ่อหม้ายเงียบนานๆ

"ไม่ ผมมั่นใจว่าไม่"

"นี่ก็อีกเรื่องนะคุณดนัยดล มั่นใจในตัวเองก็พอแล้ว อย่าไปมั่นใจแทนคนอื่น เพราะคนอื่นก็คือคนอื่น"

"ผู้กอง" ดนัยดลหันกลับมาทอดเสียงเข้มเล็กน้อย "พุธของผมไม่ใช่คนอื่น แล้วถ้าคุณจะกระทบกระเทียบอคิน ผมก็พร้อมจะยืนยันว่า อคินเป็นเพื่อนของผม เลิกมองเขาในแง่ร้ายได้แล้ว ดูสิ นอกจากเขา เวลานี้มีใครอยู่เคียงข้างผม แบกรับภาระหนักแทนผม ทั้งที่ธุระไม่ใช่"

"การกระทำกับเป้าหมายมักจะเดินเกี่ยวก้อยไปด้วยกันเสมอ เราอาจจะเห็นคนคนหนึ่งทำโน่นทำนี่ตั้งหลายอย่าง แต่ความจริงก็คือ เราไม่เคยเห็นเป้าหมายที่อยู่เบื้องหลังสิ่งที่คนคนนั้นทำ จริงไหม"

"ผู้กองตั้น"

"แต่ก็เอาเถอะ ผมไม่ได้มาวันนี้เพื่อถกเรื่องนี้ด้วย เพราะสิ่งที่ผมอยากทราบเพิ่มเติมก็คือเรื่องของภรรยาคุณมากกว่า"

"ครับ"

"เธอมีเพื่อนสนิทหรือเปล่า หมายถึงคุณรู้จักเพื่อนๆ ของเธอบ้างไหม สักกี่คน ติดต่อกันบ่อยแค่ไหน แฟนเก่าล่ะ มีไหม"

"ผู้กองตั้น"

"คุณดนัยดล กรุณาเข้าใจการทำงานของผมด้วย ข้อมูลเหล่านี้ มีสิทธิ์จะเบิกทางมืดให้สว่างขึ้นได้ในอนาคตทั้งนั้น"

"หรือครับ" ดนัยดลส่ายหน้าระอา เสียงย้อนก็ยังคงรักษาระดับความไม่ค่อยพอใจไว้ได้อย่างคงเส้นคงวา

"ฟังนะคุณดนัยดล คำถามเหล่านี้ไม่ใช่การละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัว แต่เป็นการหาข้อมูลเพิ่มเติม"

"แต่ผมกลับคิดว่า.. "

"ถ้าตราบใดที่คุณยังประกาศอย่างมั่นใจว่า ภรรยาของคุณไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องฆ่าตัวตาย ข้อมูลเหล่านี้ก็จะเป็นประโยชน์มหาศาลมาก เราอาจจะเสียใจมากในภายหลังเสียด้วยซ้ำ ถ้าวันนี้เรามองข้ามมันไป"

"คุณผู้กอง" ดนัยดลคราง แต่ใจเต้นแรงขึ้น

"ความลับบางอย่าง มันไม่ได้อยู่ในที่มืดหรอก แล้วบางทีนะ มันก็อาจจะนั่งไขว่ห้างอยู่บนสันจมูกของเรานี่เอง เอาล่ะ ตอบคำถามผมได้หรือยัง"

ดนัยดลกลืนน้ำลายอย่างลังเล เขารู้จักเพื่อนของพุธชมพูทุกคน เจ้านายเก่าของเธอก็สนิทสนมกันดีกับเขา กาญจน์แก้วซึ่งเป็นเพื่อนสนิทและเพื่อนร่วมรุ่นมหาวิทยาลัยของเธอ เขาก็ยังเจออยู่ แม้จะไม่ได้คุยกันบ่อยเหมือนเมื่อก่อนก็เถอะ

แต่ข้อมูลเหล่านี้ มันจะไปช่วยอะไรได้ ในเมื่อทุกคนก็วุ่นวายอยู่กับภารกิจประจำวันของตัวเอง หลังแต่งงานแล้ว พุธชมพูก็ลาออกจากงานตามที่เขาขอร้อง และเท่าที่รู้ เธอก็ไม่ค่อยได้กลับไปเยี่ยมเยียนเพื่อนเก่ากับเจ้านายเก่านัก

ส่วนเรื่องแฟนเก่า เขาไม่รู้จักนี่ ก็แค่ฟังเธอเล่าคร่าวๆ ก่อนตัดสินใจจดทะเบียนสมรสกับเขาในวันนั้น เธอบอกว่า

"เขาทำร้ายพ่อของพุธ จะตั้งใจหรือไม่ก็ช่าง แต่เขาก็ทำให้พุธเกือบจะสูญเสียพ่อไปในคืนนั้น พุธโกรธเขามากค่ะ จึงขับไล่เขาออกไปจากชีวิตของพุธ ก็ยอมรับว่าคืนนั้น พุธใช้อารมณ์กับเขาจริงๆ "

"เขาคงเสียใจมากสินะ"

"ไม่รู้สิคะ ตอนนั้นพุธโกรธเขามาก หน้าเขาพุธก็ไม่อยากเห็นอีกแล้ว แต่เขาก็ยังยืนกรานกลับมาว่า เขาจะกลับมาแต่งงานกับพุธให้ได้ ถ้าเขาไม่ได้ ผู้ชายคนไหนก็อย่าหวังว่าจะได้"

"ข่มขู่หรือ"

"ค่ะ พุธกลัว"

แล้วเธอก็สารภาพพร้อมกับทอดแววตาด้วยความรู้สึกที่ว่านั้น เขากุมมือเธอไว้ สบตาหวาดหวั่นระคนว้าวุ่นแน่วนิ่ง กล่าวอย่างมั่นคงว่า

"พี่ไม่ใช่นักเลงและไม่ชอบเป็นศัตรูกับใครก็จริง แต่พี่ก็ปกป้องตัวเองได้ ปกป้องพุธที่พี่รักได้ ถ้าพุธเป็นห่วงความปลอดภัยของพี่ ก็เลิกห่วงเถอะ"

"แต่เขาเป็นคนใจร้าย แล้วไม่ยอมเข้าใจอะไรง่ายๆ เขาต้องได้ในสิ่งที่เขาบอกว่าอยากได้ ถ้าเขากลับมาจริง แล้วพบว่าพุธแต่งงานกับพี่ดนัย เขาอาจจะ.. "

"พุธ บางทีพุธก็อาจจะคิดมากไปเอง ป่านนี้ เขาอาจจะลืมพุธไปแล้วก็ได้นะครับ พุธบอกเองนี่ว่าเขาไปแล้วไปลับ ไม่มีข่าวคราวส่งกลับมาอีกเลยใช่ไหม"

"แต่พุธกลัว พุธไม่อยากให้ตัวเองเป็นต้นเหตุ ชักนำอันตรายหรือความเดือดร้อนมาให้พี่ดนัยภายหลัง"

"แล้วก็กลัวว่าเขาจะกลับมาทวงรักคืนด้วย ความกลัวพวกนี้ มันมีมากกว่าความกลัวที่จะไม่ได้ร่วมชีวิตกับพี่เชียวหรือพุธ"

คำถามนี้ ทำให้เธอว้าวุ่น และรีบเมินหน้าไปทางอื่น ดึงมือที่เขากุมไว้นานแล้วออก สักพักก็ลุกไปหยุดหน้าระเบียง มองผู้คนที่เดินเข้าเดินออกสำนักงานเขตในวันนั้น แล้วถอนใจดังๆ ด้วยกิริยาอัดอั้นระคนไม่กล้าตัดสินใจ

"เราห้ามสิ่งที่จะเกิดในภายหน้าไม่ได้หรอกครับ ที่รักจะใช้มันมาหยุดยั้งความสัมพันธ์ทั้งหมดของเราลงหรือ จริงหรือ"

"พี่ดนัยยังกล้าจะรับพุธเป็นภรรยาอีกหรือคะ ในเมื่อ.. "

"พุธต่างหาก หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาเล่าในวันนี้เพื่ออะไร ไม่อยากจดทะเบียนสมรสกับพี่อยู่ก่อนแล้วใช่ไหม"

"ไม่ค่ะ" แล้วเธอก็รีบปฏิเสธหน้าตื่น "ไม่จริงค่ะ พุธรักพี่ดนัย พุธอยากเป็นภรรยาที่อยู่เคียงข้างพี่ดนัยไปจนวันตาย พุธ.. "

"ก็ดีแล้วนี่ ถ้าอย่างนั้นก็ไปกันเถอะ จะว่าไปแล้ว นี่ก็เลยฤกษ์ที่พี่ตั้งใจแล้วนะ แต่ก็ไม่เป็นไร ไม่มีฤกษ์ไหนจะมงคลเท่าฤกษ์สมยอมของพุธหรอก"

เขารู้สึกมีความสุขมาก ตอนได้ยินเธอหัวเราะระอา เพราะไม่นึกว่าเขาจะปิดฉากสนทนาเกือบเครียดด้วยวาจาห่าม แถมยังทำให้เธอเกือบเสียภาพลักษณ์สาวหวงตัวอีกด้วย

แล้วเมื่อถึงค่ำคืนชื่นสวาท เขาและเธอกลายเป็นคนคนเดียวกันผ่านเยื่อใยแห่งรัก เธอมีความสุขจนลืมความหวาดกลัวว่าแฟนเก่าจะหวนกลับมาทวงรักคืน

เธอออดอ้อนให้เขาหยิบยื่นเสน่หาอย่างไม่รู้เหน็ดรู้เหนื่อย แล้วก่อนจะผล็อยหลับไปในคืนแรกของวิวาห์หวาน เธอก็ให้คำมั่นสัญญาหนักแน่นว่า

"พุธขอสัญญาว่าตลอดชาตินี้ พุธจะรักพี่ดนัยให้เท่ากับชีวิตของพุธ จะเป็นภรรยาของพี่ดนัยคนเดียว จะอยู่กับพี่ดนัยไปจนวันตาย จะไม่ยอมให้ผู้ชายคนไหนมากอดมาจูบหรือทำอะไรต่อมิอะไรกับร่างกายที่เป็นของพี่ดนัยแล้ว ต่อจากพี่ดนัยอีก"

"เชื่อแล้วจ้ะ อย่าหวานให้มากนักเลย พี่เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว"

"ถ้าพุธผิดคำสัญญา พุธจะฆ่าตัวตาย"

"โอ้ รุนแรงไปหรือเปล่ายาหยี คืนมงคลแบบนี้ พูดเรื่องเป็นเรื่องตายได้ยังไง มานี่ซิ เด็กไม่รู้จักโต พูดจาไม่ถูกกาลเทศะ ต้องสั่งสอน เปิดไฟเลย คราวนี้ต้องเปิดไฟ สอนให้เห็นกันแบบสว่างๆ จะจะ"

แล้วพอสิ้นประโยคตำหนิทะเล้นปนซน พิศวาสอบอุ่นก็ทอดทางมาให้เดิน มันเป็นถนนสีชมพูที่เขากับยาหยีที่รัก เดินเกี่ยวก้อยคุยไปหัวเราะไปอย่างเบิกบาน อย่างมีความสุข จนกระทั่งไปถึงสุดทาง ความผูกพันลึกซึ้งก็จะรอต้อนรับเขากับเธออย่างยินดีด้วยพวงมาลัยสายสวาท

อนิจจา ความสุขทั้งหมดที่สว่างจ้าอยู่ในภวังค์พลัดพราก มันไม่ใช่แค่ผ่านไปเพื่อให้ระลึกถึงอย่างอบอุ่น แต่มันจบไปเลยพร้อมกับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของพุธชมพู เขาจะไม่ได้พบเธออีกแล้ว ความสุขแบบนั้นก็จะไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว

ผู้กองตั้นเม้มปากสุขุม เห็นอกเห็นใจยิ่ง ที่คนเล่าคู้ตัวลง พร้อมกับยกสองมือปิดปากปิดจมูกดั่งจะปิดกั้นเสียงสะอื้น  แต่มันก็ยังดังลอดออกมาให้ได้ยินอยู่ดี เขากำลังมองหาเบาะแสซึ่งอาจซ่อนอยู่ในคำบอกเล่าสั่นเครือที่เพิ่งจบลง อย่างเช่นว่า แฟนเก่าของผู้ตายชื่ออะไร

"ไม่รู้สิครับ ผมไม่เคยถาม แล้วก็ไม่อยากถาม พุธเองก็คงไม่อยากเท้าความบ่อยๆ แล้วผมก็ไม่ต้องการพาดพิงให้เธอเกิดความหวาดกลัวขึ้นมาอีก ป่านนี้ เขาคงอยู่ที่ไหนสักแห่ง มีความสุขกับผู้หญิงคนใหม่ที่เขาเลือกไปแทนที่พุธของผมแล้วล่ะ"

"คิดในแง่นั้นก็ดีนะครับ แต่จะลองคิดในแง่ร้ายๆ แบบผมบ้างดีไหม อย่างเช่นว่า เขาอาจจะกลับมาแล้ว ยังปักใจรักภรรยาของคุณไม่เสื่อมคลาย ข้างกายไม่มีผู้หญิงอื่น แล้วก็อาจจะสืบเสาะจนรู้ว่าผู้ตายแต่งงานกับคุณ จากนั้น.. "

"ผู้กองตั้น" ดนัยดลยกตัวขึ้น พร้อมกับอุทานหรือครางก็ไม่แน่ใจ "ผมละเชื่อคุณเลย ตำรวจเขาขยันตั้งข้อสันนิษฐานไปเรื่อยเหมือนกันทุกคนหรือเปล่า"

"ผมว่าเหมือนนะ" ผู้กองตั้นก็ตอบไปหัวเราะไป "แล้วมันเป็นไปไม่ได้หรือยังไง เมื่อกี้นี้ผมบอกอะไรคุณจำได้ไหม"

"จำไม่ได้ครับ ชั่วเวลาไม่กี่นาที ผู้กองบอกผมตั้งหลายอย่างนี่"

"ผมบอกว่า บางที ความลับก็ไม่จำเป็นต้องซ่อนอยู่ในความมืดเสมอไป ไม่แน่นะ แฟนเก่าของภรรยาคุณ อาจจะมาเดินวนเวียนอยู่หน้าบ้านแล้วก็ได้ อ้อ คิดไกลๆ ไปว่า เขาอาจจะเป็นคนขโมยศพไป ก็ยังได้เลย คิดไว้ก่อน จริงก็ดี ไม่จริงก็ไม่เป็นไร"

'ไม่จริงหรอก มันเป็นไปไม่ได้แน่' ดนัยดลแย้งด้วยใจขื่น พลางถอดแว่นเพื่ออวดดวงตาบวมเป่ง กะพริบถี่ๆ ไล่ไอน้ำแห่งความชอกช้ำ สักครู่หนึ่ง ก็สวมกลับดังเดิม แล้วถอนใจเฮือกยาว

ผู้กองตั้นเห็นแล้วก็ลอบสะทกสะท้อนใจอีก ลำพังคนตาดีสูญเสียยอดยาหยี ก็ว่าระทมจัดแล้ว แต่หนุ่มใหญ่ใจดีคนนี้ กลับต้องมาสูญเสียในขณะที่ตนก็ยังหาทางออกจากโลกมืดไม่เจอเลย จะเรียกว่าอะไรดีล่ะ เคราะห์ซ้ำกรรมซัดได้หรือเปล่า

"ผมเห็นใจในความระทมทุกข์ของคุณนะครับ" เขากล่าวจากใจ "แต่คุณแน่ใจนะ ว่าไม่มีข้อมูลอะไรเพิ่มเติมอีกนิด ก่อนผมจะกลับ"

"ไม่มีหรอกครับ อ้อ เมื่อเร็วๆ นี้ พุธเกริ่นกับผมด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยสบายใจนักว่า มีคนพบเห็นร่องรอยของผู้ชายคนนั้นในกรุงเทพ ใช้ได้ไหมครับ ข้อมูลเพิ่มเติมแบบนี้" ตอนท้ายก็ถามย้อนคล้ายแดกดัน

"มีประโยชน์มากครับ" ผู้กองตั้นก็หัวเราะร่วน ตอบกลับอย่างอารมณ์ดี สมฉายาขวัญใจประชาชนจริงๆ เลย

"ผมเหนื่อย" ดนัลดลเอนหลังพร้อมกับยืดขา แต่มันบังเอิญชนกับขาโต๊ะกระจก เขาตกใจจึงรีบหดกลับ

"ผมช่วย อยากนอนเลยไหม"

ผู้กองหนุ่มใหญ่รีบลุกมาประคอง ช่วยให้พ่อหม้ายนอนง่ายๆ หยิบหมอนอิงมาหนุนศีรษะ อีกใบก็ให้เจ้าตัวกอดแนบอก ยิ้มอย่างเข้าใจเมื่อได้ยินเสียงทุ้มเปล่งขื่นๆ แต่ไม่แน่ใจว่าจะอวดหรือบอกว่า 'ปลอกไม่ได้เรื่องนี่ พุธเป็นคนถักนะ'




การหารือเรื่องงานจบลงโดยปริยาย ทันทีที่ผู้กองตั้นกรายร่างสูงใหญ่เข้ามาขัดจังหวะ เขาไม่มีเจตนา แต่สายตาอคติของอคินฉายแววนั้นให้เขาแลเห็นอย่างขำๆ

"ใจเย็นครับ" เขาสัพยอกด้วยเสียงอบอุ่น "ผมแค่แวะมาลา คุยธุระเสร็จแล้ว ตอนนี้คุณดนัยดลนอนพักผ่อนอยู่"

"ได้อะไรไปบ้างล่ะ" อคินกระแทกเสียงถามอย่างไร้มารยาท "คาดคั้นคนตาบอดน่ะ มันโก้มากเก่งมากจริงๆ "

"ใช่ ถ้าเขาตาดีเหมือนคุณ ผมคงหนักใจ ผู้ต้องหาดื้อๆ บางทีก็น่าเบื่อ รู้ทั้งรู้ว่าไม่รอดแน่ แต่ก็ยังดึงดันจะ.. "

"อ้อ นี่คุณผู้กองยอมรับแล้วหรือว่ามองพวกเราเป็นฆาตกร"

"ผมกำลังยกตัวอย่างที่ผมเจอมา ผู้ต้องหาส่วนใหญ่ของผมเรื่องมากจะตาย"

ทนายรัศมีหน้าเจื่อนเล็กน้อย ที่เห็นอคินสะบัดหน้าใส่คุณตำรวจด้วยท่าทีรังเกียจเปิดเผย แม้อีกฝ่ายจะยิ้มกริ่ม แต่หล่อนก็รู้สึกว่าอคินดูจะก้าวร้าวไปสักนิด

"ผมขอตัวกลับก่อน นัดกับเพื่อนไว้ ป่านนี้คงรอไปด่าไปแล้วล่ะ ผมผิดนัดไปเกือบชั่วโมงแล้ว"

"เอ้อ ค่ะ" ทนายรัศมีจำต้องเอ่ยรับรู้แทนคนหนุ่มที่ทำทีกอดอกหูทวนลม ทั้งที่เห็นอยู่ว่าผู้กองตั้นเจาะจงกล่าวกับเขา

"อ้อ มีอีกเรื่อง ระยะนี้ ถ้าเห็นใครแปลกหน้าโผล่มาป้วนเปี้ยนละก็ รีบแจ้งให้ผมทราบนะครับ บางที เขาอาจจะเป็นเบาะแสใหม่ของเรา"

วาจาทิ้งท้ายของคุณผู้กองดึงดวงตาคมสองคู่มาประสานกันอย่างอึดอัด ผู้กองตั้นเห็นอีกนั่นแหละ แต่ทำเฉยๆ ไว้

เขายิ้มส่งให้หนุ่มสาว แล้วหมุนตัวพาร่างเท่ผละไป พร้อมกับโบกมือดีดนิ้วเปาะๆ เรียกลูกน้องที่นั่งเล่นหมากรุกกับนายสมบัติใต้ซุ้มร่มรื่นข้างสระน้ำ ให้ตามไปสมทบกันที่รถ

"หรือว่าเราควรจะบอกผู้กองตั้นเรื่องคนลึกลับที่แอบบุกรุกเข้ามาในคืนก่อนคะ" ทนายสาวหารือด้วยเสียงลังเล

"ไม่" อคินปฏิเสธฉับเลย "ผมเชื่อว่ามันต้องมาอีก คืนนั้น มันตั้งใจเข้าห้องคุณดนัย แสดงว่าเป้าหมายอาจจะเป็นเขาหรืออะไรสักอย่างในห้องนั่นล่ะ มันต้องมาอีกแน่ทนายรัศมี ผมจะจับมันเอง แล้วถ้าคาดคั้นจนมันยอมคายว่า เป็นคนขโมยศพของพุธไปละก็ ผมจะฆ่ามัน"

"ตายล่ะ" คุณทนายพอฟังความตั้งใจดุดันจบ ก็ตบอกอุทาน "ทำไมคุณพูดจาน่ากลัวแบบนั้นคะ ฆ่าแกงคนมันต้องใจอำมหิตมากถึงจะทำได้ แค่จับตัวเขาได้แล้วรีบส่งให้ตำรวจดำเนินการสอบสวนต่อไปก็พอแล้วค่ะ หน้าที่เรามีแค่นั้น"

"ไม่ ได้ยินไหมว่าไม่" อคินกระชากเสียงดุร้าย ตาถลึงวาววับตามแรงแค้นข้างใน "มันกล้ามาแตะต้องศพของพุธ ผมจะให้มันได้ลิ้มรสชาติของความทรมานอย่างทารุณก่อนตาย"

"ตายจริง นี่ฉันจะซาบซึ้งดีไหมคะนี่ ที่คุณดุร้ายถึงแก่นเสียขนาดนี้เพื่อเจ้านายของฉัน นี่ถ้าเขามาได้ยินเข้า เขาต้องปลื้มใจมากที่คบหาคุณไว้เป็นเพื่อน แต่ถึงยังไง ฉันก็ไม่เห็นด้วยนะคะ จับตัวเข้าได้แล้วต้องส่งตำรวจเท่านั้นค่ะ"

"ไม่เห็นด้วยก็เรื่องของคุณ แต่สำหรับผม ใครก็ตามที่มันแตะต้องพุธของผม มันต้องได้รับโทษอย่างสาสม"

ทนายสาวส่ายหน้า หล่อนร้อง 'เฮ้อ' แล้วหันไปหยิบแฟ้มสามสี่เล่มมาแนบอก พลางยกข้อมือดูเวลาแวบหนึ่ง

หล่อนเองก็มีนัดกับลูกความตอนค่ำเหมือนกัน คงต้องแวะกลับไปทำธุระที่บริษัทอีกนิดหน่อย แล้วจะเลยเข้าสำนักงานทนายความ จากนั้น ค่อยตรงดิ่งไปโรงแรมที่นัดพบ

"เอาละค่ะ เราค่อยมาเถียงเรื่องนี้กันวันหน้าอีก ฉันคงต้องกลับแล้ว มีนัดกับลูกความ ผู้กองตั้นบอกว่าเจ้านายพักผ่อน ถ้ายังไง ฉันฝากลาเขาไว้กับคุณอคินก็แล้วกัน มีปัญหาอะไร โทรเข้ามือถือฉันได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงนะคะ"

"นี่ถ้าคุณมีแฟนละก็ ผมทายว่าเขาต้องขอเลิกกับคุณแน่ๆ ดูเหมือนว่าในสมองของคุณ มันเต็มไปด้วยงานมากกว่าเรื่องส่วนตัว ก่อนหน้านี้ผมไม่รู้นะ แต่หลังจากที่ผมเข้ามาบริหารงานแทนคุณดนัยอย่างเต็มตัวแล้ว ผมคงต้องลดงานคุณลงบ้าง"

"ไม่ต้องหรอกค่ะ ฉันชินแล้ว มีความสุขมากด้วย อีกอย่างฉันกับเจ้านายก็บุกเบิกบริษัทมาด้วยกัน ล้มลุกคลุกคลานกันก็หลายหน เคียงบ่าเคียงไหล่ก้าวต่อก้าว แต่เจ้านายก็ยังคงเหนื่อยกว่าอยู่ดี"

อคินเดินตามหลังมาเนิบๆ เขาหรี่ตาวิเคราะห์น้ำเสียงของคุณทนายจอมขยันไปด้วย รู้สึกไปเองหรือเปล่าก็ไม่ทราบว่า ทนายรัศมีอาจจะแอบหลงรักดนัยดลอย่างเงียบๆ

แล้วถ้ามันจริง ก็ไม่แน่ใจว่า เป็นความรักที่เกิดก่อนหรือหลังหนุ่มใหญ่แต่งงานกับพุธชมพู แต่ถ้าไม่จริงก็ดี เพราะการแอบรักคนอื่น แล้วเก็บซ่อนมันไว้เงียบๆ มันก็เจ็บปวดไม่น้อยไปกว่ารักคนที่ไม่ยอมรับรักอย่างเปิดเผยนั่นแหละ

ดูแต่เขานี่สิ สารภาพก็แล้ว คุกเข่าก็แล้ว ทำทุกวิถีทาง แม้แต่จะโบยบินไปตรากตรำไกลถึงต่างแดน ยอมกล้ำกลืนให้ไอ้เจ้านายฝรั่งจอมเขี้ยวจิกหัวใช้

เพื่ออะไร สร้างเนื้อสร้างตัวให้เป็นปึกแผ่น เพื่ออะไรอีก เพื่ออนาคตที่มั่นคงของเขากับเธอ และท้ายที่สุด ก็เพื่อให้ตัวเองได้มาเห็นเต็มๆ ตาว่า 'พุธชมพูฆ่าตัวตาย'

จนกระทั่งมาถึงรถ เขาช่วยเปิดประตูให้ รับแฟ้มไปวางไว้เบาะหลัง มองหุ่นสมส่วนเข้าไปนั่งทะมัดทะแมง มองมือเล็กบิดกุญแจ พอเสียงเครื่องดังเบาๆ เขาก็ตัดสินใจเผยความคิดออกมาหยั่งท่าที

"รักหรือคะ" คุณทนายเลิกคิ้ว แล้วจ้องตาเหมือนค้นหาเป้าหมายที่เขาอยากรู้จริงๆ ก่อนจะหัวเราะ แล้วยอมรับว่า "ก็ต้องรักสิคะ คุณดนัยเป็นเจ้านายของฉันนี่ แล้วเขาก็เป็นคนดี ทำงานสมบุกสมบันเคียงข้างลูกน้องทุกคน ไม่ถือตัวถือยศ ถ้าเป็นคุณละคะ จะไม่รักเขาหรือ"

"ผมว่าคุณเข้าใจคำถามของผมนะคุณทนาย อย่าเฉไฉน่า ผมแค่อยากให้ตัวเองมั่นใจว่าเดาไม่ผิดเท่านั้นเอง"

"ผิดค่ะ"

หล่อนสวนพรืดกลับมาเลย อคินเม้มปากยิ้ม ถอยห่างจากรถคนสวยสามก้าว สองมือล้วงกระเป๋ามองหล่อนเคลื่อนรถไปพลาง ทอดยิ้มทะเล้นมาเย้ยเยาะซ้ำเติมไปพลาง

เขาพยักพเยิดเหมือนเอาเรื่อง หล่อนก็หัวเราะพร้อมกับขึ้นกระจก แล้วขับเรื่อยไปตามทางโค้ง สวนกับนายอุ่นก็บีบแตรให้หยุด พลางลดกระจกลง คุยอะไรก็ไม่ทราบสองสามคำ จากนั้นก็กลับจริงๆ ล่ะ




ช้อนกาแฟร่วงกระทบพื้น ดึงใบหน้าของพ่อหม้ายหมาดๆ ไปทางต้นเสียง เขาเอียงต่ำลง เงี่ยหูด้วย คิดว่าได้ยินอคินกระแอมเหมือนขับไล่ความตกใจ

"คุณตกใจหรือ" เขาถามเบาๆ ขณะที่ฝ่ามืออุ่นขึ้น เพราะอคินยกถ้วยกาแฟมาวาง พลางกำชับว่า 'ระวังหน่อย'

"ก็ตกใจนิดหน่อย" หนุ่มหล่อก้มหยิบช้อนกาแฟ พลางเรียกอนงค์ให้ไปนำช้อนใหม่มาเปลี่ยน "ผมนึกไม่ถึงว่า เวลาที่ควรจะหมดไปกับการออกตามหาศพของพุธ มันจะสำคัญน้อยกว่ามาซักไซ้เรื่องไร้สาระพวกนี้"

"ไม่รู้สิ" ดนัยดลเป่าลมพรู ขยับตัวจากท่านั่งหลังตรงเป็นเอนพิงพนักโซฟา ค่อยๆ ยืดขาอย่างระมัดระวัง "ตำรวจเขาคิดอะไรไม่ค่อยเหมือนเราหรือเปล่าอคิน บางอย่างที่เรามองว่าไร้สาระ แต่ตำรวจอาจตาโตกับประโยชน์ของมัน"

"ประโยชน์อะไร" อคินเผลอกระชากเสียง "คุณเสียใจมากจนเพี้ยนไปแล้วหรือ ถึงได้ไปเออออตามข้อสันนิษฐานเฮงซวยพวกนั้น"

"ผมก็ไม่ได้เออออ แค่คุย.. "

"ต่อให้พุธมีแฟนเก่าจริงๆ นะคุณดนัย แต่เมื่อเธอตัดสินใจแต่งงานกับคุณแล้ว เรื่องเก่าก็เป็นอันว่าจบ ผู้กองประสาทดีหรือเปล่าถึงได้พยายามจะดึงเขาเข้ามาเอี่ยวกับเรื่องฆ่าตัวตายของพุธ บ้าชัดๆ "

"แล้วคุณอารมณ์เสียอะไรละนี่ ผมก็แค่เล่าให้ฟังเท่านั้นเองว่า ผู้กองเข้ามาสอบปากคำผมเพิ่มเติม แต่ที่ผมนึกไม่ถึงก็ตรงที่ เขาพุ่งเป้าไปที่ข้อมูลส่วนตัวของพุธ ซึ่งเราก็มองข้ามส่วนนี้ไปจริงอย่างที่เขาติงมานะ"

"คุณดนัย" อคินวางถ้วยกาแฟเลย อุตส่าห์ยกมาตั้งใจจะดื่มสักอึก ตอนนี้ อยากสาดหน้าคนตาบอดพูดไม่เข้าหูเสียมากกว่า "เลิกบ้าตามเขาเสียที พุธฆ่าตัวตาย เธอตายเพราะเธอกรีดข้อมือตัวเอง มันไม่เกี่ยวอะไรเลยกับข้อมูลส่วนตัวของเธอ โดยเฉพาะข้อมูลในอดีต แล้วกับ เอ้อ กับแฟนเก่าอะไรนั่นน่ะ"

อคินเลียปาก หงุดหงิดที่ตนเผลอตะกุกตะกัก อนงค์ยกขนมมาวางในจังหวะที่เขากระแทกถ้วยกาแฟวางตึกลง สาวใช้ถึงกับสะดุ้งโหยง นึกว่าตนทำอะไรผิดเข้าแล้ว ครั้นเหลือบตาขึ้น ก็ต้องตกใจกับแสงดุร้ายวาววับในดวงตาเรียวหวาน หล่อนยิ้มแห้งมาก ตอนอคินทอแสงน่ากลัวมาจ๊ะเอ๋พอดี

"มีอะไร" เสียงถามของ 'ว่าที่คุณผู้ชาย' ก็ดุปนห้วนมากเชียวล่ะ

"เอ้อ มะ.. ไม่มีค่ะ จะ.. จะบอกว่า ขะ.. ขนมที่คุณผู้หญิงทำยัง.. ยังเหลืออยู่"

"แล้วทำไม"

"เอ้อ ป้าพิศ เอ้อ อยากให้คุณผู้ชาย เอ้อ กินกับกาแฟค่ะ"

"ยังเหลืออีกเยอะหรือเปล่า"

ดนัยดลถามแทรกด้วยเสียงนุ่ม มือก็เริ่มยื่นคลำหาขนมอบรสเฝือ มันไม่กลมกล่อมลิ้นก็จริง แต่ที่สิงซ่อนอยู่ในนั้น ก็คือความรักของยาหยี

"นี่ครับ" อคินช่วยหยิบส่งให้

"มันไม่อร่อยเลย"

ดนัยดลบอกเสียงเครือ แล้วน้ำตาไหล กัดไปคำเล็กๆ แต่กลับเคี้ยวด้วยท่าทางดื่มด่ำ อนงค์มองความอาดูรของคุณผู้ชายด้วยใจสงสาร หล่อนพลอยน้ำตาไหลไม่รู้ตัวไปด้วย พลางถอยกลับออกมาเงียบๆ อคินเดาว่า หล่อนต้องไปรำพันต่อยอดความโศกากับแม่พิศช่างสาระแนนั่นล่ะ

"ไม่อร่อยก็อย่ากินอีก ผมจะซื้อขนมอื่นมาติดบ้านไว้ อยากให้ผมเททิ้งให้หมดเลยไหม"

"ไม่ต้องหรอกอคิน" ดนัยดลหัวเราะเศร้าปนสะอื้น "พูดแบบนี้ ถ้าวิญญาณของพุธลอยผ่านมาได้ยินเข้า เธอต้องเคียดแค้นคุณ จนอาจจะไปดักรอหักคอตอนคุณหลับสนิทคืนนี้ก็ได้นะ"

"บ้าน่า" อคินตีขาเพรียวฉุนๆ แล้วเผลอหลุดปากออกมา "พุธไม่ใช่คนผูกใจเจ็บแบบนั้นหรอก เป็นสามีแบบไหน ถึงไม่รู้จักนิสัยจริงๆ ของภรรยาตัวเองว่า ใจดีจะตาย"

"ใจดีจะตายก็เท่านั้นละอคิน สุดท้ายเธอก็ตายก่อนเรา ความใจดีของเธอ ไม่ได้ช่วยส่งเสริมให้เธออายุยืนเลยสักนิด"

"คุณดนัย"

"พุธเล่าว่าเพื่อนชายคนนั้นมีนิสัยดุร้ายเอาแต่ใจ ไม่เคยยอมรับฟังเหตุผล ไม่เคยคำนึงถึงความรู้สึกของใครนอกจากตัวเอง อะไรที่ประกาศว่าอยากได้ก็จะต้องให้ได้"

"คุณดนัย"

เจ้าของนิสัยเสียทั้งหลายเสียงตึงจัดขึ้นทุกที มือกำเกร็งจนสั่นอยู่บนต้นขา เขาบ้าไปแล้วกระมัง ถึงต้องมาอดทนฟังพ่อหม้ายตาบอดด่าเอาๆ

"แต่เมื่อเร็วๆ นี้ พุธเล่าว่า มีคนพบเห็นร่องรอยของเขาในกรุงเทพ อันที่จริง คนที่มีจิตใจโหดร้ายแบบนั้นต่างหาก ที่สมควรตาย จริงไหมอคิน เขาน่าจะตายแทนพุธของผม ไม่ใช่ให้พุธของผมตายอย่างคลุมเครือล่วงหน้าไปก่อน"

'คลุมเครือหรือ ไอ้บ้า ไอ้บอดเอ๊ย ดื้อด้านไม่เลิกนะ' อคินโกรธจริงๆ แล้วล่ะ เขาด่าเผ็ดร้อนในใจ พลางผลุงร่างไปเดินงุ่นง่านใกล้หน้าต่าง สองมือสั่นระริกซ่อนซุกไว้ในกระเป๋ากางเกง ดวงตาเรียวหวานสว่างโชนไปด้วยเปลวเพลิงโทสะ

ถ้าไม่เกรงใจว่าตาบอดละก็ เขาจะกระชากดนัยดลมาต่อยตะบันให้หน้าแตกจมูกหัก ให้สาสมกับที่เจ้าตัวดันทุรังเฮงซวย ปักใจเชื่ออย่างไร้เหตุผลว่า 'พุธชมพูถูกฆาตกรรม'

จากคุณ : รัชนีกานต์
เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 54 08:01:49




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com