Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๖ จดหมายจากแดนไกล) ติดต่อทีมงาน

ความลับฤดูหนาว  (บทที่ ๑ ศพเดินได้)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11309801/W11309801.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๒ คนบ้าในกรงขัง)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11321605/W11321605.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๓ ชายหนุ่มและสมมุติฐาน)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11331282/W11331282.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๔ รูปจำลองเสมือนจริง)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11338619/W11338619.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๕ คำเตือนของอัศวิน)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11350818/W11350818.html

บทที่ ๖ จดหมายจากแดนไกล

ฟ้าฉายออกมาจากห้องน้ำด้วยสีหน้าที่ยังคงซีดเซียว หญิงสาวหันไปมองซ้ายขวาอย่างหวาดระแวงก่อนรีบสาวเท้าตรงไปยังเรือนพัก แต่ขณะที่กำลังจะก้าวขาขึ้นบันไดบ้านสายตาก็เหลือบไปเห็นชายหนุ่มสองคนที่ยืนคุยกันอยู่ใต้ร่มแก้วเจ้าจอมในสวนดอกไม้ที่ปกคลุมด้วยต้นไม้หนาครึ้ม

วสันต์กับเศรษฐพงษ์ยืนประจันหน้ากัน ทั้งสองกำลังคุยกันใต้ร่มไม้ท่าทางดูมีพิรุธ เศรษฐพงษ์หันไปมองซ้ายขวาก่อนที่ฟ้าฉายจะรีบเบี่ยงตัวหลบเข้าไปในพุ่มพุทธรักษา เมื่อชายหนุ่มหันกลับไปหาวสันต์เธอจึงรีบชะเง้อคอมองทั้งสองทันที

วสันต์ค่อยๆ ยื่นแขนออกไปดึงมือเศรษฐพงษ์มาจับไว้ หากแต่สิ่งที่ทำให้ฟ้าฉายเริ่มรู้สึกร้อนผ่าวที่ใบหน้าก็เพราะว่าหนุ่มน้อยผู้นั้นบีบมือของเศรษฐพงษ์เบาๆ นานกว่าปกติ สีหน้าของเศรษฐพงษ์ดูหม่นหมองหดหู่ใจในขณะที่วสันต์ปั้นยิ้มก่อนยกมือผู้มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องขึ้นมาพรมจูบเบาๆ

สายลมเย็นๆ ยามบ่ายมันทำให้ฟ้าฉายหนาวเข้าไปถึงขั้วกระดูก เศรษฐพงษ์ถลากายเข้าไปสวมกอดวสันต์ไว้แน่น เอาสองมือดึงรั้งแผ่นหลังหนาของเด็กหนุ่มรุ่นน้องเอาไว้ก่อนซบหน้าลงกับบ่าของเขา วสันต์ตบไหล่เศรษฐพงษ์เบาๆ ค่อยๆ ผลักกายชายหนุ่มร่างสูงบางออกช้าๆ

เศรษฐพงษ์เอามือจับใบหน้าคมเข้มของวสันต์ไว้ก่อนที่จะโน้มศีรษะเข้าไปใกล้และประสานริมฝีปากลงบนเรียวปากของวสันต์ สิ่งที่ได้เห็นแทบจะทำให้ฟ้าฉายล้มคว่ำลงตรงนั้นเสียให้ได้ สองร่างกอดจูบกันอย่างดูดดื่มขณะที่หัวใจดวงน้อยของฟ้าฉายเต้นระรัวจนแทบจะหลุดออกมาจากอก พวกเขาทั้งสองต่างก็ได้รับการศึกษา อีกทั้งยังเป็นญาติพี่น้องใกล้ชิดกัน แล้วทำไมถึงได้...

หญิงสาวจ้องมองทั้งคู่ด้วยหัวใจที่สั่นระรัวขณะที่เศรษฐพงษ์ถอนรอยจูบออกจากปากของวสันต์ ชายหนุ่มก้มลงหยิบเอาถุงกระดาษสีน้ำตาลที่วางอยู่บนพื้นข้างกายขึ้นมา ล้วงเอาเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนส่งให้วสันต์

ทั้งสองยืนคุยกันอีกซักพักจึงแยกตัวเดินหนีไปคนละทาง ฟ้าฉายเบี่ยงตัวหลบเข้าไปในพุ่มพุทธรักษาก่อนสาวเท้ารีบเดินขึ้นเรือนไปในที่สุด


เมื่อเปิดประตูเข้าห้องมาได้หญิงสาวก็ทรุดนั่งลงยังเตียงนอนเพื่อเรียกสติทันที รักร่วมเพศที่เกิดขึ้นภายในเครือญาติด้วยกันอย่างนั้นหรือ... แล้วคนในบ้านคานพิภพทราบเรื่องนี้รึเปล่า? ทั้งวสันต์และเศรษฐพงษ์มีใจปฏิพัทธ์ต่อกันมานานเท่าใดแล้ว และถ้าหากว่านายท่านเหมราชทราบเรื่องนี้เข้าล่ะ?...

ใบหน้าหวานละมุนของฟ้าฉายซีดเผือดลงในฉับพลัน เธอไม่ควรจะได้เห็นภาพเมื่อครู่นั่นเลย สู้ให้เธอไม่รู้อะไรเลยเสียดีกว่า ไม่รู้ว่าเธอจะกล้ามองหน้าเศรษฐพงษ์อีกหรือไม่นะ ชายหนุ่มที่ดูดีทั้งกิริยาและหน้าตา ได้รับการศึกษาและมีชาติตระกูลที่เพียบพร้อม ช่างน่าเสียดายจริงๆ... น่าเสียดายที่ตระกูลคานพิภพจะไร้ลูกหลานผู้จะสืบสกุลต่อไป...

หญิงสาวถอนหายใจยาวก่อนพริ้มตาหลับ ทิ้งตัวลงยังเตียงนอนด้วยความเหนื่อยล้าและสับสน แต่ทว่าพลันนั้นเองสองตากลมใสก็ต้องเบิกโพลงขึ้นมา เอ...เหมือนว่าเธอลืมอะไรซักอย่าง... จดหมาย...

“ใช่... เรายังไม่ได้เอาจดหมายให้คุณไพรินทร์เลย” ฟ้าฉายนึกถึงจดหมายฉบับหนึ่งที่มีคนจากขอนแก่นฝากมาให้นางไพรินทร์ คานพิภพ เมื่อนึกได้จึงรีบเด้งตัวขึ้นจากเตียงก่อนตรงไปยังกระเป๋าเดินทาง ค้นหาเอาซองจดหมายสีขาวออกมา

“ซองอะไรเหรอฟ้า...” อรอนงค์ที่เปิดประตูห้องเข้ามาพอดีเอ่ยถาม

“อ๋อ...จดหมายน่ะจ้ะ พอดีมีคนเขาฝากมาให้คุณไพรินทร์...เอ่อ...อรช่วยพาเราเอาจดหมายไปให้คุณไพรินทร์หน่อยได้มั้ย?” อรอนงค์มองเลยไปยังหน้าต่างก่อนครุ่นคิด

“นี่ก็จะห้าโมงเย็นแล้ว อารินทร์น่าจะกลับมาแล้วหละ... มา เดี๋ยวฉันพาไป” อรอนงค์จุดยิ้มก่อนหันหลังเดินออกจากห้อง ฟ้าฉายรีบสาวเท้าตามเพื่อนสนิทไปยังบ้านพักของนางไพรินทร์


แต่เมื่อมาถึงคนที่ออกมาพบกลับไม่ใช่หญิงเจ้าของบ้าน หากแต่เป็นชายหนุ่มวัยยี่สิบสองปีผู้เป็นลูกชายของเธอ ใบหน้าคร้ามคมมองสตรีทั้งสองตรงหน้าพร้อมกับคลี่ยิ้ม

“พอดีว่าฟ้าเอาจดหมายมาให้อารินทร์น่ะวสันต์...” อรอนงค์บอก

“อ๋อ...คุณแม่ยังไม่กลับมาจากโรงไหมเลยครับ” ชายหนุ่มบอกเสียงนุ่ม เมื่อดวงตาคมคายหันมามองฟ้าฉายก็เสทำเป็นมองกลุ่มดอกมะลิที่ปลูกไว้หน้าเรือนนางไพรินทร์แทน วสันต์ย่นคิ้วก่อนหันมาบอกอรอนงค์

“ฝากไว้กับผมก็ได้ครับ...” อรอนงค์สะกิดต้นแขนฟ้าฉายเบาๆ ก่อนที่หญิงสาวจะหันมามองหน้าหนุ่มรุ่นน้องตรงๆ พลันนั้นใจเธอมันก็เต้นรัวตุบๆ ขึ้นมาอีกครั้งเมื่อนึกถึงภาพที่เศรษฐพงษ์กำลังจูบวสันต์อย่างดูดดื่ม

“นี่จ้ะ...” ฟ้าฉายยื่นซองจดหมายส่งให้อรอนงค์ อีกฝ่ายรับมาไว้ในมือก่อนส่งให้วสันต์

“เออวสันต์...เราเห็นพี่พงษ์บ้างมั้ย พี่ตามหาซะทั่วเลยไม่รู้ว่าหายไปไหน?” คำถามของอรอนงค์ทำให้ฟ้าฉายต้องหันมาจ้องหน้าวสันต์แน่นิ่ง

“สงสัยคงอยู่บนเรือนใหญ่กับคุณปู่มั้งครับ” วสันต์บอกก่อนที่อรอนงค์จะหันหน้าไปยังเรือนหลังกลาง เห็นสองพี่น้องแสงดาวและสกาวเดือนนั่งจิบชาอ่านหนังสือแมกกาซีนที่สั่งซื้อมาจากเมืองหลวงอยู่บนระเบียง

อรอนงค์หันขวับมาพร้อมกับเบ้ปากก่อนที่วสันต์จะหรี่ตามองผู้มีศักดิ์เป็นพี่อย่างสงสัยกับอาการขุ่นเคืองที่ปรากฏบนใบหน้า

“พี่กลับก่อนนะวสันต์” อรอนงค์ส่งยิ้มน้อยๆ ให้ชายหนุ่มก่อนเดินนำหน้าฟ้าฉายกลับสู่ที่พัก ระหว่างนั้นฟ้าฉายก็เหลือบหันมามองหนุ่มน้อยที่อยู่ด้านหลัง วสันต์กำลังจะก้าวขาขึ้นเรือน แต่ทว่าสายลมก็พัดกรูเข้าใส่ร่างจนทำให้ซองจดหมายหลุดออกจากมือ มันลอยละลิ่วตกลงในโอ่งเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ข้างบันได

“อา...ซุ่มซ่ามจริงๆ” ฟ้าฉายอุทานเบาๆ ในขณะที่วสันต์รีบก้มลงหยิบเอาซองจดหมายขึ้นมาจากตุ่ม


พอกลับถึงที่พักฟ้าฉายก็พบกับบัวเรียวกำลังเตรียมเอาอาหารไปให้นายพัฒน์ที่พักอาศัยอยู่ในเรือนเล็กๆ ท้ายสวนดอกไม้ หญิงสาวรีบตอบรับคำชวนของบัวเรียวที่หมายจะพาเธอไปพบนายพัฒน์ ผู้เป็นคนรักของจันทร์หอมทันที

กลิ่นหอมฉุนของดอกพญาสัตบรรณตลบอบอวลกลบกลิ่นหอมของดอกไม้ชนิดอื่นจนหมด จิ้งหรีดเรไรเริ่มส่งเสียงร้องเซ็งแซ่ แสงอาทิตย์สีส้มอมชมพูระบายแต้มอยู่ทางโค้งฟ้าทางทิศตะวันตก ฟ้าฉายเพิ่มแสงตะเกียงไฟขึ้นขณะเดินผ่านกลุ่มไม้ดอกตรงสู่กลุ่มร่มไม้ยืนต้นที่รกทึบ

“คุณพัฒน์นี่เธอเป็นบ้าหลังจากที่จันทร์หอมหายตัวไปเหรอบัวเรียว...” ฟ้าฉายถามขึ้นลอยๆ ก่อนที่คนข้างหน้าจะหยุดกึกกลางทาง ดวงหน้าดำคล้ำของหญิงแม่บ้านหันขวับมามองหญิงสาวตาโต

“ใครบอกคุณฟ้าอย่างนั้นคะ?...” เมื่อถูกบัวเรียวจ้องเขม็งฟ้าฉายก็กลับกระอึกกระอักพูดไม่ออกเสียอย่างนั้น จะให้เธอบอกไปได้ยังไงว่ารู้มาจากสำนวนคดีที่พ่อเธอลอกไว้

“เอ่อ...ก็เห็นยัยอรบอกว่าคุณพัฒน์เธอเป็นบ้า ฉันก็เลยสงสัยว่าเขาเป็นบ้าหลังจากที่จันทร์หอมหายตัวไปเหรอ?” หญิงสาวยิ้มแหยก่อนที่บัวเรียวจะถอนหายใจและค่อยๆ หันกลับไป สาวใช้วัยสาบสิบเดินเนิบนาบต่อไปตามทางเดินเล็กๆ

“ที่คุณฟ้าพูดมาก็อาจจะใช่นะคะ แต่ก่อนหน้าที่เธอจะบ้า... คืนนั้นคุณพัฒน์โดนตีหัวจนสลบที่ใต้ต้นไทรย้อย พอรุ่งเช้าก็เกิดคลุ้มคลั่งร้องเรียกหาแต่พี่จันทร์ ใครห้ามก็ไม่ฟัง พอมีคนบอกว่าพี่จันทร์ตายแล้วเขาก็ร้องไห้ฟูมฟายอย่างเสียสติ นายท่านเลยสั่งให้ขังคุณพัฒน์ไว้ในกรง”

“ขังไว้ในกรงเหรอ?...” หญิงสาวนิ่วหน้าคิด นายพัฒน์ถูกตีหัวในคืนวันงานแต่งงานของพิมพ์พางั้นเหรอ?...แล้วใครเป็นคนทำร้ายเขา? หรือว่าเขาจะ...
บัวเรียวไม่พูดอะไรอีกต่อจากนั้น หญิงแม่บ้านเดินนำหน้าฟ้าฉายไปจนถึงเรือนพักหลังเล็กๆ ที่ก่อด้วยอิฐทั้งหลัง สภาพเหมือนบ้านทั่วๆ ไป หน้าต่างทุกบานในบ้านถูกเปิดออกกว้างเพื่อให้ลมโชยพัดเข้าไปภายในหากแต่ว่าประตูถูกล็อคกุญแจไว้หนาแน่น ฟ้าฉายต้องวางตะเกียงไฟลงบนพื้นเพื่อที่จะรับสำรับอาหารจากบัวเรียวมาถือไว้ หญิงแม่บ้านรีบไขกุญแจเข้าไปภายในจนเมื่อผลักประตูเข้าไปแล้วจึงหันมารับสำรับจากฟ้าฉาย

สภาพภายในเป็นห้องโล่งๆ แต่ทว่าพื้นที่ครึ่งหลังของห้องกลับถูกตีล้อมด้วยไม้คล้ายกรงขังนักโทษ ภาพที่ได้เห็นทำเอาฟ้าฉายต้องกลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่

บัวเรียวปลดโซ่เล็กๆ ที่คล้องประตูไม้ออกก่อนเดินเข้าไปภายใน พื้นที่ส่วนหลังถูกทำเป็นห้องเล็กๆ อีกห้องหนึ่ง หญิงแม่บ้านวางถาดอาหารลงบนโต๊ะก่อนเดินออกมาจากกรงที่ทำจากไม้และเอาโซ่คล้องไว้ดังเดิม ไม่นานนักประตูห้องพักก็ถูกผลักออกอย่างช้าๆ ในขณะที่ฟ้าฉายจ้องมองอย่างใจเต้น ชายผู้ถูกคุมขังเดินตรงมายังโต๊ะกินข้าวก่อนทรุดนั่งลงยังเก้าอี้ราวกับหุ่นยนต์ที่ถูกตั้งโปรแกรมไว้ เขาตักอาหารใส่ปากก่อนเคี้ยวช้าๆ บัวเรียวหันมายังฟ้าฉายก่อนจูงแขนหญิงสาวเข้าไปใกล้กรงขังนั้น

“คุณพัฒน์คะ วันนี้บัวเรียวพาเพื่อนคุณอรอนงค์มาเยี่ยมคุณพัฒน์ด้วยนะคะ นี่คือคุณฟ้าฉายค่ะ...” บัวเรียวบอกเสียงใสขณะที่ฟ้าฉายจ้องมองร่างหนาที่นั่งนิ่งไม่ไหวติงอยู่บนเก้าอี้ เขาวางช้อนลงยังขอบจานก่อนเบือนหน้าหันมายังหญิงสาวที่ยืนจ้องมองเขาตาโต

พลันนั้น...ใบหน้าที่เหมือนรูปปั้นไร้ชีวิตก็กลับคืนมามีเลือดฝาดในทันใด นายพัฒน์เด้งตัวลุกจากเก้าอี้ก่อนกระโดดมาเกาะซี่ไม้ที่ทำเป็นกรงขังเขาไว้

“จันทร์หอม... เป็นเธอใช่มั้ย?” เขาตะโกนถามเสียงดัง สองตาที่ตื่นตระหนกจ้องหน้าฟ้าฉาย หญิงสาวก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว จ้องมองอีกฝ่ายด้วยความตกใจ

“เธอหายไปไหนมา รู้มั้ยว่าฉันเป็นห่วงเธอแค่ไหน แล้วมีใครทำร้ายเธอรึเปล่า พี่พงษ์กับคุณพ่อทำอะไรเธอมั้ย?” นายพัฒน์ตะโกนถามออกมาสุดเสียง ดวงตาเบิกกว้างจ้องมองคำตอบจากฟ้าฉาย

“ฉัน...ฉันไม่ใช่จันทร์หอมนะคะ” อีกฝ่ายอ้าปากค้าง สีหน้าสลดหดหู่ลงไปอย่างฉับพลันก่อนเอาสองมือปิดหูทั้งสองข้างและล้มครืนลงพื้น ก่อนดิ้นพรวดพราดและร้องโหยหวนคล้ายคนกำลังเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส

“สงสัยอาการกำเริบอีกแล้วล่ะค่ะ ออกไปข้างนอกกันเถอะค่ะคุณฟ้าฉาย” บัวเรียวจับแขนฟ้าฉายก่อนจูงให้ออกมาจากเรือนพักนายพัฒน์ เมื่อลงกลอนปิดประตูเรียบร้อยเสียงร้องโหยหวนนั่นจึงเงียบลง

เมื่อกี้...ที่นายพัฒน์คุยกับเธอ เหมือนกับว่าเขาเป็นคนปกติ สีหน้าและแววตาของเขามันทำให้ฟ้าฉายขนลุกซู่ คำพูดที่เอ่ยบอกเมื่อครู่นั้น พี่พงษ์กับคุณพ่อทำร้ายเธอรึเปล่างั้นเหรอ?.... นายพัฒน์กลัวว่านายภูมิพงษ์กับนายท่านเหมราชจะทำร้ายจันทร์หอมงั้นเหรอ?

“บัวเรียว...ช่วยเล่าเรื่องตอนที่คุณพัฒน์ถูกตีหัวให้ฉันฟังได้มั้ยจ้ะ?” คำขอร้องของหญิงสาวทำให้หญิงแม่บ้านต้องหันมามองตาโต ตอนนี้หกโมงเย็นแล้ว อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อยๆ ฟ้าฉายมองเห็นแสงตะเกียงไฟวิบวับออกมาจากเรือนคานพิภพทั้งสามหลัง

“ก็...ตอนนั้นคุณป้าผุสดีเป็นคนพบคุณพัฒน์เป็นคนแรกค่ะ พอคนทั้งบ้านทราบเรื่องคุณพิมพ์พาเธอจึงเปิดปากเล่าว่าเห็นคุณพัฒน์เธอมีปากเสียงกับพี่จันทร์หอมก่อนที่ทั้งสองจะเดินหายลับไปทางสวนดอกไม้...”

“แล้วตอนที่พบคุณพัฒน์นี่ จันทร์หอมยังอยู่รึเปล่า” สายตาของฟ้าฉายคาดคั้นจริงจัง บัวเรียวกัดริมฝีปากตัวเองเบาๆ ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ไม่ค่ะ คุณป้าผุสดีพบคุณพัฒน์นอนสลบเมื่อตอนรุ่งเช้า จากนั้นไม่นานลุงบุญยืนก็วิ่งมาบอกว่าพบศพพี่จันทร์หอมนอนตายอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง”

จากคุณ : ผีเสื้อสีดำ
เขียนเมื่อ : 20 พ.ย. 54 21:42:45




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com