17
อาจะเพราะไม่คิดอะไร ทำให้เขมรัฐไม่จำเป็นต้องหลบหลีกหรือมีลับลมคมในทำเป็นส่งปุริมาก่อนถึงตัวบ้านแล้วให้หญิงสาวเดินมาเอง แต่เลือกมาจอดรถชิดรั้ว ซ้ำตัวเองก็ยังลงมาส่ง แต่กระนั้นก็ยังอดใจเต้นไม่ได้
ปุริมาตั้งท่า
“เผอิญเจอที่ตลาด...”
“ปูนิ่มเข้าบ้าน”
เธอชะงัก ถูกสายตาจริงจังกดให้หยุด พลอยใจเต้นอยากรู้ว่าชายจอมเจ้าชู้จะเอาตัวรอดยังไง แต่ก็ทำแค่เหลือบมองเขมรัฐแล้วเดินเข้าไปในตัวบ้านตามคำสั่ง
ชายหนุ่มยืนนิ่ง ๆ เอาน่ะ ถ้าต้องอธิบายก็ไม่มีปัญหา เขาบริสุทธิ์ใจ อีกฝ่ายเองก็น่าจะรู้จักนิสัยว่านายเข้เจ้าของฟาร์มแห่งบ้านน้ำทองไม่เคยแก้ตัว
อากาศรอบชายวัยห้าสิบเยียบเย็น หน้าไม่มีรอยยิ้ม แต่เดาอารมณ์ไม่ถูก
“ขอบใจนะที่มาส่ง แต่จะให้ดีนายเข้อย่ายุ่งกับปูนิ่มดีกว่า เขาโตแล้วไปไหนมาไหนเองได้ ไม่รบกวนหรอก”
ไม่ทันได้ให้คนอายุน้อยกว่าเอ่ยคำ คนพูดก็หันหลังเข้าบ้านไป บานประตูปิดลงเบา ๆ และความเงียบเชียบก็มาเยือนราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
มีอะไรหูขัดตาแต่เขมรัฐนึกไม่ออก ได้แต่รำพึงกับปฏิกริยาที่ผิดความคาดหมาย
“หึงเมียหรือหวงลูกสาววะเนี่ย”
ในบ้าน คเชนทร์เดินมาหาปุริมาที่กำลังล้างมือ
“ไปไหนมาลูก กลับซะมืดเชียว”
คำถามน้ำเสียงเป็นห่วงไม่ตำหนิทำให้คนเป็นลูกใจชื้น “ก็ไปเที่ยวในเมือง เผอิญเจอนายเข้ที่ตลาด เขาชวนไปเที่ยวฟาร์ม อ้อ หนูซื้อก๋วยเตี๋ยวมากฝากพ่อด้วย เจ้านี้อร่อยดีค่ะ” เธอยกของฝากให้เชิงเอาใจ
“วันหลังอยากไปไหนบอกพ่อนะ อย่าไปกับเข้เลย”
รอยยิ้มคนวัยอ่อนกว่าลดลง ดูท่าอีกฝ่ายไม่คล้อยตาม “ทำไมล่ะคะ เท่าที่ดูเขาก็ดีนะคะ พูดมากไปหน่อยแต่ก็ไม่มีอะไร อีกอย่างพ่อก็รู้จักเขา รู้จักมากกว่าหนูอีก”
“ใช่ ก็เลยรู้ว่าเขาไม่ได้ดีเสียทุกเรื่อง อย่างน้อย ๆ ก็เรื่องผู้หญิง พ่อบอกหนูแล้วนี่” เขาเว้นวรรคดูกริยาลูกสาว ไม่เห็นแสดงอะไรจึงพูดต่อ “พ่อไม่ได้ห้ามหนูเรื่องการคบผู้ชายหรอกนะ อย่างเข้ก็เป็นคนขยันขันแข็งในงานดี ถ้าเขาจะจริงใจและจริงจังกับใคร แต่นี่ไม่เห็นมีผู้หญิงคนไหนจับเขาอยู่มือสักคน ขนาดลูกสาวนายอำเภอที่ว่าหมายมั่นยังทิ้งขว้างเลย นับประสาอะไรกับลูกสาวผอ.โรเรียน”
ปุริมามอง “ก็ไม่แน่นี่คะลูกสาวผอ.โรงเรียนอาจจะจับเขาอยู่ก็ได้”
“ปูนิ่ม!
“หนูขออาบน้ำก่อนนะคะ” ลูกสาวตัดบทแล้วทำท่าเดินเลี่ยงเข้าห้อง “หนูอย่าคิดเล่นกับไฟนะ ไม่งั้นพ่อจะส่งหนู...” ประตูปิดลงก่อนจบประโยค คนเป็นพ่อผ่อนลมหายใจ เขาไม่ได้ปิดกั้นลูกมากไปกว่าความเป็นห่วงใช่ไหม
ปุริมาก้าวเข้าในห้องน้ำ ปกติแล้วเธอจะไม่อาบน้ำดึกเพราะอากาศเย็น แต่วันนี้ค่ำผิดเวลาไปหน่อยจึงเปิดเครื่องปรับอุณหภูมิให้สายน้ำอุ่นรินรดผิวกายเย็นเฉียบ
รู้สึกไม่สบอารมณ์ต่อคำสั่งห้าม มันก็แค่ความห่วงใยจากคนฐานะพ่อ เพียงแต่เธอไม่ต้องการให้เขาเป็นห่วงจนกลายเป็นหวง เธอมั่นใจว่าดูแลตัวเองได้...เอาน่ะ ยอมรับก็ได้ว่าพลาดเรื่องสินธพ แต่มันก็จบไปแล้ว ถ้าเทียบกันนายเข้รับมือง่ายกว่า ถึงจะมาแรงแต่ตรงและเปิดเผย ไม่อาศัยความดูดีฉวยโอกาส
พ่อนะพ่อ ก็รู้ว่าเธอหนีมาเพราะอึดอัดกับแม่ แล้วยังจะมาพูดว่าอาจจะส่งตัวกลับอยู่ดี ๆ ปุริมาก็หวั่นไหว ไม่อยากสูญเสียชีวิตอิสระเสรีที่นี่ ถึงจะเงียบเหงาไปหน่อยก็เถอะ แต่อะไร ๆ มันปลอดโปร่งกว่าเยอะ
แถมเอาไปเปรียบกับลูกสาวนายอำเภอ คิดไปโน่นเลย ไหนว่ารู้จักกัน ไอ้การเกี้ยวป้อก็แค่นิสัยของผู้ชายนี่นา ยังตั้งแง่เหมือนเธอเป็นเด็ก ไม่มีทางที่คนอย่างปุริมาจะหลงรักง่าย ๆ หรอก ก็แค่มีความรู้สึกไว้ใจเพิ่มขึ้นเท่านั้นเอง
หญิงสาวนิ่ง ตกใจกับความคิดที่จะแล่นต่อ น่าแปลก แรกเลยไม่ชอบหน้าผู้ชายคนนี้รุนแรง ไม่คิดว่าจะมีวันที่มาเป็นมิตรกันได้ แค่ชั่วไม่กี่วัน ภาพที่มองกลับเปลี่ยนไปง่ายดาย
เพราะความช่วยเหลือ เพราะบุคลิคการทำงาน หรือ เพราะนิสัยกะล่อนทะเล้นนั้นกันแน่ ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เผลอตัวเวลาเห็นเจ้าโขงในตอนเช้าจะต้องมองเลยไปด้านหลัง เผื่อจะได้เห็นร่างสูงแข็งแรงและผิวดำที่เคยค่อนขอด เธอยิ้มกับตัวเอง
เริ่มสนใจหนังสือปกไม่สวยแถมมีตำหนิเล่มนี้ซะแล้วสิ
คเชนทร์ยืนอยู่ที่ระเบียง อากาศดี ท้องฟ้ามีเมฆแต่แดดจัด ลมพัดโชย มองไปไกล ๆ เห็นเด็กนักเรียนกำลังทำแปลงเกษตร สีหน้าคนมองสดชื่นแจ่มใส
เมื่อเบนสายตาไปยังบริเวณก่อสร้าง เกิดที่จะปรับเปลี่ยนแผนการณ์เล็กน้อย จากเดิมเป็นอาคารหลังคาโค้งอย่างเดียว ก็อยากเพิ่มชั้นสำหรับกิจการอื่น ๆ ในอนาคตอาจจะเป็นห้องเรียน ห้องประชุม หรือกีฬาบางประเภทก็ยังได้
เนื่องจากธนาคารส่งหนังสือมาแจ้งว่าหลังจากปรับโครงสร้างหนี้หนที่แล้ว รวมทั้งการชำระหนี้สม่ำเสมอทำให้ความน่าเชื่อถือดีขึ้น สามารถเพิ่มวงเงินกู้ได้อีกจำนวนหนึ่ง ถือเป็นข่าวดีในรอบหลายวัน ประกอบกับควบคุมสภาพคล่องดีกว่าเดิมทำให้ผู้อำนวยการโรงเรียนชลพิทักษ์คิดว่าคงพอจัดการได้ ถึงจะไม่ใหญ่โตแต่ก็ถือเป็นความน่าสนใจที่จะมีให้ผู้ปกครองได้นำลูกหลานมาเรียนที่นี่ได้มากขึ้นด้วย
ที่ประชุม
สินธพแจกกระดาษขนาดเอสี่ให้คณะกรรมการโรงเรียน หนึ่งในนั้นมีคุณสกุณีอยู่ด้วย
“ผมปรึกษาคุณสินแล้วว่า สามารถต่อเติมอาคารอเนกประสงค์เป็นสองชั้นได้ เนื่องจากวางเสาเข็มรองรับไว้แล้ว”
ทั้งหมดดูแบบที่รับมา
“ดีเหมือนกันครับ เพิ่มอีกสักชั้นอาจจะทำเป็นห้องเรียนพลศึกษา หรือเป็นห้องประชุมได้” ใครคนหนึ่งว่า
“ออกแบบสวยดีนะครับ” อีกคนชม หนุ่มวิศวกรออกตัวว่าเป็นฝีมือสถาปนิกในทีม
“ทำให้เรียบ ๆ มากกว่าครับ เน้นความแข็งแรงกับใช้ได้จริง”
คเชนทร์แจกเอกสารอีกชุดเป็นแผนการณ์เงินอย่างคร่าว ๆ เพิ่มความมั่นใจ พูดคุยกันอีกเล้กน้อยที่ประชุมก็ลงมติเห็นด้วยกันเกือบหมด ประธานหันไปทางสินธพ
“เช็คราคาวัสดุมาด่วนเลยนะคุณสิน ผมจะได้รีบอนุมัติ”
วิศวกรหนุ่มพยักหน้า ตั้งแต่มีเรื่องหนก่อน ผอ.ไม่ได้ซักไซร้ ไม่ได้มองอย่างแปลกใจ ชายหนุ่มก็ใส่ใจแต่เรื่องงาน ยิ่งมีการปรับปรุงเพิ่มต่อก็หมายถึงผลตอบแทนและเนื้องานมากขึ้น เรื่องปุริมาจึงหลุดไปจากความคิด แม้จะแอบเหล่ครูสาวที่มาใหม่แต่ดูท่าทางเจนโลกเลยตัดสินใจไม่ยุ่งดีกว่า
ไปหาซื้อกินก็ไม่หนักหนาอะไร
ที่ประชุมเลิกตอนใกล้เที่ยงพอดี ชายหนุ่มเก็บคอมพิวเตอร์ เห็นร่างหนึ่งมายืนใกล้ ๆ
“แม่”
คุณสกุณีมีสีหน้าที่ไม่แสดงอารมณ์อย่างเคย “มีธุระอะไรด่วนไหม”
“ก็...เดี๋ยวไปเช็คราคาวัสดุ แม่มีอะไรครับ” ถามไปใจก็นึกสงสัย ปกติแล้วเขากับแม่จะไม่คุยกันมากไปกว่าทักทายสารทุกข์สุกดิบหรือดินฟ้าอากาศ
“แค่อยากชวนไปหาอะไรกิน เราไม่ได้กินข้าวด้วยกันมานานแล้ว” อีกฝ่ายมีรอยยิ้ม คนเป็นลูกค่อยโล่งใจ
“เดี๋ยวแม่ไปรถผม ผมเลี้ยงเอง”
...ต่อ
จากคุณ |
:
BabyRed
|
เขียนเมื่อ |
:
22 พ.ย. 54 11:11:46
|
|
|
|