๏ แสงทองทาบโลมทุ่งแซมรุ่งสาง สาดถ้วนทั่วเถินทางสว่างไสว ดื่นแดดตอนเช้ากรุ่นละมุนละไม ระเริงไหวจ้าวับระยับระโยง
๏ ยังเวลามีเริ่มให้เพิ่มรส ท่วงท่าในบริบทระดับโด่ง- ดุนจากดินหมองกลั้วสู่ชั่วโมง ต่างกระโตงเคลื่อนต่อไม่ย่อยอม
๏ โพ้นฟ้ากว้างนกกาเที่ยวหากิน ยังไกลถิ่นเดินทางไม่จาง,จ่อม- อยู่กับที่ทุกข์ถมด้วยตรมตรอม ต่างก็บินโผพร้อมเพื่อชีพตน
๏ คือการขับกายเคลื่อนด้วยเตือนว่า ที่เกิดมาถ้วนทั่วมีมัวหม่น ซึ่งต่อสู้ทั้งสิ้นและดิ้นรน สู่ภาวะหลุดพ้นเพียงบั้นปลาย
๏ จึงชีวิตซุกซ่อนยังหย่อนสร้าง เหยียดตรง,บ้างคด,พอ..แล้วงอหงาย ทั้งเกิดแก่เจ็บนั้นจนวันตาย ก็เวียนวนวกว่ายที่คล้ายกัน
๏ คงไม่เหมือนกันที่ตรงมีต่าง ทุกก้าวย่างของใครก็ใฝ่ฝัน ที่จะหุ้มห่อโหมหรือโรมรัน เพื่อเก็บฝันพรั่งพรูให้อยู่มือ...
๏ แม้ฟากฟ้าคืนหมองที่มืดมิด ห้วงใจยังคงสิทธิ์หากคิดหือ โหยหาฝัน ฝ่า, ย่ำ, ให้ร่ำลือ เป็นแสงเทียนส่องถือเที่ยวนำทาง
๏ ดังหิ่งห้อยพราววับระยับแย้ม ช่วยเติมแต้มชีวิตคราวคิดต่าง จากผองฝันเคยขาดมาวาดวาง แล้วถากถางพงฝันแจ้งทันใจ
๏ หากยังนิ่งเฉย,ท่าม แห่งความกลัว คอยหลอกตัวเองนั้นแล้วหวั่นไหว จะเร่งรัดล้มเหลวสู่เปลวไฟ- แห่งความกลัว,เผาไหม้เริ่มไล่ลาม
๏ ภูเขาสูงฟ้ากว้างก็ย่างก้าว ข้ามโพ้นอ่าวแอ่งฝันภาพวันหวาม กี่หมื่นแสนฝันจรดด้วยงดงาม ยังฝ่าข้ามขอบกรงผ่านดงเดิน
๏ จงลิ้มลองเริงฝ่าการล่าฝัน ในคืนวันหนาวผ่านหากนานเนิ่น มีรางวัลวาดหวังเพื่อยังเพลิน- กับเผชิญโชคพร้อมมาน้อมนำ
๏ ในชีวิตทุกช่วงแห่งห้วงฝัน อย่าปล่อย,ตัน ชังกะตายให้ตกต่ำ เถิดลุกขึ้นถากถางทุกอย่างทำ ที่ฝันย่ำ ฝ่าเดิน...ให้เพลินพราว ๚ะ๛
๐๐๐๔ ๒๓๑๑๕๔
จากคุณ |
:
คนสาธารณะ
|
เขียนเมื่อ |
:
23 พ.ย. 54 01:47:10
|
|
|
|