Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
Dangerous Plan - แผนร้าย - บทที่ 17 ติดต่อทีมงาน

บทที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11240011/W11240011.html

บทที่ 2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11245225/W11245225.html

บทที่ 3 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11255240/W11255240.html

บทที่ 4 http://writer.dek-d.com/searocker/writer/viewlongc.php?id=759245&chapter=5

บทที่ 5 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11266893/W11266893.html

บทที่ 6 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11273727/W11273727.html

บทที่ 7 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11282903/W11282903.html

บทที่ 8 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11291788/W11291788.html

บทที่ 9 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11303578/W11303578.html

บทที่ 10 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11317409/W11317409.html

บทที่ 11 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11325540/W11325540.html

บทที่ 12 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11334846/W11334846.html

บทที่13 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11348563/W11348563.html

บทที่ 14
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11357030/W11357030.html

บทที่ 15 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11369907/W11369907.html

บทที่ 16 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11378980/W11378980.html

ขอบคุณกิฟท์จากคุณสะเก็ดดาวเสาร์มากๆ ครับ ^^

------------------------------

บทที่ 17

บ้านขนาดใหญ่ซึ่งควรเรียกให้ถูกว่าคฤหาสน์ขนาดย่อมหลังนั้นตั้งตระหง่านอยู่บนพื้นที่กว้างขวางกว่าสองไร่ รายล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่และภูเขาสูงที่ลดหลั่นเป็นทิวแถวอยู่ด้านหลัง ถนนสายเล็กที่ทอดนำไปประดับสองข้างทางด้วยแมกไม้เขียวชอุ่ม  พิมพ์พลอยรู้สึกเหมือนกำลังขับรถเข้าสู่บ้านพักกลางวนอุทยานแห่งชาติหรืออะไรทำนองนั้นเมื่อเธอพารถเคลื่อนผ่านประตูรั้วเข้าไปสู่จุดหมายภายใต้แสงแดดยามเช้าที่แผดแสงอย่างสดใส

เมื่อรถยนต์ของเธอเคลื่อนมาหยุดนิ่งบริเวณลานจอดหน้ามุขบ้าน เด็กหญิงผิวเข้มกับหญิงวัยกลางคนผู้หนึ่งก็รีบกระวีดกระวาดออกมาต้อนรับขณะภาคีและพิมพ์พลอยเปิดประตูก้าวลงจากรถและพบสายลมเย็นๆ จากธรรมชาติโชยมาปะทะผิวกาย

“สวัสดีค่ะ คุณภาคี” หญิงวัยกลางคนกล่าวก่อนกระพุ่มมือไหว้ผู้ถูกเรียกพร้อมกับเด็กหญิงซึ่งท่าทางน่าจะเป็นหลานของนาง “ป้าชื่อป้าสมนะเจ้าคะ  ส่วนเจ้านี่เป็นหลานสาวป้า ชื่อนังสำลี เราสองคนเป็นคนที่คุณภานุพงศ์แกจ้างเอาไว้เฝ้าบ้านหลังนี้เจ้าค่ะ”

“อ้อ ครับ” ภาคีรับไหว้ผู้อาวุโสกว่าอย่างงุนงง เขาไม่รู้ว่าจะหาคำตอบรับอะไรดีไปกว่านั้นอีกแล้วเพราะในชีวิตของเขาไม่เคยถูกปฏิบัติราวกับเป็นลูกคุณหนูลูกคุณนายมาก่อน

“คุณภาคีกับคุณผู้หญิงมีกระเป๋าสัมภาระอะไรมาหรือเปล่าเจ้าคะ  ป้าจะได้ให้นังสำลีมันช่วยขน” ป้าสมกล่าวต่ออย่างจัดแจง พยักพเยิดไปยังเด็กหญิงวัยสิบสี่ที่ยืนยิ้มฟันขาววับขัดกับสีผิวอยู่ข้างกาย

“ไม่มีหรอกครับป้า  เราสองคนไม่ได้เอาอะไรติดตัวมาเลย” ภาคีตอบ ชำเลืองมองพิมพ์พลอยและพบว่าเธอกำลังกวาดสายตามองธรรมชาติรอบกายด้วยใบหน้าที่แช่มชื่นขึ้น

“อ้าว” หญิงผู้ดูแลบ้านมีสีหน้าประหลาดใจ “ไหนคุณภานุพงศ์แกบอกว่าคุณภาคีกับคุณผู้หญิงจะมาแฮนติมูน – ”

“ - เค้าเรียกว่าฮันนีมูนต่างหากป้า” เด็กหญิงที่ชื่อสำลีแทรกขึ้นทำเอาภาคีเลิกคิ้วสูง

“เออ นั่นล่ะ อะไรก็ช่างเถอะ แต่คุณภาคีกับคุณผู้หญิงมาอยู่หลายวันแบบนี้ แล้วจะเอาเสื้อผ้าที่ไหนใส่ล่ะเจ้าคะ?” ป้าสมกล่าวต่อ  นางหรี่ตามองสองหนุ่มสาวที่หน้าแดงเรื่อขึ้นมาอย่างฉับพลันด้วยความไม่เข้าใจ

“ภานุ เอ่อ เจ้าพีมันบอกป้าว่าอย่างไรนะครับ?” ภาคีถามกลับ

“ก็เมื่อคืนนี้คุณภานุพงศ์โทร.มาปลุกป้าเสียกลางดึกว่าพี่ชายของแกจะพาภรรยามาแฮนติมูนที่เมืองกาญจน์ในเช้านี้และคงจะอยู่อีกพักใหญ่  ให้ป้าเตรียมจัดบ้านจัดห้องเอาไว้รอต้อนรับคุณภาคีกับคุณผู้หญิงน่ะเจ้าค่ะ” ป้าสมตอบเสียงใส

ชายหนุ่มหน้าร้อนผ่าวมากกว่าเดิมเมื่อรู้ว่าน้องชายจัดการแต่งเรื่องหลอกผู้ดูแลบ้านว่าอย่างไร  เขาชำเลืองมองไปที่พิมพ์พลอย เธอเองก็กำลังชำเลืองมองมาทางเขาพอดี สองสายตาประสานกันแวบหนึ่งแล้วก็รีบหลบวูบด้วยความรู้สึกเก้อเขินอย่างประหลาด

“พอดีหนูกะว่าค่อยมาหาเสื้อผ้าเอาที่นี่แหล่ะค่ะป้า จะได้ออกไปช็อปปิ้งของดังประจำเมืองกาญจน์ด้วย” พิมพ์พลอยกล่าวขึ้นเป็นคำแรกกับผู้อาวุโส ภาคีหน้าร้อนผ่าวเพิ่มขึ้นอีกทวีคูณเมื่อพบว่าพิมพ์พลอยยอมรับมุขแกล้งเป็นภรรยาของเขา

“อ๋อ เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ” ป้าสมพยักหน้าส่งยิ้ม “ถ้าอย่างนั้นเวลาจะไปก็พานังสำลีไปด้วยสิเจ้าคะ นังเนี่ยมันรู้แหล่งซื้อของดีราคาถูกเต็มไปหมด  ว่าแต่ว่าคุณผู้หญิงชื่ออะไรหรือเจ้าคะ  คุณภานุพงศ์แกก็ไม่ได้บอกป้าไว้เสียด้วย”

“หนูชื่อพิมพ์พลอยจ้ะป้า  เรียกว่าพิมพ์เฉยๆ ก็ได้  ห้ามเรียกคุณผู้หญิง มันฟังดูแก่ๆ ยังไงไม่รู้” พิมพ์พลอยตอบ ทำเอาป้าสมหัวเราะชอบใจ

“ถ้าอย่างนั้นคุณภาคีกับคุณหนูพิมพ์ขับรถมาเหนื่อยๆ เข้ามาพักในบ้านก่อนเถอะเจ้าค่ะ “ หญิงชราผู้ดูแลบ้านกล่าวอย่างพยายามเอาใจ “แล้วทานอะไรมาหรือยังเจ้าคะ ป้าทำข้าวต้มปลาร้อนๆ ไว้ให้ กำลังอุ่นได้ที่เลยเชียว”

เมื่อพูดถึงเรื่องอาหาร  กระเพาะของภาคีก็ลั่นโครกครากประท้วงว่าเขายังไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่เย็นวาน พร้อมกันนั้นจมูกของเขาก็เหมือนจะได้กลิ่นข้าวต้มร้อนๆ โชยมาแต่ไกล  ภาคีก้มมองนาฬิกาข้อมือ เข็มชี้บอกเวลาว่าเจ็ดโมงสิบห้านาที เขาฉีกยิ้มแล้วผงกศีรษะกล่าวว่า

“เยี่ยมเลยครับป้า ผมกำลังหิวอยู่พอดี”

“งั้นตามป้ามาเลยเจ้าค่ะ” ป้าสมแสดงอาการดีใจ แล้วหันไปเอะอะกับหลานสาว
“เอ้า นังคนนี้มายืนทื่ออยู่ทำไม รีบไปตักข้าวต้มรอคุณท่านสองคนที่โต๊ะอาหารสิ ไป๊!”

“แหม่ ป้าก็ หนูจะรอประจบคุณผู้หญิงบ้างไม่ได้เชียวนะ” สำลีหันมากล่าวกับผู้เป็นป้าอย่างงอนๆ แล้ววิ่งตื๋อเข้าไปในบ้านเพื่อทำตามสิ่งที่นางสั่ง

“นังหลานคนนี้มันแก้นิสัยกะโปโลไม่หาย” ป้าสมมองตามหลังหลานสาวแล้วส่ายศีรษะอย่างอ่อนใจก่อนจะหันมาพยักหน้าให้ภาคีกับพิมพ์พลอยเดินตามเมื่อนางเดินนำเข้าสู่ภายในตัวบ้าน

ชายหนุ่มกับหญิงสาวสบตามองกันอีกครั้งก่อนสาวเท้าเดินตามหลังหญิงวัยกลางคนไปพร้อมรอยยิ้ม

********

“ข้าวต้มฝีมือป้าเราอร่อยนะ สำลี” พิมพ์พลอยกล่าวชมขณะเด็กหญิงก้าวเข้ามาเก็บชามข้าวต้มที่พิมพ์พลอยและภาคีจัดการจนหมดเกลี้ยงในเวลาอันรวดเร็วตามประสาคนหิว

“ป้าหนูน่ะ แม่ครัวโรงแรมเก่าค่ะพี่” สำลีตอบ เธอเรียกพิมพ์พลอยว่าพี่ตามที่หญิงสาวต้องการ “ทำอาหารให้คนอื่นอร่อยแสนอร่อย แต่ถ้าทำให้หนูกินนะ  ท้องเสียทุกที” ประโยคหลังเด็กสาวกระซิบหน้าทะเล้นจนผู้ฟังทั้งสองคนอดหัวเราะออกมาไม่ได้

“ก็เพราะเรามันทะเล้นอย่างนี้น่ะสิ ป้าเค้าเลยวางสลอด” ภาคีกล่าวอย่างเอ็นดูหลังยกแก้วน้ำเปล่าขึ้นจิบ

“นินทาอะไรป้าให้คุณท่านฟังงั้นรึ นังสำลี” เสียงป้าสมแหวมาจากปากประตูห้องรับประทานอาหารขณะนางเดินถือถาดใส่ของหวานเข้ามา

“เปล่าซะหน่อย” เด็กหญิงพูดขณะเดินสวนกับป้าสม  นำถาดชามข้าวต้มไปเก็บ “ป้าใส่ร้ายหนู หนูจะฟ้องพี่พิมพ์” ประโยคหลังสำลีแง้มหน้ามาพูดเมื่อเดินพ้นประตูห้องไปแล้วนิดหนึ่ง

“อย่าไปถือสามันเลยนะเจ้าคะ  ช่วงนี้ปิดเทอม นังสำลีมันคงเหงา แถวนี้ก็ไม่มีบ้านเพื่อนอยู่สักคน วันๆ มันก็เจอแต่ป้าเท่านั้น” หญิงวัยกลางคนพูดพลางวางถ้วยขนมลงตรงหน้าพิมพ์พลอยและภาคีคนละถ้วย

“ป้าอยู่ที่นี่นานแล้วหรือครับ?” ภาคีถามอย่างชวนคุย ใช้ช้อนคนๆ บัวลอยน้ำกะทิในถ้วย แล้วตักชิมหนึ่งคำ

“ก็หลายปีแล้วล่ะเจ้าค่ะ  ตั้งแต่โรมแรมที่ป้าทำงานอยู่ปิดตัวลง คุณภานุพงศ์แกเลยจ้างให้ป้ามาคอยดูแลบ้านนี้” ป้าสมตอบ ยืนกุมถาดอยู่ข้างโต๊ะรับประทานอาหารอย่างรอคอยคำสั่ง

“แล้วเจ้าพีมาที่นี่บ่อยมั้ยครับ?” ชายหนุ่มถามต่อ

“ก็ประมาณเดือนละครั้งเจ้าค่ะ” ป้าสมตอบ มองหน้าภาคีแล้วยิ้ม “คุณภาคีเหมือนคุณท่านภาสกรมากนะเจ้าคะ  เหมือนมากยิ่งกว่าคุณภานุพงศ์อีก”

ภาคีชะงักช้อนที่กำลังจะตักขนมเข้าปาก “คุณพ่อเคยมาที่นี่ด้วยหรือครับ?”

จากคุณ : ทะเลเดือดพันธุ์ร็อค
เขียนเมื่อ : 27 พ.ย. 54 09:06:38




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com