 |
(ต่อ) ถ้าใครเคยดูหนังแวมไพร์ ก็คงจะเคยได้ยินคำนี้นะคะ "ปิด switch ความรู้สึก"... หลังจากที่ฉันทำงานวิจัยมามากมาย และได้สำรวจดูตัวฉันเองแล้ว ฉันก็ตัดสินใจ ปิดสวิตช์หัวใจตัวเอง ตอนนั้นฉันอายุ 23 ปี ฉันปิดกั้นหัวใจตัวเองที่จะมีความรู้สึกหวั่นไหวกับผู้ชายทุกคน!! และฉันจะรอจนกว่าฉันจะอายุ 30 ปี ฉันถึงจะเริ่มเปิดใจให้ฝรั่งสักคน อิอิ ตอนนั้น ฉันเรียนจบมาหมาดๆ และกำลังรอทำเรื่องไปฝึกงานที่ต่างประเทศ ช่วงนี้ ฉันต้องจัดการเขียนประวัติ ทำ Resume และเตรียมเอกสารต่างๆมากมาย ในระหว่างนี้ ฉันก็พอจะมีเวลาว่างในการทำสิ่งที่ฉันสนใจ ------ นอกจากช่วยงานที่บ้านแล้ว ฉันก็มีเวลาว่างมากจริงๆ ^^ ฉันช่วยแม่ดูแลร้านค้าเล็กๆที่บ้าน แต่บางทีฉันก็ต้องขึ้นกรุงเทพฯไปทำธุระหลายๆอย่าง ช่วงเวลาว่างๆนี้เอง ที่ฉันได้ทำในสิ่งที่ฉันอยากจะทำ และที่ฉันสนใจจริงๆ ^^ ฉันสนใจอะไรอ่ะหรอ ?? o.O นี่ไง >>>> อ่านหนังสือ, นั่งสมาธิ, อ่านบทความวิทยาศาสตร์, ดูสารคดี จักรวาล-อวกาศ, ฝึกมีสติรู้ตัวในฝัน, ศึกษาธรรมะของพระพุทธเจ้า, ค้นหาสัจจะธรรมของชีวิต, หัดถอดกายทิพย์และท่องไปในโลกวิญญาณ, อ่านทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์, ศึกษาทฤษฎี M-Theory, ศึกษาเรื่องการสะกดจิตค้นหา higher-self, เล่นดนตรี(เปียโน), ดูหนังดูซีรี่ส์, ฟังเพลง,เล่นเน็ต, เข้าวัด, ทำบุญ, สนทนาธรรม, สนทนาเรื่องทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์, ส่องดาว, จับ UFO, หาข้อมูลมนุษย์ต่างดาว และอีก ฯลฯ นี่แหละ สิ่งที่ฉันสนใจ..... @^_^@ เหอๆๆ ^^ --- วันหนึ่ง ฉันต้องไปทำธุระเรื่องเอกสารสัญญาการจ้างงานที่ กทม. เมื่อทำธุระเสร็จ ฉันก็ได้ถือโอกาสไปทำบุญที่วัดแห่งหนึ่ง ภายหลังจากที่ ทำบุญไหว้พระเสร็จแล้ว ฉันก็เดินออกจากวัดไปที่บ้านหลังหนึ่งที่อยู่ข้างๆรั้ววัด ฉันรู้จักบ้านหลังนี้จากทาง internet ว่ามีการสอนทำสมาธิโดยคุณลุงท่านหนึ่ง ทันทีที่ไปถึงบ้านหลังนั้น ฉันกำลังจะเดินเข้าประตูรั้วหน้าบ้าน ก็มีรถเก๋งสุดหรูคันหนึ่งกำลังขับเข้าไปเช่นกัน ฉันเดินไป ตาก็มองตามรถคันนั้นไป รถเบนซ์สีดำสุดหรูคันนั้น มองแล้วสะดุดตาจริงๆ ^^ ฉันเดินไปจนถึงประตูเข้าบ้าน มองเข้าไปในบ้าน มีคนมานั่งรออยู่แล้ว 2-3 คน ฉันหันกลับไปมองที่รถเบนซ์คันนั้นอีกครั้ง เห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังออกมาจากรถ แล้วเดินตรงมาที่ประตูบ้าน o.O แวบแรกที่ฉันได้เห็นเจ้าของรถคนนั้น.. ฉันก็รู้สึกแปลกใจมากๆ!! "หล่อ + ขับเบนซ์ + เข้าวัด" o.O จะเป็นไปได้อย่างไร ?? ส่วนมาก คนหล่อๆ แล้วยังขับเบนซ์คันหรูขนาดนี้ แสดงว่าต้องมีเงินมากแน่ๆ แต่ไม่อยากจะเชื่อเลยว่า.. จะเป็นคนที่ เข้าวัด ทำบุญ นั่งสมาธิ O.O (ดูขัดๆกันนะ ><) ที่สำคัญคือ เป็นคนหนุ่มอยู่ด้วย >< น่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับฉัน.. หาได้ยาก!! หาได้ยาก!! o(>_<)O แต่ก็อย่างว่าแหละ.. ก็แค่.. "สะดุดตา" แต่ไม่ได้ชอบ เพราะฉันได้ปิด switch หัวใจของฉันไปแล้ว เรียบร้อย ตั้งแต่ปีที่แล้วละ --' ไม่สนใจผู้ชายหน้าไหนทั้งนั้น 555555+ ^^ ฉันเดินเข้าไปในบ้านแล้วเลือกบริเวณว่างๆ ที่ไม่อยู่ติดด้านหน้าเกินไป และไม่อยู่ข้างหลังมากเกินไป นั่งรอคุณลุงออกมา ที่นั่น ฉันไม่รู้จักใครเลย หาข้อมูลทางเน็ต แล้วมาเลย --' ฉายเดี่ยว (เพื่อนๆในกลุ่มฉันไม่มีใครชอบแนวนี้เหมือนฉันอ่ะนะ ฉันเลยไม่ได้ชวนใคร) นั่งๆอยู่คนเดียวไปได้สักพัก ก็มีคนๆหนึ่ง มานั่งข้างๆฉัน(ข้างขวา) ฉันไม่ทันได้หันไปมองหน้าเขา แบบว่ารักษาฟอร์มอยู่อ่ะ(ประมาณว่า เรามันคนต่างจังหวัดอ่ะนะ ^^ กลัวเขาจะไม่อยากรู้จัก รอให้เขาทักก่อน แล้วเราค่อยทักกลับดีกว่า อิอิ ^^) แล้วสักพัก คนๆนั้น ก็เป็นฝ่ายทักฉันก่อนจริงๆด้วย 55555+ (เป็นไปตามคาด ^O^) "สวัสดีครับ ^^" พอฉันได้ยินเสียงทักว่า สวัสดีครับ ฉันก็รีบหันหน้าไปทักตอบทันที "สวัสดีค่ะ ^^" พร้อมกับส่งยิ้มหวานๆไปให้อย่างเป็นมิตร.. ^_^ สักพัก ฉันมองไปที่ใบหน้าเจ้าของเสียงทักนั้น ทันทีที่เห็นหน้าเขา ก็รู้สึก ทำไมมันคุ้นจริงๆเลย ^^ เหอๆๆ .. ที่แท้ก็.. ไอ้คนหน้าหล่อๆ ที่เพิ่งลงจากรถเบนซ์เมื่อตะกี้นี่เอง >< .. ตกใจหมดเลย!! o.O จังหวะนั้น มันเกิดเป็นความคิดขึ้นมาเองเลยนะ แบบไม่ได้ตั้งใจเลย อยู่ดีๆก็คิดขึ้นมาในหัวเองเลยว่า "ทีแรกเห็นไกลๆก็ว่าหล่อแล้วนะ แต่พอได้เห็นใกล้ๆ นี่ยิ่งหล่อเข้าไปใหญ่เลย O.O" แต่.... ก็อย่างว่าแหละ ^^ ฉันปิด switch หัวใจไปแล้ว.. หล่อๆแบบนี้ ขับเบนซ์แบบนี้แหละ ไม่รอด!!! จะต้องมีข้อเสีย ไม่ข้อใด ก็ข้อหนึ่ง แน่ๆ!! >< แล้วสักพัก ผู้ชายคนนี้ ก็เริ่ม..ชวนคุย!! "มาที่นี่บ่อยไหมครับ ?? ^^" "ครั้งแรกค่ะ ^_^ มาแบบ เดาๆ" "ผมก็เพิ่งเคยมาที่นี่ครั้งแรกเหมือนกันครับ อิอิ ^^" เหอะๆ .. คนอะไรวะ พูดไปด้วย ยิ้มไปด้วย ตลอดเลย --' "อืม.. ไม่ทราบว่า ชื่ออะไรหรอครับ ?? ^^" ฉันบอกชื่อเขาไป "ชื่อฝ้ายค่ะ ^_^" "... สวัสดีครับ คุณฝ้ายยย ^^" เรียกฉันว่า คุณ.. ฝ้าย.. เนี่ยนะO.O!! เกิดมา ไม่เคยมีใครมาเรียกฉันว่า.. คุณ นำหน้าแบบนี้เลยสักคน --' เวงกรำ!! ฉันบอกเขา "เอ่อ.. ^^ เรียก ฝ้าย เฉยๆก็ได้นะ ^_^ ไม่ต้องเรียกคุณหรอก" ^^ (แบบว่า เรียกคุณแล้วมันดู แก๊ๆๆๆๆๆๆๆ แก่อ่ะ >< ฉันเพิ่ง 24 เองนะ!! ><) "ครับ.. ^^ คุณ.. ฝ้ายเฉยๆ ^O^" เอ่อ.. o.O เรียก คุณฝ้ายเฉยๆ... เนี่ยนะ o.O ตาบ้า!!! >< ตอนนั้น ฉันเริ่มคิดในใจ.. อีตานี่ ติงต๊องว่ะ --' พูดจาก็เพราะเกิ๊น คำก็ครับ สองคำก็ครับ แถมยังพูดไปยิ้มไปตลอด เห็นทีแรกก็ดูดี หน้าก็หล่อ ขับรถก็อย่างหรู แต่พอคุยด้วยแล้ว.. โคตรติงต๊องเลย!! O.O!! รับไม่ได้ๆๆๆๆๆๆ!! >< ------- ฉันเอามั่ง.. เรียกคุณมา ฉันก็คุณกลับล่ะวะ อิอิ ^^ "แล้วคุณล่ะ ชื่ออะไร ??" "ผมชื่อ คิม ครับ ^^" "อ่อ.. สวัสดีค่ะ ^_^ คุณคิม ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันนะคะ ^^" (เป็นไงล่ะ ^^ คุณมา ก็คุณกลับ 555+) คุยๆกันอยู่ดีๆ สักพักเขาก็ชวนฉันคุยเรื่อง "ธรรมะ" ฉันฟังเขาพูดหลักธรรมต่างๆได้เป็นฉากๆๆ ทั้งกาลมสูตร ๑๐, มหาสติปัฏฐาน ๔, ขันธุ์ ๕, อริยสัจ ๔, มรรคมีองค์ ๘, .... ฯลฯ O.O!! ฉันนี่แบบ อึ้งมากกกกกก!! คุณท่องหลักธรรมเหล่านี้ ได้หมดเลย O.O โดยไม่ต้องเปิดหนังสือเลย เนี่ยนะ!!!! โหๆๆๆๆๆ สุดยอดไปเลยอ๊ะ!! อึ้งๆๆๆ!! คนอะไรวะ ทั้งติงต๊อง ทั้งเก่งธรรมะ เหมือนคุณมหาธำโมเถโรเลย --' แล้วอยู่ดีๆ ไม่รู้อะไรดลใจ อยู่ดีๆฉันก็คิดขึ้นมาในใจว่า "ผู้ชายแบบนี้ ต้องไม่มีผู้หญิงที่ไหนมาชอบแน่ๆเลย >< ทั้งติงต๊อง ทั้งเหมือนคุณมหาธำโมเถโร" แล้วปากของฉัน.. มันก็พลั้ง.. ไปถามเขาคนนั้น.. ว่า... "คุณคิม มีแฟนไหมคะ ?? ^_^" (แบบว่า มันติดนิสัยชอบเก็บข้อมูลไปทำงานวิจัยอ่ะนะ อิอิ ^^) เขาบอกฉันว่า.. "ไม่มีครับ ^^ ไม่เคยมีแฟน ^_^" 555555555555+ นั่นประไร!! เป็นอย่างที่ฉันคิดไว้จริงๆด้วย ผู้ชายแบบนี้ ต้องไม่มีผู้หญิงที่ไหนมาชอบแน่ๆเลย อิอิ ^^ สักพัก คุณลุงที่จะสอนทำสมาธิ ก็เดินออกมาจากหลังม่าน แล้วมานั่งตรงพื้นยกระดับด้านหน้าสุด ตอนนี้เริ่มมีคนทะยอยเข้ามาให้บ้านมากแล้ว ราวๆ 30-40 คน ฉันกับคุณคิม นั่งติดกัน คุณลุงเริ่มพาทุกคน กราบพระ อาราธนาศีล แล้วก็ให้เริ่มทำสมาธิ โดยคุณลุงจะพูดออกไมโครโฟนไปด้วยตลอดเป็นระยะ เพื่อให้ทุกคนดึงสติกลับมาจับไว้ที่ลมหายใจเข้า-ออก ผ่านไป 1 ชม. คุณลุงก็บอกให้ทุกคนถอนออกจากสมาธิ พร้อมกับเล่าธรรมะให้ฟัง แล้วแจกหนังสือคู่มือการทำสมาธิในแบบของคุณลุงให้กลับไปทำต่อที่บ้านด้วย ^^ ก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้าน ต่างคนก็ต่างคุยกันเรื่องที่เพิ่งนั่งสมาธิไปเมื่อสักครู่ว่า เป็นอย่างไรบ้าง แลกประสบการณ์กัน ^^ แต่ อีตาคุณคิมเนี่ย ไม่ยักกะถามฉันเรื่องสมาธิ แต่หันมาถามฉันว่า.. "คุณฝ้าย เกิดวันศุกร์ใช่ไหมครับ ?? ^^" เอิ้กๆๆๆๆๆๆๆ O.O!! ฉันมองหน้าเขา !! พร้อมกับคิดในใจ 'รู้ได้ยังไง ว่าฉันเกิดวันศุกร์!! ' o.O (แบบว่าอยู่ดีๆก็ทักขึ้นมา --') ฉันถามเขา ว่าเขารู้ได้ยังไง ว่าฉันเกิดวันศุกร์ ?? o.O เขาบอกฉันว่า.. "ก็ดูลักษณะของคุณฝ้ายแล้ว น่าจะเกิดวันศุกร์นี่ครับ ^^ แหะๆๆ " ฉันอดคิดไม่ได้.. นี่เขาจะเป็น Spy ป่าววะ ??? o.O แบบ แกล้งมาตีสนิทกับฉันอ่ะนะ >< แต่ไม่ทันไร เขาก็บอกฉันว่า "คุณฝ้ายลองส่งกระแสจิตเป็นวันที่เกิด และเดือนที่เกิดให้ผมสิ่ ^^ ผมจะลองทายดู ^_^" ฉันถามเขา "ส่งกระแสจิต ยังไงอ่ะ O.O" เขาบอกให้ฉัน.. จินตนาการตัวเลขวันเกิดของฉัน และเดือนเกิดของฉัน แล้วเขาจะลองทายดู ฉันทำแบบที่เขาบอก หลับตาแล้วจิตนาการตัวเลขวันเกิดและเดือนเกิด แล้วก็ส่งไปให้เขา สักพัก เขาก็บอกกับฉันว่า "ได้รับแล้วครับ ^^" แล้วเขาก็ทายมันออกมาว่า "วันที่ 16 เดือน สิงหาคม ใช่ไหมครับ ??? ^^" เอิ้กกกกกกกก!! ฉันอึ้งอีกรอบ !! O.O "ทำได้ไงอ๊ะ ?????/ o.O" หรือเขาจะเป็น Spy จริงๆ o(>_<)O สักพัก เขาก็พูดกับฉันว่า "คุณฝ้ายก็ทำได้นะครับ ^_^" เขาบอกให้ฉันอ่ะ ทำจิตให้เป็นกลาง แล้วคิดว่า ข้อมูลที่เขาส่งกระแสจิตไป เป็นของกลางที่มีอยู่ในจักรวาล แล้วฉันก็จะสามารถรับกระแสจิตของเขาได้ ฉันทำตามที่เขาบอก... หลับตา แล้วพยายามรับกระแสจิตของเขา.. ฉันเอง ก็ไม่มั่นใจหรอกว่า.. จะทำได้ไหม --' แต่ก็.. ลองดู ทำเดาๆ ฉันบอกเขา.. "จะทายแล้วนะ ^^" "วันที่... 7 เดือน กรกฎาคม ใช่หรือไม่ ?? ^_^" แหะๆ ^^ (ฉันไม่คิดว่าฉันจะทายถูกหรอกนะ >< แต่ก็ ทายๆไปงั้นแหละ ลองทำดูเดาๆ) เขาไม่ตอบฉัน ว่าฉันทายถูกไหม แต่เขาหยิบกระเป๋าสตางค์ของเขาออกมา แล้วก็หยิบบัตรประชาชนของเขาให้ฉันดู ^^ เขาชี้ไปที่วันเกิดของเขา ในบัตรประชาชน.. ไม่อยากจะเชื่อเลย O.O!! นี่ฉัน ทายวันเกิดเขาถูกด้วยอ่ะ 555555555+ ตอนนั้น ฉันดีใจมากๆเลยนะ ^O^ เขาบอกฉันว่า "เห็นไหม ผมบอกแล้ว คุณฝ้ายก็ทำได้ ^_^" อิอิ.. แปลกดี ^^ ตอนนั้นฉันเหลือบมอง พ.ศ. ที่เขาเกิดด้วย เขาเกิดก่อนฉันแค่ปีเดียว ฉันเลยบอกเขาว่า "คุณคิมเป็นพี่ฝ้ายนี่นา ^^ หนึ่งปี ^^" ฉันบอกเขาว่า ฉันจะเรียกเขาว่าพี่คิม.. แต่เขาบอกไม่เป็นไร ไม่ต้องเรียกพี่หรอก ห่างแค่ปีเดียว เรียกคุณคิมเหมือนเดิมก็ได้ ^^ ฉันก็เลยเรียกเขา คุณคิม ^^ เหมือนเดิม!! วันนั้น เราสองคน แลกเบอร์โทรและ E-mail กัน แล้วก็ แยกย้ายกันกลับไป ----- ฉันนั่งรถกลับบ้านที่ต่างจังหวัดทันที เพราะหมดธุระที่ กทม. แล้ว ^^ ระหว่างนี้ ฉันซื้อหนังสือเล่มหนึ่ง เป็นหนังสือเกี่ยวกับ "ญาณหยั่งรู้" ฉันอ่านหนังสือเล่มนี้ทีไร ฉันมักจะคิดถึงคุณคิดตลอด.. เพราะทุกๆหน้า ทุกๆขั้นตอนที่ผู้เขียนบอกไว้ในหนังสือ มันจะคล้ายๆวิธีที่คุณคิมเขาสอนให้ฉันทายวันเกิดเขาเลยอ่ะ ^^ --- วันนั้น พอกลับไปถึงบ้านที่ต่างจังหวัด ฉันเปิดคอมฯ เข้าเน็ต แล้วก็แอด e-mail ของเขา เข้าใน program msn ของฉัน.. ฉันไม่ได้บันทึกเบอร์โทรของเขาในโทรศัพท์ เพราะฉันคิดว่า ฉันกับเขาคงจะไม่ได้โทรคุยกันหรอก --' แอดแค่ msn ก็พอ อิอิ ^^ --------- เราสองคน ได้มีโอกาสคุย msn กันบ้าง แต่ก็ไม่ได้บ่อยมาก... ฉันมักจะเห็นเขา online ตอนกลางวันบ่อยๆ เวลาที่ฉันถามเขาว่า เขาทำอะไรอยู่ เขาชอบตอบว่า เขาสอนธรรมะน้องๆอยู่ >< ฉันก็งง .. เขาไม่ไปทำงานหรอ ??? o.O เขาบอกฉันว่า.. เขาก็ทำงานไปด้วย สอนธรรมะน้องๆไปด้วยนี่แหละ ฉันก็งงอีก >< งานอะไร.. ทำไปด้วย สอนธรรมะคนไปด้วย อิอิ ^^ เราสองคน คุย msn กันบ่อยมากๆ เขาชอบมาเล่าให้ฉันฟังว่า วันนี้เขาไปทำบุญวัดนี้มาก ไปทอดกฐินวัดนี้มา ไปบ้านพักคนชรามา ไปสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้ามา!! โห.. ไปแต่ละที่ o.O มีแต่ไปทำความดีทั้งนั้น!! >< คนอะไรเนี่ย!! ^^ ตอนนั้น ฉันรู้สึกถูกชะตากับเขามากๆเลยนะ ^^ แล้ววันหนึ่ง ฉันก็เห็นรูปถ่ายที่เขาโชว์ใน msn เป็นรูปที่เขาถ่ายที่ต่างประเทศ ฉันถามเขาว่า ไปทำอะไรที่ต่างประเทศหรอ ??? ^^ เขาบอกฉันว่า.. เขาไปเรียน Bio-Chem อะไรสักอย่างเนี่ย ที่ Havard University เออ.. ฉันเคยได้ยินชื่อนะ ไอ้ Havard อะไรเนี่ย >< ฉันลองค้นหาข้อมูลใน Google ดู.. "เอ๊ะ O.O!! นี่มัน.. มหาลัยอันดับหนึ่งของอเมริกาเลยนี่นา O.O!!" โห..... แสดงว่า อีตานี่ เก่งไม่เบานะเนี่ย >< แต่เขาบอกฉันว่า.. เรียนไม่ทันได้จบ เขาก็ต้องกลับเมืองไทย.. ที่บ้านเขาเรียกตัวกลับกระทันหัน.. พอกลับมาที่ไทย เขาไม่ค่อยมีเวลา เลยไม่ได้เรียนด้านนั้นอีก.. ฉันถามเขา แล้วเรียนอะไรอ่ะ ที่ไทย ?? o.O เขาบอกฉัน.. เรียน.. วิศวะคอมฯ ฉันฟังแล้ว.. งง O.O!! อ้าว.. นี่มัน คนละอัน คนละเรื่องกับสาขาที่เรียนที่อเมริกาเลยนะเนี่ย >< เขาเล่าให้ฉันฟัง ว่าเขาเคยเป็นตัวแทนไปแข่งคอมพิวเตอร์โอลิมปิก เขามีความรู้ด้านคอมฯพอควร เลยเลือกเรียนสาขานี้ เพราะคิดว่า "ง่าย" --' โห!! O.O เกิดมาไม่เคยเจอ !! O.O ----- คนอะไรวะ.. แปลกๆ --' หลังจากที่เราสองคน รู้จักกันทาง msn มากขึ้น วันหนึ่ง เขาก็ได้ชวนฉันไปทำงานจิตอาสาด้วยกัน.. บ้างก็ชวนไปทอดกฐิน บ้างก็ชวนไปทำบุญเลี้ยงเด็กกำพร้า ฯลฯ ฉันกับเขา กลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ค่อนข้างสนิทกัน.. และมักจะมีแนวคิดและความชอบ ความสนใจ คล้ายๆกัน... ปกติฉันก็เป็นคนพูดมากนะ.. แต่เวลาอยู่กับคุณคิม ฉันกลายเป็นคนที่พูดน้อยไปเลย >< คุณคิมเป็นคนที่พูดอะไรอยู่ดีๆ ก็จะชอบพูดกลอนแทรกเข้ามาด้วย เป็นคนที่มีอารมณ์ศิลปิน ช่างสำบัดสำนวน.. คุยๆกันอยู่ดีๆ เดี๋ยวสักพักก็ศัพท์ทางการแพทย์ยากๆ(ฟังไม่เข้าใจ --') สักหน่อยก็พูดศัพท์ Computer (งง --') สักหน่อยก็ท่องกลอน ขุนช้างขุนแผนให้ฟัง สักพักก็เปลี่ยนไปพูดกลอน Shakespeares ภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกันชัดแจ๋ว แต่ภาษาไทย ก็ชัดแจ๋วไม่แพ้กัน O.O ฉันนี่แบบ... แทบเป็นใบ้อ่ะ O.O!! เขาเก่งกว่าฉัน ทุกด้านเลย!! ภาษาอังกฤษก็เก่งกว่า ภาษาไทย เขาก็เก่งกว่า ธรรมะก็เก่งกว่า วิทยาศาสตร์ก็เก่งกว่า คอมพิวเตอร์ก็เก่งกว่า.. ปกติฉันจะเป็นคนพูดมาก แต่พออยู่กับคุณคิม.. ฉันแทบไม่กล้าพูดอะไร (รู้สึกตัวเองปัญญาน้อยยังไงก็ไม่รู้ --') เหอๆๆ ^6^ เมื่อก่อนฉันไม่เคยรู้ว่า.. คุณคิมเขาทำงานอะไร.. แต่พอเราสองคนเริ่มสนิทกันมากขึ้น ฉันถึงได้รู้ว่า เขาทำงานอะไร.. งานอะไรกัน ที่ทำไปด้วย สอนธรรมะคนไปด้วย ^^ ที่แท้เขาก็เป็นถึง.. เจ้าของโรงแรมที่มีชื่อเสียงมากๆๆๆๆๆๆ แบบโคตรรวยอ๊ะ!! >< ตอนที่ฉันรู้ว่าเขาเป็นถึงเจ้าของโรงแรมพันลาน ฉันก็โหวงๆเหวงๆเหมือนกันนะเนี่ย เหอๆๆ ^^ นี่เรามีเพื่อนเป็นถึง เศรษฐีพันล้านเชียวหรอเนี่ย อิอิ ^^ ฉันถามเขาว่า .. อ้าว.. แล้วที่เรียนๆไปเนี่ย ได้เอาไปใช้บ้างปะเนี่ย.. พวก Bio-Chem กับ Computer เนี่ย >< เขาบอก.. ไม่ได้ใช้.. เขาต้องศึกษาด้านบริหารธุรกิจ และเรื่องหุ้น ด้วยตัวเอง โดยการอ่านหนังสือและดู video เขาบอกว่า การบริหาร ไม่ได้ยากถึงขั้นต้องไปเรียนในระดับปริญญา เรียนเองก็ได้ สรุปคือ ไอ้พวกวิทยาศาสตร์กับเทคโนโลยีเนี่ย คุณเรียนมาประดับความรู้ ว่างั้น ?? o.O เหอๆๆ ^^ เกิดมาไม่เจอ!! ----- นับวัน ยิ่งฉันได้รู้จักคุณคิม ฉันก็ยิ่งรู้สึกว่า เขาเป็นคนดีมากๆๆๆๆๆๆๆ ถึงแม้ว่า จะดูติงต๊องปัญญาอ่อนไปหน่อยก็เหอะ อิอิ ^^ ตอนนั้น ฉันจำได้ว่า คุณคิมเคยบอกฉันว่า.. เขายังโสด.. แหม.. คนดีๆแบบนี้ แต่ยังโสดเนี่ย.. เสียดายนะ.. >< ฉันจึงได้คิดว่า.. บางทีฉันน่าจะจับคู่ให้คุณคิมสักคนนะ.. เพื่อนๆฉัน หน้าตาน่ารัก นิสัยดีๆที่ยังไม่มีแฟน มีตั้งหลายคน ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ------- ตอนนั้น.. เวลาที่คุณคิมชวนฉันไปทำบุญหรือทำงานการกุศลที่ไหน ฉันก็มักจะชวนเพื่อนของฉันไปด้วยคนหนึ่ง ^^ เพื่อนของฉันคนนี้ เธอชื่อว่า "องุ่น" ^_^ ฉันบอกคุณคิมว่า ฉันขอชวนเพื่อนไปด้วยนะคนนึง ^^ ชื่อ องุ่น เพื่อนฉัน นิสัยดี น่ารัก เรียนเก่ง.. การงานก็ดี เป็นถึงเภสัชกรเชียวน้าาา ^^ โสดด้วย.. อิอิ ^_^ ทุกๆครั้งที่ไปทำงานการกุศล ฉันก็มักจะเปิดโอกาสให้คุณคิมและองุ่นอยู่ด้วยกัน สองต่อสอง แต่คุณคิมนี่สิ่ >< ชอบดึงฉันเข้าไปเป็น สามต่อสาม ตลอดเลย >< เขามักจะอ้างว่า.. "คุณฝ้ายอยู่ทำด้วยกันดีกว่า ^^ อยู่กับคุณองุ่นสองคน ผมเขิน อิอิ ^^ ไม่ชิน" ฉันว่า.. อีตาคุณคิมเนี่ย.. เหมือนเด็กปัญญาอ่อนมากๆๆๆๆๆๆๆๆเลย!! วันนั้น ฉันเลยตั้งฉายาให้เขาซะเลย ว่า.. คุณน้องคิมโกะจัง (น่ารักมั้ยล่ะ 5555555+ ) แล้วตั้งแต่นั้น ฉันก็เรียกเขาว่า คุณน้องๆ คุณน้องคิมโกะ ตลอดเลย 555+ ตลกมากๆๆๆๆ ------ เราสองคนเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน.. จนวันหนึ่ง.. ฉันทนไม่ไหว กับคำพูดคำจาของเขา.. ทั้งติงต๊อง ทั้งเหมือนเด็กปัญญาอ่อน แถมยังชอบพูดกลอนแทรกๆมาตลอด เดี๋ยวก็กลอนไทย เดี๋ยวก็กลอนฝรั่ง เดี๋ยวสักพักก็เทศนาธรรมะให้ฟัง สักพักชวนคุยเรื่องคอมฯ เรื่องวิทยาศาสตร์ ฯลฯ ฉันหมั่นไส้คำพูดคำจาของเขามาก... วันนั้น ที่บ้านเด็กกำพร้าแห่งหนึ่ง ฉันก็ได้เห็นอีกความสามารถหนึ่งของเขา คือ.. เขาเล่นกีต้าร์ได้เพราะมากๆๆๆๆๆ ^^ เขาเล่าให้ฉันฟังว่า.. เมื่อก่อนเขาเคยเป็นถึง มือกีต้าร์ของโรงเรียน ตอนที่ยังอยู่เมืองไทย แต่จริงๆเขาชอบเล่นเปียโนมากกว่า แต่ดันเล่นกีต้าร์เก่งกว่า หลังจากเล่นเพลงให้น้องๆฟังจบแล้ว คุณคิมก็เปลี่ยนมาสอนธรรมะน้องๆแทน ฉันมองดูเขาสอนธรรมะน้องๆพร้อมกับทำท่าติงต๊องๆให้น้องๆหัวเราะไปด้วย ฉันก็อดไม่ได้จริงๆที่จะแซวเขา "แหม.. หมั่นไส้จริงๆเลยนะคะ คำพูดคำจาเนี่ย ^^" เขาหันมามองหน้าฉัน แล้วพูดกับฉันว่า.. "หมั่นไส้ก็มากอดเลยสิ่ครับ ^^" ฉันนี่.. อึ้ง!! O.O อะไรของคุณ!! O.O อยู่ดีๆก็มาพูดแบบนี้ >< อีตาบ้าาาาาาา!! ฉันเขินนะ เหอๆๆ --' ----- ฉันทำหน้างงๆ แก้เขิน แล้วบอกเขาว่า "เดี๋ยวฝ้ายไปช่วยองุ่นแกะถุงขนมก่อนนะ ^^" แหะๆๆ ตอนนั้น ฉันคิดว่า.. อีตาคุณน้องคิมโกะเนี่ย >< อาจจะติดธรรมเนียมฝรั่งมาก็ได้ม้างงงงงงง ^^ บางทีพูดไป อาจไม่ได้คิดไร.. เราก็อย่าไปคิดมากเลยนะ ฉันเดินมาช่วยองุ่น แกะถุงขนมที่จะเอาไปแจกน้องๆ สักพักคุณคิมก็เดินมาสมทบ.. ตอนนั้น องุ่นขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ฉันกับคุณคิมนั่งแกะถุงขนมกันสองคน --' เขาถามฉันว่า.. "คุณฝ้ายครับ ทำไมคุณฝ้ายถึงอยากรู้จักผมล่ะครับ ??^^" ฉันงง o.O ถามแบบนี้ หมายความว่าไงยะ.. ?? งง .. ฉัน งง o.O ฉันตอบไปแบบ.. ไม่ได้คิดอะไร.. ตอบตามความจริง.. ฉันบอกเขาว่า "ฝ้ายชอบเล่นกับคนติงต๊องอ่ะ สนุกดี ^^" หลังจากตอบคำถามคุณคิมเสร็จ เขาก็พูดสวนขึ้นมาทันที.. "แบบนี้.. ฝ้ายก็ชอบคิม อ่ะดิ่ ^^" เอิ้กๆๆๆๆๆๆๆๆๆ O.O!! ตั้งแต่รู้จักกันมา.. ฉันไม่เคยเห็นเขาเรียกฉันว่า "ฝ้าย" เลย >< เห็นมีแต่เรียก "คุณฝ้าย!! O.O" ตอนนั้น ฉันกำลังจะแก้ตัวกับเขาว่า.. เปล่าๆ ไม่ได้ชอบแบบนั้นน้า.. แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรเลยสักคำ.. เขาพูดดักขึ้นมาก่อน.. "ชอบ... ดีกว่าไม่ชอบนะครับ " พร้อมกับส่งยิ้มหวานๆมาให้.. ตายละ --' ฉันเลย.. พูดไม่ออก ไม่รู้จะว่าไง.. ตามน้ำไปเลยละกัน เหอๆๆ ^^ "เอ่อ.. ชอบก็ชอบ อิอิ ^^" สักพัก องุ่นก็กลับจากไปเข้าห้องน้ำ แล้วมาช่วยเราสองคนนำขนมที่แกะจาก pack ไปแจกน้องๆ ^^ วันนั้น พอออกจากบ้านเด็กกำพร้า คุณคิมไปส่งฉันกับองุ่น ที่สถานีรถ เราสองคนนั่งรถทัวร์กลับบ้านต่างจังหวัดด้วยกัน ตลอดทางกลับบ้าน องุ่นมักจะพูดถึงคุณคิมตลอด ว่าคุณคิมดีอย่างงั้น ดีอย่างงี้ เป็นคนเก่งอย่างงั้น เก่งอย่างงี้.. ฉันนั่งฟังองุ่นชื่นชมคุณคิม ถ้าเป็นเมื่อก่อน ฉันคงดีใจอ่ะนะ ^^ ที่องุ่นชอบคุณคิมขนาดนี้ เพราะฉันก็ตั้งใจจะเป็น Match maker จับคู่ให้สองคนนี้อยู่แล้ว --' แต่ทำไม.. วันนี้.. ฉัน.. กลับต้อง ฝืนใจ ยิ้มออกไป เมื่อได้ยินองุ่นพูดถึงคุณคิมด้วยอาการที่รู้สึกชื่นชมเขาเป็นอย่างมาก.. ฉันนั่งถามตัวเองตลอดทางกลับบ้านว่า.. ทำไมฉันจะต้อง ฝืนใจยิ้มด้วยนะ ที่เพื่อนของฉันดูจะชื่นชมคุณคิมขนาดนั้น --' จริงๆแล้ว ฉันควรจะดีใจสิ่ เฮ้อๆๆๆๆๆ!! ---------------
จากคุณ |
:
หัวใจรัก
|
เขียนเมื่อ |
:
1 ธ.ค. 54 20:51:59
A:171.99.99.11 X: TicketID:339329
|
|
|
|
 |