Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
$$ เพียงร่าง $$$ บทที่ 5, 6, 7... ติดต่อทีมงาน

บทที่ 5


แรกพบ
 

เมื่อตอนที่เด็กกว่านี้ บอยจะรีบตื่นแต่เช้าในวันเสาร์และอาทิตย์เพื่อมาเปิดโทรทัศน์ดูการ์ตูน แต่ตอนนี้เขาไม่ค่อยติดการ์ตูนอีกแล้วจึงมักจะตื่นสายกว่าวันธรรมดามากจนบางครั้งล่วงเลยไปเกือบเที่ยงเลยก็มี แต่วันเสาร์นี้บอยตื่นเช้ากว่าปกติเนื่องเพราะมีนัด เมื่อลืมตาแล้วเขาก็ยังอิดออด ใช้เวลานอนนิ่ง ๆ อยู่บนเตียงสักพัก ที่ผนังห้องข้างเตียงด้านหนึ่งมีโปสเตอร์รูปนักดนตรีแปะไว้อยู่สี่รูป ซึ่งมีทั้ง Yngwie Malmsteen, Eric Clapton, Manuel Barueco และวง Led Zeppelin อันที่จริงเขาเคยมีเยอะกว่านี้เมื่อสมัยมัธยมต้น แต่พอโตมาอีกหน่อยเริ่มรู้สึกว่ามันรกผนังห้องจึงปลดระวางออกไปเหลือแค่สี่รูปนี้ จริง ๆ แล้วหากแกะรูปของ Barueco ออกมาจะมีรูปของ David Russell อยู่ใต้นั้น นอกจากรูปนักดนตรีทั้งสี่คนแล้ว ก็ยังมีรูปของนักฟุตบอลชาวฝรั่งเศส Thierry Henry อยู่ด้วย ส่วนที่แขวนไว้ใต้บรรดารูปถ่ายคือกีต้าร์สี่ตัวของเขา ซึ่งเป็นกีต้าร์คลาสสิคเสียสองตัว กีต้าร์โปร่งหนึ่งตัว และกีต้าร์ไฟฟ้าอีกหนึ่งตัว ส่วนบนเพดานตรงตำแหน่งที่ตรงกับหมอนหนุนเป็นรูปของ Zakk Wyld นักกีต้าร์ไฟฟ้ามือดีอีกคนหนึ่ง บอยเพิ่งเอารูปนี้มาติดไว้เมื่อช่วงปิดเทอม ส่วนเหตุที่ติดมันไว้ตรงนี้ก็เนื่องจากว่าบริเวณที่ใช้ติดรูปโดยปกตินั้นมันแน่นเกินไปแล้ว

เมื่อบอยเริ่มเล่นกีต้าร์คลาสสิคตอนชั้นม.1 ด้วยความที่มีพื้นฐานดนตรีอยู่แล้วฝีมือจึงพัฒนาได้รวดเร็วจนคุณครูส่งเข้าประกวดรางวัลต่าง ๆ แต่พอเริ่มขึ้นมัธยมปลาย เพื่อน ๆ ก็ชวนกันฟังดนตรีแนวร็อค หรือ เมททัล ซึ่งมีเสียงกีต้าร์ลีดที่บอยอยากลอง จนถึงตอนนี้บอยก็ยังรักคลาสสิคเป็นอันดับหนึ่ง แต่การลีดกีต้าร์ไฟฟ้ามันก็ช่วยให้เขาได้ฝึกเทคนิคแปลก ๆ  ถือเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศจากการเล่นคลาสสิคไม่ให้จำเจ

บอยลุกขึ้นอาบน้ำแล้วลงไปทานอาหารเช้าที่แม่เตรียมไว้ให้ กลับขึ้นมาแต่งตัวอีกครั้งด้วยชุดไปเที่ยวทำให้ดูโตขึ้นจากชุดนักเรียนในวันปกติ ก่อนหยิบเอากีต้าร์ไฟฟ้าใส่กระเป๋าแล้วเดินออกจากบ้านไป

 

นี่เป็นครั้งแรกที่บอยได้มาเจอเพื่อน ๆ ในวันหยุดนับตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุ หลังจากเจอกันที่โรงเรียน ต้อมก็พาบอยและเพื่อนอีกสองคนไปยังโรงเรียนสอนดนตรีของน้าของเขาซึ่งใช้เวลาเดินทางด้วยรถประจำทางเพียงไม่กี่นาที โรงเรียนที่ว่านี้ตั้งอยู่ในอาคารพาณิชย์สามคูหาริมถนนสายเล็ก ๆ ไม่ไกลจากโรงเรียนสามัญของพวกเขา ชั้นล่างของโรงเรียนมีส่วนที่เป็นโต๊ะประชาสัมพันธ์และการเงินรวมอยู่ในจุดเดียวกัน อีกส่วนหนึ่งยกพื้นขึ้นเล็กน้อยจัดเป็นเวทีเล็ก ๆ ซึ่งขณะนี้ว่างเปล่า ด้านหน้าอาคารเป็นหน้าต่างโชว์มีเครื่องดนตรีจำพวกกีต้าร์และไวโอลินตั้งอยู่สองสามชิ้นพร้อมป้ายแสดงราคา เมื่อเข้าไปถึง ต้อมยกมือไหว้หญิงสาวที่นั่งประจำโต๊ะประชาสัมพันธ์ และไหว้น้าชายของเขา--เจ้าของโรงเรียนวัยสี่สิบเศษที่ยืนรอต้อนรับนักเรียนอยู่ตรงหน้าโต๊ะนั้น เมื่อต้อมก้มศีรษะ ผมของเขาก็ทิ้งลงมาปรกหน้า ต้อมไม่ได้เอามือเสยมันขึ้น แต่ใช้วิธีสะบัดศีรษะไปทางซ้ายเพื่อให้ผมดีดกลับขึ้นไป  บอยคิดเอาเองอยู่เสมอว่าท่านี้คงเป็นสาเหตุที่ทำให้เพื่อนคอเอียงอยู่ทุกวันแต่ก็ไม่กล้าเอ่ยทัก

หลังจากแนะนำทำความรู้จักกันแล้ว ต้อมก็พาเพื่อน ๆ เดินขึ้นไปชั้นบนเพื่อไปยังห้องซ้อม

 

*****************

แพรวมาถึงโรงเรียนราว ๆ เก้าโมงห้าสิบนาที นี่เป็นครั้งแรกหลังจากที่เธอหยุดเรียนไปหนึ่งเดือนเต็ม แต่หากนับรวมก่อนหน้านั้น นี่ก็เป็นครั้งที่แปดแล้ว วันนี้คุณครูคงไม่มีสอนรอบที่เช้าไปกว่านี้แพรวจึงต้องเป็นฝ่ายเข้ามานั่งรอคุณครูในห้องเรียน เธอหยิบกีต้าร์คลาสสิคที่ตัวค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดตัวของเธอขึ้นมาวางไว้บนหน้าตักซ้าย เลื่อนม้ารองขาเข้ามาใกล้ ๆ แล้วยกเท้าขึ้นพาดดูทะมัดทะแมงในกางเกงยีนส์ คุณแม่เคยทัดทานเมื่อเธอเลือกจะเรียนกีต้าร์โดยให้เหตุผลว่าท่านั่งดูน่าเกลียด แต่แพรวหลงใหลในเสียงของกีต้าร์คลาสสิคตั้งแต่ยังเล็ก ๆ เมื่อพี่มัธยมปลายคนหนึ่งเล่นเพลง Romance d’Amour ให้ฟัง ในเวลานั้นเธอคิดว่ามันเป็นเพลงที่เพราะที่สุดตั้งแต่เคยได้ยินมา และสาเหตุที่เธอมาเรียนกีต้าร์ก็เพื่อต้องการจะเล่นเพลงนี้ให้ได้ แพรวถามครูตั้งแต่ชั่วโมงแรกที่เข้าเรียนว่าในหลักสูตรมีสอนเพลงนี้หรือไม่ คุณครูซึ่งเป็นชายหนุ่มวัยยี่สิบต้น ๆ ยิ้มน้อย ๆ แล้วตอบว่า

 

“มีครับ... แต่ใจเย็น ๆ นะ  ค่อย ๆ ไป อย่าใจร้อน”

“ค่ะ”

“รับรองว่า ถ้าเรารักจริงและอดทน พอรู้ตัวอีกที เราจะรู้สึกว่ามันง่ายนิดเดียว”

“เหรอคะ” แพรวไม่แน่ใจว่าเธอจะต้องการรู้สึกว่า ‘มันง่ายนิดเดียว’ หรือไม่ แพรวไม่เคยได้ฟังกีต้าร์คลาสสิคเพลงอื่น ๆ เลยเธอจึงไม่ตระหนักว่ากีต้าร์คลาสสิคนั้น แท้จริงบันดาลอะไรได้บ้าง แต่หากเพลงที่เธอใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็กกลับกลายเป็นเพลงที่ ‘ง่ายนิดเดียว’ ในเวลาไม่นาน มันจะทำให้เธอบรรลุฝัน หรือจะทำให้ฝันของเธอสลายลงกันแน่ แพรวไม่แน่ใจ

แต่ในขณะที่รอคุณครูนี้ เธอตัดสินใจไม่คิดถึง Romance d’Amour แล้วฝึกปรือบทเรียนล่าสุดตั้งแต่หนึ่งเดือนที่แล้วไปพลาง ๆ

 

*******************

ต้อมเดินนำเพื่อน ๆ เข้าไปด้านในของชั้นสองโดยมีบอยเดินรั้งท้าย เมื่อผ่านห้องเรียน ‘กีต้าร์คลาสสิค 1’ ซึ่งเปิดไฟสว่างอยู่ บอยเหลือบมองเข้าไปด้านในแล้วก็ต้องหยุดชะงัก ขาทั้งสองข้างของเขาหยุดก้าวไปข้างหน้าเองโดยฉับพลัน แต่หัวใจยังประกาศว่าแข็งแรงดีอยู่โดยเร่งจังหวะบีบตัวเร็วขึ้น บอยรู้สึกอุ่นวาบทั่วใบหน้า แต่ขาแขนเหมือนจะชาเย็น เขาหันไปมองเพื่อนซึ่งกำลังทยอยเดินเข้าห้องที่อยู่ริมสุด เมื่อบอสเข้าไปเป็นคนสุดท้าย ความเคลื่อนไหวที่ทางเดินก็หยุดนิ่งไปชั่วขณะก่อนบอสจะชะโงกหน้ากลับออกมาจากห้อง บอสมองหน้าบอยส่งสายตาเป็นเครื่องหมายคำถาม เมื่อเห็นว่าไม่มีคำตอบจากบอยนอกจากการพยักหน้า บอสก็กลับเข้าห้องไปและปิดประตู

บอยยืนห่างออกมาจากห้องเรียน ‘กีต้าร์คลาสสิค 1’  พอประมาณจนแสงไฟจากห้องไม่ส่องมากระทบใบหน้าเขา เขาจ้องเด็กสาวอยู่อย่างนั้นในใจว้าวุ่นอยากจะเข้าไปทักที่สุด  เขารู้ว่านี่น่าจะเป็นโอกาสที่เหมาะสมไม่น้อย... นักเรียนโรงเรียนเดียวกัน มาเจอกันนอกโรงเรียนโดยบังเอิญ... แต่เธอจะรู้ไหมหนอว่าเขาเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกับเธอ  ถ้าเธอจำเขาไม่ได้ เขาก็คงจะหน้าแตก บอยพะวักพะวงยืนนิ่งอยู่ราวสองสามนาทีได้ ก่อนที่จะได้ยินเสียงทักจากด้านหลัง

 

“นี่ห้องเรียนกีต้าร์คลาสสิคครับ กีต้าร์ไฟฟ้าอยู่ชั้นสามนะ” เมื่อบอยหันกลับมาที่ต้นเสียง เขาก็ตกใจระคนประหลาดใจไม่แพ้ผู้พูดเช่นกัน “อ้าว บอย... มาทำอะไร... มาสอนหรือมาเรียน”

“ครูนพ สวัสดีครับ” บอยยกมือไหว้ชายหนุ่มรุ่นพี่ ชายหนุ่มมือหนึ่งถือกีต้าร์ อีกมือหนึ่งหอบหิ้วหนังสือพะรุงพะรังจึงรับไหว้ได้ด้วยการยกแขนสองข้างให้สูงขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น

“หวัดดีครับ แล้วมาทำอะไรเนี่ยเรา”

“มาซ้อมดนตรีกับเพื่อนน่ะครับ จะเล่นงานโรงเรียน”

“เออ... ไม่เจอกันนานเลย สบายดีนะ โตเป็นหนุ่มแล้วนี่เรา... สูงกว่าครูแล้วนะเนี่ย...” ชายหนุ่มพูดยิ้มกลั้วหัวเราะ “ว่าแต่เปิดประตูให้ครูก่อน ไม่ไหวแล้ว”

บอยอ้ำอึ้ง ใจเต้นเร็วขึ้นจนจะหลุดออกจากอกก่อนหมุนลูกบิดประตูเปิด

 

เด็กหญิงที่นั่งดีดกีต้าร์อยู่เงยหน้าขึ้นมอง เมื่อเห็นผู้ที่เดินเข้ามาก็งุนงง เด็กชายวัยรุ่นที่ยืนอยู่ตรงหน้านั้นคุ้นตาเป็นที่สุด แม้ขณะนี้จะบ่ายหน้าไปทางอื่นไม่ยอมสบตาเธอก็ตาม ในแว่บแรกเธอจำได้แน่นอนว่าเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ในชั่วขณะถัดมาเธอก็นึกภาพตอนที่เขาหกล้มตอนเล่นบาสเมื่อวันจันทร์ขึ้นมาได้ทำให้ความประหลาดใจยิ่งเพิ่มขึ้น ...ก่อนที่เธอจะสับสนมากไปกว่านี้ นพก็อธิบายขณะเดินเอาสัมภาระไปวางกองไว้บนโต๊ะใกล้ ๆ กับประตู

 

“น้องแพรว นี่... บอยนะ เอ๊ะ บอยอายุเท่าไหร่แล้วเนี่ย”

“15 กำลังจะ 16 ครับ”

“อ้าว งั้นก็เป็นน้องแพรวน่ะสิ”

“เรียนชั้นเดียวกันครับ” บอยตอบด้วยเสียงแหบพร่า นพมองหน้าบอยสลับกับแพรว

“อ้าว... รู้จักกันแล้วเหรอ”

“อยู่โรงเรียนเดียวกันค่ะ แต่คนละห้อง” แพรวเป็นฝ่ายตอบและอดแปลกใจไม่ได้ที่เขาจำเธอได้  ข้างบอยนั้นใจเต้นจนกลัวว่าแพรวจะได้ยินแน่ ๆ หากเดินเข้าไปใกล้เธอมากกว่านี้ เขาจึงรักษาระยะไว้เพียงเท่าที่เป็นอยู่

“อ๋อ... เออ มันอยู่ใกล้แค่นี้เองนี่นา บอยเคยเรียนกับครูอยู่ เพิ่งเลิกได้เมื่อปีที่แล้วเอง ใช่ไหมนะบอย” นพหันไปบอกแพรว ก่อนกลับมาถามบอย

“ครับ ปีกว่า ๆ... อะอึ้ม” จู่ ๆ เสมหะก็พันคอ เสียงบอยสั่นพร่าจนเขาต้องกระแอมไอเรียกเสียงกลับมา

“ครูไปเรียนต่อ กลับมาก็ได้สอนที่นี่ แต่ที่เดิมก็ยังสอนนะ แต่ครูไม่เห็นบอยแล้ว”

“เลิกเรียนแล้วครับ ตอนนี้หัดเอง”

“ถึงว่า ครูยังคิดถึงบอยอยู่เลยนะ... แต่ฝีมืออย่างเราหัดเองก็ดีเหมือนกัน มีพื้นฐานแล้วด้วย จริง ๆ บอยน่าจะเล่นให้แพรวฟังซักเพลงนะนี่ บอยเป็นศิษย์รักครูเลยนะเนี่ย” ประโยคท้ายนพพูดให้แพรวฟังพร้อมกอดคอบอย “ไม่เป็นไร ไว้โอกาสหน้าแล้วกัน มาโชว์ฝีมือให้ฟังหน่อย”

“เอ่อ... ครับ”

“แล้ววันนี้เล่นไฟฟ้าเหรอ”

“ครับ ซ้อมวงกับเพื่อน”

“อื้อ ๆ โอเคครับ งั้นตามสบายนะ”

“ครับ” ตลอดเวลาบอยใจเต้นแรงและไม่มองหน้าแพรวเลย จนเมื่อจะออกจากห้องนั่นเองจึงหันไปสบตาของแพรวซึ่งมองที่ตัวอยู่ก่อนแล้ว ทำให้ยิ่งรู้สึกเขินและเดินออกจากห้องไปอย่างลน ๆ

 

*****************

เมื่อแพรวเดินออกจากห้องเรียนหนึ่งชั่วโมงให้หลัง เสียงดนตรีที่ดังแว่ว ๆ ลอดออกมาจากประตูด้านในสุดของทางเดินดึงเธอให้เดินเข้าไปหา แพรวหยุดอยู่ตรงหน้าประตูแล้วมองเข้าไป ด้านในมีเด็กหนุ่มสี่คนเล่นเครื่องดนตรีคนละอย่าง สายตาของเด็กหญิงไปหยุดลงที่บอยซึ่งกำลังบรรเลงกีต้าร์ท่อนโซโลพอดี แพรวไม่รู้ว่าเพลงที่พวกเขากำลังเล่นคือเพลงอะไร แต่ที่เห็นคือนิ้วมือข้างซ้ายของเด็กชายพลิ้วไหวรวดเร็วไปบนคอกีต้าร์ แม้แต่นิ้วก้อยซึ่งแพรวไม่เคยคิดว่ามันจะใช้งานอะไรได้มากนัก กลับเคลื่อนไหวคล่องแคล่วอยู่บนเฟร็ตต่าง ๆ เด็กชายไล่นิ้วจากสายล่างสุดไปยังสายบนสุดอย่างว่องไว จากเฟร็ตสูงกลับลงมาเฟร็ตต่ำแล้ววิ่งกลับไปที่เฟร็ตสูง ใบหน้าของเขาก้มน้อย ๆ สายตาจับอยู่ที่คอกีต้าร์และนิ้วมือของตัวเอง กระนั้นเธอก็ไม่คิดว่าเขาจะมองความเคลื่อนไหวนิ้วมือของตัวเองได้ทันหรอก เด็กชายโยกตัวและส่ายศีรษะเบา ๆ ตามจังหวะดนตรี เม้มปาก ปลายเท้าตบเบา ๆ ให้จังหวะ เมื่อร่างสูง ๆ สมส่วน อาจจะดูเก้งก้างอยู่บ้างตามวัย เคลื่อนไหวตามจังหวะดนตรีแบบนี้ มันชวนให้น่ามองอย่างประหลาด ท่าทางนี้กับใบหน้าที่เหมือนจะขี้เล่นอยู่ในทีทำให้แพรวใจเต้นขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ

แพรวสูดหายใจเข้าลึกก่อนหันหลังเดินกลับออกมาตามทางเดินขณะที่เสียงกีต้าร์ของเพลง Stairway to Heaven ก็ยังดังแผ่ว ๆ ออกมาจากห้องนั้นและเบาเสียงลงเรื่อย ๆ เมื่อเธอเดินจากมา

 

***********************

 

ปุตตา...

อัง-ฆฌวา ปุตตา...

อัง-ฆฌวา ปุตตา...  ปุตตา!

 

บอยลุกพรวดขึ้นในเช้าวันจันทร์ เสียงนาฬิกาปลุกดังลั่นเสียดทะลุผิวเนื้อ เขาเอื้อมมือไปกดปิดมันพลันความรู้สึกแปลกแยกประหลาดนั้นเริ่มก่อตัววุ่นวายอยู่ที่ปลายสุดของสัมปชัญญะ เสียงบางสิ่งบางอย่างแว่วเบา ๆ ในหัวเหมือนเสียงตะโกนที่สะท้อนกลับไปมาระหว่างซอกผา เด็กชายใส่กางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียวรู้สึกหนาวขึ้นมาจนเหมือนจะไม่สบาย เขาสั่นศีรษะเร็ว ๆ แล้วหยิบรีโมทขึ้นมาปิดเครื่องปรับอากาศ ก่อนลุกขึ้นจากเตียง

 

“บอย บอย บอย!”

 

เขาเรียกชื่อตัวเองด้วยใบหน้าเคร่งเครียดยุ่งเหยิงก่อนเดินเข้าห้องน้ำไป ในใจระลึกถึงสิ่งที่ค้างคาอยู่เมื่อหลายวันที่แล้วขึ้นมาได้อย่างชัดเจน

จากคุณ : nbfz20
เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 54 01:40:54




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com