Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๑๐ เสียงกรีดร้องของไพรินทร์) ติดต่อทีมงาน

ความลับฤดูหนาว  (บทที่ ๑ ศพเดินได้)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11309801/W11309801.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๒ คนบ้าในกรงขัง)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11321605/W11321605.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๓ ชายหนุ่มและสมมุติฐาน)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11331282/W11331282.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๔ รูปจำลองเสมือนจริง)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11338619/W11338619.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๕ คำเตือนของอัศวิน)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11350818/W11350818.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๖ จดหมายจากแดนไกล)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11358855/W11358855.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๗ การเดินทางของวสันต์)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11367272/W11367272.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๘ ดวงดาวผู้เป็นพยาน)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11379302/W11379302.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๙ กระดาษและกระดุมเสื้อ)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11394554/W11394554.html#2



บทที่ ๑๐ เสียงกรีดร้องของไพรินทร์

การตายของสกาวเดือนครั้งนี้เกี่ยวข้องกับการตายของจันทร์หอมโดยไม่ต้องสงสัย นับแต่อัศวินเอาเรื่องคำสาปแช่งที่เขียนบนกระดาษแผ่นนั้นไปเปิดเผยให้ทุกคนได้รับรู้ พวกชาวบ้านต่างก็พากันวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา คงเพราะเขาไม่เคยเกรงกลัวอิทธิพลของคานพิภพ หรือเพราะยังฝังใจกับคดีจันทร์หอมที่ยังเป็นปริศนาอยู่ เลยทำให้เขาจงใจจะเผยแพร่ข่าวนี้ให้กระจายไปทั่วทั้งเมือง

เพราะเป็นประเพณีดั้งเดิมที่มีมานานจึงต้องตั้งศพไว้ที่บ้านจนครบสามวันก่อนนำไปฝังที่ป่าช้า ร่างไร้ชีวิตของสกาวเดือนนอนสงบนิ่งอยู่ในโลงไม้ที่ตั้งอยู่ตรงกลางเรือนหลังกลางแห่งคานพิภพ ไพรินทร์ต่างนำลูกน้องจากโรงไหมส่วนหนึ่งมาช่วยทำกับข้าวและต้อนรับแขก ส่วนภูมิพงษ์ก็เกณฑ์คนงานชายจากโรงไม้ราวห้าหกคนมาช่วยในงานด้วยเช่นกัน

สีหน้าของผู้ใหญ่ในบ้านคานพิภพทุกคนล้วนเคร่งเครียด โดยเฉพาะพิมพ์พาและทรงพล ฝ่ายแม่นั้นเป็นลมจนถึงบ่ายกว่าจะฟื้นตัว ส่วนฝ่ายพ่อก็เอาแต่นั่งเงียบไม่ยอมพูดจากับใครกระทั่งเย็น ยังดีที่ได้ไพรินทร์และภูมิพงษ์ที่คอยจัดการงานทุกอย่างในบ้านให้

ฟ้าฉายหลบมานั่งอยู่ก้นครัวช่วยบัวเรียวทำอาหารเย็นเพื่อเอาไว้เลี้ยงแขกส่วนเศรษฐพงษ์และคนงานชายบางส่วนก็ตรงไปยังวัดเพื่อไปรับพระสงฆ์ที่จะเดินทางมาสวดศพคืนแรก

“อ้าวคุณฟ้า ไม่ได้อยู่บนเรือนคอยรับแขกช่วยคุณอรเหรอคะ แล้วคุณฟ้าจะอาบน้ำเลยมั้ยคะ เดี๋ยวบัวเรียวต้มน้ำให้” หญิงคนงานว่าก่อนหยิบพริกขี้หนูที่หั่นหยาบๆ ลงหม้อดินที่กำลังเดือดได้ที่

“ฉันไม่รู้จักใครเลยซักคน ให้อรกับแสงดาวคอยรับหน้าพวกชาวบ้านที่มาจะดีกว่าจ้ะ ส่วนเรื่องอาบน้ำไว้อาบครั้งเดียวตอนนอนดีกว่า” ฟ้าฉายฉวยเอาต้นหอมมาหั่นแก้เซ็งเมื่อพูดจบ บัวเรียวหันมายิ้มบางๆ ให้กับหญิงสาวผู้เลอโฉมกว่าตนก่อนหยิบเนื้อไก่ลงหม้อ

“เออ...บัวเรียว” ฟ้าฉายคล้ายนึกบางอย่างขึ้นได้ก่อนที่บัวเรียวจะหันขวับมามองเธอตาโต “เมื่อวานนี้ตอนที่บัวเรียวกำลังวิ่งกลับไปเอาชาที่บ้าน บัวเรียวเห็นแสงไฟเล็กๆ ทางสวนดอกไม้ท้ายเรือนใหญ่มั้ย?”

“คุณฟ้าก็เห็นเหรอคะ...” หญิงคนงานทำหน้าเหวอคล้ายกำลังเห็นผี ฟ้าฉายพยักหน้าหงึกหงักแทนคำตอบก่อนที่บัวเรียวจะหลับตาปี๋ “ทีแรกหนูนึกว่าเป็นผีโพง แต่พอจ้องมองดูดีๆ มันก็ไม่ใช่”

“เหมือนแสงเทียนใช่มั้ย แล้วใครที่ไหนจะมาเดินจุดเทียนแถวสวนดอกไม้แบบนั้น พวกตำรวจที่ออกค้นหาหลักฐานก็ไม่เจอเทียนซักเล่ม นั่นแสดงว่าสกาวเดือนไม่ได้เป็นคนจุดเทียน” ฟ้าฉายก้มหน้าคิดก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองบัวเรียวคล้ายนึกบางอย่างขึ้นได้ ร่างระหงลุกจากแคร่ไม้ก่อนวิ่งผลุนผลันออกจากครัวขึ้นไปบนเรือนใหญ่ อรอนงค์เชิดหน้ามองเพื่อนสนิทที่กำลังเมียงมองหาใครบางคนอยู่หน้าเรือนก่อนที่ร่างอรชรจะเดินไปลากแขนอัศวินออกมาจากกลุ่มชายหนุ่มที่กำลังจับกลุ่มคุยกันอย่างออกรสชาติ

แทนที่จะโกรธกลับผายยิ้มกรุ้มกริ่มเมื่อถูกมือนิ่มเกาะแขนไว้แน่น “มีอะไรครับคุณฟ้า...ช้าๆ ก็ได้ครับผมไม่หนีไปไหนหรอก” ชายหนุ่มหัวเราะน้อยๆ ใบหน้าคมเข้มแดงก่ำเพราะสาโทบ้านนา แต่เขาก็ยังคงทรงตัวได้และมีสติเกือบจะสมบูรณ์

“ฉันมีเบาะแสเรื่องสกาวเดือนถูกฆ่าตาย เมื่อคืนนี้ฉันกับบัวเรียวเห็นแสงเทียนเล็กๆ ทางสวนดอกไม้หลังเรือนใหญ่” เธอยังคงจับแขนแข็งแรงนั้นไว้แน่น “นายต้องไปเรียกคนในบ้านมาสอบปากคำเดี๋ยวนี้ว่าเมื่อคืนมีใครจุดเทียนแล้วเดินไปแถวสวนหลังบ้านรึเปล่า?”

“จริงเหรอครับคุณฟ้า...” รอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้าคมคายเลือนหายไปโดยฉับพลัน

“ฉันมีบัวเรียวเป็นพยาน เราสองคนเห็นแสงเทียนนั่นในขณะที่บัวเรียวกำลังวิ่งกลับไปเอาชาที่เรือนนายภูมิพงษ์และอีกสิบนาทีให้หลังเธอก็วิ่งมาบอกว่าสกาวเดือนผูกคอตาย” อัศวินนิ่วหน้าพร้อมกับขบกรามแน่น ชายหนุ่มหันกลับไปมองเหล่าสมาชิกคานพิภพที่ต่างก็กำลังง่วนกับการต้อนรับแขกที่เริ่มทยอยมาในงาน

“เอาไว้ให้พระสวดเสร็จก่อนได้มั้ยครับ แต่ยังไงให้คุณฟ้าไปพบพ่อผมก่อนรวมทั้งบัวเรียวด้วย” อัศวินผายมือไปทางซ้ายก่อนเดินนำหน้าเธอลงจากเรือนตรงไปหานายอำพลที่ยืนสูบบุหรี่คุยกับผู้ใหญ่บ้านอยู่ที่ศาลาหน้าเรือน


“อรอนงค์บอกว่าแสงดาวกับสกาวเดือนมักจะแอบเล่น...กับนายบุญยงค์อยู่บ่อยๆ นะค่ะ” ฟ้าฉายฝืนยิ้มฝืดๆ ก่อนถอนหายใจ นายอำพลทิ้งบุหรี่ลงพื้นก่อนใช้ปลายเท้าบี้ เขาหันไปทางผู้ใหญ่บ้านแวบหนึ่งก่อนที่ฟ้าฉายจะแทรกขึ้น

“ไม่เป็นไรค่ะ ให้ลุงผู้ใหญ่ฟังด้วยจะดีมาก” หญิงสาวบอกอย่างมาดมั่น ชายวัยห้าสิบยิ้มให้เธอก่อนที่ฟ้าฉายจะเริ่มเล่า “สมมุติว่าคืนนั้นบุญยงค์เกิดนัดสกาวเดือนไปที่ไหนสักแห่งหลังสวน โดยใช้แสงเทียนเป็นสัญญาณ แล้วจากนั้น...เมื่อสกาวเดือนเห็นแสงเทียนที่ฆาตกรจุดขึ้น เธอก็เลยเดินตามแสงนั่นไป...และถูกฆ่าในที่สุด”

“งั้นก็แสดงว่านายบุญยงค์เป็นคนฆ่าเธอ?” ผู้ใหญ่บ้านว่าขึ้น กระแสลมอันเย็นยะเยือกพัดใส่สามร่างที่ยืนคุยกันหน้าศาลา

“ผมว่าเราไปคุยกันบนศาลาดีกว่า...เชิญจ้ะหนูฟ้าฉาย” นายอำพลเสนอขึ้น ก่อนที่ฟ้าฉายจะเดินนำชายทั้งสองเข้าไปนั่งภายในศาลาที่มีตะเกียงไฟเล็กๆ จุดให้แสงสว่าง

“เมื่อกี้หนูว่าอะไรนะ มีคนจุดเทียนล่อสกาวเดือนไปงั้นเหรอ? แต่หนูบอกเองนี่ว่าเห็นแสงนั่นตอนที่บัวเรียวกำลังวิ่งกลับบ้านคานพิภพ นั่นมันห่างจากเวลาที่นายบุญยงค์พบศพไม่มากเลยนะ...เขาคงไม่ฆ่าเธอและจับแขวนคอโดยใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีหรอกนะ”

สายตาอันแหลมคมของนายตำรวจสูงวัยไม่ทำให้หญิงสาวประหม่าเลยแม้แต่น้อย เธอยังคงวางสีหน้ามาดมั่นเฉกเช่นเดิม เชื่อว่าเธอมองเหตุการณ์ฆาตกรรมครานี้ไม่ผิดแน่ “ค่ะ ไม่ใช่บุญยงค์ที่เป็นฆาตกร เพราะแสงเทียนที่ฟ้ากับบัวเรียวเห็นมันเป็นแสงเทียนของนายบุญยงค์นั่นแหละ”

“นี่หนูกำลังจะบอกว่า...” ผู้ใหญ่บ้านอ้าปากค้างไปชั่วขณะ ฟ้าฉายสูดหายใจเข้าปอด ท่าทีฮึกเหิม

“บุญยงค์จุดเทียนเพื่อจะส่งสัญญาณให้กับสกาวเดือนเพื่อให้เธอเดินตามเขาไป แต่ปรากฏว่าเขากลับไปพบเธอห้อยโตงเตงอยู่บนต้นไทรย้อยแทน”

“แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าแสงเทียนที่หนูเห็นเป็นของบุญยงค์...” อำพลถามเสียงขรึมเหมือนใบหน้า

“ก็ถ้าไม่ใช่บุญยงค์หนูก็คงไม่ทราบแล้วล่ะค่ะว่าใครจะเป็นคนจุดเทียนแล้วเดินไปทางสวนดอกไม้หลังจากที่สกาวเดือนถูกฆ่า หรืออาจจะเป็นแสงดาว...เธอกับบุญยงค์ต่างก็มีความสัมพันธ์กันลึกซึ้ง หรือเธอรู้ว่าน้องสาวเกิดชอบพอบุญยงค์เลยวางแผนฆ่าสกาวเดือน... แต่ก็ไม่น่าเป็นไปได้...” หญิงสาวนิ่วหน้าก่อนถอนหายใจ

“หนูฟ้า...ประเด็นของหนูฟังดูสับสนอยู่มากนะ บ้านนี้ทุกคนต่างก็มีเทียนกันหมด แต่เอาเป็นว่าลุงจะเก็บสิ่งที่หนูบอกวันนี้ไว้แล้วกัน เชื่อว่าเราต้องได้อะไรดีๆ เพิ่มเติมแน่...อย่าเพิ่งท้อแท้ล่ะ ไอ้วินลูกชายลุงมันก็หวังกับคดีนี้ไว้สูงเหมือนกัน มันบอกว่าจะกระชากหน้ากากฆาตกรออกมาให้ได้ คงเพราะรู้สึกแย่ที่พ่อตัวเองแสดงความไม่มีน้ำยาคราวที่เกิดคดีจันทร์หอมล่ะมั้ง...” นายอำพลหัวเราะร่าพร้อมกับผู้ใหญ่บ้าน หญิงสาวฝืนยิ้มฝืดๆ ให้ชายคราวพ่อทั้งสองก่อนที่ทั้งสามจะรีบกลับขึ้นไปบนเรือนเมื่อได้ยินเสียงสวดอภิธรรมดังขึ้น


ฟ้าฉายพยายามข่มตาหลับลงอย่างยากลำบาก เธออยากจะเดินเข้าไปถามนายบุญยงค์ให้รู้แล้วรู้รอด หากว่านี่เป็นการแก้แค้นจากจันทร์หอมจริงเรื่องมันคงไม่จบลงแค่นี้แน่ แต่แล้วทำไมฆาตกรต้องเลือกที่จะลงมือฆ่าสกาวเดือนด้วยล่ะ? และเมื่อฆ่าเธอแล้วทำไมถึงไม่ทิ้งจดหมายแล้วเขียนบอกความจริงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีต หรือว่าคนที่ฆ่าสกาวเดือนจะไม่ใช่จันทร์หอม มันเป็นอย่างนั้นแน่นอนฟ้าฉาย ถ้าจันทร์หอมยังมีชีวิตอยู่ตอนนี้เธอคงอายุสี่สิบปีกว่าแล้ว คงไม่มีเรี่ยวแรงพอจะลากศพขึ้นไปแขวนคอแบบนั้นได้แน่ แล้วฆาตกรเป็นใคร? แล้วทำไมเขาต้องฆ่าสกาวเดือนด้วย?

ฟ้าฉายถอนหายใจยาวจนได้ยินเสียง อรอนงค์พลิกตัวหันมามองผู้เป็นเพื่อนที่นอนข้างกัน “นอนไม่หลับเหรอฟ้า” เธอถามด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อนก่อนที่ฟ้าฉายจะพยักหน้าน้อยๆ

“เธอกลัวรึเปล่าอร?...” คำถามจากเพื่อนสนิททำให้อรอนงค์ตาสว่างวาบขึ้นมา ดวงหน้าอิ่มเอมซีดเผือดลงเพราะอากาศที่เย็นจัด สองตากลมใสของฟ้าฉายเพ่งมองเธออย่างรอคำตอบ

“กลัวว่าจะกลายเป็นเหมือนสกาวเดือนใช่มั้ย? ฉันไม่รู้ว่าใครเป็นคนเขียนกระดาษนั่น แต่ว่าฉัน...ถึงฉันจะกลัวสักแค่ไหนแต่ฉันก็ต้องอยู่ต่อไป” อรอนงค์กัดฟันแน่น ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมา

“บางทีการตายของสกาวเดือนอาจจะบอกบางอย่างแก่คนในบ้านคานพิภพก็ได้นะ...”

“หมายความว่ายังไง มันเกี่ยวกับเรื่องเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนเหรอ?” อรอนงค์อ้าปากค้าง ก่อนที่ฟ้าฉายจะเม้มปากยิ้มเรียบๆ ด้วยสีหน้าเย็นชา

“พรุ่งนี้อร...พรุ่งนี้ก็จะรู้ว่ามันเกี่ยวกับเรื่องเมื่อยี่สิบปีก่อนรึเปล่า” ฟ้าฉายพริ้มตาหลับลง หญิงสาวจินตนาการถึงคำตอบที่จะได้รับจากปากอัศวินเกี่ยวกับเรื่องลายมือที่เขียนคำสาปแช่งในกระดาษนั่น

แต่เมื่อสองสาวพริ้มตาหลับลงได้ไม่นานเสียงกรีดร้องของใครบางคนก็ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบสงัดของค่ำคืนแห่งฤดูหนาว อรอนงค์และฟ้าฉายต่างดีดตัวลุกขึ้นนั่งพร้อมกันก่อนจะรีบวิ่งไปเปิดประตูและสาวเท้าลงจากเรือนอย่างรวดเร็ว

ฟ้าฉายเห็นผู้ชายจากเรือนใหญ่สองสามคนวิ่งเหยาะๆ ไปทางเรือนของนางไพรินทร์ ก่อนที่เธอจะรีบก้าวขาตามไปอย่างไม่ต้องคิด อรอนงค์รีบคว้าเอาตะเกียงไฟจากมือบัวเรียวมาถือไว้ก่อนจูงแขนหญิงแม่บ้านวิ่งตามฟ้าฉายไป
เมื่อมาถึงเรือนฝั่งซ้ายที่เงียบสงัดฟ้าฉายก็ได้รู้ว่าผู้ชายสามคนที่กำลังตบประตูร้องเรียกนางไพรินทร์เป็นภูมิพงษ์และพวกคนงานจากโรงไม้อีกสองคน ทั้งหมดนอนรวมกันที่เรือนใหญ่

เมื่อปราศจากเสียงตอบรับ ภูมิพงษ์จึงสั่งให้ลูกน้องพังประตูห้องนอนของผู้เป็นพี่สาวเข้าไป ก่อนจะได้เห็นหญิงวัยห้าสิบนั่งร้องไห้บนเก้าอี้หน้าตู้กระจก ที่ปลายเท้าเธอมีซองจดหมายฉบับหนึ่งหล่นอยู่ใกล้ๆ ในมือของหญิงสูงวัยกำกระดาษแผ่นหนึ่งไว้แน่น

“ออกไป...ออกไปให้พ้น” เธอตวาดใส่พวกผู้ชายที่พังห้องเธอเข้ามา ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ ริมฝีปากบิดเบี้ยวไม่เป็นรูป ฟ้าฉายต้องคอยชะเง้อคอมองผ่านร่างหนาของพวกผู้ชายเพื่อจะได้เห็นหน้านางไพรินทร์ชัดๆ

ภูมิพงษ์ก้าวขาเข้าไปหาก่อนเอ่ยถามเสียงค่อย “เกิดอะไรขึ้นพี่รินทร์ เมื่อกี้พี่ร้องทำไม? ใครทำอะไรพี่รึเปล่า?” เขายื่นมือไปแตะต้นแขนพี่สาวก่อนที่นางไพรินทร์จะปัดมืออีกฝ่ายออกอย่างแรง เธอหายใจแรงจนได้ยินเสียง ขึงหน้าใส่ชายหนุ่มทั้งสามที่กรูกันเข้ามาในห้องเธอ

“ฉันบอกพวกแกให้ออกไปไง ไม่มีอะไรทั้งนั้น ออกไปให้พ้น...” หญิงวัยห้าสิบผู้มีบุคลิกสุขุมเรียบร้อยตะโกนร้องสุดเสียงก่อนจะยกสองมือขึ้นปิดหน้าและร้องไห้สะอึกสะอื้น กระดาษที่ถืออยู่ในมือพลันร่วงหล่นลงพื้น กระดาษ...ที่อยู่ในซองจดหมายซองนั้น...

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นฟ้า คุณอาไพรินทร์เป็นอะไร?” อรอนงค์สะกิดต้นแขนฟ้าฉายเบาๆ ก่อนที่หญิงสาวจะเดินนิ่วหน้าออกมาจากหน้าห้องตามหลังด้วยพวกคนงานชายและนายภูมิพงษ์ อรอนงค์รีบตรงปรี่เข้าไปหาบิดาด้วยความตื่นตระหนก แต่ไม่ทันจะได้เอ่ยปากถาม เสียงตะกุกตะกักที่ดังอยู่ใต้ถุนเรือนก็ทำให้ทั้งหมดต้องหันมามองหน้ากัน

จากคุณ : ผีเสื้อสีดำ
เขียนเมื่อ : 30 พ.ย. 54 08:56:25




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com