Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
^แค่ใคร...ในความทรงจำ^ ติดต่อทีมงาน

แค่ใคร...ในความทรงจำ

เคยไหม...ไม่ได้ตั้งใจจะจำ
แต่...ไม่ลืม

ช่วงเวลาสั้น ๆ ของชีวิต กลับเนิ่นนานและเต็มไปด้วยเรื่องราวที่จารึกไว้...ในหัวใจ

...อย่าสร้างเยื่อใย อย่าผูกสัมพันธ์...เพราะช่วงเวลาสั้น ๆ มันไม่มากพอให้สานต่อ และบางครั้งก็แสนสั้น...จนเราไม่มีวันเข้าไปอยู่ในความทรงจำของใครคนนั้น

เพราะอย่างนี้จึงต้องบอกตัวเองไว้เสมอ

Stop love, before pain.

เพียงแค่ความใจดี ความอ่อนโยน ความนุ่มนวล ความเมตตาที่มีให้...บางครั้งมันก็เป็นแค่ธรรมชาติของใครบางคน ไม่เคยมีอะไรพิเศษ

เราต่างหาก...ที่หลงคิดหาความพิเศษ

...อย่างไม่บริสุทธิ์ใจ !!!



หญิงสาวถอนใจเบา ๆ เหลือบมองโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะทำงานอย่างเบื่อหน่าย ก่อนจะเหยียดริมฝีปากเบา ๆ กึ่งหยันกับตัวเองด้วยอารมณ์กึ่งสมเพช

...เคยไหม? นั่งรอสายใครบางคน ทั้งที่รู้ว่าเขาไม่มีวันโทร.มา...

“ชีวิตมันก็อย่างนี้ละ...พบเพื่อพราก รู้จักเพื่อลา แกจะบ้าอะไรนักหนาวะ” เพื่อนสาวร่วมห้องเดินมาตบไหล่บอก ก่อนจะเดินเข้าไปที่เคาท์เตอร์บาร์เล็ก ๆ ซึ่งจัดเป็นครัวฝรั่งขนาดย่อม

“ไม่ได้บ้า...แต่ขอหัวงหน่อยได้ไหมละ”

“นี่ไม่เรียกหวัง มันเรียกว่าฝัน...อ่อ จะเรียกเพ้อก็ได้”

“ต่างกันยังไง”

“หวังยังมีวันเป็นจริง แต่ฝันหรือเพ้อ...มันอิมพอสซิเบิล” เพื่อนรักให้กำลังใจกันด้วยความรักอย่างสุดซึ้ง “คนบางคนนะแก...ผ่านเข้ามาเพื่อให้เรารู้จักบางอย่างแล้วเขาก็จะผ่านไป เป็นแค่ใครสักคนในความทรงจำ ไม่ใช่คนในชีวิต”

“ไม่ต้องมาซึ้ง มาคม...คนกำลังเพ้อ แกก็รู้ว่ามันหายยาก”

“ไปวัด นั่งสมาธิหน่อยไหมแก” เพื่อนรักส่งแก้วกาแฟให้แล้วเอ่ยกลั้วหัวเราะ

คนเพ้อย่นจมูกเบา ๆ “ไอ้บ้า...”

“จริงจังนะโว้ย...นั่งสมาธิบ้าง แก้เพ้อ”

“กลัวเพ้อหนักกว่าเก่า แทนที่จะท่องพุทโธ เดี๋ยวจะกลายเป็นชื่อเขาแทน”

คราวนี้เพื่อนรักหัวเราะชอบใจ “อะไรจะหนักขนาดนั้น...เขาดีมากหรือ”

“อือ...” เธอตอบรับแล้วถอนใจเบา ๆ ภาพวันวานที่เพิ่งผ่านมาเพียงไม่นานชัดเจนอยู่ในหัวราวเกิดขึ้นต่อหน้า



...เขายกเก้าอี้ให้เราก่อนตลอด ถ้าไม่มีเก้าอี้ตัวที่สอง เขาจะไม่นั่งเด็ดขาด...

หญิงสาวหัวเราะเบา ๆ ภาพในห้องผ่าตัดชัดเจนอยู่ตรงหน้า พื้นกระเบื้องลายกรวดเม็ดเล็ก ผนังรอบด้านเป็นกระเบื้องสีเขียวรูปสี่เหลี่ยม แสงไฟจัดจ้าจากโคมกลางห้องเหนือเตียงผ่าตัด แพทย์ พยาบาลในชุดสีเขียวอ่อนเขียนชื่อโรงพยาบาลตัวเล็กเป็นลายห่าง ๆ

ชีวิตนักศึกษาแพทย์ในห้องผ่าตัดคุ้นชินกับการเป็นวอลเปเปอร์ประดับผนัง ใครโชคดีหน่อยก็ได้รับคำชวนหรือคำอนุญาตให้เข้าช่วยอาจารย์รุ่นพี่ การยืนขาแข็งอยู่ติดผนังห้องจึงเป็นเรื่องธรรมชาติที่ทุกคนคุ้นกันดี

เธอเองก็คุ้นกับชีวิตเช่นนั้น หญิงสาวยืนตัวลีบอยู่ข้างผนังห้อง รอให้พยาบาลวิสัญญีใส่ท่อช่วยหายใจให้ผู้ป่วย

“อ้าว...วันนี้เข้าเวรด้วยเหรอ” ศัลยแพทย์หนุ่มเอ่ยทักอย่างจำได้

“อ๋อ...ค่ะ ก็จะได้เรียนรู้อะไรบ้าง” เธอตอบกลั้วหัวเราะ เพราะความจริงการมาลงวิชาเลือกภายนอกคณะก็เหมือนดูงานผสมกับมาเที่ยว ไม่ต้องทำงานหนักเหมือนอยู่ในโณงเรียนแทพย์ แต่การปล่อยเวลาให้ผ่านเลยโดยไม่เรียนรู้ให้เต็มที่ก็เป็นเรื่องที่หญิงสาวยอมไม่ได้จริง ๆ

“ฟิตนะนี่...ตั้งใจจะเรียนศัลย์ฯจริง ๆ เหรอ”

“อือ...หนูว่ามันน่าสนุกดีน่ะ”

แล้วบทสนทนาก็เริ่มขึ้น วนไปสู่เรื่องราวต่าง ๆ จนเขาชวนเธอไปล้างมือ เข้าฟิลด์ช่วยผ่าตัด และเมื่อเสร็จสิ้นลง รุ่นพี่หนุ่มยังชวนเธอมาดูการเขียนบันทึกการผ่าตัด

เก้าอี้กลมหน้าโต๊ะมีเพียงตัวเดียว เขาหันมามองหน้าเธอซึ่งเอียงคอน้อย ๆ ก่อนจะเดินไปบริเวณหัวเตียง เลื่อนเก้าอี้กลมแบบมีล้อมาหน้าโต๊ะ “นั่งสิ...” บอกเบา ๆ แล้วรอจนเธอนั่ง ก่อนจะนั่งลงตาม แล้วเปิดแฟ้มประวัติผู้ป่วย

เขานั่งอธิบายเรื่องการลงบันทึกการผ่าตัด แต่เธอนั่งยิ้ม...ขำกับความเป็นสุภาพบุรุษที่เขามอบให้ผู้หญิงที่ไร้วามเป็นสุภาพสตรีอย่างเธอ

เหอะ...ชีวิตในโรงเรียนแพทย์ไม่ได้ทำให้เขารู้บ้างหรือ ว่านักศึกษาแพทย์สาว ๆ หลายคนก็ไม่ได้เรียบร้อยอ่อนหวานด้วยโครโมโซมเอ็กซ์เอ็กซ์เสมอไป

เธอเป็นหนึ่งในมนุษย์ที่ห้าวกว่าพวกเอ็กซ์วายเสียด้วยซ้ำ

เหอะ...เจนท์ผิดคนแล้ว...ค่ะพี่



คนไข้จากโรงพยาบาลอำเภอที่ไม่มีศัลยแพทย์ถูกส่งมาเพื่อรับการผ่าตัดรักษาหลายราย กว่าจะได้ลงจากห้องผ่าตัดก็เกือบตีสอง รุ่นพี่หนุ่มหันมามองหน้ารุ่นน้องที่มีฝึกงาน

“เจอกันข้างหน้านะ เดี๋ยวเดินไปด้วยกัน”

เธอแค่พยักหน้ารับ แล้วเดินแยกไปเข้าห้องแต่งตัวหญิง เปลี่ยนจากชุดเข้าห้องผ่าตัดเป็นชุดนักศึกษาครึ่งท่อน คือมีเพียงเสื้อเชิ้ตขาวปล่อยชายคลุมกระโปรงสอบสีดำ แล้วตวัดเสื้อกาว์นตัวยาวคลุมทับปิดบังความไม่เรียบร้อย

เมื่อเดินออกมาจากห้อง เขารออยู่ข้างหน้าก่อนแล้ว น่าหมันไส้ผู้ชายที่ยังดูดีแม้ทำงานมาเกือบยี่สิบชั่วโมง เขาสวมเสื้อเวรเป็นเสื้อคอวีแขนสั้นสีเขียวอ่อนกับกาวเกงธรรมดา อาจจะเป็นเพราะแว่นกรอบเหลี่ยมบนหน้า หรืออาจเพราะกลิ่นน้ำหอมจาง ๆ ที่ยังติดตัวทำให้เธอเผลอมองเขานานกว่าสิบวินาที

เขาพาเธอเดินมาทางอาคารด้านหลังซึ่งเป็นที่พักของบุคลากรในโรงพยาบาล ถนนโรยกรวดค่อนข้างมืดไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับผู้หญิงอย่างเธอ

“ดึก ๆ แถวนี้มันมืด เดินไปไหนมาไหนก็ระวังนะ” เขาบอกอย่างผู้ใหญ่เตือนเด็กด้วยความเป็นห่วง
เธอหัวเราะเบา ๆ “อือ...เพื่อนหนูก็กลัว ยังบ่นใหญ่ว่าทำไมไม่ติดไฟ”

“ติด...เคยติดน่ะ แต่ได้ไม่ถึงเดือนก็โดนขโมยตัดสายไฟแถมหลอดนีออน”

“เฮ่ย...ในโรงพยาบาลเนี่ยนะพี่”

“อือ...ขโมยมันไม่แยกนี่ว่านี่โรงพยาบาล”

“ร้ายกาจ...”

“เขาก็ต้องหากินของเขาไง...เศรษฐกิจมันไม่ดีก็อย่างนี้ละ” ชายหนุ่มบอกขณะเดินผ่านแฟลตสี่ชั้นซึ่งเธอจำได้ว่าเป็นที่พักของบรรดาแพทย์ ตรงมายังเขตซึ่งเป็นบ้านพัก

“พี่ไม่กลับห้องเหรอคะ...เดินเลยแล้วนะ”

“มืดแล้ว...เดี๋ยวพี่ไปส่ง” เขาบอกตรง ๆ ในที่สุด

ชายหนุ่มหยุดที่หน้าป้อมเล็ก ๆ ซึ่งไม่รู้ว่าจะเรียกว่าป้อมยามได้ไหม เพราะไม่มียาม เหมือนจะมีไว้เป็นที่พักชั่วคราวเวลาเดินเหนื่อยอาจพอได้

บ้านพักของนักศึกษาฝึกงานอยู่อีกไม่ไกล พอมองเห็นไม่เกินสิบเมตร

“เดี๋ยวพี่ยืนรอตรงนี้ น้องไปเถอะ ถ้าเห็นไฟประตูบ้านแล้วพี่ค่อยไป”

หญิงสาวหันมามองหน้าเขา นิ่งไปชั่วขณะ “ไม่ต้องก็ได้พี่...ส่งแค่นี้ละ เดี๋ยวหนูเดินเข้าไปเอง”

“อือ...ก็เดินไปได้แล้ว” เขาเอ่ยแล้วถือวิสาสะจับไหล่เธอให้หมุนตัวเดินไป

หญิงสาวก้าวไปไม่ไกลก็หันกลับมามอง รุ่นพี่หนุ่มยังยืนอยู่ตรงนั้น ส่งยิ้มแล้วโบกมือให้เธอเบา ๆ เป็นอันว่าเธอต้องรีบเร่งฝีเท้าไปเปิดประตูบ้าน แล้วีบเปิดไฟชั้นล่างให้เขามองเห็นและรู้ว่าเธอเข้าบ้านแล้ว

...เหนื่อยมาตั้งนาน...รีบไปพักเถอะค่ะพี่ อย่ามัวแต่เจนท์เลย...



เพื่อนรักนั่งฟังแล้วหัวเราะในคอเบา ๆ ตบไหล่หญิงสาว “เจนท์จริงว่ะ...เข้าใจละทำไมแกปลื้ม”

“ใช่ไหมละ...ปกติมีผู้ชายที่ไหนมาเจนท์กับเราขนาดนั้นบ้าง” หญิงสาวบ่นงึมงำ เพื่อนรักพยักหน้าอย่างรู้กันดีว่าในคณะแพทย์ฯนั้นหญิงชายถือว่าเท่าเทียมกัน

ฝันไปเถอะเรื่องเลดี้เฟิร์สแอนด์เจนเทิลแมนอาฟเตอร์น่ะ เมื่อผู้หญิงเรียกร้องหาความเท่าเทียม ก้าวออกมาบอกโลกว่าข้าเก่งและทำได้เท่าเทียมกับผู้ชายในทุกเรื่อง เธอก็ไม่มิสิทธิ์อ้างตัวเป็นเพศบอบบางที่ผู้ชายต้องดูแลอีกต่อไป

“พ่อแม่สอนมายังไงวะ...เจนท์ได้ขนาดนั้น” เพื่อนรักบ่นเบา ๆ ก่อนเบิกตากว้าง เท้าแขนบนเก้าอี้จ้องหน้าเพื่อน “แล้ว...เขาเจนท์กับทุกคน หรือเจนท์กับแกคนเดียวละ”

“ไม่รู้ดิ...แต่กับคนอื่นก็เฉย ๆ นะ”

“เฮ่ย...อย่างนี้ก็พอมีหวัง”

“ประเด็นคือ...มันจบแล้วว่ะ ไม่มีเมล์ ไม่มีอะไรเลย” หญิงสาวเอ่ยเบา ๆ “มีแต่เบอร์โทร. แต่แกก็รู้...จะให้เราโทร.ไปก่อนได้ยังไงวะ”

“ก็ไม่เห็นยากนี่...ส่งข้อความไปก็ได้บอกว่าแกมาถึงกรุงเทพฯแล้ว” เพื่อนรักเริ่มสอนวิชามารยาหญิง

หญิงสาวถอนใจ ส่ายหน้า “ไม่เอาอ่ะ...มากเกิน”

“มากตรงไหน...ก็คนรู้จักกัน”

“ไม่รู้ดิ...แต่ปกติเราไม่ทำอะไรแบบนี้”

“หัดดิ...ก่อนจะกินแห้ว”

หญิงสาวหัวเราะ “เตรียมใจละ...เขาคงไม่สนเราหรอก”

เท่านั้นก็เป็นอันจบ สองสาวนั่งถอนใจเบา ๆ อยู่หน้าโต๊ะไม้ตัวเล็ก

“ตลกนะ...บางครั้ง ฟ้าก็ส่งใครบางคนมาเพื่อให้เราฝันถึง แต่ไม่ได้ส่งมาเพื่อให้เรารัก”

“เรามีสิทธิ์รักเขาด้วยเหรอวะ...เจอกันกี่วันเอง”

“ถ้าแกจะรัก...มันก็เป็นสิทธิ์ของแก แต่ต้องเตรียมใจด้วยว่ามันจะเจ็บ เพราะไม่มีวันได้รักตอบไง”



ความเงียบโรยตัวอยู่ในห้อง โทรศัพท์บนโต๊ะยังนิ่งสนิทไม่มีสายเข้ามา ไม่มีข้อความ ไม่มีข่าวคราวใดจากคนไกลที่เธอรอคอย

คงต้องยอมรับว่าหลายครั้ง...พระเจ้าก็แกล้งเรา

ด้วยการส่งใครบางคนมาให้เราเก็บไว้...ได้แค่ในความทรงจำ

----
คือ...ไอซ์...เพ้อ...

จากคุณ : Argent
เขียนเมื่อ : 2 ธ.ค. 54 20:15:53




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com