Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๑๓ ความสัมพันธ์แบบปิด) ติดต่อทีมงาน

ความลับฤดูหนาว  (บทที่ ๑ ศพเดินได้)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11309801/W11309801.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๒ คนบ้าในกรงขัง)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11321605/W11321605.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๓ ชายหนุ่มและสมมุติฐาน)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11331282/W11331282.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๔ รูปจำลองเสมือนจริง)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11338619/W11338619.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๕ คำเตือนของอัศวิน)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11350818/W11350818.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๖ จดหมายจากแดนไกล)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11358855/W11358855.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๗ การเดินทางของวสันต์)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11367272/W11367272.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๘ ดวงดาวผู้เป็นพยาน)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11379302/W11379302.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๙ กระดาษและกระดุมเสื้อ)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11394554/W11394554.html#2
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๑๐ เสียงกรีดร้องของไพรินทร์)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11399214/W11399214.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๑๑ ความแตกต่างของสำเนียง)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11406396/W11406396.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๑๒ พิสูจน์ลายมือ)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11411321/W11411321.html



บทที่ ๑๓ ความสัมพันธ์แบบปิด

ฟ้าฉายกับอรอนงค์หยุดยืนอยู่ที่ชานเรือน ทั้งสองชะเง้อคอผ่านร่างชาวบ้านที่ยืนออกันอยู่ตรงหน้าก่อนจะแทรกกายเข้าไปภายใน พลันนั้น...สองสาวก็ต้องอ้าปากค้างอย่างตกใจ ผู้คนที่อยู่บนเรือนต่างยืนล้อมร่างที่กำลังนั่งก้มหน้านิ่งอยู่บนพื้น สองมือของบัวเรียวยันพื้นไม้สีคล้ำเอาไว้ ผมเพ้ายุ่งเหยิงปรกใบหน้า ก่อนที่จะค่อยๆ ช้อนสายตาขึ้นมองผู้คนรอบกายช้าๆ

ดวงตาอันเกรี้ยวกราดประดุจปีศาจร้ายของหญิงแม่บ้านทำให้ฟ้าฉายขนลุกซู่ขึ้นมาในทันทีที่อีกฝ่ายจ้องมอง อากัปกิริยาของบัวเรียวที่กำลังเป็นอยู่ขณะนี้เหล่าชาวบ้านต่างเชื่อแน่ชัดว่าเธอกำลังถูกผีเข้าแน่นอน

เหล่าคานพิภพอันประกอบด้วย นายท่านเหมราช พิมพ์พาและนายทรงพล ต่างนั่งรวมกลุ่มกันอยู่หน้าโลงศพของสกาวเดือน ส่วนภูมิพงษ์และเศรษฐพงษ์ยืนมองบัวเรียวอยู่อีกฟาก ผู้เฒ่าคนหนึ่งก้าวขาเข้ามาหาหญิงแม่บ้านก่อนเอ่ยถามเสียงขรึม

“เจ้าเป็นไผ...” ทุกคนต่างแทบกลั้นหายใจขณะรอฟังคำตอบจากหญิงที่แสยะยิ้มเยือกเย็นที่อยู่ตรงกลางวง ดวงตาดุดันหันไปจ้องหน้ากลุ่มสมาชิกคานพิภพที่นั่งกระจุกตัวกันอยู่ที่หน้าโลงศพ

บัวเรียวจ้องหน้านายท่านเหมราชก่อนที่ริมฝีปากบนล่างจะค่อยๆ ขยับ
“จันทร์หอม...”  

เสียงหัวเราะเย้ยหยันของหญิงที่ทุกคนเชื่อว่าถูกผีเข้าสิงนั้นทำให้บรรยากาศบนเรือนหลังใหญ่เงียบกริบลงในทันที อรอนงค์คว้ามือฟ้าฉายมาจับไว้แน่น สีหน้าของเธอตื่นตระหนกและตกใจ ฟ้าฉายเองก็รู้สึกตกใจไม่แพ้กัน

เหมราช คานพิภพ หน้าถอดสีลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่เพียงแต่ชายผู้เป็นประมุขของบ้านที่มีสีหน้าซีดเผือด แต่ทุกคนในตระกูลคานพิภพต่างมองบัวเรียวด้วยความหวาดกลัว ร่างเพรียวลมของหญิงแม่บ้านเริ่มสั่นระริกก่อนที่เธอจะล้มครืนลงไปนอนชักดิ้นชักงอบนพื้น

ทุกคน ณ ที่นั้นเหมือนจะหยุดหายใจไปชั่วขณะ ทุกสายตาต่างจ้องมองร่างของบัวเรียวแทบตาไม่กระพริบ หญิงแม่บ้านค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้นยืนในขณะที่เหล่าชายฉกรรจ์ที่รายล้อมอยู่เตรียมพร้อมจะกระโดดตะครุบร่างเธอได้ทุกเมื่อ ดวงตาดุดันคู่นั้นเพ่งมองไปยังนายภูมิพงษ์ ก่อนที่หญิงแม่บ้านจะชี้หน้าชายวัยห้าสิบพร้อมกับแสยะยิ้ม

“ระวังโตไว้...กรรมที่สูเฮ็ดกับกู มันกำลังสิย้อนคืนกลับมาหาสู”
เสียงคำรามประดุจปีศาจที่ดุร้ายนั้นทำให้ฟ้าฉายหนาวยะเยือกไปถึงขั้วหัวใจ บัวเรียวสืบเท้าก้าวเข้าไปข้างหน้าสองสามก้าว ดวงตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นหันมายังนายทรงพลก่อนที่เธอจะอ้าปากหัวเราะร่าอย่างบ้าคลั่ง

“สมน้ำหน้า... สมน้ำหน้าพวกคนซั่ว ลูกหลานของพวกสูสิต้องได้รับกรรมที่พ่อแม่มันก่อไว้”
เหล่าชาวบ้านต่างหันไปมองตากันปริบๆ ก่อนจ้องตรงไปยังเหล่าสมาชิกคานพิภพที่หน้าถอดสีไปตามๆ กัน ก่อนที่เสียงเซ็งแซ่ทั้งหมดจะเงียบลงเมื่อพิมพ์พาเอาน้ำจากถังสาดใส่ร่างของบัวเรียว

หญิงแม่บ้านล้มครืนลงไปอย่างแรงก่อนที่นางผุสดีจะรีบตรงเข้าไปประคองร่างผู้เป็นลูกน้องไว้ ฟ้าฉายรีบแหวกผ่านร่างพวกชาวบ้านและตรงไปช่วยประคองร่างบัวเรียวอย่างเป็นห่วงเช่นกัน จนเมื่อได้สติหญิงแม่บ้านจึงเบิกตามองหญิงทั้งสองที่จับร่างเธออยู่อย่างงุนงง ก่อนผงกศีรษะขึ้นมองผู้คนมากมายที่ยืนรายล้อมเธอ

“ผีเข้า... พานังบัวเรียวไปวัดแหน่กะดีเดอ” หญิงคนหนึ่งว่าขึ้น ก่อนที่ทุกคนจะพยักหน้าเห็นด้วย ผุสดีค่อยๆ ประคองบัวเรียวให้ยืนขึ้น ตอนนั้นเองที่ฟ้าฉายได้เห็นสายตาของนางพิมพ์พาที่จ้องมองหญิงรับใช้ราวกับอยากจะฉีกเนื้อหล่อนออกเป็นชิ้นๆ เสียให้ได้


แสงดาวรีบก้มหน้างุดทันทีที่อัศวินจ้องมองเธอ เด็กสาวคนนี้มีพิรุธตามที่เขาคาดไว้ไม่มีผิด แต่ต่อให้เขาสอบเค้นเธอสักแค่ไหน แต่แสงดาวก็ไม่ยอมเปิดปากพูดในสิ่งที่เป็นประโยชน์สักอย่าง

จนกระทั่งชายหนุ่มนึกไปถึงคำพูดของฟ้าฉายที่บอกเขาไว้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่าง แสงดาว บุญยงค์ และสกาวเดือน สิ่งที่รู้ทำให้อัศวินจุดยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะเอ่ยปากถามแสงดาวอีกครั้ง

“เธอคิดว่านอกจากเธอและบุญยงค์แล้ว จะไม่มีใครรู้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอทั้งสองคนงั้นเหรอ?...แสงดาว”
ใบหน้าซูบซีดเงยขึ้นมองอัศวินในทันที แสงดาวอ้ำอึ้งอยู่พักใหญ่ก่อนจะยอมเปิดปากพูด

“คุณ...คุณรู้เหรอ?”

ตำรวจหนุ่มจุดยิ้มแทนคำตอบ
“ฟังฉันนะแสงดาว ตอนนี้เธอกำลังถูกเพ่งเล็งว่าอาจเกี่ยวข้องกับการตายของน้องสาวเธอ”

“แต่ฉันไม่ได้ฆ่าสกาวเดือนนะ ฉันไม่มีวันทำอย่างนั้นเด็ดขาด” เธอแย้งเสียงเครือ

“ถ้าอย่างนั้นเธอต้องยอมบอกในทุกอย่างที่เธอรู้กับฉัน ถ้าเธอยอมพูดความจริงแล้วมันเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี เธอก็อาจจะพ้นข้อกล่าวหาได้” ข้อเสนอนั้นทำให้แสงดาวต้องก้มหน้าลงขบคิดอย่างหนัก

“คุณต้องรับปากกับฉันก่อนว่าจะไม่บอกคนอื่นๆ ในบ้านนะ รับปากสิคะ?” เธอรบเร้าชายหนุ่ม อัศวินพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจ้องหน้าเธอตรงๆ แสงดาวสูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่...แววตาอันสลดหดหู่ประสานกับสองตาของอัศวิน

“ฉันกับบุญยงค์...เราสองคนแอบได้เสียกันมาเกือบปีแล้ว...” หลานสาวแห่งคานพิภพบอกเสียงราบเรียบ เอนดวงหน้าซีดเซียวออกไปมองต้นไม้ใบหญ้านอกหน้าต่างของสถานีตำรวจ อัศวินหยิบเอาดินสอกับกระดาษมาบันทึกคำพูดของเธอระหว่างนั้น “ฉันคิดว่าสกาวเดือนรู้เรื่องนี้ และเธอก็...” เสียงของแสงดาวขาดหาย เธอเม้มปากแน่นก่อนจะพริ้มตาหลับ

“สกาวเดือนเองก็ปรารถนาในตัวของบุญยงค์เช่นเดียวกัน”

“แล้วสกาวเดือนเกลียดเธอมั้ยแสงดาว เป็นไปได้เหรอที่เธอทั้งสองจะรักผู้ชายคนเดียวกันแล้วไม่รู้สึกอะไรเลย”

“ฉันไม่รู้ แต่สำหรับฉันนี่ไม่ใช่ความรัก มันเป็นเพียงแค่ความสนุกชั่ววูบเท่านั้นเอง แต่บางที...สกาวเดือนอาจไม่ได้คิดอย่างนั้นก็ได้ วันแรกที่เธอได้เสียกับบุญยงค์เธอวางยาสลบฉัน...”

“อะไรนะ...สกาวเดือนวางยาสลบเธอเหรอแสงดาว” ตำรวจหนุ่มอุทานเสียงหลง หรี่ตามองหญิงตรงหน้าอย่างพินิจพิเคราะห์ อาจเป็นไปได้ที่เธอจะแต่งเรื่องมาหลอกเขา แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงที่เธอจะพูดความจริง !

“นั่นก่อนที่เธอจะตายสักสองวันได้มั้ง”

“แสดงว่าสกาวเดือนเริ่มมีสัมพันธ์กับบุญยงค์ได้ไม่นานเท่าไหร่?...แล้วท่าทีของบุญยงค์ล่ะ เขาเปลี่ยนไปมั้ย? เขาชอบใครมากกว่ากัน เธอ หรือ สกาวเดือน”  

ชายหนุ่มมองเห็นคลื่นอารมณ์ที่กำลังแปรปรวนฉายชัดอยู่ในแววตาของเด็กสาววัยสิบเก้าปีตรงหน้า แสงดาวแสยะยิ้มก่อนจะถอนหายใจเบาๆ

“นายนั่นกำลังหลงสกาวเดือน นับจากนั้นฉันก็ไม่ได้ยุ่งกับบุญยงค์อีกเลย...”

“แล้ววันที่เกิดเหตุล่ะ?...เธอรู้รึเปล่าว่าบุญยงค์ได้นัดแนะอะไรกับสกาวเดือนหรือไม่” อัศวินเลิกคิ้วสูง วางหน้าเครียดขรึมรอฟังคำตอบจากคนตรงหน้า

“อาจจะเป็นอย่างนั้น ก็ตามที่ฉันได้บอกคุณไปก่อนหน้านี้แล้วว่าในคืนเกิดเหตุเราสองคนลงไปเก็บดอกไม้ที่สวนด้วยกัน แต่ฉันขอตัวกลับขึ้นห้องมาก่อน...” พูดจบก็รีบก้มหน้าทันที อัศวินพยักหน้าเนิบนาบสองสามทีก่อนจะฉุดถามคำถามอีกสองสามข้อ

“แล้วหลังเกิดเรื่องพ่อกับแม่ของเธอ พวกเขามีท่าทียังไงบ้าง?” คำถามนั้นทำให้แสงดาวต้องย่นคิ้วมองนายตำรวจหนุ่มตรงๆ แต่ก็ไม่กล้าสู้สีหน้าเคร่งเครียดและสายตาจริงจังของอีกฝ่ายได้

“ท่านทั้งสองเสียใจมาก แม่ฉันเองก็เป็นกังวลจนแทบบ้า ตอนที่ท่านอยู่คนเดียวมักจะพร่ำเพ้อและก่นด่าผู้หญิงที่ชื่อจันทร์หอม...” พลันนั้นหัวใจของอัศวินก็เต้นโครมครามขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว เขาขยับเก้าอี้ให้เข้าใกล้โต๊ะมากขึ้น วางสองมือทาบลงบนโต๊ะไม้ตัวยาว

“พวกเขาพูดว่ายังไงบ้าง...” ตำรวจหนุ่มถามเสียงค่อย แสงดาวอ้ำอึ้งอยู่พักหนึ่งก่อนเปิดปากพูด

“ก็...แม่ฉันหาว่าผู้หญิงคนนั้นฆ่าสกาวเดือน มันฟังดูไร้สาระสิ้นดี จันทร์หอมหายสาบสูญไปยี่สิบกว่าปีแล้ว ฉันไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยรู้เรื่องของเธอด้วยซ้ำ และก็ไม่รู้ด้วยว่าทำไมพ่อกับแม่และคนอื่นๆ ในบ้านถึงกลัวเธอนัก สิ่งที่ฉันรู้ก็มีเพียงเท่านี้แหละค่ะ” แสงดาวว่า ปากสั่นระริกและสีหน้าอันสับสนทำให้อัศวินต้องระบายลมหายใจออกเบาๆ

“ถ้าอย่างนั้นฉันก็รบกวนเธอแค่นี้ ขอบคุณสำหรับคำให้การนะ ฉันรู้ว่าเธอเองก็อยากรู้ว่าใครคือฆาตกรฆ่าน้องสาวเธอ ฉันเองก็เหมือนกัน...ฉะนั้น หากรู้อะไรดีๆ จงรีบมาบอกเรา”

“ค่ะ...” แสงดาวรับคำเสียงหนักแน่น แววตาของเธอเต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังที่แม้จะมีอยู่เพียงเลือนรางก็ตามที


บุญยงค์ค่อยๆ ก้าวเดินมาทรุดนั่งลงยังเก้าอี้ตัวที่แสงดาวเพิ่งลุกจากไปได้ไม่นาน อัศวินให้ตำรวจอีกนายไปส่งแสงดาวยังบ้านคานพิภพแล้ว ตอนนี้เขาก็เหลือเพียงแค่สอบสวนหมากสำคัญอีกตัวที่คิดว่ายังไงก็ต้องรู้เบาะแสอะไรสักอย่างเกี่ยวกับคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นแน่

สีหน้าอันตื่นตระหนกของชายรับใช้ในบ้านคานพิภพนั้นทำให้อัศวินต้องจุดยิ้มเยือกเย็น บุญยงค์ถูฝ่ามือไปมาขณะยิ้มเจื่อนๆ ส่งให้ตำรวจตรงหน้า

“นายฆ่าสกาวเดือนเหรอบุญยงค์...”
คำถามนั้นถึงกับทำให้ชายบ้านนาสะดุ้งโหยง สายตาคมกริบของอัศวินจ้องใบหน้าดำคล้ำตรงหน้าแน่นิ่ง ในขณะที่อีกฝ่ายยกมือปัดป่ายไปมาอย่างละล่ำละลัก

“มะ...ไม่ใช่นะครับ ผมไม่ได้ฆ่าคุณสกาวเดือนนะ”

“แล้วใครฆ่า...” อัศวินลากเสียง สายตายังคงจ้องหน้าบุญยงค์

“ผมไม่รู้ ผมก็บอกคุณตำรวจไปแล้วนี่ครับว่าผมไม่รู้” อัศวินคลายยิ้มให้กับคำตอบที่ได้ยิน บุญยงค์หลุบตาลงต่ำไม่กล้าสู้สายตาอีกฝ่าย

“อย่าคิดว่าคนอื่นเขาจะไม่รู้เรื่องของนายกับสกาวเดือนนะ...กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง” เสียงหัวเราะหึๆ ในลำคอของอัศวินนั้นทำให้บุญยงค์ต้องหนาวยะเยือกไปทั่วสรรพางค์กาย ชายรับใช้แห่งคานพิภพยิ้มไม่ออกอีกต่อไป

“บอกฉันมาว่าคืนนั้นนายนัดแนะอะไรกับสกาวเดือน?” อัศวินขบกรามแน่นจนเห็นเป็นสัน นั่นทำให้ใบหน้าคมเข้มของเขาดูเคร่งขรึมมากขึ้นไปอีก สายตาคมกริบประสานกับสองตาไหวระริกของบุญยงค์ตรงๆ

“เอ่อ...คือ ครับ ผมยอมรับว่าผมนัดคุณสกาวเดือนจริง แต่ผมไม่ได้ฆ่าเธอนะครับ”  

อัศวินพยักหน้าเนิบเนิบก่อนเชิดหน้าขึ้นสูง บุญยงค์กลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่ ค่อยๆ สูดลมหายใจเข้าปอดช้าๆ “คืนนั้น...ผมมาช้าเวลานัดไปเกือบชั่วโมงเพราะมัวแต่นั่งดื่มกับพวกคนงานโรงไม้เสียเพลิน ผมบอกพวกนั้นว่าจะเอาปืนไปยิงนกมาทำกับแกล้ม ก่อนจะจุดเทียนและเดินกลับไปยังบ้านพัก แต่พอมาถึง ผมกลับไม่พบเธอ แต่...” ใบหน้าดำคล้ำของบุญยงค์คล้ายถูกบางอย่างบีบอัด ริมฝีปากดำหนาบิดเบี้ยวไม่เป็นรูป หนุ่มบ้านนาเอียงหน้าหนีก่อนกัดริมฝีปากตัวเองไว้

“บอกฉันมาเถอะบุญยงค์...มันจะเป็นประโยชน์ต่อตัวของนายเอง นายต้องทำเพื่อปกป้องตัวเองนะ”
อัศวินคลี่ยิ้มมาดมั่นก่อนที่บุญยงค์จะหันมาจ้องหน้าตำรวจหนุ่มตรงๆ จริงอย่างที่อัศวินว่า... เขาจำเป็นต้องพูดเพื่อปกป้องตัวเอง

“ครับ... ผมได้ยินเสียงคนวิ่งจึงดับแสงเทียน รีบถอยเข้าไปหลบในพุ่มไม้ก่อนที่ผู้ชายคนหนึ่งจะวิ่งผ่านหน้าผมไป ตอนแรกผมก็ไม่เชื่อหรอกครับว่าจะเป็นเขา ผมเลยตัดสินใจวิ่งตามไปห่างๆ จนได้เห็นเขาปีนหน้าต่างกลับขึ้นห้องของตัวเอง...คนๆ นั้นก็คือ...คุณเศรษฐพงษ์”

แก้ไขเมื่อ 04 ธ.ค. 54 08:36:37

จากคุณ : ผีเสื้อสีดำ
เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 54 16:15:17




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com