ใจสองดวง
เราเลิกกันเถอะ
ในที่สุดคำพูดที่ถูกเก็บกดไว้ภายในใจบอบช้ำก็ถูกปลดปล่อยออกมา หญิงสาวหวังเพียงว่ามันจะช่วยยุติเรื่องราวอันปวดร้าวที่ผ่านมา เธอหวังแค่จะทำให้ตนเองรู้สึกดีขึ้น หากแต่มันกลับไม่เป็นอย่างนั้น
ครับ
หลังความเงียบเชียบอันน่าอึดอัด คำพูดสั้นๆ ที่เป็นตรงข้ามกับความคิดของเธอก็ทำให้ใจทั้งดวงหลุดลอยไปไกลแสนไกล ทั้งๆ ที่เป็นคนเอ่ย ทั้งๆ ที่ตั้งใจเอาไว้แล้ว แต่ก็กลับเป็นน้ำตาของเธอที่รินไหลออกมา ในขณะที่ดวงตากร้าวของเขายังคงเรียบเฉยไม่เปลี่ยนแปลง
และนั่นเองเป็นสิ่งที่หญิงสาวไม่อาจฝืนทนได้อีกต่อไป นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ทั้งคู่ได้พบกัน หญิงสาวจบเรื่องราวในใจทุกอย่างและจากบ้านเกิดเมืองนอนไปศึกษาต่อยังต่างแดน
เธอหวังจะให้เรื่องราวทุกอย่างเป็นเพียงฝันร้ายที่จะหายไปเมื่อตื่นขึ้นมา
..............................................
กว่าสองปีมาแล้วกับเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นระหว่างหญิงสาวและชายหนุ่มที่ขณะนี้นั่งอยู่ร่วมโต๊ะอาหารเดียวกัน
ชายหนุ่มดูซูบลง หากทว่าใบหน้า แววตา และกิริยาท่าทางที่เห็นในตอนนี้กลับดูทรงอำนาจมากกว่าแต่ก่อน นี่อาจจะเป็นความบังเอิญอย่างที่สุดสำหรับการพบเจอกันในครั้งนี้ระหว่างเขาและเธอ
อย่างน้อยหญิงสาวก็คิดเช่นนั้น
หลังใช้เวลาศึกษาต่ออยู่สองปีเธอก็กลับมาร่วมงานกับบริษัทแห่งหนึ่ง ด้วยความเก่งและเฉลียวฉลาดทำให้เธอสามารถคว้าโอกาสงามมาไว้ในอุ้งมือ งานนำเสนอที่มาจากความคิดของเธอเป็นที่ถูกอกถูกใจเหล่าผู้บริหาร และสุดท้ายโปรเจ็คชิ้นใหญ่ก็มาอยู่ในความรับผิดชอบของเธอในที่สุด
โดยที่หญิงสาวไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าผู้ว่าจ้างคือบริษัทใหม่อนาคตไกลที่มีชายหนุ่มซึ่งเธอรู้จักดีเป็นเจ้าของและเป็นผู้ว่าจ้าง
คุณดูซูบลงไปนะ ประโยคแรกที่เอ่ยออกมาส่งผ่านความคุ้นเคยมาถึงผู้ที่กำลังรับฟัง
คุณเองก็เหมือนกัน หญิงสาวตอบ แต่ไม่น่าเชื่อจริงๆ ว่าเวลาเพียงไม่นานจะทำให้คุณสร้างเนื้อสร้างตัวและเปลี่ยนแปลงตัวเองได้มากขนาดนี้
ไม่หรอก ผมไม่เคยเปลี่ยน ไม่ว่าจะนานขนาดไหนผมก็ยังเป็นผมคนเดิม เพียงแต่ช่วงเวลาสองปีที่ผ่านมาผมต้องพยายามทำอะไรหลายๆ อย่างเพื่อไม่ให้ต้องคิดมากเท่านั้นเอง
เธออาจจะคิดไปเอง แต่ประโยคสุดท้ายนั่นเหมือนกับเขาต้องการจะบอกอะไรบางอย่าง และก็กลับกลายเป็นเหมือนเดิมที่คำพูดเพียงไม่กี่คำที่ทำให้หญิงสาวต้องหวั่นไหว
บางทีการได้พบกับอะไรใหม่ๆ และการปล่อยให้วันเวลาทำหน้าที่ของมันไปก็ช่วยให้อะไรหลายๆ อย่างดีขึ้น แต่บางทีมันก็กลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น
สำหรับเธอแล้วมันไม่เคยเปลี่ยน
งานเป็นยังไงบ้าง
กับอดีตคนรักที่กลับกลายเป็นผู้ที่ต้องร่วมงานกัน มันช่างยากลำบากจนเธอไม่แน่ใจตัวเองว่าควรจะแสดงท่าทางและสีหน้าแบบไหนกันแน่ สายตาหลบลงต่ำหรือไม่ก็มองเลยไปจึงเป็นวิธีที่เลือกใช้
ก็...ดีนะคะ ฉันเพิ่งกลับมาไม่นานแล้วก็เพิ่งได้รับงานใหญ่ขนาดนี้เป็นครั้งแรกด้วย แต่คุณไม่ต้องกลัวนะคะ ถึงฉันจะเป็นมือใหม่แต่ก็จะไม่ทำให้ผู้ว่าจ้างผิดหวังแน่นอน
ผมรู้ดีครับว่าคุณทำได้อยู่แล้ว
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมอง เป็นอีกครั้งที่รู้สึกถึงความนัยในคำพูด รอยยิ้มอ่อนโยนตรงหน้ายังคงเต็มไปด้วยความเข้าใจ ความอบอุ่นที่ส่งผ่านมาทำให้แทบจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
ไม่หรอกค่ะ ฉันไม่ได้เก่ง ไม่ได้เข้มแข็งอะไรอย่างที่คุณคิด ฉันก็แค่ผู้หญิงธรรมดาคนนึงเท่านั้น
ผม...
ตี๊ดๆๆๆๆ...ๆๆๆ
เสียงเรียกเข้าดังขึ้นตัดบทสนทนาทั้งหมดลง ชายหนุ่มกลืนคำพูดที่กำลังจะเอ่ยลงคอ
ค่ะ ค่ะ ได้ค่ะ เย็นนี้เจอกันค่ะ
สิ้นเสียงสนทนาผ่านเครื่องมือสื่อสาร บรรยากาศแบบเดิมดังเช่นเมื่อครั้งสุดท้ายที่ได้พบกันก็กลับมาเยือนอีกครั้ง ทั้งๆ ที่ขณะนี้ร้านทั้งร้านเต็มไปด้วยลูกค้า แต่ดูเหมือนเวลาจะหยุดนิ่งที่โต๊ะอาหารตัวนี้
ฉันคงต้องไปแล้วค่ะ
หัวใจเต้นแรงไม่ต่างจากวันนั้น ราวกับมีอะไรพยายามฉุดรั้งไว้ เนิ่นนานกว่าที่เธอจะพูดคำพูดง่ายๆ นี้ออกมา
ครับ
หญิงสาวถอนหายใจ ยิ้มเงียบเชียบให้กับตนเอง คำสั้นๆ เพียงคำเดียวจากชายหนุ่มทำให้ความพยายามที่จะสะกดกลั้นความรู้สึกไว้สิ้นสุดลง
คุณเคยรักฉันบ้างมั้ย คุณเคยมีความรู้สึกบ้างมั้ย
คุณก็รู้คำตอบอยู่แล้ว
เธอเงยหน้ามองชายหนุ่ม น้ำตาร่วงผล็อยลงมาอย่างสุดจะกลั้น
ทำไมวันนั้นคุณถึงไม่คิดจะถามอะไรฉันเลย ทำไมวันนั้นคุณถึงไม่คิดจะห้ามฉัน คุณรู้มั้ยว่าจนถึงวันนี้คุณก็ยังคงเป็นคุณคนเดิมไม่ได้เปลี่ยนไปเลยจริงๆ
เสียงที่ดังขึ้นไม่ได้แสดงความแข็งกร้าว หากแต่มันกลับเจือไปด้วยความปวดร้าวมากกว่า
จนถึงตอนนี้คุณก็ยังไม่เคยคิดจะถามอะไรฉัน จนถึงเวลานั้นคุณก็ไม่เคยคิดจะต้องการรับรู้เรื่องอะไรของฉันเลย
เธอก้มหน้า ยกมือทั้งสองขึ้นปกปิดความอ่อนแอที่ถาโถมเข้าใส่ ชายหนุ่มยื่นผ้าเช็ดหน้าให้
แน่นอนว่าผมสนใจคุณ คุณก็รู้ และแน่นอนว่าผมเองอยากรับรู้ อยากแบ่งปันทุกเรื่องราวกับคุณ ผมเชื่อมั่นคุณ และยิ่งเชื่อมั่นทุกอย่างที่เป็นคุณ และผมก็เชื่อว่าสิ่งที่คุณตัดสินใจนั้น คุณได้คิดมาอย่างดีและเหมาะสมที่สุดแล้ว
ชายหนุ่มถอนหายใจ ความรู้สึกเบาบางเจืออยู่ในทุกคำพูด
นั่นล่ะ คือความรักที่ผมมีให้คุณ
ฉันรู้ดีค่ะ รู้ว่าคุณเป็นคนดี คุณเชื่อใจ คุณเคารพการตัดสินใจของฉันมาตลอด แต่คุณรู้มั้ยคะ บางครั้งผู้หญิงก็ต้องการถูกเซ้าซี้ ต้องการให้คนที่ได้ชื่อว่าเป็นคนรักถามนู่นถามนี่เกี่ยวกับเธอบ้าง เธออยากให้เขาซักไซ้เวลาเห็นเบอร์ที่ไม่รู้จัก เธออยากให้เขาแสดงความหึงหวงบ้าง เพราะนั่นแสดงให้เห็นว่าเธอยังคงเป็นที่รักของชายคนรัก
อาจจะเป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มได้รับรู้ความรู้สึกในอีกแง่มุมหนึ่งที่เขาไม่เคยได้ย่างกรายเข้าไป
คุณดีเกินไป และความดีของคุณทำให้ฉันรู้สึกไร้ค่า ความเชื่อใจของคุณทำให้ฉันละอายใจ ทั้งๆ ที่ฉันรักคุณมากแท้ๆ ก็สุดท้ายฉันก็ไม่อาจทนรับความรู้สึกแบบนั้นได้ไหว
ชายหนุ่มยิ้ม น้ำเสียงราบเรียบนั้นฟังดูหนักแน่นและอบอุ่นอย่างที่เคย
ผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าคุณจะรู้สึกแบบนี้ ผมขอโทษที่ทำให้คุณต้องอึดอัด ขอโทษที่ทำร้ายคุณมาตลอด แต่ถ้าหากวันนี้คุณยังเหลือโอกาสให้ผมแล้วล่ะก็...
ชายหนุ่มยื่นสิ่งๆ หนึ่งให้ และเมื่อเปิดออกความรู้สึกที่สั่งสมอยู่ในนั้นมาตลอดระยะเวลากว่าสองปีก็พรั่งพรูออกมาจนหญิงสาวรู้สึกได้
มันเป็นสิ่งที่ผมจะให้คุณเมื่อสองปีก่อนในวันที่เราต้องเลิกรากันไป อย่างที่บอก ถ้ายังไม่สายเกินไป ในวันนี้ผมอยากให้คุณรับมันเอาไว้
น้ำตาที่เรื้ออยู่ในเวลานี้กลับให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป มันเป็นความอิ่มเอมซึ่งเมฆหมอกในจิตใจมลายหายไปหมดแล้ว
วันเวลาสองปีมันยาวนานมาก นานจนผมรับรู้ได้ว่าผมไม่อยากให้คุณจากผมไปไหนอีก แล้วในวันนี้ที่เราได้มาพบกันก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างที่คุณอาจจะเข้าใจ แต่มันเป็นความตั้งใจของผมเอง
เวลาได้ทำให้ใจสองดวงเดินทางมาพบกัน เวลาให้โอกาสใจสองดวงได้ศึกษาซึ่งกันและกัน เวลาได้หยุดให้ใจสองดวงไตร่ตรองและค้นหาความต้องการ และเมื่อทั้งคู่ต่างค้นพบความจริงแท้นั้นแล้วเวลาก็จะนำพาให้ใจสองดวงนั้นก้าวเดินไปสู่ห้วงเวลาแห่งอนาคตที่ทั้งคู่ได้วาดเอาไว้
จากคุณ |
:
KTHc
|
เขียนเมื่อ |
:
3 ธ.ค. 54 22:17:06
|
|
|
|