Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๑๔ หญิงสาวผู้ตกเป็นจำเลย) ติดต่อทีมงาน

ความลับฤดูหนาว  (บทที่ ๑ ศพเดินได้)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11309801/W11309801.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๒ คนบ้าในกรงขัง)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11321605/W11321605.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๓ ชายหนุ่มและสมมุติฐาน)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11331282/W11331282.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๔ รูปจำลองเสมือนจริง)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11338619/W11338619.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๕ คำเตือนของอัศวิน)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11350818/W11350818.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๖ จดหมายจากแดนไกล)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11358855/W11358855.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๗ การเดินทางของวสันต์)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11367272/W11367272.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๘ ดวงดาวผู้เป็นพยาน)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11379302/W11379302.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๙ กระดาษและกระดุมเสื้อ)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11394554/W11394554.html#2
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๑๐ เสียงกรีดร้องของไพรินทร์)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11399214/W11399214.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๑๑ ความแตกต่างของสำเนียง)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11406396/W11406396.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๑๒ พิสูจน์ลายมือ)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11411321/W11411321.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๑๓ ความสัมพันธ์แบบปิด)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11413995/W11413995.html



บทที่ ๑๔  หญิงสาวผู้ตกเป็นจำเลย

อัศวินเดินไปส่งบุญยงค์ที่รถหน้าโรงพักด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล ใจยังคงเครียดกับคำให้การของบุญยงค์ที่บอกไว้ จะเป็นเศรษฐพงษ์หรือที่เป็นฆาตกร?... และหากว่ามันเป็นดังนั้นจริงๆ แล้วเขามีเหตุจูงใจอะในการฆ่าสกาวเดือน หรือนายบุญยงค์จะกุเรื่องขึ้นมาเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ แต่คงไม่หรอก... เพราะยังไงนายนั่นก็เป็นคนพบศพคนแรก และมีสัมพันธ์ลับๆ กับสกาวเดือน แต่ไม่ว่ายังไงแล้วบุญยงค์เองก็มีโอกาสจะเป็นฆาตกรได้สูงเช่นกัน

อัศวินเดินกลับเข้าไปในโรงพักด้วยอาการเหนื่อยหน่าย ชายหนุ่มรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งหัว รู้สึกเหมือนว่ามีแมลงอะไรสักอย่างบินวนเวียนอยู่รอบศีรษะเต็มไปหมด การตายของสกาวเดือน... คำสาปแช่ง หญิงสาวผู้หายสาบสูญไปจากคานพิภพเมื่อกว่ายี่สิบปีก่อน ฆาตกรคือใคร?... เขาควรจะเริ่มต้นจากตรงไหนดีนะ


ฟ้าฉายอาศัยเวลาช่วงบ่ายที่ทุกคนกำลังง่วนอยู่ในงานแอบย่องมาทางหลังสวนดอกไม้ ตรงสู่บ้านพักของนายพัฒน์ซึ่งอยู่ใกล้ต้นไทรย้อย จุดที่สกาวเดือนถูกฆาตกรรม

อาจเพราะเธอเชื่อในสิ่งที่เห็นและได้ยินเมื่อครู่นั่นก็ได้ ฆาตกรต้องเป็นภูมิพงษ์หรือไม่ก็ทรงพลแน่ เธอยังจำสายตาของบัวเรียวขณะถูกวิญญาณจันทร์หอมเข้าสิงได้ดี แววตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตพยาบาทรุนแรง

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตอนนี้เหมือนว่าทั้งคนที่รู้เรื่องการหายไปของจันทร์หอมและวิญญาณของเธอกำลังจะเอาคืนคนที่ทำกับเธอไว้ และคนที่ฟ้าฉายเชื่อว่าต้องรู้เห็นเรื่องราวในอดีตทุกอย่างนั่นก็คือ...นายพัฒน์

เธอยังจำคำพูดและสายตาของเขาที่ถามไถ่เธอเพราะนึกว่าเธอคือจันทร์หอมได้ดี ท่าทางของเขาเหมือนคนปกติดีทุกอย่าง หากเธอทำให้สติเขากลับคืนมาได้แม้เพียงไม่กี่นาที แล้วสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับจันทร์หอม นั่นก็อาจจะเป็นเบาะแสสำคัญในการตามหาพยานหลักฐานเพื่อมามัดตัวฆาตกรได้ไม่ยาก

หญิงสาวค่อยๆ เอากุญแจที่แอบขโมยมาจากบัวเรียวไขประตูบ้านเข้าไปอย่างระมัดระวัง เมื่อเปิดประตูเข้ามาแล้วก็เห็นนายพัฒน์นั่งหันหลังก้มหน้าอยู่บนเก้าอี้ หญิงสาวเดินย่องเข้าไปใกล้กรงไม้อย่างเงียบๆ

“คุณพัฒน์...”
เสียงเรียกอันแผ่วเบานั้นทำให้คนในกรงขังต้องสะบัดหน้ามาทางซ้ายน้อยๆ ฟ้าฉายค่อยๆ ระบายลมหายใจออกเพื่อคลายความเครียดเกร็ง

นายพัฒน์ค่อยๆ หันร่างกลับมาประจันหน้ากับผู้บุกรุก เมื่อได้สบสายตากัน ดวงตาของชายในกรงขังก็เบิกกว้างขึ้นมาในทันที เขาลุกจากเก้าอี้และถลาร่างเข้ามาเกาะกรงไม้ไว้

“จันทร์หอม... เธอหายไปไหนมา ทำไมถึงทิ้งฉันไว้แบบนี้ ปล่อยฉันออกไปเร็วเข้า” เขาร้องขอเสียงเครือ ดวงหน้าอันเต็มไปด้วยความตื่นกลัวทำให้ฟ้าฉายอดสงสารไม่ได้

“ค่ะ...ฉันจะปล่อยคุณออกไป แต่คุณต้องบอกก่อนว่าคืนก่อนที่คุณจะถูกจับขังไว้แบบนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น” คำถามของหญิงสาวทำให้นายพัฒน์นิ่วหน้า เขายกมือทั้งสองข้างขึ้นกุมศีรษะ นั่นทำให้ฟ้าฉายอดใจเสียไม่ได้ว่าเขาอาจจะล้มครืนลงไปและร้องโหยหวนเรียกให้พวกคนในบ้านคานพิภพแห่กันมาดู

นายพัฒน์ค่อยๆ ปลดมือทั้งสองข้างที่กุมศีรษะออกช้าๆ พร้อมกับเงยหน้าขึ้นจ้องมองฟ้าฉายตรงๆ “จันทร์หอม...พวกนั้นไม่ได้ทำอะไรเธอใช่มั้ย?”
ลมเย็นๆ พัดกรูเข้ามาทางหน้าต่างที่ถูกเปิดออกกว้างทำเอาฟ้าขายรู้สึกเย็นวาบไปทั่วร่าง

“ค่ะ...ฉันปลอดภัยดี”
คำตอบที่ได้ยินทำให้นายพัฒน์คลี่ยิ้มออกมาอย่างดีใจ
“แล้ว...คุณคิดว่าใครจะทำร้ายฉันเหรอ? เอ่อคือ...ฉันเองก็จำอะไรไม่ได้เลย สงสัยคงหกล้มแล้วหัวไปกระแทกอะไรสักอย่างเข้า”
หญิงสาวปั้นเรื่องโกหกก่อนที่คนตรงหน้าจะขบกรามแน่นด้วยความโมโห

“ฉันเองก็ไม่ได้บ้าหรอก พวกเขาคิดว่าฉันบ้าเลยจับขังไว้ แล้วพวกมันก็เอาอะไรไม่รู้ใส่ในอาหารให้ฉันกิน มันทำให้ฉันปวดหัวจนแทบจะระเบิด พวกเขาพยายามจะฆ่าฉันทางอ้อม...”
อา...หญิงสาวอุทานออกมาอย่างไม่มีเสียง สิ่งที่เธอได้ยินถึงกับทำให้ตัวเองนิ่งค้างไปในฉับพลัน
“ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นกับฉันในวันนั้นน่ะเหรอ?...” เขาหันมาจ้องมองดวงหน้านวลเนียนอีกครั้ง รอยยิ้มอันอบอุ่นและอ่อนโยนทำให้ฟ้าฉายรู้สึกคลายกังวลลงไปอย่างไม่รู้ตัว

“หลังจากงานเลิกแล้วฉันก็ไม่พบเธอ เลยออกตามหา บัวเรียวบอกว่าเห็นเธอเอาผ้าซิ่นไปให้พี่ขจีเกศ แต่เมื่อฉันไปที่เรือนพี่ภูมิก็ไม่พบเธอ ฉันเลยเดินกลับเรือน ระหว่างนั้นได้ยินเสียงเธอร้องให้คนช่วยเลยวิ่งไปดู ไอ้ทรงพลมันกำลังจะปลุกปล้ำเธอ ฉันตรงปรี่เข้าไปหามันและซัดหมัดใส่หน้ามัน มันสู้ฉันไม่ได้เลยทำทีวิ่งหนีไปก่อนจะกลับมาพร้อมกับไม้ในมือมัน มันฟาดฉัน เอาไม้ฟาดที่หัวของฉัน...”
หัวใจของฟ้าฉายเต้นระรัวจนแทบจะหลุดออกมาจากอก นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนบ้าจะปั้นแต่งขึ้นมาเป็นเรื่องเป็นราวได้แน่ ทั้งร่างของนายพัฒน์สั่นเทิ้มขึ้นมาด้วยความโกรธกริ้วก่อนที่เขาจะล้มครืนลงไปยังพื้นห้องและเอาสองมือกุมศีรษะ

ฟ้าฉายทรุดนั่งลงข้างกายเขาอย่างเป็นห่วง สอดแขนผ่านกรงไม้เข้าไปจับมือเขาไว้แน่นก่อนที่เสียงลงกลอนจากประตูหน้าบ้านจะทำให้หญิงสาวสะดุ้งโหยง

ร่างเพรียวบางหันขวับไปยังหน้าประตูทันที...แต่ทว่ามันกลับถูกปิดลงสนิทและถูกล็อกเป็นที่เรียบร้อย หญิงสาวรีบตะลีตะลานตรงไปยังหน้าต่างที่มีลูกกรงติดไว้หนาแน่น เห็นแผ่นหลังของหญิงคนหนึ่งกำลังวิ่งดุ่มๆ หายไปในดงไม้ แย่แล้ว...จะทำยังไงดีล่ะฟ้าฉาย...?

อีกราวห้านาทีต่อมาประตูบ้านของนายพัฒน์ก็ถูกเปิดออกในที่สุด ฟ้าฉายพยายามตั้งสติเตรียมพร้อมเผชิญหน้ากับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปนี้


อรอนงค์จ้องมองผู้เป็นเพื่อนอย่างไม่อยากเชื่อสายตา ทีแรกเธอคิดว่านางพิมพ์พากุเรื่องขึ้นมาหลอกทุกคน แต่พอเธอออกตามหาก็กลับไม่พบร่างฟ้าฉาย ทั้งเศรษฐพงษ์ ภูมิพงษ์และผู้ใหญ่บ้านรวมทั้งอรอนงค์จึงรุดมาที่บ้านพักของนายพัฒน์ตามที่พิมพ์พาแจ้งว่าเห็นเพื่อนสนิทของอรอนงค์คนนี้แอบเข้ามาหานายพัฒน์อย่างลับๆ

“เธอขโมยกุญแจจากใครมา...” นางพิมพ์พาร้องถามพลางเชิดหน้ามองฟ้าฉาย หญิงสาวกัดริมฝีปากน้อยๆ ก่อนหันไปจ้องหน้าอรอนงค์ เธอเชื่อว่าเพื่อนรักของเธอจะต้องเข้าใจเหตุผลหากเธอได้มีโอกาสอธิบาย

“จากบัวเรียวค่ะ” หญิงสาวตอบเสียงมาดมั่น ก่อนที่หญิงตรงหน้าจะแสยะยิ้ม

“แล้วหนูเข้ามาหานายพัฒน์ทำไมหนูฟ้าฉาย...” ภูมิพงษ์หรี่ตามองหญิงคราวลูก ใช่ว่าเขาจะไม่สงสัยในตัวผู้หญิงคนนี้ หากแต่ว่าความสวยและทรวดทรงอันสะโอดสะองของเธอนั้นก็ได้เบี่ยงเบนความเคลือบแคลงเหล่านั้นจนหมด

ฟ้าฉายสูดอากาศเข้าปอดจนสุด กวาดสายตามองทุกร่างที่ยืนมองเธอ
ประหนึ่งผู้ต้องสงสัยที่น่ากลัว
“ถ้าอย่างนั้นหนูจะขอบอกทุกคนตามตรงนะค่ะ หนูรู้ว่าหนูหน้าตาเหมือนคุณจันทร์หอม และก่อนหน้านี้บัวเรียวเคยพาหนูมาเยี่ยมคุณพัฒน์ที่นี่ เขาถามหนูว่า...คุณภูมิพงษ์กับคุณทรงพลได้ทำอะไรหนูรึเปล่า?...”
ฟ้าฉายจ้องหน้าภูมิพงษ์ตรงๆ ก่อนที่คนข้างกายเขาจะหันไปมองหน้าภูมิพงษ์เป็นแถบๆ พิมพ์พาหันมาขึงตาใส่ฟ้าฉายทันที

“เหลวไหล... คนบ้าก็คือคนบ้า”
จบคำคนในกรงขังก็หัวเราะเย้ยหยันขึ้นมา นายพัฒน์ค่อยๆ หยัดกายขึ้นจ้องหน้าพิมพ์พา แววตาที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นนั้นทำให้ลูกสาวคนสุดท้องของเหมราชต้องยืนหน้าเสีย

“คุณพัฒน์เธอไม่ได้บ้า แต่มีคนจงใจจะทำให้เธอเสียสติไปต่างหาก เธอบอกว่ามีคนเอาอะไรบางอย่างใส่ในอาหารให้เธอกิน หนูคิดว่าคนๆ นั้นจะต้องรู้เรื่องการหายไปของจันทร์หอมหรือไม่เขาก็อาจจะเป็นฆาตกร แล้วเผอิญว่าคุณพัฒน์เธอเกิดรู้ความจริง...”

“เป็นไปไม่ได้...” คราวนี้ภูมิพงษ์แย้งขึ้นเสียงแข็ง
“ฉันว่าหนูคงคิดมากไปน่ะฟ้าฉาย”
รอยยิ้มราบเรียบของเขาทำให้ฟ้าฉายต้องนิ่วหน้า
“อร...รีบพาเพื่อนออกไปจากที่นี่เถอะ” หันไปสั่งลูกสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ ก่อนที่อรอนงค์จะสาวเท้าเข้าไปจับแขนฟ้าฉายไว้เบาๆ

“อย่านะ...พวกแกอย่าทำอะไรเธอนะ” นายพัฒน์ตะโกนลั่นก่อนที่ฟ้าฉายจะหันขวับมามองเขา

“ไม่เป็นไรนะคะ พวกเขาจะไม่ทำอะไรฉัน” เธอบอกน้ำเสียงอ่อนโยนก่อนจะเดินนำอรอนงค์ออกจากบ้านผ่านหน้าพวกผู้ใหญที่ยืนจ้องมองเธออย่างไม่พอใจ เว้นเพียงผู้ใหญ่บ้านคนเดียวเท่านั้นที่คอยสังเกตสีหน้าของทุกคนอย่างเงียบๆ

“เธอยังไปไม่ได้ เธอไม่ควรจะไปอยู่กับอรอนงค์อีก”
เสียงแหลมสูงของพิมพ์พาทำให้สองสาวที่กำลังจะก้าวขาออกจากประตูบ้านต้องหยุดกึกลง อรอนงค์เอี้ยวตัวหันกลับมามองผู้เป็นอาตาขวาง

“ไม่แน่...สองคนนี้อาจคบคิดกันฆ่าสกาวเดือนก็ได้ พวกเธอปล่อยตัวไอ้พัฒน์ออกมาจากกรงแล้วก็ใช้ให้มันไปฆ่าสกาวเดือนใช่มั้ย?” พิมพ์พาตวาดใส่หน้าหลานสาวสุดเสียง อรอนงค์กำมือสองข้างแน่นอย่างหมดความอดทน
“แกรู้...ว่าคุณปู่เอ็นดูแสงดาวกับสกาวเดือนมากกว่าแกใช่มั้ย แกกลัวว่าตัวเองจะไม่ได้สมบัติจากคุณปู่ใช่มั้ย เลยคิดจะกำจัดลูกฉัน...”

“หยุดเดี๋ยวนี้นะพิมพ์พา รู้ตัวรึเปล่าว่าพูดอะไรออกไป” ภูมิพงษ์กระชากเสียงใส่น้องสาวด้วยความโมโห หากแต่ว่าพิมพ์พากลับไม่รู้สึกสะทกสะท้าน สายตาดุจนางพญาแร้งยังคงจ้องลึกลงไปยังสองตาของอรอนงค์

“ผมว่าเราจบเรื่องนี้ไว้แค่นี้ดีกว่าครับ” เศรษฐพงษ์แทรกขึ้น ก่อนจะแตะบ่าน้องสาวเบาๆ

“อย่าไปถือสาอาพิมพ์เลยนะอร” เขาจ้องมองอรอนงค์ก่อนเลยมายังฟ้าฉาย ชั่วแวบหนึ่งนั้นหญิงสาวก็พบความหวั่นวิตกเจืออยู่ในสองตาของชายหนุ่ม

อรอนงค์ไม่พูดอะไรก่อนจะสะบัดหน้าหนีรีบจูงมือฟ้าฉายเดินหนีไปด้วยความฉุนเฉียว เมื่อเดินห่างออกมาจากบ้านพักหลังนั้นแล้วอรอนงค์จึงเปิดปากถามฟ้าฉายตรงๆ

“เธอกำลังจะไปถามอาพัฒน์ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในอดีตใช่มั้ยฟ้า...”
อรอนงค์ยังคงยึดมือฟ้าฉายไว้แน่น หญิงสาวต่างเมืองหันมาชำเลืองมองคนข้างกายก่อนหันไปมองเส้นทางอันคดเคี้ยวเบื้องหน้า

“ใช่...การตายของสกาวเดือนมีเงื่อนงำนะอร เธอเองก็คิดอย่างนั้นใช่มั้ย?”

“ใช่ฟ้า...ฉันคิด แต่ว่า...ฉันไม่อยากให้เธอเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ไม่อยากให้เธอต้องเข้ามาเดือดร้อนกับเรื่องที่เกิดขึ้นในบ้านฉัน เธอเข้าใจฉันใช่มั้ย?”
สองร่างหยุดกึกลงกลางทางก่อนหันมามองหน้ากันและกัน

“พี่อรคะ...เห็นคุณแม่หนูบ้างมั้ย?”
เสียงของแสงดาวที่เอ่ยถามมาแต่ไกลนั้นทำเอาสองร่างต้องหันขวับไปมองทันที แสงดาวก้าวขาฉับๆ ฝ่ากลุ่มดอกไม้พุ่มเตี้ยเข้ามาหาอรอนงค์ด้วยสีหน้าเป็นกังวลในขณะที่อรอนงค์สะบัดหน้าหนีไปอีกทาง

“เอ่อ... คงกำลังเดินตามพวกเรามาน่ะ” ฟ้าฉายตอบเรียบๆ ก่อนที่อรอนงค์จะจูงมือเธอเดินผ่านหน้าเด็กสาวไปอย่างไม่หันมามอง


งานสวดศพคืนที่สองแขกก็ยังคงทยอยมาบ้านคานพิภพอย่างไม่ขาดสายเช่นเคย วันนี้สถานการณ์ยิ่งตึงเครียดกว่าเมื่อวานหลายเท่านัก ฟ้าฉายรู้ดีว่าเป็นเพราะเธอที่เป็นต้นเหตุทำให้คนในบ้านนี้มองหน้ากันไม่ติด ซ้ำร้ายเธอยังทำให้ภูมิพงษ์และเศรษฐพงษ์รวมถึงคนอื่นๆ สงสัยและไม่ไว้ใจเธอ แต่จะอย่างไรก็ตามที ฟ้าฉายจะไม่ยอมง่ายๆ แน่ อย่างน้อยเธอก็ต้องช่วยให้นายพัฒน์เป็นอิสระออกมาจากกรงขังบ้าๆ นั่นให้ได้

อัศวินกับพ่อของเขามางานสวดศพในตอนเย็นเหมือนอย่างเคย ระหว่างนั้นหญิงสาวจึงหาโอกาสส่งจดหมายแผ่นเล็กๆ ให้ตำรวจหนุ่ม โดยกำชับให้เขาส่งโทรเลขไปบอกพ่อเธอที่ขอนแก่น อัศวินรับคำโดยง่ายก่อนจะลาจากไป เมื่อเหล่าแขกเหรื่อที่มาค่อยๆ ทยอยกลับไปจนหมดบ้านคานพิภพจึงตกอยู่ในความเงียบเหงาวังเวงอีกครั้ง

ฟ้าฉายรู้สึกว่าอากาศคืนนี้หนาวเย็นกว่าเมื่อคืนวานที่ผ่านมา อุณหภูมิคงลดลงอีกหนึ่งถึงสององศา ที่ใต้ถุนหลังเรือนใหญ่เห็นพวกหญิงในหมู่บ้านช่วยกันล้างถ้วยจานที่ใช้แล้ว ด้านบนก็เหลือเพียงแค่พิมพ์พาและทรงพลกับแสงดาวผู้เป็นลูกสาว ส่วนภูมิพงษ์และสมาชิกในครอบครัวเขารวมทั้งฟ้าฉายก็หนีกลับเรือนพักตัวเองไปแล้ว

ฟ้าฉายกับอรอนงค์กำลังก้มลงกราบหมอนหลังสวดมนต์ก่อนนอนเสร็จแล้ว แต่ขณะที่จิตใจกำลังสงบนิ่งนั้นดวงตากลมใสของสองสาวก็ต้องเบิกโพลงขึ้นพร้อมกัน เสียงกรีดร้องโวยวายของผู้หญิงดังแว่วมาจากหลังเรือนใหญ่ นั่นทำให้ทั้งอรอนงค์และฟ้าฉายต้องดีดตัวลุกจากเตียงพร้อมๆ กัน สองสาวรีบวิ่งลงบันไดตรงไปยังเรือนคานพิภพหลังกลางทันที

พวกคนบนเรือนใหญ่ต่างนั่งห้อมล้อมหญิงจากหมู่บ้านที่มาช่วยงาน ฟ้าฉายและอรอนงค์รีบแทรกกายเข้าไปดูด้วยความอยากรู้ หญิงบ้านนาคนนี้ไม่ได้ถูกผีเข้า หากแต่เธอบอกว่าเห็นวิญญาณผู้หญิงคนหนึ่งเดินวนเวียนอยู่ในสวนดอกไม้แล้วก็จางหายไปในเงามืด !

จากคุณ : ผีเสื้อสีดำ
เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 54 14:58:04




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com