Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๑๖ คำลวงของคนทรง) ติดต่อทีมงาน

ความลับฤดูหนาว  (บทที่ ๑ ศพเดินได้)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11309801/W11309801.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๒ คนบ้าในกรงขัง)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11321605/W11321605.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๓ ชายหนุ่มและสมมุติฐาน)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11331282/W11331282.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๔ รูปจำลองเสมือนจริง)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11338619/W11338619.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๕ คำเตือนของอัศวิน)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11350818/W11350818.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๖ จดหมายจากแดนไกล)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11358855/W11358855.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๗ การเดินทางของวสันต์)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11367272/W11367272.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๘ ดวงดาวผู้เป็นพยาน)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11379302/W11379302.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๙ กระดาษและกระดุมเสื้อ)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11394554/W11394554.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๑๐ เสียงกรีดร้องของไพรินทร์)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11399214/W11399214.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๑๑ ความแตกต่างของสำเนียง)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11406396/W11406396.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๑๒ พิสูจน์ลายมือ)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11411321/W11411321.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๑๓ ความสัมพันธ์แบบปิด)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11413995/W11413995.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๑๔ หญิงสาวผู้ตกเป็นจำเลย)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11417016/W11417016.html
ความลับฤดูหนาว (บทที่ ๑๕ ความลับที่ซ่อนเร้น)
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11420821/W11420821.html





บทที่ ๑๖ คำลวงของคนทรง

คืนนั้นทั้งคืนพวกผู้ชายก็ออกตระเวนหาไอ้โม่งชุดดำจนเกือบรุ่งสาง ในบ้านคานพิภพทั้งสามหลังไม่มีใครหลับตาลงนอนได้เลยสักคน ฟ้าฉายอยู่รวมกับพวกสมาชิกในบ้านคานพิภพยังเรือนหลังกลางพร้อมกับอรอนงค์ จนกระทั่งเช้าจึงขอตัวกลับเรือนพัก พวกเขาไม่พบไอ้โม่งชุดดำที่เข้ามาในห้องนายท่านเหมราช คานพิภพ พวกชายในหมู่บ้านจำต้องลากลับเข้าหมู่บ้านเพื่อไปทำไร่ทำสวนตามปกติ บ้านคานพิภพจึงตกอยู่ในภวังค์ของความเงียบงันอีกครั้ง

อัศวินและนายตำรวจอีกสามนายเดินทางมาที่นี่เพื่อหาหลักฐานภายในห้องพักของประมุขแห่งบ้านคานพิภพ แต่ก็ไม่พบหลักฐานใดๆ เลย พิมพ์พาเล่าว่าเธอได้ยินเสียงผู้เป็นพ่อร้องจึงรีบผลักประตูเข้าไปดู จากนั้นจึงได้โม่งชุดดำจึงใช้เท้าถีบเธอจนกระเด็นออกมาจากหน้าประตู นายทรงพลตรงปรี่จะเข้าไปตะครุบตัวมันไว้แต่ก็ถูกมัดชกจนสลบเหมือด เมื่อลุกขึ้นอีกครั้งพิมพ์พาจึงวิ่งไปดึงร่างมันไว้ก่อนจะถูกมันเหวี่ยงจนตัวเองล้มใส่โลงศพของสกาวเดือน ภูมิพงษ์มาถึงในจังหวะนั้น เขาเล็งปืนไปที่มันก่อนจะยิงแต่ก็พลาดเป้า มันวิ่งลงไปยังบันไดหลังเรือนใหญ่ก่อนจะหายลับไปในเงามืด ฟ้าฉายกับเศรษฐพงษ์มาถึงก่อนภูมิพงษ์ เธอจึงได้เห็นไอ้โม่งชุดดำเต็มสองตา


เมื่อผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นซิ่นไหมสีดำและเสื้อแขนกระบอกสีทึบแล้วหญิงสาวก็รีบตรงมาหาอัศวินทันที เช้านี้ชายหนุ่มมีสีหน้าอิดโรยเหมือนกับหลายๆ คนในบ้านคานพิภพ

“ไอ้โม่งชุดดำเมื่อคืนนี้เป็นผู้ชายรูปร่างปราดเปรียวสมส่วนและแข็งแรงมาก อายุคงไม่เกินสามสิบแถมยังมีพละกำลังมหาศาลถึงขนาดซัดทรงพลจนสลบ แต่มันเข้าไปหาเหมราชทำไม แล้วมันทำอะไรทำไมท่านถึงช็อคจนกลายเป็นอัมพาตได้...” อัศวินกัดริมฝีปากล่างเบาๆ ขณะทอดสายตามองทุ่งนาที่เงียบเหงาด้วยทิวหมอกสีขาวหม่นหมอง ลมเย็นยามเช้าพัดเข้าใส่สองร่างที่ยืนเคียงข้างกัน

“คนๆ นั้นต้องรู้จักบ้านคานพิภพเป็นอย่างดี เขารู้ว่าห้องของนายท่านเหมราชอยู่ตรงไหน รู้ทางหนีทีไล่ภายในบ้านคานพิภพ...ต้องเป็นคนในบ้านหลังนี้แน่” คำพูดของหญิงสาวทำให้อัศวินหันขวับมามองตาโต

“แล้วตอนที่คุณเจอไอ้โม่งดำนั่น มีใครอยู่ด้วยบ้าง”

“ถ้าเป็นผู้ชายในบ้านทุกคนอยู่ตรงนั้นค่ะ เว้นแต่บุญยืนกับบุญยงค์สองพ่อลูกที่ตามมาทีหลัง”

อัศวินพยักหน้าเนิบนาบก่อนถอนหายใจยาว

“นายคงไม่คิดว่าจะเป็นนายบุญยงค์ใช่มั้ย?” คำถามของฟ้าฉายทำให้เขายกยิ้ม

“มันก็น่าคิดไม่ใช่เหรอครับ นายนั่นไม่อยู่ตอนที่ไอ้โม่งดำปรากฎตัว แถมยังคงเป็นพบศพสกาวเดือนคนแรก”

“นายผิดแล้วอัศวิน...” ฟ้าฉายจุดยิ้มก่อนที่ชายหนุ่มจะเลิกคิ้วสูง

“เมื่อคืนนี้ฉันได้เห็น และได้รู้ความลับอะไรหลายๆ อย่างที่นายยังไม่รู้ และฉันก็แน่ใจด้วยว่าฆาตกรไม่ใช่บุญยงค์แน่นอน รวมทั้งแน่ใจด้วยว่าคนในบ้านนี้รู้ว่าฆาตกรที่ฆ่าสกาวเดือนเป็นใคร”

“แล้วใครล่ะครับ?...” อัศวินจ้องมองดวงหน้าหวานละมุนตรงหน้าแน่นิ่ง ฟ้าฉายค่อยๆ เอนสายตาลงต่ำ นึกไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ก่อนจะระบายลมหายใจออกเบาๆ

“เอาไว้ให้ฉันแน่ใจก่อนนะ อีกอย่าง...วันนี้นายอย่าลืมไปส่งโทรเลขบอกพ่อฉันนะ” สายตาอัศวินมีแววเสียดายปรากฏอยู่ก่อนที่ชายหนุ่มจะพยักหน้ารับ

“และอีกอย่าง...ตั้งแต่เกิดเรื่องของสกาวเดือนคนบ้านคานพิภพยังไม่ได้ส่งข่าวบอกวสันต์ที่ศรีสะเกษเลย...ฉันอยากจะให้นายเป็นธุระจัดการเรื่องนี้ให้หน่อย ส่งคนไปหาเขาวันนี้ได้ยิ่งดี” น้ำเสียงที่ฟังดูร้อนรนของเธอทำให้ชายหนุ่มต้องหรี่ตามอง

“คุณฟ้าสงสัยนายวสันต์เหรอครับ...”

ชายหนุ่มรอฟังคำตอบจากร่างระหงตรงหน้า แสงแดดทาบทอใบหน้านวลเนียนขณะช้อนสายตาขึ้นสบกับดวงตาคมเข้มของชายหนุ่ม ริมฝีปากอวบอิ่มเม้มแน่นพร้อมกับคลี่ยิ้มมาดมั่น


เมื่อล่วงเข้าเวลาบ่ายสามโมงขบวนจึงเคลื่อนศพสู่ป่าช้าที่ห่างจากหมู่บ้านไปทางทิศใต้ราวสองกิโลเมตรและกว่าพิธีจะเสร็จสิ้นก็เกือบเย็นพอดี คนที่อยู่บ้านคานพิภพในเวลาเหลือเพียงแค่นายเหมราชกับตำรวจอีกสามนายที่คอยเฝ้าเขาไว้อย่างไม่ให้คลาดสายตาส่วนคนอื่นๆ ในบ้านต่างมายังสถานที่ฝังศพของสกาวเดือนอย่างพร้อมเพรียง

เป็นอีกครั้งที่ฟ้าฉายต้องทนฟังนางพิมพ์พาร่ำไห้ด้วยความอาลัยอาวรณ์ผู้เป็นลูกสาว เมื่อพวกผู้ชายเกลี่ยดินกลบโลงศพในหลุมเป็นที่เรียบร้อยแล้วอรอนงค์จึงจูงมือผู้เป็นเพื่อนออกมานอกป่าช้าด้วยสีหน้าที่ยังคงขุ่นมัว

“คืนนี้ฉันมีเรื่องจะเซอร์ไพรส์นะฟ้าฉาย...” อรอนงค์ลากเสียงขณะเดินนำผู้เป็นเพื่อนมาหลบอยู่ใต้ร่มไม้รอคนจากบ้านคานพิภพที่กำลังทยอยเดินออกมาจากป่าช้าพร้อมกับพวกชาวบ้าน

“เรื่องอะไรเหรออร” หญิงสาวเอียงคอก่อนที่อรอนงค์จะผุดยิ้มเยือกเย็น

“ฉันจะทำให้อาพิมพ์พารวมทั้งทุกคนได้ตาสว่างกันซักที แม้จะทำให้คุณพ่อกับคุณปู่ไม่พอใจก็ตาม แต่ฉันก็จะทำเพื่อความสบายใจของฉันเอง...และเพื่อตัวเธอด้วยนะฟ้า” คำพูดของผู้เป็นเพื่อนทำให้ฟ้าฉายรู้สึกอึดอัดใจยังไงไม่รู้ อรอนงค์ทอดสายตาไปยังชายชุดขาววัยห้าสิบคนหนึ่งที่เดินเคียงคู่นางผุสดีออกมาจากป่าช้าด้วยสายตาที่เปี่ยมด้วยความหวัง


ตอนนี้ฟ้าฉายยังคิดไม่ตกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ เศรษฐพงษ์กำลังจ้องมองเธออยู่ด้วยสายตาที่หวาดระแวง หากเขาสมรู้ร่วมคิดกับฆาตกรผู้ซึ่งฟ้าฉายคิดว่าเป็นวสันต์จริง เธอก็กำลังตกอยู่ในอันตรายแล้ว !

“คุณฟ้าคะ คุณฟ้า...”

เสียงบัวเรียวที่ยืนเรียกอยู่หน้าประตูห้องทำให้หญิงสาวที่นั่งมองดาวนอกหน้าต่างบนเตียงต้องหันขวับไปที่ประตูก่อนจะรีบสาวเท้าไปเปิดมันออกว้าง

“คุณอรให้มาตามคุณฟ้าไปที่เรือนใหญ่ค่ะ” ใบหน้าดำคล้ำของหญิงแม่บ้านประดับไปด้วยรอยยิ้ม ฟ้าฉายชะเง้อคอมองห้องนอนฝั่งตรงข้ามที่ยังคงปิดสนิท

“ทุกคนไปเรือนใหญ่กันหมดแล้วเหรอ?”

บัวเรียวพยักหน้าแทนคำตอบก่อนที่หญิงสาวจะกลับไปคว้าเอาผ้าคลุมไหล่ผืนใหญ่ รีบล็อกห้องและเดินตามบัวเรียวไปยังเรือนคานพิภพหลังกลาง

ฟ้าฉายมาถึงเป็นคนสุดท้าย สมาชิกทั้งหมดในตระกูลคานพิภพยกเว้นนายท่านเหมราชที่ยังนอนซมอยู่ในห้องต่างนั่งเรียงรายกัน ห้อมล้อมด้วยพวกชาวบ้านบางส่วน ผู้ใหญ่บ้านนำพานเงินเล็กที่มีหมากที่ฝานออกเป็นเสี่ยงๆ พลู ดอกไม้และเทียน ส่งให้กับชายวัยห้าสิบปีในชุดขาวที่ฟ้าฉายเห็นเดินเคียงคู่มากับนางผุสดีเมื่อตอนออกมาจากป่าช้า

แต่ในจำนวนผู้ที่นั่งรวมกันอยู่ในเรือนคานพิภพขณะนี้ คนที่ทำให้หญิงสาวต้องเลิกคิ้วสูงและเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อได้พบหน้านั่นก็คือ แม่ชีขจีเกศ...

ตั้งแต่ที่สกาวเดือนถูกฆ่าตายแม่ชีขจีเกศก็ไม่ได้เดินทางมาร่วมงานศพแม้แต่วันเดียว แต่นี่...แม่ชีสูงวัยกลับมายังบ้านคานพิภพเพื่อดูคนทรงเข้าทรงอย่างนั้นหรือ? เหตุที่เธอยอมมานั้นคงมีเหตุผลอยู่สองข้อ หนึ่งคือเพราะอรอนงค์เป็นคนชวน สองคือเธอเองก็ต้องการจะรู้ว่าใครคือฆาตกรเช่นกัน !

ข้างฝ่ายนางพิมพ์พานั้นไม่เห็นด้วยกับความคิดของอรอนงค์อยู่แล้ว แต่หญิงสาวก็ทำการได้รวบรัด จัดการพาร่างทรงมายังบ้านคานพิภพโดยไมได้บอกกล่าวพวกผู้ใหญ่ไว้ล่วงหน้า แถมยังกันพลาดโดยเชื้อเชิญผู้ใหญ่บ้านและผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านให้มาเป็นพยานรับฟังร่วมกัน

ฟ้าฉายเดินเข่าไปหาอรอนงค์ก่อนทรุดนั่งลงข้างเธอ เวลาหนึ่งทุ่มตรง เมื่อทุกอย่างพร้อม การเข้าทรงเพื่อเรียกวิญญาณจันทร์หอมให้มาประทับร่างของร่างทรงจึงเริ่มขึ้น

ชายร่างทรงยกพานเงินขึ้นเสมอหน้าผากพร้อมกับบริกรรมคาถาบางอย่าง จากนั้นจึงค่อยๆ วางมันลงตรงหน้า เขาหลับตาลงหากแต่ปากยังคงเอ่ยวาจาที่ฟ้าฉายฟังไม่เข้าใจก่อนที่ร่างในท่านั่งขัดสมาธิจะโยกโอนเอนไปมาราวกับตุ๊กตาล้มลุก ทุกร่างที่นั่งล้อมชายร่างทรงแทบหยุดหายใจ ทุกสายตาจับจ้องไปยังใบหน้ามันเยิ้มของชายแก่ก่อนที่สองตาแดงก่ำจะเบิกโพลงขึ้น

หลายคนแอบสะดุ้งน้อยๆ ฟ้าฉายเองก็เช่นเดียวกัน เสียงกระแสลมพัดปลายไม้ดังหวีดหวิวอยู่เบื้องนอก ดวงตาแดงก่ำที่คุด้วยเปลวไฟแห่งความอาฆาตแค้นกวาดสายตามองไปรอบๆ กาย

“จันทร์หอมใช่มั้ย?...” เสียงของผู้ใหญ่บ้านแหบเครือ ฟ้าฉายกลอกตามองผู้สื่อสารและร่างทรงไปมา ชายชุดขาวเม้มปากดำคล้ำ สายตาอันโกรธเกรี้ยวแปรเปลี่ยนเป็นรื้นด้วยม่านน้ำตาก่อนที่เขาจะพยักหน้าน้อยๆ

พวกผู้เฒ่าผู้แก่หันไปมองหน้ากันเลิ่กลั่ก พิมพ์พาหน้าถอดสีลงอย่างเห็นได้ชัด เธอจ้องมองชายร่างทรงราวกับว่ากำลังเห็นผียังไงยังงั้น

“ที่พวกเราเรียกเธอมาวันนี้ก็เพราะว่าอยากจะรู้ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นในบ้านคานพิภพนั้นมันเกี่ยวข้องกับการตายของเธอรึเปล่า?”

ฟ้าฉายต้องย่นคิ้วอย่างแปลกใจ คิดว่าผู้ใหญ่บ้านน่าจะถามร่างทรงว่าใครเป็นคนฆ่าเธอถึงจะถูก...

ชายร่างทรงก้มหน้านิ่ง เปลี่ยนท่านั่งจากขัดสมาธิมาเป็นพับเพียบ ท่าทางสงบเสงี่ยมและอากัปกิริยากันวางมือและเคลื่อนไหวเหมือนกับผู้หญิงทุกประการ หากเขาเป็นนักแสดงก็คือแสดงบทบาทนี้ได้แนบเนียนมาก

“เกี่ยว...” น้ำเสียงแหลมสูงเล็ดลอดออกมาจากปากของร่างทรง นั่นทำให้ทั้งหมดต้องหันมามองหน้ากัน อรอนงค์สุดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ก่อนจะเอ่ยถามร่างทรงไปด้วยน้ำเสียงมาดมั่น

“แล้วใครเป็นคนฆ่าสกาวเดือนคะ?...” คำถามของเธอเถรตรง ลมเย็นๆ พัดเข้าใส่ทุกร่างที่นั่งชุมนุมกันอยู่กลางเรือนคานพิภพจนหนาวยะเยือกไปทั่วสรรพางค์กาย

ชายวัยห้าสิบผู้เป็นร่างทรงตัวสั่นเทิ้มขึ้นมาอีกครั้งก่อนที่เขาจะหัวเราะร่าออกมา ใบหน้าดำคล้ำหันไปจ้องหน้านายภูมิพงษ์ รอยยิ้มเหยียดหยันของร่างทรงทำให้ทุกร่างต้องนิ่งค้างไปในฉับพลัน

“บ้าไปแล้ว...ไม่จริง ฉันไม่ได้ฆ่าแม่หนูสกาวเดือน” ชายวัยสี่สิบห้าแย้งเสียงแข็งขณะที่พิมพ์พาจ้องหน้าพี่ชายตาขวาง ผู้ใหญ่บ้านถามย้ำร่างทรงอีกครั้ง

“ตกลงว่าเป็นใครที่ฆ่าหนูสกาวเดือน?...”

“ขอโทษนะคะ...” น้ำเสียงกังวานใสที่แทรกขึ้นทำให้ทุกคนหันขวับมาที่ฟ้าฉายเป็นตาเดียว หญิงสาวจ้องหน้าผู้ใหญ่บ้าน บนดวงหน้านวลเนียนไม่มีอาการหวั่นวิตกเลยแม้แต่น้อย

“ทำไมถึงไม่ถามร่างทรงว่า ใครเป็นคนฆ่าจันทร์หอม ในเมื่อเราก็เชิญวิญญาณเธอมาแล้ว...”

คำพูดของหญิงต่างถิ่นทำให้พวกผู้เฒ่าผู้แก่ต้องปิดปากเงียบ พิมพ์พาสะบัดหน้ามาทางหญิงสาวก่อนจ้องมองด้วยแววตาอาฆาตมาดร้าย

“หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ...มันกงการอะไรของเธอ ร่างทรงนี่พูดเหลวไหล วิญญาณนังจันทร์หอมไม่มีอยู่จริงหรอก”

“ทำไมคะ...หรือว่าคุณอาพิมพ์พากลัว” อรอนงค์แสยะยิ้มก่อนหรี่ตามองหญิงผู้มีศักดิ์เป็นอา “คุณอากลัวอะไรล่ะ...หรือว่าคุณอาจะเป็นฆาตกรที่ฆ่าจันทร์หอม ผีมันก็เลยมาหักคอลูกสาวคุณอา”

“นังอรอนงค์...”

พิมพ์พาคว้าเอาพานเงินเขวี้ยงใส่หน้าอรอนงค์อย่างแรงแต่โชคดีที่อีกฝ่ายยกแขนขึ้นบังหน้าไว้ได้เสียก่อน ฟ้าฉายรีบเข้าไปประคองร่างคนเป็นเพื่อน ที่ท้องแขนมีรอยถลอกและเขียวช้ำ เศรษฐพงษ์รีบตรงปรี่เข้าไปล็อกตัวนางพิมพ์พาทางด้านหลังในขณะที่เธอดิ้นทุรนทุรายอย่างไม่ยอมแพ้

ชายร่างทรงปิดเปลือกตาลงก่อนที่ร่างกายจะสั่นระริก ตัวโยกเยกไปมาหลายสิบรอบก่อนล้มฮวบลงกับพื้นไม้ ผู้ใหญ่บ้านและพวกชาวบ้านต่างเข้าไปประคองเข้าให้ลุกนั่ง เมื่อได้สติแล้วจึงทราบว่าวิญญาณที่มาประทับร่างได้ออกไปแล้ว

อรอนงค์และพิมพ์พาเถียงกันอยู่นานกว่าที่จะสงบลง ฟ้าฉายรีบเดินลงจากเรือนเมื่อบัวเรียวมาแจ้งว่าอัศวินรอพบเธออยู่ที่หน้าเรือน ทันทีที่ได้สบตากันหญิงสาวก็ต้องแปลกใจ สีหน้าเขาดูร้อนรนและเครียดเกร็ง เขาไม่ได้ส่งยิ้มทักทายเธอเหมือนเคยแม้เธอจะเอ่ยทักเขาไปแล้วก็ตาม

“ดูสีหน้านายไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย จะมาแจ้งเรื่องลายมือเหรอ?” หญิงสาวเลิกคิ้วก่อนที่ชายตรงหน้าจะส่ายศีรษะน้อยๆ มือหนาส่งกระดาษแผ่นเล็กๆ ให้ฟ้าฉาย

“วันนี้ผมไปส่งโทรเลขให้คุณ แต่เผอิญเจ้าหน้าที่เขาได้เห็นชื่อของคุณในกระดาษที่คุณเขียนข้อความเพื่อแจ้งให้พ่อคุณทราบ เขาก็เลยถือโอกาสฝากโทรเลขฉบับนี้ที่มาจากขอนแก่นให้กับผม ฝากมาให้คุณด้วย” น้ำเสียงของอัศวินเบาลงเรื่อยๆ จนกระทั่งฟ้าฉายไม่ได้ยินเสียงอะไรในที่สุด

มือเรียวสวยที่ถือกระดาษสีขาวในมือสั่นระริก สองตากลมใสจ้องมองข้อความในกระดาษแน่นิ่ง...

นายวชิระแจ้งข่าวมาจากขอนแก่นถึงเรื่องจดหมายที่ฝากฟ้าฉายมาส่งให้กับนางไพรินทร์ เย็นวันหนึ่งหลังเลิกงานพ่อเธอก็ได้มีโอกาสพบกับเจ้าของโรงสีในตัวเมือง คนที่ฝากจดหมายให้เขาเพื่อนำให้ฟ้าฉายเอาไปส่งให้แก่ผู้รับยังบ้านคานพิภพ เศรษฐีเฒ่ากล่าวว่าหญิงคนงานของเขาฝากมันมาให้

และเธอคนนั้นก็คือ...จันทร์หอม

“เธอยังไม่ตาย...จันทร์หอมยังไม่ตาย”

น้ำเสียงของฟ้าฉายเบาหวิวราวกับเสียงกระซิบ หญิงสาวเอี้ยวตัวกลับไปมองยังเรือนคานพิภพ พวกชาวบ้านกำลังทยอยกันเดินลงมาจากเรือน ในขณะที่นางผุสดีเดินเนิบนาบลงบันไดเคียงคู่กับชายร่างทรงจากหมู่บ้าน

จากคุณ : ผีเสื้อสีดำ
เขียนเมื่อ : 6 ธ.ค. 54 18:58:08




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com