[ผ่านการพิจารณา สนพ. Inlove] จ้างเธอให้รัก ตอนที่17>>>>>>>>>>
|
 |
ลิงค์ของตอนที่ผ่านมานะคะ
บทนำและตอนที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10613052/W10613052.html ตอนที่2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10644126/W10644126.html ตอนที่3 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10661938/W10661938.html ตอนที่4 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10682612/W10682612.html ตอนที่5 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10712662/W10712662.html ตอนที่6 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10756171/W10756171.html ตอนที่7 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10770518/W10770518.html ตอนที่8 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10800113/W10800113.html ตอนที่9 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10850347/W10850347.html ตอนที่10 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10875048/W10875048.html ตอนที่11 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10966374/W10966374.html ตอนที่12 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W10993897/W10993897.html ตอนที่13 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11029236/W11029236.html ตอนที่ 14 PART1/2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11115180/W11115180.html ตอนที่ 14 PART2/2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11179537/W11179537.html ตอนที่15 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11267271/W11267271.html ตอนที่ 16 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11304325/W11304325.html
\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\\
สนามบิน
เมื่อคืนก่อนนีรนาต่อว่าปรุฬห์เพราะเขาเกือบจะนอนเบียดจนดันเธอตกเตียง วันนี้เขาจึงแก้ตัวด้วยการเขยิบเข้าไปใกล้ๆเธอ ใช้จมูกดมกลิ่นหอมๆจากเรือนผมบริเวณต้นคอจนอดไม่ได้ที่จะก้มจูบ เขาถือวิสาสะเลื่อนมือโอบเธอเอาไว้ขณะปิดโคมไฟเหนือหัวเตียงนอน
ใกล้ ... ใกล้ชิดเกินไปหรือเปล่า ปรุฬห์ไม่รู้หรอก เขารู้แค่เพียงว่าอยากสัมผัสร่างกายของเธอให้นานกว่านี้ภายใต้ความมืดและความเงียบกริบกับอากาศเย็นๆจากเครื่องปรับอากาศ
เขารู้สึกอย่างไรกับเธอกันแน่นะ ... ชายหนุ่มไม่เคยถามตัวเองเลย เขาไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะปันใจให้หญิงคนไหนได้ง่ายๆโดยเฉพาะช่วงเวลาที่ชีวิตของเขาวนเวียนกับธุรกิจและสมองของเขาก็ไม่มีที่ว่างให้แก่ผู้หญิงคนไหนทั้งนั้น มันคงเป็นเพียงอารมณ์ชั่วคราวของเขา อารมณ์ซึ่งอยากครอบครองผู้หญิงซึ่งเขาเป็นเจ้าของตอนนี้ หรือบางทีเขาอาจจะเผลอใจเพียงเสี้ยวหนึ่งให้แก่เธอโดยไม่รู้ตัวจนมันงอกงามเติบโตในจิตใจของเขาและไม่สามารถห้ามความรู้สึกนี้ได้อีกต่อไป
เขาได้ยินเสียงนีรนาพึมพำชื่อของเขาในลำคอ
“รุฬห์คะ”
เสียงใสๆนั้นกำลังกระเซ้าอารมณ์เขาอยู่โดยที่เธอไม่รู้ตัวเลย ... ไม่ได้ ...ไม่ได้นะ!
นีรนาเลื่อนมือคลำตามใบหน้าของเขาก่อนจะลูบไล้เบาๆจนทำให้เขาเผลอจูบนิ้วของเธออีกแล้ว ... เดี๋ยวก่อน ... นีรนากำลังหลอกเขาหรือเปล่า เธอต้องทำอย่างนั้นแน่ๆ! เธอพยายามทำให้เขาตกหลุมพรางของเธอเหมือนที่เธอเคยกระทำเช่นนั้นกับน้องชายของเขาเอง ...
เมื่อคิดแบบนี้แล้วปรุฬห์ก็รีบผละตัวเองออกห่างจากนีรนา เขานั่งกุมขมับบนขอบเตียงนอน หญิงสาวไม่ได้เอ่ยถามอะไรอีก ดูเหมือนเธอเองก็นั่งสงบสติอารมณ์ครู่หนึ่งแล้วจึงพลิกตัวพยายามข่มตาหลับโดยไม่สนใจเขา
นีรนาไม่ได้ปลูกยาเสน่ห์ใส่ปรุฬห์หรอก ทว่าเขากลับถลำลึกเกินไปเสียแล้ว ชายหนุ่มเดินไปนั่งบริเวณระเบียงเพียงลำพังพยายามไล่อารมณ์รักในเสี้ยววินาทีที่เขาต้องสบตากับนีรนาออกไป
หลังจากงานประชุมหนึ่งอาทิตย์ผ่านพ้นไปเรียบร้อยแล้ว นีรนาก็รู้สึกได้ว่าความรู้สึกของเธอที่มีต่อปรุฬห์เปลี่ยนไป เธอไม่อยากยอมรับเรื่องนี้ทว่าเธอรู้ตัวเองดี ชายหนุ่มไม่ได้พยายามลวนลามเธออีก เพียงแต่เธอก็ปล่อยให้เขาจูงมือหรือโอบกอดโดยไม่ได้โต้ตอบกลับ
นีรนาคงปฏิเสธไม่ได้ในเมื่อเธอรู้สึกอบอุ่นทุกครั้งที่ได้อยู่ใต้อ้อมแขนของเขา
เธอไม่รู้ว่าเขาคิดเช่นไรต่อเธอ ... บางทีเนื่องจากรอบกายล้วนเป็นสิ่งเสแสร้งปรุฬห์ก็คงปฏิบัติกับเธอด้วยการไร้ซึ่งความจริงใจตลอดเวลา นีรนาไม่อยากให้มันเป็นเช่นนั้นเลยเพียงสักนิดเดียว
ทำไมเธอต้องรู้สึกวาบหวิวใจและเจ็บปวดร้าวลึกเช่นนี้ทั้งๆที่ตลอดเวลาปรุฬห์ก็นัดรับเธอทานอาหารด้วยกันตามปกติ ช่วงวันเสาร์อาทิตย์ก็เดินทางไปตามสถานที่ต่างๆที่มีกิจกรรมพิเศษร่วมกันสองคน ปรุฬห์ไม่ต้องการให้เปมิกาได้โอกาสทองของเธอในการโทรศัพท์หาเขาหรอก
นับตั้งแต่ที่ชายหนุ่มเดินทางกลับไปยังบ้านหลังใหญ่ของครอบครัวคฤษฐานนท์ แทบทุกวันเขาจะต้องเห็นเปมิกาเอาอกเอาใจแม่ของเขาจนออกนอกหน้า ปรุฬห์ตัดสินใจย้ายออกมาจากบ้านหลังนั้นอย่างเด็ดขาดโดยวางเงื่อนไขซึ่งทำให้เขาต้องทะเลาะกับพ่อตัวเอง นั่นก็คือการยกเลิกพิธีหมั้นให้เร็วที่สุด
“พ่อไม่เห็นด้วยที่จะยกเลิกการหมั้นในตอนนี้”ปรุฬห์บอกนีรนาขณะที่เขาพาเธอไปเที่ยวสวนสัตว์ ชมนกชมไม้และสุดท้ายก็ถีบจักรยานน้ำด้วยกันจนเย็นค่ำ
“ไม่สำเร็จหรือ”นีรนาถามด้วยความสงสัย
“เปล่าหรอกครับ พ่อแค่คิดว่าเขายังไม่รู้จักนีรดีพอ เขาต้องการเวลาอีกสักหน่อย”ปรุฬห์เลื่อนมือลูบศีรษะขณะที่เธอมุ่ยหน้า “ทำไมล่ะ?ไม่ดีหรือ? ระหว่างนี้คุณได้รับเบี้ยเลี้ยงจากผมทุกเดือน คุณไม่ชอบหรือยังไง? มันน้อยไปใช่ไหมที่ผมจ่ายห้าพันต่อเดือนน่ะ”รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเขาต้องทำให้เธอแลบลิ้นใส่ ปรุฬห์มองหน้าของเธอแล้วจึงหัวเราะร่า นีรนาหมั่นเขี้ยวเมื่อมองเขายักคิ้วหลิ่วตากวนจิตกวนใจ เธอจึงวักน้ำสีเขียวขุ่นในสระน้ำสาดใส่เขา ปรุฬห์หลบแทบไม่ทัน “โอ้โห เอาอีกแล้ว ... คุณน่ะพอล้อเล่นด้วยแล้วก็ใช้วิธีสกปรกทุกที”
“สำหรับคุณแล้วต้องใช้วิธีสกปรกเท่านั้นล่ะ”นีรนาเถียง
ชายหนุ่มหันไปมองดูเธอด้วยความกังขา ... หญิงสาวกำลังยิ้ม ...
เธอจะมีความหมายเคลือบแฝงอย่างอื่นหรือเปล่า? มันอาจจะเป็นความมารยาร้ายกาจซึ่งซุกซ่อนเอาไว้ในตัวเธอจนทำให้เขาต้องเกิดความไว้วางใจหรือแม้แต่พ่อแม่ของเขาก็ไม่เอ่ยปฏิเสธใดๆ และอันที่จริงดูเหมือนคุณชวรินทร์และคุณนายรพินทร์ต่างก็ให้โอกาสเขาดูใจกับเธออีกด้วย
ปรุฬห์หันไปวักน้ำบ้างแล้วหญิงสาวก็รีบเคลื่อนตัวหนีจนลำจักรยานน้ำเอียง ชายหนุ่มทำทีเป็นตั้งใจจะสาดน้ำเขียวๆกลับแต่เขาก็ยั้งมือเอาไว้ มองดูสีหน้าตกใจของเธอจนเกิดความขำเหลือเกิน ในระหว่างนั้นปรุฬห์ก็รู้สึกได้ว่าโทรศัพท์มือถือสั่นอยู่ในกระเป๋าสองครั้งแล้วก็พบว่ามีผู้ส่งข้อความมาหาเขาคือลตา
รุฬห์จ๊ะ ตอนนี้เรากำลังจะกลับเมืองไทย ตื่นเต้นมากๆเลยล่ะ!
ดีใจมากๆด้วย
เราคงได้เจอกันที่สนามบินใช่ไหม?
ลตา
คำถามของเธอก็คือการขอร้องให้เขาไปหาเธอที่นั่น
ปรุฬห์คงปฏิเสธไม่ได้หรอก ลตาเพิ่งจะเจ็บช้ำจากการทำแท้ง แม้ว่ามันจะผ่านมานานนับเดือนแล้วก็ตาม คำพูดดูถูกของพ่อตัวเองและความไม่เป็นผู้นำของแอลเลนคงทำให้ลตาหวังพึ่งพาเพียงปรุฬห์เท่านั้น เขาควรจะไปพบเธอในครั้งนี้
ชายหนุ่มส่งข้อความสั้นๆสอบถามเกี่ยวกับเที่ยวบินและเวลาอีกเล็กน้อยแล้วจึงรีบเก็บโทรศัพท์มือถือใส่เอาไว้ในกระเป๋าขณะเหลือบไปมองนีรนาซึ่งเลื่อนสายตากวาดไปรอบๆขณะถีบจักรยานน้ำช้าๆพร้อมฮัมเพลงเบาๆก็รู้ในทันทีว่าเธอคงจะเดาได้ว่าข้อความที่ถูกส่งมาเป็นเรื่องส่วนตัว
“คืนนี้คุณไปสนามบินกับผมนะ”
นีรนาต้องหันไปมองอย่างสงสัย “ไปรับเพื่อนฝรั่งของคุณหรือ”
“เปล่าหรอก เพื่อนคนนี้เรียนมหาวิทยาลัยในอังกกฤษ ไม่ได้เจอกันหลายปีน่ะ”
นีรนาตอบตกลงพร้อมพยักหน้าเบาๆ
“เธอมีปัญหาที่น่าเป็นห่วง”หญิงสาวสังเกตเห็นปรุฬห์ถอนหายใจ
ทั้งสองรีบกลับจากสวนสัตว์เพื่อซื้อของใช้ภายในครัวเรือนอีกเล็กๆน้อยๆสำหรับเก็บเอาไว้ในคอนโดหรูหราของชายหนุ่ม จากนั้นแล้วเขาจึงตัดสินใจพาเธอแวะไปที่นั่นซึ่งบัดนี้พ่อและแม่ของเขาสืบจากแหล่งข้อมูลจนพบแล้ว
“รู้แบบนี้ผมสวมรอยใช้ชื่อคุณเป็นผู้ซื้อคอนโดก็ดีอยู่หรอก”ปรุฬห์บ่นแม้ว่าเขาไม่ได้หมายความตามนั้นจริงๆ “อีกไม่นานเปมิกาคงหูผึ่งรีบมาที่นี่”ปรุฬห์กล่าวขณะจอดรถ เขารีบเดินอย่างกระฉับกระเฉงตรงไปยังลิฟท์เลือกหมายเลขชั้นแล้วจึงหันไปมองนีรนาซึ่งยืนนิ่งเงียบกริบอยู่เป็นนาน
“ทางนี้ครับ”เขาผายมือบอกหญิงสาวพลางคว้ากุญแจจากกระเป๋าเสื้อเปิดประตูห้อง
หญิงสาวได้ยินเสียงของดนตรีเบาๆลอยออกมาจากเครื่องเสียงราคาแพง โฮมเทียร์เตอร์ตั้งตระหง่านอยู่ตรงข้ามโซฟาสีน้ำเงิน หญิงสาวรีบเดินไปหยิบรีโมทเลือกช่องรายกายพร้อมหันมาบอกเจ้าของบ้านให้ชงกาแฟหนึ่งแก้วแก่เธอทันที
ปรุฬห์ต้องส่ายหน้าแล้วจึงเดินเข้าไปหลังเคาท์เตอร์เล็กๆสะอาดๆ จัดหาอุปกรณ์พร้อมแล้วก็ทำเอ็กเพรสโซ่ให้เธอหนึ่งถ้วยร้อนๆ
“คุณซื้อคอนโดที่นี่จริงๆหรือ?”นีรนาถามขณะที่ปรุฬห์เลื่อนตัวมานั่งบนโซฟาด้วยกัน ชายหนุ่มพยักหน้าช้าๆ
หญิงสาวเหลือบสายตามองกำแพงกระจก บรรยากาศยามบ่ายภายนอกมีเพียงหมอกควันหนาๆและตึกสูงๆเกลื่อนไปหมด
“มีสองห้องนอนสองห้องน้ำ ส่วนตรงนี้เป็นห้องนั่งเล่น แล้วก็ห้องครัวอยู่ฝั่งนั้น ห้องเก็บของก็ติดกำแพงนั่นน่ะ ใกล้ประตูก็เป็นห้องที่เต็มไปด้วยชั้นวางหนังสือและเอกสารของผม”ปรุฬห์กวาดมือชี้ไปยังประตูถัดจากเคาท์เตอร์ซึ่งมีแก้วไวน์แขวนเรียงเป็นระเบียบ “สวยดีใช่ไหม? ผมชอบรูปแบบการออกแบบภายในที่นี่ ตรงนี้เป็นพื้นสีดำกับเฟอร์นิเจอร์สีขาวดูทันสมัยดีนะ”
นีรนาฟังพลางมองไปรอบๆกาย
“ตอนแรกผมไม่ได้ตั้งใจจะอยู่คอนโดหรอกนะ”ปรุฬห์กล่าว “ผมตั้งใจจะซื้อห้องนี้เก็บเอาไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่เพราะเรื่องของครอบครัวธนากิจทำให้ผมเลิกตกลงทำสัญญาซื้อขาย ... ผมกลับมาทบทวนอีกทีก็ตอนที่เห็นสภาพห้องสุดโทรมของคุณแล้วก็เลยอยากชวนคุณมาอยู่ที่นี่ อย่างน้อยก็ทำให้คอนโดไม่ร้างเปล่า”สีหน้าแววตาของเขาดูจริงจังมาก
ปรุฬห์ไม่ได้พูดเล่น
“อันที่จริงถ้าหากคุณขับรถยนต์เป็น ผมก็คงจะให้คุณยืมรถยนต์ในบ้านคฤษฐานนท์สักคันเพราะมันก็คงช่วยเพิ่มความสะดวกในการเดินทางไปมหาลัย แต่ทว่าจริงๆแล้วคุณขับไม่ได้ ผมก็เลยทิ้งข้อเสนอนั้นนับตั้งแต่วันที่ผมถามคุณเรื่องนี้”
“ไม่จำเป็นหรอก ฉันนอนในห้องเช่าได้”นีรนากล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบแล้วชายหนุ่มจึงหัวเราะเยาะตอบ
“วันก่อนคุณยังบ่นอยู่เลยนะว่าอยากจะย้ายออกมาน่ะ”
“คอนโดหรูๆของคุณฉันคงอยู่ไม่ได้หรอก”นีรนาบอกเชิดหน้าใส่เขา
“เอาให้แน่เถอะ”ปรุฬห์ยักคิ้วให้
ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเธอสนใจที่นี่ ในเมื่อทันทีที่หญิงสาวก้าวข้ามธรณีประตูเธอก็อุทานออกมาอย่างชอบพอ ชายหนุ่มมองดูสีหน้าหยิ่งผยองของอีกฝ่ายแล้วจึงนึกขำขัน เขาเดินเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมอาหารเย็นให้แก่แขกปากร้ายผู้เป็นคู่กัดคนเดียวของเขาในตอนนี้
“กระเพราหมูกรอบนะคะ ฉันอยากได้ไข่ดาวสุกๆนะ”นีรนาหันไปสั่งเขาอีกตามเคย
“ที่นี่ไม่ใช่ร้านอาหารตามสั่งนะครับคุณผู้หญิง เดินเข้ามาในครัวแล้วรีบๆตัดสินใจใหม่ซะ”ปรุฬห์พูดพร้อมกับชี้นิ้วบอก นีรนากำลังสนใจหนังภาพยนตร์สยองขวัญจนเธอไม่อยากจะลุกไปไหนเลยด้วยซ้ำ ทว่าสุดท้ายปรุฬห์ก็ต้องลากเธอเข้าไปในห้องครัวจนได้
“เส้นก๋วยเตี๋ยว”นีรนาต้องเบ้ปาก
“เขาเรียกว่าเส้นสปาเกตตี้ต่างหากครับ มั่วจริงๆเลยคุณน่ะ”ปรุฬห์แอบบ่น
เท่าที่เธอเห็นก็มีเพียงตับหมูบด เบค่อนและแผ่นแฮมเย็นๆเก็บไว้ในกล่องเล็กๆ มีเครื่องปรุง ไข่และผักผลไม้รวมถึงอาหารธัญพืชซึ่งเพิ่งจะซื้อมาตุนเอาไว้
“นี่แน่ะ ตอนนี้ผมมีเพียงอาหารเช้าเท่านั้น คงทานได้ใช่ไหม?”
“ได้ทั้งนั้นค่ะ”นีรนาต้องเลื่อนมือกุมท้องเมื่อมันส่งเสียงร้อง
ปรุฬห์ใช้เวลาไม่นานในการทำอาหารเย็นครั้งนี้ เขาเองก็รู้สึกดีไม่น้อยเมื่อได้ยินเสียงโหวกเหวกของนีรนาซึ่งกำลังตกใจกับฉากบางฉากในหนังภาพยนตร์ หลายเดือนมาแล้วชายหนุ่มอยู่ในคอนโดคนเดียว มีเพียงเสียงของเขาสะท้อนก้องกำแพงในห้องสี่เหลี่ยมแห่งนี้สักพักใหญ่ ตอนนี้นีรนามาช่วยทำให้บรรยากาศมันครึกครื้นขึ้นอีกเล็กน้อย
ทั้งสองต่างใช้เวลาในการทานอาหารไม่นานนักก็ต้องรีบออกเดินทางไปยังสนามบินเพื่อรอรับเพื่อนสาวของปรุฬห์
“เธอชื่อลตา”ชายหนุ่มบอกแก่นีรนาในที่สุดขณะที่พวกเขาเดินเข้ามาในสนามบินเรียบร้อยแล้ว
บรรดาผู้คนพลุกพล่านอีกทั้งเสียงประชาสัมพันธ์กึกก้องทั่วทุกพื้นที่ ปรุฬห์จึงต้องตระเบ็งเสียงใส่หูของนีรนา
“ลตา?”นีรนาเอ่ยทวนแล้วปรุฬห์จึงเลื่อนมือมาลูบศีรษะของหญิงสาว
“แม่ของเธอกับน้องชาย”ปรุฬห์กวาดสายตาไปจนพบแล้วจึงชี้ให้นีรนาเห็น ทั้งสองรีบเดินไปหาแม่ของลตาก่อนจะกล่าวทักทาย
“อ้าว รุฬห์”เธอยิ้มกริ่ม “เป็นยังไงบ้างลูก ไม่เจอกันนานเลยนะ”สีหน้าเอ็นดูของหญิงชราแจ่มใส่ทันทีที่พบปรุฬห์ เขายิ้มให้แก่เธอน้อยๆแล้วจึงสอบถามสารทุกข์สุกดิบจึงทำให้นีรนารู้ว่าพวกเขาต่างสนิทสนมกันดี
ปรุฬห์เกือบจะลืมแนะนำนีรนาให้แก่แม่ของลตารู้จัก เขาชวนเธอเดินไปจนสุดปลายอาคารรับผู้โดยสารขาเข้าเพื่อรอรับลตาที่นั่น
บรรดาผู้คนหลั่งไหลมาพร้อมๆกับป้ายประกาศชื่อ
นีรนาต้องแทรกตัวเดินเข้าไปมองดูผู้โดยสารขาเข้าพร้อมๆกับปรุฬห์สักครู่หนึ่งแล้วแม่ของลตาก็ชี้ไปยังร่างของชายสูงใหญ่คนหนึ่งก่อนจะบอกให้ปรุฬห์ช่วยเรียก
“พ่อของเธอน่ะ”ชายหนุ่มตอบข้อสงสัยของหญิงสาวก่อนจะเข้าไปสวัสดีแล้วจึงลากกระเป๋าเดินทางของเขาออกมา
ตอนนั้นเองที่ลตาเดินช้าๆเข้ามาสวมกอดแม่และน้องชาย สายตาของเธอสบมองกับปรุฬห์ครู่ใหญ่
... ลตาเคยเป็นแฟนของเขา
บัดนี้เธอสวยกว่าในอดีตนับสิบเท่า ผมยาวสีดำสนิทรูปหน้าคมเช่นเดียวกับนัยน์ตาของเธอ ลตาดูสดใสผุดผ่องและน่าค้นหา ... ทว่าอารมณ์สีหน้าที่เธอแสดงอยู่คงจะเป็นเพียงภาพลวงตาเพราะความเจ็บปวดลึกๆและความเสียใจของเธอไม่ได้เจือจางลงหรือหายไปไหน
ลตาเดินเข้ามาหาปรุฬห์ก่อนจะรีบถลาตัวสวมกอด เธอกลั้นความดีอกดีใจและความอัดอั้นตันใจไว้อีกไม่ได้แล้ว หญิงสาวร้องไห้โฮซบบนอกของเขา
ปรุฬห์เลื่อนมือกอดเธอเอาไว้พร้อมกับกล่าวเสียงแผ่วๆเป็นเชิงปลอบประโลม
สำหรับนีรนาแล้วภาพเบื้องหน้าเกิดขึ้นเร็วมากทว่ายาวนานเหลือเกิน หญิงสาวยังคงยืนนิ่งจับจ้องมองพวกเขาตาไม่กระพริบ
นีรนาไม่ได้เอ่ยถามว่าลตาเป็นเพื่อนรุ่นไหนของปรุฬห์ เธอไม่เคยอยากรู้เลย
ทว่าการแสดงออกอย่างจริงใจและรักใคร่ของปรุฬห์ต่อลตาทำให้เธอเข้าใจว่าพวกเขาคงมีความสัมพันธ์ที่มากกว่าเพื่อน ... เป็นความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง
ทำไมจู่ๆนีรนาก็ไม่เต็มใจที่จะรับรู้สิ่งนี้ ร่างกายของเธอแข็งทื่อ มองดูพวกเขาสวมกอดกันด้วยความห่วงใย ...ลตากับปรุฬห์ไม่ได้เจอกันนานมาก ความคิดถึงเป็นสิ่งที่ทำให้ทั้งสองตัดกันไม่ขาด ... หญิงสาวเหลือบสายตามองสีหน้าของคุณพ่อของลตาซึ่งดูเคร่งเครียด เขาคงปรึกษาบางอย่างกับภรรยาของตนเองอยู่ เรื่องอะไรนะ? ... แล้วปรุฬห์กับครอบครัวนี้สนิทสนมกันแค่ไหน?
คำถามเกิดขึ้นเป็นพัลวันในวินาทีนั้น
ปรุฬห์ถูกแม่ของลตาเรียกไปสนทนาด้วยกันแล้วสักครู่หนึ่งพวกเขาก็เดินออกไปจากสนามบินก่อนปล่อยให้นีรนา ลตาและปรุฬห์เดินทางกลับพร้อมกันเอง
“อ้อ ลตา ... คนนี้ชื่อนีร”ปรุฬห์แนะนำให้รู้จัก หญิงสาวส่งยิ้มบางๆให้แก่ใบหน้าเจื่อนๆของนีรนาซึ่งยักไหล่ตอบน้อยๆ “พวกเราไปนั่งในร้านขายเครื่องดื่มดีกว่านะ เราอยากสนทนากับลตาหลายเรื่องเลยทีเดียว”พูดพลางก็เหยียดยิ้มหญิงสาวมีทีท่าลังเลนิดหนึ่งแล้วจึงกล่าวตกลง
ปรุฬห์เลื่อนมือเช็ดคราบน้ำตาของลตาขณะที่เธอหัวเราะครั้นแล้วจึงโอบไหล่ลตาเอาไว้ เดินนำเธอไปยังร้านที่เขารู้จักดี
นีรนาต้องเดินตามหลังพวกเขาสองคนไปห่างๆแม้ว่าปรุฬห์พยายามชะลอฝีเท้าลงพร้อมกับหันไปเรียกนีรนา
ปรุฬห์ไม่รู้หรือว่าเธอกำลังกระอักกระอ่วนใจอย่างยิ่งในฐานะของตัวเอง ... นีรนาเป็นใคร? เธอคือเด็กสาวในกลุ่มคนธรรมดาซึ่งถูกว่าจ้างให้ทำหน้าที่เป็นแฟนของเขา ... เธอก็แค่ถูกจ้าง หญิงสาวกัดริมฝีปากตัวเองมองดูพวกเขาสนทนาด้วยกันอย่างมีความสุขประหลาดๆนั้นแล้วก็เกิดอาการหวั่นใจขึ้นมา
สีหน้าแจ่มใสของปรุฬห์ครั้งนี้ไม่เหมือนกับที่นีรนาเคยเห็นมาก่อน มันคือความพึงพอใจและความสบายใจของเขากับการได้พบหญิงสาวซึ่งชื่อว่าลตา ...
นีรนาผลักประตูร้านช้าๆขณะที่ปรุฬห์และลตากำลังสั่งเครื่องดื่มแล้วจึงเริ่มสนทนากันเพียงลำพัง
“นีรจะไปไหนครับ?”ปรุฬห์สงสัยเมื่อพบว่าเธอเดินมายังโต๊ะอาหารแล้วก็ส่ายหน้าปฏิเสธไม่รับเครื่องดื่ม
“จะเข้าห้องน้ำค่ะ”นีรนาสลับสายตามองชายหญิงแล้วจึงรีบปลีกตัวออกมาจากร้านขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เธอไม่ได้เดินไปยังห้องน้ำ อันที่จริงนีรนาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าห้องน้ำในสนามบินอยู่ตรงไหน
หญิงสาวเพียงแค่ถอนหายใจยาวๆแล้วจึงล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อเดินวนไปมาสบสายตามองกับผู้คนในสนามบินแล้วจึงนั่งพักเพียงลำพังเพื่อรอให้ปรุฬห์เรียกกลับ เธอไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมจึงไม่นั่งสนทนาด้วยกันในร้านร่วมกับพวกเขาแทนที่จะปลีกตัวออกมาคนเดียวและใช้เวลาทั้งหมดในการนั่งรอแบบนี้
พวกเขาคุยกันเรื่องอะไรนะ? นีรนาอยากรู้
ปรุฬห์ไม่สนใจเธอเลย เขากำลังตื่นเต้นที่ได้พบเพื่อนเก่า ... ไม่หรอก ดูแค่นี้ก็รู้แล้วว่าสองคนนี้คงจะเคยเป็นแฟนกันมาก่อนแน่ๆ
แล้วทำไมปรุฬห์ต้องจ้างเธอ ... ในเมื่อเขาเองก็มีคนสำคัญเป็นตัวเป็นตนแบบนี้
เขาต้องการแกล้งเธอให้เจ็บแสบใช่ไหม ...ทำให้เธอรู้สึกได้ว่าเธอกำลังน้อยใจเขา ... ความรู้สึกนี้อาจจะหมายถึงชอบพอเขาหรือหลงรักเขาอยู่เพียงฝ่ายเดียว
ทำไมต้องเป็นแบบนี้ เธอไม่ชอบเลย ... ทว่าเธอบังคับใจของใครไม่ได้และเธอก็ไม่ควรจะปล่อยความรู้สึกของตนเองให้ใครง่ายๆแบบนี้ด้วย มันไม่ถูกต้องเลย
จู่ๆเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาถี่ๆ นีรนาพบว่าปรุฬห์กำลังสอบถามหาเธออยู่
“คุณอยู่ที่ไหน”
“ออกมาซื้อของ”นีรนาตอบด้วยน้ำเสียงห้วนๆ ... งอนหรือ? ก็ได้ ใช่! เธอรู้สึกแบบนั้น เธอไม่อยากปฏิเสธตัวเองอีกแล้วล่ะ!
“ซื้ออะไรน่ะ ชั่วโมงกว่าแล้วนะ?ในสนามบินมีร้านค้าแค่ยี่สิบกว่าร้าน”
นีรนาไม่พูดต่อ
“คุณอยู่ที่ไหน?”ปรุฬห์ถามซ้ำ
“นั่งอยู่”
“นีร พวกเราจะกลับแล้ว คุณอยู่ที่ไหน”
“ฉันจะไปหาคุณเอง” ... พวกเรา? เขาคงจะพูดถึงลตาสินะ
ทำไมเธอจึงได้รู้สึกเหมือนเป็นตัวตลกที่โดนเขาชักใยและทำตามคำสั่งทุกอย่างของเขา เธอเองก็มีฐานะไปไม่ต่างจากคนรับใช้คนหนึ่งของเขาซึ่งปรุฬห์จะฟาดหัวเธอด้วยเงินแล้วเธอก็ยอมให้เขาทำเช่นนั้นด้วย ทว่าเมื่อรู้สึกตัวอีกทีเธอก็รู้ว่าคำตกลงง่ายๆกำลังทำร้ายจิตใจของเธอ
เธอมีความรู้สึก ... เขาไม่รู้หรอกว่าเธอไม่ใช่หญิงขายบริการ ไม่ได้ทำทุกอย่างเพื่อเงินอย่างที่เขาเข้าใจหรอกนะ
นีรนาเดินกลับไปยังรถยนต์ของปรุฬห์ เธอเห็นพวกเขายืนพิงรถพูดคุยส่งเสียงหัวเราะคิกคักแล้วก็เกิดความอึดอัดใจขึ้นมาอีก
“ไปกันเถอะครับ”ปรุฬห์เหลือบสายตามองนีรนาแวบหนึ่งก่อนจะรีบเข้าไปนั่งในรถพร้อมดี
“นีรพักที่ไหนคะ?”ลตาหันมาถามด้วยความสงสัย
ทว่าไม่ทันที่นีรนาจะตอบปรุฬห์ก็รีบแทรก “นีรพักไม่ไกลจากมหาลัยมากน่ะครับ เราจะไปส่งลตาก่อนนะ” ดูเหมือนเขากำลังปกป้องความลับของตัวเองและนั่นจึงทำให้นีรนารู้ว่าปรุฬห์คงไม่อยากบอกลตาว่าเขาจ้างเธอให้เป็นแฟนของตัวเองเพื่อตบตาพ่อแม่หรือบางทีเขาก็แค่ไม่พร้อมจะบอกแก่ลตาในตอนนี้เท่านั้น
นีรนาเอียงศีรษะหลับไปในรถยนต์แล้วเธอก็รู้สึกตัวตื่นอีกครั้งก็พบว่าปรุฬห์ยืนอยู่บริเวณรั้วหน้าบ้านของลตา สีหน้าแจ่มใสนั้นทำให้ชายหนุ่มคลายความกังวลทั้งหมดทิ้งไป ลตากลับมาเป็นหญิงสาวร่าเริงคนเดิมที่เขาเคยรู้จักอีกครั้ง ทั้งสองต่างแลกเปลี่ยนความคิดซึ่งกันและกันมากมาย
ลตาทำให้เขารู้ว่าเธอยังคงสนใจเขาอยู่ซึ่งนั่นเป็นคำพูดที่ทำให้แผลในใจของเขาเปิดกว้างมากกว่าเดิม ปรุฬห์ไม่ได้พูดอะไรอีก เขาเดินกลับมาที่รถด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ทันทีที่นีรนาเปิดประตูห้องเช่าโทรมๆออก ปรุฬห์ก็แทบจะถลาตัวไปหยิบกระป๋องเบียร์จากตู้เย็นในทันทีนั้น
นีรนายืนมองดูอาการประหลาดๆของเขาครู่หนึ่งแล้วจึงเดินไปอาบน้ำ เธอได้ยินเสียงร้องโอดโอยด้วยความหนักใจของปรุฬห์ เมื่อเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยกลับออกมาจากห้องน้ำก็พบว่าเขาตั้งกระป๋องเบียร์เรียงเอาไว้เป็นแถว
“คุณปรุฬห์”นีรนามองด้วยความไม่สบายใจ
เธอเริ่มเดาได้ว่าอาการที่เคยเกิดขึ้นแบบนี้มาก่อนคงจะมาจากสาเหตุเดียวกันก็คือ...ลตา แฟนเก่าของเขา
ชายหนุ่มเหลือบหางตามองนีรนาก่อนจะนั่งพิงกำแพงสายตาเลื่อนลอยไม่สนใจเธออีก
นีรนาเดินเข้ามานั่งยองๆ เห็นใบหน้าแดงก่ำของเขาแล้วจึงต้องขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ “คุณ ...” ไม่ทันที่เธอจะได้กล่าวต่อปรุฬห์ก็ดึงแขนของหญิงสาวเข้าไปใกล้แล้วจึงกอดตัวของเธอเอาไว้แน่น กลิ่นเบียร์ทำให้นีรนาต้องร้องหยี
“คุณเมาอีกแล้วนะ”นีรนาเหลือบมองปรุฬห์ซึ่งเขาส่ายหน้าราวกับคนหมดแรง
“ไม่เมา ผมยังไม่เมา”ปรุฬห์กล่าวอย่างมั่นใจ ฉีกยิ้มน้อยๆ
นีรนาต้องเขยิบตัวหนีมองดูสภาพของเขาบนเสื่อผืนใหญ่ เธอเลื่อนผ้าห่มโยนให้แก่เขาพร้อมกับเปิดพัดลมเบาๆรีบปิดไฟในทันทีนั้น
“นีร นีรอยู่ไหน”ปรุฬห์ยังคงส่งเสียงเรียกขณะที่หญิงสาวเดินสับเท้าถี่ๆเข้าไปในห้องนอน
เขาเป็นอะไรนีรนาไม่อาจทราบได้ ...
เพียงแต่เรื่องนั้นจะต้องเกี่ยวพันกับลตา ... นีรนาต้องนิ่วหน้า ทำไมทุกครั้งที่เธอนึกถึงผู้หญิงคนนี้แล้วจึงทำให้เธอรู้สึกจุกราวกับมีมีดกำลังเสียดแทงทะลุผ่านท้องของเธอออกมา
หญิงสาวเลิกสนใจเรื่องนี้อีก เธอเดินไปหมายจะกดสวิตช์ไฟทว่าเสียงเคาะประตูดังถี่ๆทำให้เธอแทบจะกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ “นีร เปิดประตูหน่อย” ปรุฬห์เรียก
“ปรุฬห์ คุณควรจะนอนได้แล้ว”ไม่มีเสียงตอบกลับมา หญิงสาวสังเกตเห็นแสงไฟลอดผ่านพื้นใต้ประตูและเสียงน้ำจากอ่างล้างหน้าก่อนที่ปรุฬห์จะเดินกลับขึ้นมาบนบันไดอีกครั้ง เขาเคาะประตูเบาๆนีรนาจึงแง้มมองใบหน้าไม่พอใจของเขา “ปรุฬห์ คุณเป็นอะไร”
ชายหนุ่มต้องถอนหายใจยาวๆ “ขอโทษนะ ผมไม่อยากจะพูดเลย”ปรุฬห์เหลือบสายตามองเธออีกครั้ง “ลตาเป็นเพื่อนของผม”
นีรนาต้องเอียงศีรษะด้วยความฉงน “ค่ะ?”
“ก็แค่นั้นแหละ”ปรุฬห์กล่าวเสียงหนักแน่น
“อยากบอกแค่นี้ใช่ไหม”นีรนาถาม
ปรุฬห์เลื่อนมือลูบต้นคอตัวเอง เขารู้สึกวิงเวียน “อืม”
“คุณเป็นอะไรปรุฬห์ ไม่สบายใจเรื่องอะไรก็บอกฉันได้”
“อยากจะบอก แต่ก็ไม่อยากบอก”ชายหนุ่มถอนหายใจยาวๆ “มันทำให้ผมรู้สึกผิด”นีรนาต้องพยักหน้า “ช่างมันเถอะครับ”ปรุฬห์บอกจบก็หันหลังกลับไปจากบันได
นีรนาต้องยืนกอดอกเลิกคิ้วสูง เธอรู้สึกได้ว่าเขากำลังสับสนตัวเองจนความเครียดทำให้เขานอนไม่หลับ ชายหนุ่มกล่าวราตรีสวัสดิ์ ทว่าก็เดินกลับขึ้นมาหน้าประตูห้องนอนชั้นบนอีกครั้ง คราวนี้เขาเผยยิ้มกว้างไม่พูดไม่จา มองดูหญิงสาวอยู่ครู่หนึ่งพร้อมกับหัวเราะหึๆในลำคอ
“ราตรีสวัสดิ์ค่ะ”
“ขอจูบหน่อยสิ”ปรุฬห์รีบพูดแทรก
หญิงสาวส่ายหน้าแลบลิ้นใส่เขาในทันทีนั้น แต่แล้วปรุฬห์ก็ไวกว่า เขาก้มหน้าลงมาจูบศีรษะของเธอ เลื่อนมือเคลียแก้มหญิงสาวเบาๆ “กลิ่นเบียร์เต็มไปหมด”นีรนาบอกด้วยความไม่ชอบใจนักแต่ดูเหมือนชายหนุ่มไม่ได้ฟังเธอพูดเลย เขาเชยปลายคางของเธอแล้วจึงประทับรอยบางๆบนริมฝีปากอวบอิ่มนั้น
“ราตรีสวัสดิ์ครับนีร”ปรุฬห์บอกอย่างพึงพอใจแล้วจึงเดินลงไปจากบันได
นีรนาต้องกอดอกส่ายหน้า ยืนพิงกรอบประตูฟังเสียงของเขาฮัมเพลงก่อนจะเดินไปยังที่นอนชั่วคราวในคืนนี้ของตนเอง
++++++++++++++++++++
จากคุณ |
:
davidmccartney
|
เขียนเมื่อ |
:
8 ธ.ค. 54 22:05:05
A:202.12.73.1 X: TicketID:318829
|
|
|
|