<ต่อ........>
ใจจะดึงออก แต่มือกลับไร้เรี่ยวแรง เพราะรู้สึกเหมือนจะดึงหัวใจของตนเองออกมาด้วย
ฝ่ายนางฟ้าตกสวรรค์เอียงคอมองไปมาแล้วยิ้มเบิกบาน พอใจในผลงาน พลางบอกว่า
“เจ้านายดูเท่มาก....ถึงจะใส่หน้ากากก็เถอะ”
“ไม่ต้องพูดมาก ไปกันได้แล้ว”
สุดท้ายต้องรีบตัดบทอีกครั้ง แล้วก้าวเดินยาวๆ ออกจากห้องนำหน้าไปก่อน แต่หลังจากเดินไปสิบกว่าก้าวก็ชะงัก เมื่อไม่เห็นอีกฝ่ายเดินตามมา เลยต้องย้อนกลับไปหาอีกครั้ง นั่นไง...สาวใช้จอมกวนประสาทยังยืนก้มหน้านิ่งเหมือนกับอยู่ในภวังค์บางอย่าง
“เฟรี่.....”
เรียกสั้นๆ ทำให้นางฟ้าตกสวรรค์หันมายิ้มหม่นๆ อะไรกัน....พวกผู้หญิงอารมณ์เปลี่ยนแปลงรวดเร็วขนาดนี้เชียวหรือ....
“เจ้าเป็นอะไรไป” ถามด้วยน้ำเสียงลดความดุร้ายลงไปอย่างมาก
“ข้าเป็นใครกันแน่ บอกข้าได้ไหม”
จู่ๆ ก็เอ่ยถามแบบนี้ ทำเอาตั้งตัวแทบไม่ทัน..อะไรกัน...เมื่อครู่ยังยิ้มแย้มยังเบิกบานอยู่แท้ๆ นักรบปีศาจเลยอึ้งไปชั่วขณะ หญิงสาวเอ่ยปากต่อไปราวกับอดกลั้นมานาน
“ท่านบอกข้าว่า ข้าเป็นคนใช้ แต่ดูเหมือนข้าทำอะไรไม่เป็นเลย แล้วยังมีเรื่องยานั้นอีก ข้าเป็นโรคความจำเสื่อมใช่ไหม บอกข้าตรงๆ ได้ไหม...”
“เฟรี่....”
“ข้ารอคำตอบท่านอยู่นะ”
“เจ้าอยากรู้จริงๆ หรือ?”
ในที่สุดนักรบหนุ่มเป็นฝ่ายกลั้นใจถามออกไป เฟรี่พยักหน้าตอบว่า
“ข้าอยากรู้”
“ก็ได้...ก็ได้” ไนท์รับปากขณะลุกขึ้นชี้มือขวาขึ้นไปบนฟ้า
“ถ้าเจ้าอยากรู้จริงๆ ข้าจะบอกให้ก็ได้ เจ้ารู้จักสวรรค์ไหม”
“รู้”
“นั่นล่ะ เจ้ามาจากบนนั้น”
“แล้วที่นี่ล่ะ”
“ก็เป็นสถานที่ที่พวกเจ้าเรียกว่าขอบนรก”
“แล้วท่านล่ะ” ความสงสัยของนางฟ้าความจำเสื่อมราวกระแสน้ำถาโถมไม่ยอมหยุด
“ข้าเป็นปีศาจ..เจ้าเป็นนางฟ้า”
เฟรี่ฟังแล้วอึ้งไปนาน จนนักรบปีศาจต้องสะกิดให้ออกเดินไปจากห้อง ชายชรายังคงรอบนเรือริมฝั่ง
“แล้วไงล่ะ”
ในที่สุดเสียงใสๆ แต่ฟังดูเศร้า ก็ถามขึ้นอีก ปีศาจหนุ่มยกมือเกาหัว มองหน้าสวยใสเหมือนจะค้นหาความหมายของคำถามนั้น แต่ดูไม่ออก หากรู้ว่าไม่เคยเห็นสีหน้าครุ่นคิดหนักหน่วงของนางฟ้าคนนี้มาก่อน
“ก็จะยังไงล่ะ”
ในที่สุดก็ต้องตอบไปตรงๆ “ก็คืออีกไม่นานข้าจะส่งเจ้ากลับบ้านบนสวรรค์อันสุขสบายไม่ลำบากเหมือนที่นี่ เจ้าจะมีคนรับใช้มากมาย ความเป็นอยู่สะดวกสบาย มีคนรักที่พร้อมจะดูแลเจ้า”
“ข้าต้องจากท่านไปใช่ไหม”
“ของมันแน่อยู่แล้ว”
น้ำตาของนางฟ้าตกสวรรค์พลันร่วงพรูแบบไม่มีสาเหตุ ท่ามกลางความงุนงงของปีศาจหนุ่ม
“เฟรี่...เป็นอะไรไป”
“เปล่า....” ปากปฏิเสธแต่มือกลับเช็ดน้ำตาไปมาเหมือนเด็กๆ ปีศาจหนุ่มถอนใจนิ่งมอง เขาไม่ได้พกผ้าเช็ดหน้าเสียด้วย มันขัดกับบุคลิกภาพของปีศาจ ไม่มีปีศาจตนไหนพกผ้าเช็ดหน้า!
“เจ้าร้องไห้ทำไม”
“บอกข้าหน่อยได้ไหม....”
นางฟ้าคนดีหยุดร้องไห้เปลี่ยนเรื่องคุยแบบกะทันหัน “ตอนที่ข้าเป็นปกติข้าเป็นคนยังไง”
“เจ้าเป็นคนดื้อ เอาแต่ใจ เจ้าอารมณ์”
เฟรี่ฟังแล้วยิ้มเจื่อนๆ ออกมา ป้ายน้ำตาให้หยุดไหลก่อนถามอีกว่า
“ข้าดูเหมือนไม่มีอะไรดีเลยใช่ไหม”
ไนท์จ้องมองคู่สนทนาพักหนึ่ง แล้วเอ่ยปากอย่างช้าๆ ใช้น้ำเสียงชนิดที่ไม่เคยใช้กับคู่กรณีคนนี้มาก่อนเลยสักครั้ง เป็นน้ำเสียงเต็มไปด้วยความจริงใจที่สุดว่า
“ใครบอกล่ะ...เจ้าดูดีที่สุดสำหรับข้าเลยรู้ไหม”
“งั้นข้าควรจะกลับไปเป็นแบบนั้น”
“นั่นคือตัวตนที่แท้จริงของเจ้า”
“แล้วตอนนี้ล่ะ ข้าเป็นอย่างไร”
“ไม่ว่าจะเป็นอะไรเจ้าก็คือเจ้าเสมอ”
เฟรี่นิ่งเงียบไปสักพัก ค่อยเดินตามหลังนักรบปีศาจอย่างไม่รีบร้อน ผ่านไปตามทางเดินหินอ่อน เห็นเรือแจวจอดรออยู่ริมฝั่งอยู่ไม่ไกล
เป็นทางเดินไม่ไกลอะไรมากมาย แต่ทันใดนั้นหญิงสาวก็รั้งแขนเสื้อของอีกฝ่ายเอาไว้ ถามขึ้นอีกว่า
“หมายความว่าถ้าข้าทานยาข้าก็เป็นปกติ แล้วกลับถิ่นเดิมข้าใช่ไหม”
“ใช่....”
“ข้าจะไม่เจอท่านอีก”
“ก็แน่อยู่แล้ว”
“ข้าจะจดจำเรื่องราววันนี้ไม่ได้เมื่อเป็นปกติ”
“ก็น่าจะเป็นแบบนั้น”
“แต่ถ้าข้าเป็นแบบนี้เรื่อยไป ข้าก็ไม่ต้องกลับสวรรค์”
“เฟรี่ เจ้าคิดอะไรบ้าๆ แบบนั้น”
น้ำเสียงของไนท์บอกแววตกใจจริงๆกับความคิดของหญิงสาว มันไม่ใช่แบบนี้ นี่เป็นเพียงซีกหนึ่งของความเป็นเฟรี่ผู้กำลังสับสนในตัวเอง
“ข้าไม่ได้บ้านะ ข้าคิดว่าตอนนี้ข้าก็มีความสุขดี ข้ารู้จักคนดีๆ อย่างพวกท่าน บางทีนี่อาจเป็นชีวิตที่ข้าต้องการ”
“เป็นคนใช้เนี่ยนะ”
คนโดนถามพยักหน้านัยน์ตาจริงจัง จนคนถามใจหาย อะไรกันนางฟ้าคนนี้ อยู่บนสวรรค์ดีๆ ไม่ชอบ มาชอบชีวิตคนใช้
“เจ้าอย่าดื้อน่าเฟรี่”
เจ้านายเริ่มอบรมสั่งสอน
“เจ้าต้องหันไปหาความจริง จะดีหรือไม่ดี เจ้าก็ไม่ควรจะหนีมัน เพราะนั่นคือความทรงจำและชีวิต เจ้าก็มีเส้นทางของเจ้า ข้าก็มีเส้นทางของข้า ทุกคนต่างมีเส้นทางของตัวเองทั้งนั้น เจอปัญหาเราไม่ควรหนี เพราะถ้าหนีเจ้าก็จะเหมือนคนหลอกตัวเองไม่ว่าจะอยู่แห่งไหน แต่ถ้าเราไม่หนีแต่พุ่งเข้าชนมันเลย แม้จะเจ็บจะแย่จะช้าจะนานแค่ไหน แต่สุดท้ายมันก็จะผ่านไปได้เอง”
“แล้วความทรงจำของข้าล่ะ มันจะไร้ความหมายหายไปเฉยๆ ได้ไง”
“ตอนนี้ความทรงจำของเจ้าก็หายไปอยู่แล้ว ไม่ใช่หรือ..”
ทั้งคู่พากันเงียบไป จนเดินมาถึงเรือ เฟรี่ก้าวลงไปตามด้วยนักรบปีศาจที่ติดตามไม่ยอมห่าง นั่นเป็นความพยายามในการคุ้มกันภัยให้ในทุกสถานการณ์
หัวเรือเบนออกจากเกาะพร้อมทิ้งคำถามมากมายอยู่เบื้องหลัง
จบบทที่ 19
จากคุณ |
:
GTW
|
เขียนเมื่อ |
:
9 ธ.ค. 54 17:43:48
|
|
|
|