แด่ผู้มีหัวใจรักในฤดูหนาว

.........ในที่สุดอากาศหนาวก็มาเยือน ณ ดินแดนแห่งกรุงเทพมหานครแล้ว เหมือนเป็นการรอคอยที่แสนยาวนานและเกือบจะเดียวดาย สำหรับคนที่มีหัวใจรักฤดูหนาว เพราะเป็นสิ่งที่ยากนักที่จะพบความหนาวในดินแดนแห่งนี้

..........ผมเป็นคนหนึ่งที่รักฤดูหนาว เมื่อตื่นขึ้นมาในเช้านี้ ผมพบว่าอากาศเย็นลงจนเกือบจะหนาว หรือบางคนอาจจะรู้สึกได้ถึงความหนาว

.........เมื่อวันแรกของเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ผมคิดว่า ความหนาวอาจจะไม่มาเยือนกรุงเทพมหานครในเร็วนี้ หรืออาจจะไม่มีความหนาวเลย แต่วันนี้ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๔ ความเย็นก็เริ่มแผ่ปกคลุม

.........เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว, เพียงพอที่กรุงเทพมหานครก็ไม่ไร้ซึ่งฤดูหนาว แม้สัมผัสได้เพียงแค่ความเย็น, เพียงเท่านั้นก็นับว่าได้เข้าสู่ฤดูหนาวอย่างที่ควรจะเป็นแล้ว

.........คล้ายกับว่า, ฤดูหนาวของกรุงเทพมหานครในปีนี้ มาพร้อมกับจันทรุปราคาเต็มดวงเมื่อคืนนี้ หรือในคืนวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๕๕๔ ซึ่งตรงกับวันรัฐธรรมนูญ หากใครจะตีความหมายโดยนัยยะใดๆ ก็ย่อมแล้วแต่ใครจะตีความกันไป

.........แต่ทว่าจันทรุปราคาเต็มดวงในครั้งนี้ ผู้คนต่างเฝ้าชมด้วยปรารถนาอย่างแรงกล้า เพราะต้องรออีกยาวนานกว่าจะได้ชมจันทรุปราคาเต็มดวงเช่นนี้ ซึ่งหากจะให้ตรงกับวันที่ ๑๐ ธันวาคม อันเป็นวันรัฐธรรมนูญนั้น ในทางดาราศาสตร์คาดการณ์กันว่า จะเกิดขึ้นอีกครั้งใน ๖๕ ปีข้างหน้า หรือวันที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๖๑๙

........เมื่อคืนวันที่ ๑๐ ธันวาคม คืนแห่งจันทรุปราคาเต็มดวง ผู้คนที่เฝ้ามองในหลายๆแห่งก็มีพิธีกรรมทางความเชื่อต่างๆ ตามแต่ใครจะเชื่อและศรัทธาต่อสิ่งใด และเช่นใด แต่ก็เป็นคืนก่อนที่ความเย็นอันเป็นวันแรกของฤดูหนาว ณ กรุงเทพมหานคร, จะมาเยือน

........ทว่าฤดูหนาวปีนี้ ณ ดินแดนกรุงเทพมหานคร บางพื้นที่และรวมทั้งจังหวัดโดยรอบหลายพื้นที่, ยังคงจมอยู่ในห้วงน้ำ ราวกับว่ายังคงอยู่ในช่วงฤดูฝน

.......ความสุขของผู้คนในฤดูหนาวปีนี้จะมีมากน้อยสักเท่าไร เมื่อต่างเพิ่งจะผ่านพ้นอุทกภัยครั้งใหญ่มาไม่กี่วัน บ้างก็ไม่กี่สัปดาห์ และหลายพื้นที่น้ำยังคงจมอยู่ในห้วงแห่งอุทกภัย ท่ามกลางฤดูหนาวที่เริ่มแผ่ปกคลุม
......แต่
......เชื่อว่า
.......ในหัวใจของผู้ที่รักฤดูหนาว

.......ไม่ว่าจะด้วยสถานการณ์เช่นไร ฤดูหนาวก็คงจะยังคงเป็นฤดูที่แสนรัก
ผมก็เช่นกัน ฤดูหนาว, ยังคงเป็นฤดูที่แสนรักของผมเสมอ แม้ในหลายๆช่วงของวัยและวันเวลาในชีวิตที่ผ่านมาจะพบกับเรื่องเลวร้ายเช่นใดก็ตาม แต่เมื่อฤดูหนาวย่างเยือน ผมจะมีความสุขเสมอ ความงดงามแห่งฤดูหนาวที่รอคอยคล้ายกับการปลอบประโลมใจจากฤดูกาล

........เมื่อฤดูหนาวมาเยือน หากเป็นเมื่อวันเวลาในอดีตที่จังหวัดบ้านเกิดของผม
.........ท้องฟ้าจะเป็นสีฟ้าหรือสีคราม
.........แม้มีเมฆเกลือนอยู่บนฟ้าในบางครา ทว่ามวลเมฆเหล่านั้นก็จะขาวกระจ่าง และลางเลือนเกลือนอยู่บนท้องฟ้าสีคราม ราวกับช่วยแต่งเติมท้องฟ้าให้มีมติที่งดงามยิ่งขึ้น

.........ไอหมอกระบายอยู่ทั่วไป น้ำค้างที่เกาะอยู่บนใบไม้ใบหญ้า หรือดอกไม้ที่ผลิบานในฤดูหนาว จะสะท้อนแสงวับวาวราวเพชรประกาย ช่วยแต่งแต้มให้ฤดูหนาวยิ่งงดงามและชวนฝัน

..........ฤดูหนาวปีนี้ หากใครได้ออกไปสู่ธรรมชาติ ณ ที่แห่งใดสักแห่ง ตามแต่ความฝันของแต่ละคนจะไปสู่ ณ ที่แห่งนั้นย่อมจะเติมเต็มความฝันของแต่ละคนให้เต็มเปี่ยม

...........คนที่มีหัวใจรักฤดูหนาว, ควรหรือที่จะปล่อยให้วันเวลาเหล่านี้ผ่านไปโดยเปล่าดาย

...........ในฤดูกาลที่รอคอยของทุกคนมาถึง, ควรหรือที่จะไม่ออกไปแสวงหาหัวใจของตัวเอง

...........แต่, ก่อนคนที่รักฤดูหนาวทั้งหลาย จะเดินทางออกไปสัมผัสกับฤดูหนาวและความหนาวที่แสนรัก ลองหยุดคิดและนิยายหรือจำกัดความของความงดงามแห่งฤดูหนาวของท่าน ก่อนที่ท่านจะไปค้นหาสถานที่นั้น, ที่ท่านปรารถนาจะไปสัมผัสดูสักครั้ง

.........เพื่อที่ท่านจะได้เติมเต็มและอิ่มเอมเมื่อท่านได้ไปสัมผัส

........คำนิยามหรือคำจำกัดความแห่งฤดูหนาว, ในหัวใจของคนที่รักฤดูหนาว ย่อมมีนัยยะที่แตกต่างกันออกไป แต่ก็จะงดงามในหัวใจของแต่ละคน และจะเป็นเหมือนแรงบันดาลใจให้ท่านไปสู่ ณ สถานที่นั้นๆ ดังที่ท่านปรารถนา

........สำหรับผมแล้ว ฤดูหนาวที่แสนรักของผมนั้น
....... เปรียบเสมือนหญิงสาวที่บริสุทธิ์และแสนงดงาม ที่ผมเฝ้ารอคอยเพื่อพบเจอ, แม้เพียงสักครั้งหนึ่ง

.......แล้วในนิยามแห่งฤดูหนาวของคนที่รักฤดูหนาวทุกท่านนั้น
.......นิยามของท่าน, เป็นเช่นไร



จากใจ

เกรียงไกร หัวบุญศาล
บันทึกไว้ในวันแรกของฤดูหนาว ณ กรุงเทพมหานคร
๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๔

แก้ไขเมื่อ 11 ธ.ค. 54 22:02:40

จากคุณ	: huaboonsan
เขียนเมื่อ	: 11 ธ.ค. 54 22:01:44