หาดใหญ่-เพื่อนบ้านมุสลิมคนแรก
|
 |
สองวันก่อนเดินทางไปเมืองนอก (มาเลย์) เพื่อซื้อของขวัญสำหรับปีใหม่ และสุราต่างประเทศที่ถูกกว่าประเทศไทยมาก ไปที่ด่านนอกทางฝั่งไทย ด่านจังโหลน ฝั่งมาเลย์ (จัง=ใบจัง-ใช้คลุมหลังคาบ้าน หรือจ๊าง(ช้าง) โหลน=หล่น จากเขา บูกิต (เขา) อีตำ (สีดำ) รัฐไทรบุรี (เดิม) หรือ เกดาห์ ตอนนี้) อยู่ห่างจากตัวเมืองหาดใหญ่ประมาณ 58 กิโลเมตร แวะกินข้าวที่อำเภอสะเดา เห็นภาพบ้านเก่าแถวนี้ ทำให้ระลึกถึงแถวบ้านเก่าที่เคยอยู่ในหาดใหญ่ได้ สภาพไม่แตกต่างกันมากนักจากภาพดังกล่าวในสมัยนั้น
ยังจำภาพวันนั้นได้ กำลังนั่งเล่นอยู่หลังบ้านกับพี่ชาย จู่ ๆ ก็มีเด็กชายคนหนึ่งกำลังอุ้มน้องชายอีกคน เดินออกจากตรอกข้างบ้านที่กั้นระหว่างบ้านผม กับบ้านไม้สองชั้นร้านอาหารมุสลิมของเด็กชายคนนี้ พร้อมกับทักทายว่า อยู่ข้างบ้านนี้ เห็นว่าย้ายมาใหม่ พร้อมบอกชื่อเล่นตนเองว่า สุดิ้ง (ชื่อเต็ม ซัมซูดิน) ส่วนน้องที่กำลังอุ้มอยู่ชื่อ เบเลเฮ็ม
หลังจากนั้นก็เริ่มเล่นกันตามประสาเด็ก ดีกันบ้าง ทะเลาะกันบ้าง ตามประสา ไม่นานนักก็เริ่มรู้จัก น้องชายของแกอีกคนชื่อ มุสตาฟา และน้องสาวอีกคนชื่อ กีเยาะ พร้อมกับรู้ว่าแกมีพี่น้องตอนนั้นรวมสิบสองคน บางคนก็ไปเรียนต่อ บางคนก็แต่งงาน หรือโยกย้ายไปทำมาหากินที่อื่นแล้ว บางคนอยู่ช่วยในร้านของพ่อแม่ของในร้านอาหารมุสลิม
ตรอกข้างบ้านจะเป็นสถานที่เล่นหลักของพวกเรา ตั้งแต่เล่นซ่อนหาตามประสาเด็ก มีความกว้างประมาณหนึ่งเมตร กั้นเขตที่ดินรถไฟกับที่ดินเอกชน มีช่องว่างห้าสิบเซ็นติเมตรทั้งสองฝั่ง โดยมีเสาไม้หมอนของการรถไฟที่หมดสภาพแล้ว ฝังลงในที่ดินกั้นเป็นแนวเขตที่ดินสองข้าง เป็นดินที่ค่อนข้างสีดำพอปลูกพืชได้บ้าง
ในระหว่างไม้หมอนรถไฟมีที่ว่างพอ ที่เด็กตัวเล็ก ๆ จะหลบซ่อนตัวได้เล็กนัอย หรือวิ่งไปหลบหน้าบ้านหลังบ้าน ให้เพื่อนอีกคนตามหาเล่น ส่วนมากก็มักจะหาเจออยู่แล้ว แต่เป็นการเล่นสนุกตามประสา บางครั้งนั่งคุยเรื่องสัพเพเหระตามประสาเด็ก ๆ
จำได้ว่าพ่อของแกชอบเปิดวิทยุฟังสถานีหนึ่ง ฟังไม่รู้เรื่องเลย แกเลยบอกว่า พ่อแกมาจากอินเดิีย เป็นมุสลิมอินเดีย มักจะนั่งอยู่ที่เคาว์เตอร์ในร้านคอยเก็บเงินหรือทอนเงิน ส่วนแม่แกมักยุ่งกับการทำอาหารขายหรือเลี้ยงดูลูก ๆ จำพี่สาวแกคนหนึ่งได้ (จำชื่อไม่ได้) หน้าตาค่อนข้างดุ ชอบดุน้อง อาจจะเพราะเครียดกับงานในร้าน และการต้องดูแลน้อง ๆ อีกหลายคน
ในตรอกดังกล่าวพอจะมีแสงแดดส่องลงมาบ้างเล็กน้อย พวกเรามักจะนำไม้ดอก ไม้ประดับ ที่ดึงถอนแถวบ้านพักรถไฟ หรือบางครั้งก็เป็นพวก หัวหอม หัวกระเทียม ไปปลูกกันเล่น ในตรอกทีีมีความยาวร่วมยี่สิบเมตร มักจะขึ้นงอกงามได้ไม่นานนัก เพราะไม่นาน น้องทาก เดินทางมากินหมด หรือถูกคนมักง่ายที่สัญจรผ่านตรอกเดินเหยียบตายไป
บางจุดที่ขึ้นงดงามแล้ว แต่มักจะไม่รอด เพราะน้ำจากในร้านที่ทำความสะอาด กะทะ หรือ ถ้วยชากาแฟ ที่เป็นน้ำร้อน เจอคนงานมักง่ายมักสาดเทออกมา แม้ว่าพวกเราจะไปขอร้องหรือบอกแล้ว รับปากไปตามประสาเท่านั้นเอง แต่เผลอเมื่อไรก็ทำตามนิสัยมักง่ายเคยชินตามเดิม
แก้ไขเมื่อ 19 ธ.ค. 54 16:55:51
จากคุณ |
:
ravio
|
เขียนเมื่อ |
:
19 ธ.ค. 54 09:04:56
|
|
|
|