Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ช่วยวิจารณ์นิยายของเพื่อนผมหน่อยครับ ติดต่อทีมงาน

ใส่ได้เต็มที่เลยครับ ไม่ต้องเกรงใจครับ แล้วก็ช่วยตอบคำถามเขาด้วยครับ

1. เนื้อเรื่องมันน่าสนใจที่จะตามต่อหรือไม่   [สปอยย์] เรื่องบ้าๆ ที่แท้จริงจะอยู่ตอน 2 ครับ
2. สำนวนเป็นอย่างไร
3. ประโยคไหน คำพูดไหน หรือความสมเหตุสมผล ตรงไหนที่ควรปรับปรุง บอกได้เลย ควรจะแก้เป็นแบบไหนตามใจเลยนะครับ
4. อะไรที่ขาดตกบกพร่อง ควรเพิ่มเติม หรือตัดทอน บอกได้เต็มที่ครับ
5. ตรงไหนของเรื่องที่อ่านแล้วมันสุดห่วยที่สุด
6. ข้อแนะนำต่างๆ หลังจากที่อ่านบทที่ 1 แล้ว ใส่ได้เต็มที่ครับ

*** อย่าลืม ห้ามเกรงใจเด็ดขาด ***

ตอนที่ 1    สาวน้อย สร้อยคอ และพระจันทร์



                กว่า 3 ปีมาแล้ว หลังจากเธอได้เจ้าสร้อยคอประหลาดมาจากปู่ของเธอ สิ่งตกทอดจากบรรบุรุษ ที่จะนำความโชคดีมาสู่ชีวิต นั่นคือสิ่งที่ปู่บอกก่อนที่ท่านจะเสียชีวิตเพราะความชรา โคโค่เหลือบตาดูมองห้องชุดที่เธออาศัยอยู่อย่างปลงๆ เจ้าห้องสี่เหลี่ยมกล่องไม้ขีด ป็นสิ่งที่เธอหลงเหลือ หลังจากพ่อแม่เธอเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุเมื่อนานมาแล้ว มันยังคงเก่า และโทรมเหมือนเดิม ในห้องก็มีแค่เตียงนอน โต๊ะทำงาน คอมพิวเตอร์ 1 ชุด อีกมุมหนึ่งของห้องก็จัดเป็นส่วนของครัว และมีห้องน้ำเล็กๆ อีก 1 ห้อง



                คุณปู่ขา หนูก็อายุสิบแปดแล้ว เรียนก็จบแล้ว แต่งานก็ยังไม่มีทำ ญาติๆ ก็ไม่เหลียวแล ส่วนสูงก็หยุดอยู่ที่ 145 ซม. ไม่เห็นมันจะโชคดีอย่างที่คุณปู่ว่ามาเลย โคโค่ในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้น ได้แต่นอนพลิกไปพลิกมาดูสร้อยรำพึงรำพันในใจอยู่บนเตียงนอนของเธอ  นี่มันต้องใช่เม็ดลำใยที่กลายเป็นหิน แล้วบรรพบุรุษเธอต้องถูกหลอกให้ซื้อมาแน่เลย เธอฟันธงอยู่ในใจ หลังจากดูเจ้าเม็ดกลมๆ สีเทาคล้ายหินที่อยู่ใจกลางสร้อยมานับครั้งไม่ถ้วน  ความคิดหยุดชะงัก จากที่เสียงท้องเริ่มประท้วงจากความหิว ...มาม่าช่วยคุณได้



                ไม่มีเครื่องมือไหนตรวจสอบมันภายในของมันได้ มันต้องเป็นเทคโนโลยีชั้นสูงของชาวแอตแลนติส หรือชาวมูแน่ๆ เลย  คุณปู่เคยบอกกับเธอไว้เมื่อตอนเธอยังเด็ก เมื่อเห็นเธอเอาสร้อยมาใส่ แล้วทำท่าแปลงร่างเป็นสาวน้อยเวทมนต์  ทำเอาเธออดยิ้มออกมาไม่ได้ ...ไร้สาระที่สุด



                “อุ๊ย!  ไม่น่าเลยเรา”  ห้ามคิดเรื่องบ้าๆ เวลาถือมีด  จำไม่ได้เหมือนกันว่าใครเคยบอกกับเธอไว้ นิ้วที่ถูกบาดแม้จะเป็นแผลนิดเดียว แต่ก็อดโมโหไม่ได้ หมูไม่ทันหั่น ก็ได้เลือดซะแล้ว  “มรดกบ้าๆ ไอ้สร้อยเฮงซวย”  ในเมื่ออยู่คนเดียวในห้องไม่มีคนอื่นจะเป็นแพะ โยนความผิดไปให้สร้อยก็แล้วกัน



                “สร้อยวิเศษใช่ไหม ไหนลองรักษาแผลที่มือหน่อยซิ” นิ้วที่เป็นแผลถูกแปะไปที่ใจกลางสร้อยทันที  “โอมเพี้ยง” โดยที่เธอไม่ได้สังเกตุแม้แต่นิดว่า สร้อยกำลังดูดซึมเลือดของเธอยู่

.....

“กำลังบันทึกความเป็นเจ้าของรายใหม่ โปรดรอสักครู่”  



“เสียงใครหนะ” โคโค่หันมองซ้ายขวาไปมาหาคนพูดหลังได้ยินเสียงประหลาดดังขึ้นมา



“บันทึกเรียบร้อย ...กำลังเคลื่อนย้ายไปยังจุดพิกัดที่ยังทำไม่สำเร็จ จากคำสั่งตกค้าง”



“ระบบเสียหาย  เคลื่อนย้ายไม่สำเร็จ ...กำลังประมวลผลย้ายไปยังพิกัดที่เป็นไปได้” นั่นมันใครกัน เสียงมาจากไหน หรือว่า..สร้อย  ..เธอมองของที่อยู่ในมือด้วยความตระหนก ...ขว้างทิ้ง นั่นเป็นสิ่งที่เธอคิดได้ แต่ดูเหมือนจะช้าไปแล้ว



“ประมวลผลเรียบร้อย เคลื่อนย้ายได้”  แสงสว่างจ้าพลันสาดครอบคลุมไปทั่วห้อง



----------------------------------------------------------------------------------------------------------



                นานแค่ไหนเธอก็ไม่ทราบได้ กว่าจะรู้ตัวอีกที เธอก็นั่งพับเพียบอยู่บนพื้นดิน ร่างกายทุกอย่างดูเหมือนว่าจะปลอดภัยดี สายตาพลันกวาดไปรอบๆ ก็พบว่า เธออยู่แถวหน้าผาสูงชันบนภูเขาหัวโล้นในป่าใหญ่แห่งหนึ่ง  จากมุมมอง เธอมองไม่เห็นตัวเมืองหรือความเจริญแม้แต่นิดเดียว ซึ่งไม่รู้ว่าอยู่ที่จุดไหนของโลก  



                “เจ้าสร้อยบ้า พาฉันมาที่ไหนเนี่ย” โคโค่ตะโกนถามสร้อยหลังจากที่พบว่า เธอกำมันอยู่ในมือเสียแน่น



                ไม่ว่าจะตะโกนถามกี่ที  เจ้าสร้อยได้แต่นิ่งเงียบราวกับว่ามันได้ตายไปแล้ว เธอได้แต่ทำใจได้แต่เอาสร้อยใส่ไว้ที่คอแทน สุดท้ายก็ตัดสินใจหาทางลงจากภูเขา ปัญหาใหญ่ที่เธอพบทันทีเมื่อยืนขึ้น นั่นคือ เธอหิวข้าว หิวน้ำ และที่สำคัญที่สุดเธอเท้าเปล่า



                หลังจากเดินมาได้เพียงไม่กี่ร้อยเมตร เท้าก็เริ่มเจ็บ ใจก็เริ่มเสีย “เจ้าพระคู๊ณ อย่าได้เจอสัตว์ร้าย หรือสิงสาราสัตว์เลย”  โบราณเขาว่าไว้ เข้าป่าอย่าทัก ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ทราบเรื่องนี้เลย  ขาดคำอธิฐานเสียงประหลาดๆ มาเยือนเธอทันที



                “โฮกกก..” เสียงคำรามที่ดังเหมือนเสียงเสือนั้น ทำให้เธอหยุดนิ่งตัวแข็งทื่อ ค่อยๆ หันไปมองทางต้นเสียง ใช่เลย เจ้าสิ่งที่อยู่ห่างจากเธอประมาณ 200 เมตร มันคือเสือจริงๆ ด้วยขนาดที่ใหญ่โต ความสูงพอๆ กับเธอ และลวดลายแปลกๆ ดูชั่วร้ายบนร่างมันอย่างที่เธอไม่เคยในสวนสัตว์หรือรูปภาพใดๆ ในโลกนี้  สมองไม่ทันสั่งการ เท้าก็พาเธอออกวิ่งหนีทันทีแบบไม่สนทิศทางทันที



                เสียงวิ่งของเสือดังใกล้ตัวเธอเข้ามาทุกขณะจิต ในขณะที่สมองวางแผนทันที วิ่งไปใกล้หน้าผามากที่สุด แล้วกระโดดหลบไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว เจ้า:-)็จะตกหน้าผาแทน ...มันควรจะเป็นเช่นนั้นตามแผน ถ้าขาเจ้ากรรมของเธอไม่หมดแรงเสีย แทนที่จะกระโดดหลบไปด้านข้าง เธอกลับพุ่งลงจากหน้าผาสูงแทน โดยมีพี่เสือพุ่งตามลงมาเป็นเพื่อนอย่างติดๆ



                “กรี๊ดดดด....” เธอส่งเสียงร้องก่อนที่จะสลบทันทีด้วยความหวาดกลัว ในสัมผัสที่เลือนลางนั้น คล้ายกับมีคนกระโดดมารับตัวเธอไว้กลางอากาศ ....กลางอากาศงั้นเหรอ...

.....

..........

.....................

.......................................................................





                “อืม....ฉันรอดตายงั้นเหรอ” โคโค่อดอุทานออกมาไม่ได้หลังจากได้สติ และความทรงจำเริ่มกลับคืนมา



“พวกเรา เธอรู้สึกตัวแล้ว”  เสียงร้องบอกใกล้ๆ ทำให้เธอลืมตาขึ้นมามอง พลันก็พบว่า มีชาย 3 คนยืนมองดูเธออย่างเป็นห่วง ข้างเตียงที่เธอนอนอยู่ คนหนึ่งดูตัวใหญ่มาก ความสูงน่าจะร่วมๆ  2 เมตรได้ หัวล้านมีเขาเล็กๆ อยู่กลางหัว ผิวสีเทาแต่ดูเป็นประกาย คาดคะเนอายุไม่ออก อีก 2 คนดูวัยน่าจะไม่เกิน 30 ปี ทั้งคู่ตัวเล็กกว่าชายคนแรกพอสมควร  ดูมีความเป็นมนุษย์เหมือนเธอ เพียงแต่คนหนึ่งมีหูคล้ายแมว อีกคนหนึ่งมีหูคล้ายกระต่าย ทั้งหมดอยู่ในชุดทึมๆ แปลกๆ คล้ายทำด้วยหนัง



                “เป็นยังไงบ้าง รู้สึกไม่ดีตรงไหนหรือเปล่า พวกเราห่วงเธอกันน่าดู เล่นสลบไปวันกว่า”  ชายร่างยักษ์ผู้มีเขาบนหัว เป็นผู้ถามออกมา



                “.........เอ่อ!..... ดูเหมือน..จะไม่เป็นไรแล้วค่ะ ....ขะ..ขอบคุณที่ช่วยเอาไว้นะคะ” เธอตอบไปด้วยเสียงแผ่วเบา ก่อนที่จะนึกอะไรบางอย่างออกมาได้



                “มนุษย์ต่างดาว  ปีศาจ มนุษย์ลามก”

“ช่วยด้วย ..กรี๊ดดดด.........”

               

                “เฮ่ย!” ทั้งสามคนพร้อมใจกันร้องประสานเสียง เล่นเอาตกใจตามไปด้วย



                “ใจเย็นๆ ใจเย็นๆ พวกเราไม่ทำอะไรเธอหรอก เธอปลอดภัยแล้ว รับรองได้ ใจเย็นๆ ใจเย็นๆ”  ทั้งสามช่วยกันปลอบอยู่พักใหญ่กว่าเธอจะตั้งสติได้ จริงซินะ ไม่งั้นพวกเขาคงไม่ช่วยเราจากการตกเขาหรอก คงตายไปนานแล้ว  ข่าวเรื่องลึกลับที่หาหลักฐานไม่ได้ที่ว่า มีมนุษย์ต่างดาวแอบมาตั้งฐานอยู่บนโลกท่าทางจะเป็นความจริง ดูท่าจะอยู่กันมานานแล้ว ถึงกับพูดภาษาไทยได้เลย แต่อย่างไรซะ ดูท่าช่วงนี้เธอยังคงปลอดภัยแน่



                “ว่าแต่เธอเป็นพวกเผ่าพันธุ์ไหนเรา พวกเราไม่เคยเห็นกันมาก่อน” ชายร่างยักษ์ถามขึ้นมา โดยมีชายอีก 2 คนเป็นลูกคู่พยักหน้างึกๆ

               


“มนุษย์คะ” แอบมาอยู่โลกของเค้า ทำไมแกล้งโง่ไม่รู้จักได้นะ โคโค่แอบคิดอยู่ในใจ เริ่มระมัดระวังตัวมากขึ้น แต่ดูเหมือนว่า พวกเขาจะไม่เคยเห็นมนุษย์โลกจริงๆ



                “แล้วเธอไปอยู่บนเขากลางป่านั่นได้อย่างไร มันอันตรายมากนะ ถ้าพี่ใหญ่ไม่ไปพบเข้าล่ะก็ เธอตายไปแล้ว” หนุ่มหูแมวเป็นคนยิงคำถามบ้าง



                พี่บึ๊กงั้นเหรอที่ช่วย “เอ่อ! ไม่ค่อยแน่ใจนะคะ ดูเหมือนจะเป็นสร้อยเส้นนี้เป็นผู้พามานะค่ะ” เธอเล่าพร้อมเอานิ้วชี้ไปที่สร้อยที่เธอสวมคออยู่ หนุ่มหูกระต่ายขมวดคิ้วแน่น แล้วแบบมือข้างหนึ่งออกมาตรงหน้าเธอ “ขอข้าดูหน่อยได้ไหม”

               

เธอถอดสร้อยส่งให้แต่โดยดี หนุ่มกระต่ายไม่ได้พูดอันใด หยิบเครื่องมือประหลาดหลายชิ้นจากกระเป๋าที่วางอยู่บนพื้น มาตรวจนู่นนี่ที่สร้อยของเธอวุ่นวายอยู่พักใหญ่ ท่ามกลางความสนใจของคนที่เหลือ ชั่วครู่ใหญ่หนุ่มกระต่ายก็ส่งสร้อยคืนเธอดังเดิม



                “ของโปเก” เจ้าหนุ่มกระต่ายพูดลอยๆ ขึ้นมา

               

“ห๋า” ทั้ง 3 คนที่เหลือร้องขึ้นพร้อมกัน



“ของโปเก มันเป็นเครื่องแปลภาษา และเคลื่อนย้ายมิติแบบส่วนตัว เจ้าเครื่องรุ่นนี้ถูกสร้างมาเมื่อ 200 กว่าปีมาแล้ว  เจ้า GT-200 นี้เป็นรุ่นที่เลวร้ายที่สุดของจักรวาลเลยก็ว่าได้ ด้วยการเคลื่อนย้ายมิติแบบสุดเพี้ยนกู่ไม่กลับในบางครั้งของมัน ทำให้คนตายไปนับหมื่นๆ คนแล้ว หลังจากถูกใช้มาเกือบ 10 ปี ก็ถูกระงับการใช้อย่างถาวร และถูกสั่งให้ทำลายทิ้งทั้งหมด ปัจจุบันไม่มีเหลือแล้ว”



คุณปู่ขา มันไม่ใช่สิ่งที่นำความโชคดีมาให้เสียแล้วล่ะค่ะ ไม่ใช่ของชาวแอตแลนติส หรือชาวมู ชาวแม้วอะไรนั่นด้วย ตระกูลเราหมดเงินมหาศาลไปกับของโปเกพรรค์นี้ คุณปู่บนสวรรค์ถ้ารู้เข้า  จะหัวใจวายตายไปอีกรอบหรือเปล่าคะ



“ที่เธอคุยกับพวกเรารู้เรื่องก็เพราะเจ้าเครื่องนี้ ถ้าไม่มีมัน เราคงต้องส่งภาษาใบ้กันอีกนาน” หนุ่มกระต่ายยังคงสาธยายต่อ

เอ่อ! ยังมีประโยชน์เหมือนกันนะ โคโค่เหน็บในใจ



“เอางี้ วันนี้ยังไม่ต้องคิดอะไร เดี๋ยวทานอาหารแล้วก็นอนซะ พรุ่งนี้ค่อยคุยกันใหม่ ดูเหมือนเธอยังอ่อนเพลียอยู่ ส่วนเจ้าเครื่องนั่น เดี๋ยวข้าขอเอามันไปถ่ายข้อมูลเรื่องภาษาของเจ้าเสียก่อน เพราะข้าสงสัยว่า ภาษาของเจ้าจะไม่มีในฐานข้อมูลส่วนกลาง  แล้วพรุ่งนี้ข้าจะเอาเครื่องใหม่ให้”



“ไม่ต้องห่วงนะแม่หนูน้อย เจ้าหมอนี่มันเป็นนักประดิษฐ์ เชี่ยวชาญด้าน AI และอิเลคโทรนิค เชื่อมือได้เลย”  หนุ่มหูแมวเป็นฝ่ายพูดเป็นครั้งแรกหลังจากที่เธอฟื้นขึ้นมา ...นั่นซิดูเหมือนพ่อบั๊กบันนี่จะดูรู้ดีไปหมด แต่เดี๋ยวซิ เค้าไม่ใช่เด็กนะ เค้า 18 แล้วนะ มาเรียกแม่หนูน้อยได้ยังไง เธอได้แต่คิดในใจ แต่ใครจะไปกล้าพูดออกมา



หลังจากกินอาหารหน้าตาประหลาดคล้ายโจ๊กแต่อร่อยจนหมดชาม แม้วันนี้จะดูสับสนในเรื่องราวต่างๆ พี่เอเลี่ยน 3 ตนที่ไม่รู้จักชื่อ หรือด้วยความอ่อนเพลียอย่างไรก็ไม่ทราบได้ เธอกลับหลับสนิทได้ในทันทีที่ล้มตัวนอน มันควรเป็นคืนที่หลับแสนสบาย ถ้าเธอไม่ฝันร้ายว่า เจ้าสร้อยบ้าพาเธอมาส่งที่นรกเสียก่อน



การตื่นขึ้นกลางดึกเป็นอะไรที่ย่ำแย่ทีเดียว จะนอนต่อก็หายง่วงซะแล้ว เหลียวมองแสงจันทร์ที่ส่องผ่านช่องหน้าต่างเข้ามา ทำให้ห้องที่รูปทรงโค้งๆ แบบแปลก ดูมีมิติซับซ้อนลึกลับชวนมองทีเดียว



ว่าแล้วขอยืดเส้นยืดสายไปชมจันทร์ดีกว่า ไวเท่าความคิดเธอลุกขึ้นจากเตียงเดินมาที่หน้าต่างทันที ...ตาเบิกโพลง ปากอ้าค้างอย่างตกตะลึงเมื่อเห็นพระจันทร์ ...เข้าใจแล้ว เข้าใจหมดทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว เมื่อเธอมองเห็นพระจันทร์ 2 ดวงขึ้นอยู่กลางฟ้าตรงหน้า



ไม่ใช่มนุษย์ต่างดาวบุกโลก เธอต่างหากที่เป็นมนุษย์ต่างดาว

จากคุณ : soulmachine
เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 54 15:01:32




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com