Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
...Dragon Delivery...#17 (7/7) ติดต่อทีมงาน

http://writer.dek-d.com/lawit/writer/view.php?id=738340

###

เมอร์รี่คริสต์มาสนะขอรับทุกคน :)

###

คุณ runaway guy @ ลุงแกซึนน่ะ

อม @ พยายามให้ได้อาทิตย์ละครึ่ง - หนึ่งตอนน่ะ

คุณ Cororin @ แกคงไม่เคยเจอกับตัวตรง ๆ น่ะ...

เป้ @ ยอดพีระมิด...คือใครดีเนี่ย
(คิดดูแล้วมันชักงูกินหางไงชอบกล)

เบ๊บ @ ก็จริงใช่มั้ยล่ะ

คุณแมวเหมียว @ ไม่เข้าใจก็ให้เทย์อธิบายแล้วกันค่ะ - -''

คุณหนมจีน @ ลองเทิร์มไปไหมลูก

คุณสาวไกด์ @ บ็อกเซ็ตนี่ขึ้นกับสนพ.โดยแท้ขอรับ T^T

คุณ Canossa @ นั่นสิเนอะ  อย่างแกต้องเหล้ากะปลาเผาเท่านั้น
ข้อยว่าเจ้ามือกินรวบคือตาโซลต่างหาก... (แต่มันไม่รู้ตัวหรอก)

คุณกาปอมซ่า @ ไอ้ขอรับฝากขอบคุณขอรับมานะขอรับ :)

คุณทะเลเดือดพันธุ์ร็อค @ ใจเย็น ๆ ค่า

คุณ Mnemosyne @ จริง ๆ แกก็เป็นตัวร้ายสุดเน่อ...ในบางความหมายน่ะ

ทินา @ ใช่แล้วขอรับ!

คุณ varavari @ อันนี้ยังบอกไม่ได้ขอรับ  คนเขียนขออนุญาตอมไว้ก่อน

คุณ river @ มันลงมาแล้วแหละค่ะ  แต่ว่า...

พี่โร @ เรียกว่าเป็นคนเดียวกัน  แต่คนละเวลาแล้วกันเน่อ

คุณนริน @ ( '_' ) เปล่านะขอรับ

คุณ PP_kung @ เจอมาเยอะเกินไปจนนิ่งไปแล้วค่ะ - -''

คุณ nutxnut @ ค่า^^

คุณ chaiyanun @ เค้าเห็นตาเทย์ชูป้ายว่า "ข้าไง ๆ" อยู่หลังโรงแน่ะ

คุณ scottie @ เจ้าแห่งความตายคงรำคาญทั้งลุงทั้งหลานแหละขอรับ - -'

###

๗.

หลังจากคำอธิบายอย่างตรง ๆ เข้าใจง่าย ๆ ผ่านไปแล้ว  ท่านเจ้าของร้านเอชานก็ได้รับทราบความจริงดังต่อไปนี้

๑. ลุงพยายามช่วยเขา
๒. ลุงเป็นคนปากแข็ง  ดังนั้นแม้พยายามช่วยก็จะทำเป็นว่าข้าไม่ได้ช่วยเจ้า  และถ้ายิ่งพยายามขอบคุณจะถูกด่า
๓. ทุกคนรวมหัวกันหลอกเขาหน้าตาย

ทุกคนในที่นี่หมายรวมตั้งแต่จ้าวแห่งความตายลงมา  เพราะเอาเข้าจริง  เงื่อนไขอะไรที่บอกไว้ก็ไม่เห็นจะตรงสักอย่าง  และมีการทดสอบอีกอันหนึ่งซ้อนอยู่กับอันแรก  สรุปแล้วคือทั้งลุงทั้งจ้าวแห่งความตายต่างกลั่นแกล้งให้โซลโทเข้าห้องสอบแบบปิดตา  จะทำถูกหรือไม่ถูกก็แล้วแต่ยถากรรม

"ทำไมไม่บอกข้าแต่ต้นว่าจะให้ทำแบบนี้ล่ะขอรับ" ท่านเจ้าของร้านประท้วง

'บอกแต่ต้นจะเห็นธาตุแท้ของเจ้าหรือไง' ลุงของเขาบอก  รินน้ำชาให้ 'แต่ว่ากันตามตรง  ข้าว่านางคงเห็นแกล้งเจ้าแล้วสนุกดีกระมัง'

"หา"

'แกล้งคนซื่อบื้อมันสนุกดี  ว่าไป...สนุกมากทีเดียว'

สิ่งมีชีวิตที่กลายเป็นของเล่นของชาวบ้านอ้าปาก  ก่อนจะหุบลงเพราะไม่รู้จะพูดอะไร  เขาไหล่ตก  เริ่มสงสัยแล้วว่าจ้าวแห่งความตายที่ตนพบนั้น...ชะรอยจะเกร็งหน้าเหี้ยมเย็นชาหลอกให้เขากลัวชัด ๆ ไม่ใช่หรือไง  ทุกคนรวมหัวกันหลอกเขาจริง ๆ ด้วย  หลอกเกือบตายทีเดียว

พอนึกถึงหลอก  ก็นึกอีกเรื่องขึ้นมาได้

"เดี๋ยวก่อนนะขอรับ" โซลโทรีบถามออกมา "ท่าน...ท่านเป็นคนกู้เงินสองล้านแปดแสนนีเบลใช่ไหม  ท่านเอาไปใช้ทำอะไร"

ไซธีนหลับตาเกียจคร้าน ยกมือข้างหนึ่งลูบต้นคอ  หากไม่นับโซ่มากมายที่พันธนาการอยู่แล้ว  ท่าทางชายชราก็คล้ายแมวหยิ่งขี้เกียจจนน่าหมั่นไส้ทีเดียว

'ไหน ๆ ข้าจะตายแล้ว  เลยขอเสพสุขสักหน่อย  ในเมื่อมัตยาบังคับให้ข้าหาเงินเอง  ไม่ให้ใช้พลัง  ก็เลยต้องใช้วิธีกู้เงินไปเสพสุขอย่างไรเล่า' เขาบอกเรื่อย ๆ ไม่สนใจสีหน้าหลานชาย 'เผื่อเจ้าไม่เข้าใจ  เสพสุขแปลว่าดื่มเหล้าเคล้านารี  กินของอร่อย  ซื้อของอย่างสะใจ...'

"เดี๋ยวนะขอรับ" อีกฝ่ายเริ่มเครียด "หมายความว่าท่านกู้เงินสองล้านแปดแสนไปถลุงเล่น..."

'ใช่  กว่าจะเกลี้ยงทุกนีเบลก็แทบแย่เหมือนกัน' ชายชราทำท่าแคะฟัน 'ถึงใจดีจริง ๆ'

...สรุปว่าลุงเขาเป็นตัวร้ายสุดชัด ๆ   ท่านเจ้าของร้านเริ่มอยากพองขนขึ้นมาใหม่อีกรอบอย่างไรชอบกล  

'ทำไม  เจ้าหวังว่าข้ายกร้านให้เปล่า ๆ หรือไง' ไซธีนเลิกคิ้วเหนือชั้น 'ไหนยังจะต่อชีวิตให้อีก'

เจอไม้นี้เข้า โซลโทก็ไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกัน  ชายหนุ่มเกาศีรษะพลางมองถ้วยที่ลุงเทมาให้  ชาในถ้วยคล้ายกับแบบที่ท่านเจวานชอบต้มทิ้งไว้  อ่อน ๆ เกือบมีแต่กลิ่น  ทว่าความอุ่นก็ชวนให้สบายใจ  หลังจากนั้น ครั้นลุงเห็นว่าเขาเอาแต่ดื่มชาอย่างเดียวเพราะเถียงไม่ได้แล้ว ก็ยังผลิตตะกร้าจากที่ไหนไม่ทราบ   เปิดมาให้อีกต่างหาก

"นี่..." ชายหนุ่มตาโตมองของในตะกร้า  ซึ่งล้วนแต่เป็นขนมอบละลานตา  คล้ายกับขนมที่ร้านเก่าแก่ในซีเลจะทำตอนเช้า ๆ  บางทีโซลโทไปหาเรนาที่หอไอดาก่อนเวลางาน  หญิงสาวก็ซื้อขนมแบบนี้เพิ่งอบใหม่ ๆ มาแบ่งให้กิน

'มาจากความทรงจำของข้า  ร้านในเมืองยังทำอะไรแบบนี้อยู่ไหมเล่า'

เนื่องจากโซลโทตะกละยัดขนมเข้าปากไปแล้ว  จึงไม่มีปัญญาจะตอบเป็นคำได้  เขาพยักหน้า   ลุงก็กอดอกดูไม่พูดอะไร   ที่จริงของกินเหล่านี้ไม่ใช่ของกินจริง ๆ ล้วนเป็นเพียงพลังและความทรงจำของไซธีน   แต่เขาทราบว่าเจ้าหนุ่มถูกขังอยู่ในโลกนี้เป็นเวลานาน  เกือบจะแย่แล้วเหมือนกัน  หากไม่ให้พลังมันบ้างไม่ช้าจะไม่ไหวจริง ๆ

เจ้าหนุ่มก็ซื่อบื้อจริง ๆ อย่างว่า  พอได้ของกินแล้วเรื่องอื่น ๆ ล้วนลืมหมดสิ้น  เอาแต่สนใจขนม  ท่าทางดีใจ  ไซธีนจึงปล่อยให้หลานชายกิน  ไม่พูดอะไรเหมือนกัน   เขากอดอกมองออกไปยังเมืองซีเลเบื้องล่าง   ที่นี่เป็นหอสังเกตการณ์  แม้ไม่สูงเท่ากับหอสมุดไอดา  ก็ยังเห็นตัวเมืองได้ถ้วนทั่วพอสมควร  มันไม่ใช่ซีเลในความทรงจำของเขา  ทว่าก็ยังมีหลายอย่างที่เตือนใจ

ชายชรานึกถึงอะไรอีกหลายอย่าง  เขานึกถึงตอนที่มัตยากลับมาหา  เวลานั้นเขาไม่รู้จะรู้สึกอย่างไรได้ก็หัวเราะเสียงปร่า  บอกว่าท่านชนะแล้ว เห็นหรือไม่  ท่านคงสะใจกระมังที่ดัดหลังข้าได้  ทำให้ข้าเป็น "คนดี" ที่น่ารังเกียจขึ้นมา   แต่มัตยากลับไม่ได้ดีใจที่ได้ยินอย่างนั้น   พ่อมดขอโทษเขา  ในความเป็นจริงก็คือ  แม้มัตยาจะมีความสามารถเท่าไรก็ไม่อาจคาดเดาพฤติกรรมของใครเสมอไปได้  เขาไม่รู้หรอกว่าจะเกิดอะไรหากส่งไซธีนมายังซีเล  เขาเพียงแต่หวัง  เพียงแต่เดิมพันทุกอย่างกับถ้อยคำของไอดา  ซึ่งบอกไว้ว่าไซธีนจะไม่มีวันพบความสงบใจในที่อื่นใดนอกจากเมืองนี้เลย

...ข้าเชื่อว่านางสร้างเมืองนี้เพื่อท่านเช่นกัน  มันเหมาะกับท่าน  ท่านไม่เห็นหรือ  มีหอสมุดและมีทะเลสาบ  มีผู้คนซึ่งแม้สนใจใคร่รู้  แต่ก็ไม่เหยียดหยามแบ่งแยกไม่ว่าใครจะเป็นอะไร   ข้าคิดว่านางก็คิดถึงท่าน   หากนางคิดถึงเพียงลูกหลานตน  จะสร้างเมืองแบบไหนก็ได้   ลูกหลานตระกูลเฮเบลเลือกเป็นมนุษย์แล้ว  เขาอยู่ที่ใดก็ไม่ลำบากอะไร...มัตยาบอกเขา...แต่ข้าเองก็ไม่ได้คาดไว้ว่าจะทำให้ท่านต้องเจ็บปวดถึงเพียงนี้   ข้าควรขอโทษท่าน  และควรคารวะท่านจริง ๆ  ข้าแพ้ท่าน  ท่านชนะตัวเอง...

ถึงตอนนี้ไซธีนก็ไม่รู้จะตอบอะไรแล้วเช่นกัน   เขาเจ็บมากจริง ๆ โดยเฉพาะในปีท้าย ๆ ที่ทุกคนค่อย ๆ ลืมไป  ทว่าประสบการณ์มากมายที่ไซธีนไม่เคยได้รับตลอดเวลานับพันปี   เขาก็เพิ่งได้มาพบเห็นในซีเล  สิบปีที่ใช้ชีวิตท่ามกลางผู้คน  มีความรู้สึกอันธรรมดาสามัญ  เรียนรู้ว่าความผูกพันที่แท้จริงเป็นอย่างไร   เขารู้ว่าแม้ตนมีชีวิตต่อไปก็ไม่มีทางหนีคำสาปได้  เขาจะลืม ถูกลืม และสูญสลาย  ดังนั้นจึงควรพูดว่าการทำอย่างนี้ก็เป็นวิธีหนีของเขาเหมือนกัน  อย่างน้อยเขาก็เลือกชะตากรรมของตัวเอง  อย่างน้อยก็จะมีคนที่ไม่ลืม  ไม่ใช่หรือไง

โซลโทคงหิวมากจริง ๆ  เขากินเพลินจนเกือบลืมอีกฝ่าย  รอจนมือแตะถูกก้นตะกร้าเจอขนมชิ้นสุดท้ายจึงค่อยนึกได้  ชายหนุ่มหน้าม้านเร่งชักมือกลับด้วยความรู้สึกผิด  แต่แล้วกลับพบว่าลุงไม่สนใจกิน  ดูเหมือนลุงกำลังรอให้เขาจัดการจนพอใจ  จะได้พูดอะไรต่อไปเสียที

'กินเข้าไปเถอะ  เอาแรงไว้  ข้าเห็นเจ้าแก้ปัญหาอะไรก็เอาถึกทือเข้าแลกทุกที' ชายชราบอก หยิบขนมชิ้นสุดท้ายยื่นให้ 'ฟังข้าให้ดี ๆ เมื่อเจ้าผ่านการทดสอบส่วนของข้าแล้ว  ข้าจะปล่อยเจ้าออกไปจากที่นี่  เมื่อพ้นจากที่นี่  เจ้าจะพบหอค้ำโลก  ซึ่งเป็นทางเชื่อมถึงแดนคนเป็นได้  นั่นเป็นทางเดียวที่เจ้าจะกลับไป  ดังนั้นพยายามปีนให้ถึงยอดหอแล้วกัน  หลังจากนั้นก็ขึ้นกับว่าเจ้ามีวาสนาพอจะกลับไหม'

"เอ้อ...ขอรับ" โซลโทรับอย่างไม่ค่อยแน่ใจ

'แต่แม้เจ้ากลับไปได้  เจ้าก็จะยังมีสภาพคล้าย ๆ ผี  เพราะร่างเจ้าถูกความทรงจำของข้ายึดไปแล้ว' ไซธีนเอ่ยต่อ 'เจ้าก็หาทางไปแย่งทั้งร่างทั้งเอนาเรคืนมา  ส่วนจะทำอย่างไรเป็นเรื่องของเจ้า  ตัวเอกละครไม่มีใครเขาต้องให้ตัวร้ายสุดช่วยบอกใบ้หรอก'

"ข้าไม่ใช่ตัวเอกหรอกขอรับ" ชายหนุ่มว่า

'อย่างนั้นหรือ  แล้วใครเป็นตัวเอกเล่า'

"ข้าว่าทุกคนเป็นตัวเอก" โซลโทลูบต้นคอ "แต่ว่ากันเรื่องคล้าย ๆ ตัวเอกในนิทาน  ท่านชายกับท่านเจวานคงคล้ายที่สุดกระมัง"

'แต่เจ้าเป็นพระเอกของเอนาเร  ไม่ใช่หรือไง'

พอพูดถึงคนรัก  เจ้าหนุ่มก็หน้าแดง   ท่าทางเก้อเขินและดูเหมือนจะมีความมุ่งมั่นเพิ่มขึ้นมา   เขาต้องกลับไปช่วยเรนาให้ได้  อย่างน้อยเรนาต้องปลอดภัย

'เช่นนั้นก็ไปเถอะ' ไซธีนบอกในที่สุด  ลุกขึ้นยืน  โซลโทเห็นเขาวาดมือเป็นวงตรงหน้า   วงนั้นตัดไปในอากาศ คล้ายจะฉีกให้กลายเป็นช่องว่างขึ้นมา  เบื้องหลังช่องดังกล่าวไม่ให้เมืองซีเลอีกแล้ว   หากแต่เป็นทุ่งร้างที่มีท้องฟ้าคล้ายยามบ่าย...เช่นเดียวกับที่อื่น ๆ ในโลกแห่งความตาย   ไม่ไกลออกไป  ชายหนุ่มเห็นบางสิ่งเหมือนแท่งเสา  สูงถึงฟากฟ้า

เขามองทางที่ลุงเปิดให้   ก่อนจะหันกลับมา

"ถ้าข้าไปแล้ว  ลุงจะเป็นอย่างไรหรือขอรับ"

'ข้าเป็นวิญญาณแตก  อยู่ที่นี่ได้เพียงเพราะจ้าวแห่งความตายอนุญาต  เจ้าไปแล้ว  ไม่ช้าข้าก็จะถูกส่งไปสลายกระมัง' ชายชราบอกเรียบ ๆ  เขาโบกมือยามเห็นสีหน้าหลานชาย 'ผู้ใดทำสิ่งใดก็ต้องรับผลนั้น  ข้าเป็นนักโทษของความทรงจำที่ข้าพยายามจะรักษาไว้  เจ้าไม่เห็นหรือ  โลกรอบ ๆ ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ข้าปรารถนาจะเก็บไว้  แม้ต้องทำลายชีวิตเจ้าหรือเจวาน  ต้องหลอกลวงหรือทำร้ายใคร  ข้าก็ไม่สนใจ  สิ่งเหล่านั้นก็พันธนาการข้าไว้ที่นี่เช่นกัน'

โซลโทมองเส้นโซ่เหล่านั้น  ครั้นแล้วเขาก็รู้สึกเสียใจ  ตลอดชีวิตที่ผ่านมา  เขาไม่เคยเสียใจเท่านี้มาก่อนเลย

"ข้าจะกลับไป  แต่ข้าจะไม่ลืมท่าน  ข้าจะบอกคนอื่นไม่ให้ลืมท่านเหมือนกัน" ชายหนุ่มว่า "ลุง...ถ้าเป็นไปได้  ข้าจะพยายามช่วยท่าน"

'ช่วยตัวเองให้รอดก่อนเถอะ' ลุงเขาบอก 'อ้อ มีอีกอย่างหนึ่ง  อย่าลืมเสียเล่า  กุญแจอยู่ที่กระจกเงา'

"ขอรับ?"

ชายชรายิ้มบาง  ทว่ามือกลับคว้าไหล่เขา  ผลักเข้าไปในยังช่องนั้น  ลุงแรงมากจริง ๆ ...มากจนโซลโทที่ไม่ทันตั้งตัวเซหลุดเข้าไป   ช่องหดแคบลงต่อหน้าต่อตา  ชายหนุ่มก็ตกใจ

"ลุงขอรับ  ลุงไซธีน"

ช่องหดแคบจนผ่านไม่ได้แล้ว  โซลโทเห็นลุงเขาหันหลัง  เดินจากไปไม่ได้สนใจอีก  ชายหนุ่มร้อนใจก็ได้ร้องออกมา

"ข้าขอบคุณขอรับ  ข้าจะไม่ลืมท่าน  ข้าสัญญา  ข้าจะไม่ลืมท่านจริง ๆ" เขาร้องแล้วร้องเล่า "ข้าจะพยายามขอรับ  จะพยายาม"

แต่เขามองไม่เห็นแล้ว   ไม่รู้ว่าลุงอีกฝั่งเป็นอย่างไร  ช่องปิดไปต่อหน้าต่อตา   เหลือเพียงชายหนุ่มที่ยืนอยู่ใต้เงาของเสาค้ำโลก  สุดปลายเขตแดนแห่งความตาย

................................................................................................

จากคุณ : ลวิตร์
เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 22:23:22




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com