Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
มิ่งแก้วจอมหทัย ตอนพิเศษของขุนพลธาตุลม ตอนที่ ๑ : ติดต่อทีมงาน

+++ มาตามสัญญาค่ะ เรื่องของขุนพลหน้าสวยวายุ  สามตอนจบนะคะ สั้นจริงๆ แง้วววว

น้องเหมียวมิลค์ขอพักไว้ก่อนนะคะ อย่าเพิ่งต่อว่าต่อขนคนเขียนน้า แบบว่าตอนนี้ถูกอดีตกาลตามล่า ให้ปิดต้นฉบับให้ได้สามเรื่องรวด กุมขมับปวดหมองอยู่เนี่ย ฮือ

อ้อ มีข่าวดีและข่าวร้ายของภาคสอง เจ้ป๋าเมืองคำ ณ ดารกลางหทัยมาบอกค่ะ

ข่าวดีคือ วางแผงช่วงงานสัปดาห์หนังสือเดือนเมษาแน่นอนแล้ว ตอนนี้รอปกอยู่ค่ะ

ข่าวร้าย พิมพ์ลอตแรก 500 ชุด (หนึ่งชุดมี 2 เล่ม) งานนี้แย่งชิงกันหน่อยนะคะ เพื่อให้หมดเร็วๆ จะได้พิมพ์ครั้งที่สองต่อไป อุโฮะ อุโฮะ +++


ตอนพิเศษของขุนพลธาตุลม  ตอนที่ ๑ :



“ยังไม่หมดอีกหรือ”

ว่าที่เจ้าหลวงพระองค์ใหม่ของธาตวากรทรงร้องสุรเสียงหลง เมื่อทอดพระเนตรปาษาณกับสันธิลาช่วยกันหอบม้วนข้อราชการเข้ามาอีกคนละหอบใหญ่ วรกายสูงทิ้งองค์ลงกับพระขนนอย่างแรง หากทรงสามารถแทรกหนีลงไปกับพื้นห้องทรงงานนี้ได้ คงจักทรงเร่งทำโดยไม่รอช้าสักชั่วอึดใจ วงพักตร์สวยราวสตรีเพศของอดีตขุนพลธาตุลมมุ่ยอย่างเห็นได้ชัด ปาษาณหัวเราะนิดๆ พลางทูลตอบ

“สองกองสุดท้ายแล้วกระหม่อม”

“ปาษาณ ขอทีน่ะ อย่ามาพูดเยี่ยงนี้กับข้าเลย เราพูดกันอย่างเดิมมิได้แล้วรึ”

“ไม่ได้ กระหม่อม” ขุนพลธาตุดินทูลขึงขัง “เพลานี้ทรงเป็นเจ้าชายวายุ หาใช่ขุนพลธาตุลมไม่”

“ก็แล้วที่ผ่านมาเล่า ข้าไม่ใช่เจ้าชายหรืออย่างไร”

สุรเสียงเริ่มตวาดเกรี้ยวไม่ผิดกับเจ้าหลวงศิขรินสักนิด สันธิลากับปาษาณก้มหน้าลงซ่อนยิ้ม เจ้าชายวายุไม่ทรงรู้พระองค์หรอกว่าเริ่มละม้ายเจ้าหลวงศิขรินเข้าไปทุกทีแล้ว ภาพของขุนพลวายุที่เคยเที่ยวไปยั่วเย้าคนโน้นคนนี้เล่นอยู่บ่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยเจ้าชายวายุผู้ทรงทำพักตร์มุ่ยอยู่เป็นนิตย์

“เอ้า ถามแล้วไยไม่ตอบ”

“ก็ทรงทำเหมือนเจ้าชายเสียที่ไหนล่ะ กระหม่อม”

“ความผิดข้ารึ” ทรงเริ่มรวนอีกแล้ว ถ้าเจ้าหลวงศิขรินทรงเป็นเจ้าชายแห่งไฟ เจ้าชายวายุก็น่าจักเป็นเจ้าชายแห่งลมพายุกระมัง  “ฮึ่ย! เจ้าหลวงก็ช่างกระไร จู่ๆ มาโยนภาระโครมให้ข้าไม่ถามไถ่สักคำ อุตส่าห์ลืมไปได้แล้วนะนี่ ว่าข้าเป็นเจ้าชาย”

“นั่นปะไร พระองค์ก็ทรงลืม แล้วมีหรือที่ข้าบาทสองคนจักไม่ลืม”

สันธิลาได้โอกาสทูลย้อนหน้าตาเฉย เจ้าชายหนุ่มทรงเถียงไม่ออกได้แต่ประทับพักตร์บอกบุญไม่รับอยู่อย่างนั้น ยิ่งทรงหวนคิดถึงเหตุการณ์เมื่อหกเพ็ญที่ผ่านมาก็ยิ่งตรัสไม่ออกบอกไม่ถูก


แผ่นหนังแผ่นหนึ่งพับอย่างเรียบร้อยวางซ่อนไว้ใต้พระเขนยสมตามพระวาจาที่บอกเอาไว้ก่อนหน้าทุกประการ เพลานั้นยังไม่มีผู้ใดรู้ว่าเจ้าหลวงศิขรินทรงคิดการสิ่งใดเอาไว้ หัสดินทร์คลี่ออกอ่านแล้วก็ชะงัก ดวงตาที่เริ่มมีฝ้าขุ่นตามวัยเหลือบมองที่ขุนพลแห่งลมนิดหนึ่งแต่มิได้ว่าอย่างไร กลับส่งแผ่นหนังนั้นให้เมฆารับไปอ่านแทน เมฆาอ่านจบแล้วก็อมยิ้มนิดๆ กับลายพระหัตถ์นั้น พลางพยักหน้าเรียกปาษาณกับสันธิลาให้เข้ามาใกล้ๆ ก่อนจักส่งให้สองสหายอ่าน ปาษาณกับสันธิลาเบิกตากว้างนิดหนึ่งกับลายพระหัตถ์ของผู้เป็นนายแล้วเหลือบมองวายุอย่างคาดไม่ถึง

เพลานั้นวายุยังคงอยู่ในอารมณ์โศกเศร้าจนไม่ทันสังเกตกิริยาของคนทั้งสี่ เขาไม่ทำแม้แต่จักขอดูลายพระหัตถ์นั้นสักนิด เพราะเกรงว่าตนเองจักกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ ลำพังการเข้ามาในห้องพระบรรทมนี้ก็ทำให้เจ้าตัวค่อนข้างทำใจยากอยู่แล้ว ไม่ว่าจักเหลียวไปทางใดก็คล้ายจักเห็นวรองค์สูงยืนอยู่มุมนั้นมุมนี้ทุกคราไป ความพันผูกของเขากับผู้เป็นนายสนิทแนบแทบว่าจักเป็นเงาตามตัวของกันแลกัน หากไม่ติดว่าเขาต้องเชิญพระบัญชาสุดท้ายกับพระอัฐิกลับคืนธาตวากรแล้ว เห็นทีเขาคงขอออกบวชอยู่ที่เวียงฟ้านั่นเอง

“เจ้าชายวายุ”

ใครคนหนึ่งขานนามแลพระยศเต็มที่เจ้าตัวเกือบจักลืมไปแล้ว ขุนพลแห่งลมสะดุ้งเหลียวขวับมาทางต้นเสียง

“หือ! เรียกข้าว่าอะไรนะ”

“เจ้าชายวายุ กระหม่อม”
 เมฆาทูลความเดิมด้วยสีหน้ายิ้มละไม นานหนักหนาที่เขาไม่ได้เรียกขานอีกฝ่ายเยี่ยงนี้

“นึกอย่างไรขึ้นมาถึงเรียกข้าเยี่ยงนี้ ข้าไม่อยากเป็นเจ้าชาย ท่านลืมไปแล้วหรือไร”

“เพลานี้เห็นทีจักมิได้แล้วกระหม่อม เพราะพระองค์จักต้องทรงเถลิงราชย์ปกครองธาตวากรสืบต่อ”

“ไม่ อย่างไรข้าก็ไม่”


ครานี้เจ้าชายวายุทรงร้องสุรเสียงหลง เนตรสีอ่อนตวัดมาทางแผ่นหนังเจ้าปัญหาที่อยู่ในมือของสองขุนพลธาตุอย่างระแวง นี่เจ้าหลวงศิขรินทรงเล่นกลอะไรอีกแล้วกระมัง ภาพวรกายสูงดำเนินกลับเข้าไปในห้องบรรทมเมื่อทิวาสุดท้ายก่อนออกจากธาตวากรหวนกลับเข้ามาในความคิดคำนึง ไหนจักยังพระวาจาสุดท้ายที่ทรงกำชับให้ตนเข้ามาในห้องบรรทมนี้พร้อมกับสองท่านผู้เฒ่าแลสองขุนพลธาตุอีก

“ทรงปฏิเสธมิได้แล้วกระหม่อม เจ้าหลวงศิขรินทรงทำพินัยกรรมไว้แจ้งชัด เจ้าชายวายุจักทรงเป็นเจ้าหลวงครองธาตวากรสืบต่อ”

ความโศกเศร้าหายไปจากพระทัยตั้งแต่เมื่อใดก็สุดรู้ หัตถ์ใหญ่คว้าแผ่นหนังมาจากมือของปาษาณ ทอดพระเนตรกวาดอย่างเร็วๆ แล้วก็ตรัสไม่ออกบอกไม่ถูก ลายพระหัตถ์ตวัดเล่นหางบอกชัดเจนในตอนหนึ่งว่า

'บัลลังก์ธาตวากรจักขาดช่วงมิได้ ภาระแห่งแผ่นดินทั้งปวงจักต้องมีผู้สืบต่อมิให้ขาดตอน แลข้าเต็มใจที่จักให้เจ้าชายวายุ อนุชาแห่งข้าเป็นผู้สืบสันตติวงศ์ต่อไป...'

เจ้าชายวายุทรงเข่นเขี้ยวอยู่ในพระทัย พระเชษฐาตัวร้ายทรงโยนโครมภาระอันใหญ่ยิ่งโดยไม่ถาม ทั้งไม่เคยทรงบอกให้รู้พระองค์มาก่อนเลย มาถึงเพลานี้ไม่ทรงแน่พระทัยแล้วว่าควรกันแสงหรือควรสรวลออกมากันแน่ แลยิ่งวางพักตร์ไม่ถูกเมื่อสองผู้เฒ่ากับปาษาณแลสันธิลาพร้อมใจกันคุกเข่าพร้อมถวายความเคารพสูงสุด

“ขอเจ้าหลวงวายุทรงพระเจริญ”


ทรงพระเจริญหรือ เจ้าชายวายุทรงถอนพระทัยเฮือกใหญ่ นี่ขนาดยังมิได้ทรงเถลิงราชย์ ทรงเป็นแค่เพียง 'ว่าที่เจ้าหลวง' ภาระงานเมืองยังกองอยู่เต็มโต๊ะทรงงาน กว่าจักบรรทมลงได้ก็เลยสองยามทุกราตรี ไม่เข้าพระทัยเลยจริงๆ ว่าไฉนคนถึงปองปรารถนาจักเป็นเจ้าหลวงกันนัก

“ปาษาณ ข้าวานเจ้าช่วยเอาสารนี่ไปส่งพระชายาทีเถิด อ้าว! หายไปไหนล่ะนี่”

ว่าที่เจ้าหลวงทรงทำพักตร์มุ่ยอีกคำรบ เมื่อทรงหากระบอกสารที่เตรียมเอาไว้ไม่เจอ กระทั่งทรงล้วงหัตถ์เข้าไปใต้กองม้วนข้อราชการจึงทรงเจอ ให้ตายเถิด นับวันที่ว่างบนโต๊ะทรงงานก็ยิ่งเหลือน้อยลงทุกที เห็นทีต้องทรงวานให้เขาต่อโต๊ะให้ใหญ่ขึ้นแล้วกระมัง

“ส่งให้พระชายาหรือ กระหม่อม จักทรงฟ้องสิ่งใดพระชายาอีกรึ”

ปาษาณทูลถามอย่างขันๆ เพราะเมื่อเจ้าหลวงกาสะลองยังประทับอยู่ที่ธาตวากรนั้น ถ้าทรงถูกเจ้าหลวงศิขรินแกล้งเมื่อใด เป็นต้องทรงวิ่งไปฟ้องพระชายาให้ช่วยอยู่ร่ำไป

“ทูลบอกเรื่องที่เราเคยพูดจากันไว้ก่อนหน้านี้”

ตรัสบอกสุรเสียงเรียบ ความสูญเสียใหญ่หลวงของแผ่นดินธาตวากรคือบทเรียนแลความเปลี่ยนแปลงของระดับความสัมพันธ์ของสองราชอาณาจักร เมื่อแรกก็ดูคล้ายจักยาก ทว่าพอสองท่านผู้เฒ่าอัญเชิญพระพินัยกรรมออกแถลงกลางมหาสมาคม ก็ทำให้ข้าราชบริพารทั้งหลายถึงแก่นิ่งงันไปในบัดดล

'ส่วนการศึกด้านอาณาจักรเวียงภูแก้วนั้น ข้าขอให้ยุติเถิด สองแผ่นดินมิอาจหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวภายใต้นามใดนามหนึ่งได้ หากสอดประสานเชื่อมไมตรีด้วยการค้าแลน้ำมิตรเป็นสำคัญ แม้นข้ามิได้กลับคืนมาแผ่นดินธาตวากรด้วยเหตุผลกลใดก็ตามแต่ ก็ขอให้พวกท่านทั้งหลายอย่าได้อาศัยเหตุที่เกิดขึ้นกับข้าเป็นชนวนแห่งสงครามครั้งใหม่เลย ด้วยทุกสิ่งล้วนเป็นความสมัครใจของข้าโดยแท้'

ราวทรงล่วงรู้ถึงพระชะตาขององค์เองจึงได้ทรงลิขิตอักษราขึ้นไว้ล่วงหน้าเยี่ยงนี้ ด้วยพระพินัยกรรมฉบับนี้จึงทำให้พระประสงค์ของเจ้าหลวงศิขรินแลเจ้าชายวายุลุล่วงไปด้วยดี เมื่อดำริมาถึงตรงนี้ เจ้าชายหนุ่มก็แย้มพระโอษฐ์อ่อนๆ เจ้าหลวงกาสะลองคงดีพระทัยไม่น้อยที่ทรงทราบความนี้ แลทรงหวังว่าเจ้าหลวงคนงามจักทรงหายจากพระอาการประชวรเสียที แล้วก็คงจักทรงยอมทำตามที่องค์เองทรงขอร้องเอาไว้ในตอนท้าย ช่วยไม่ได้นี่นะ เจ้าหลวงศิขรินทรงแกล้งองค์เองก่อนนี่      

“แล้วอีกเรื่อง เจ้าก็น่าจักรู้ว่าข้าจักทูลฟ้องเรื่องใด”

เจ้าชายวายุทรงยักพระขนงทีหนึ่ง ด้วยท่าทีเจ้าเล่ห์เจ้ากลของวายุ ขุนพลแห่งลมคนเดิม ก่อนจักทรงหันมาทางสันธิลา

“ท่านสันธิลา ไปเรือนท่านผู้เฒ่าหัสดินทร์กัน เห็นว่าไม่ค่อยสบาย อีกอย่างข้าทำงานมาเกือบทั้งทิวาแล้ว ไปหาของอร่อยๆ กินกันเถิด ปาษาณ เสร็จแล้วก็ตามมานะ”  


วรกายสูงดำเนินลัดเลาะมาทางเรือนครัวอย่างทรงคุ้นชิน บ่าวในเรือนหลายคนเห็นเข้าก็ยอบตัวถวายความเคารพพร้อมกับรอยยิ้มขัน เพราะต่างก็คุ้นเคยดีเสียแล้วกับการเห็นว่าที่เจ้าหลวงพระองค์ใหม่เสด็จมาแถบนี้ก่อนเสด็จไปพบท่านเจ้าของเรือน เสด็จมาบ่อยเสียจนยายแม่ครัวรู้พระทัยเตรียมพระกระยาหารของชอบเอาไว้รอท่าแทบจักทุกทิวา กระทั่งท่านผู้เฒ่าหัสดินทร์ยังอดค่อนมิได้

“อ้อ! ดีจริง ข้าบาทเพิ่งรู้ ยายแคเป็นเจ้าของเรือนนี้”

เจ้าชายวายุทรงยกหัตถ์ขึ้นเกาพระเศียรแกรกที่ไม่ทอดพระเนตรยายแคนั่งยิ้มอวดฟันดำเพราะคราบน้ำหมากรอรับเฉกทุกครา ซ้ำเรือนครัวทิวานี้ยังเงียบเหงาผิดกว่าเคย

“เอ ไปไหนกันหมดล่ะนี่”

“คงขึ้นไปบนเรือนกระมัง ข้าบาทว่าพระองค์น่าจักเสด็จไปเยี่ยมท่านผู้เฒ่าก่อนนะ กระหม่อม”

“ข้าหิวนี่ หาอะไรกินก่อนแล้วค่อยไปหาก็ยังได้ ท่านผู้เฒ่าไม่หายไปไหนหรอกน่ะ”

“เจ้าชาย เพ็ญหน้าก็จักเถลิงราชย์แล้วนะกระหม่อม เมื่อใดจักทรงเลิกทำตัวเป็นเด็กสักที”

“ข้าไม่ได้ทำตัวเด็กสักหน่อย”

ตรัสพลางสืบพระบาทตรงไปยังตู้กับข้าวที่ตั้งอยู่มุมหนึ่งของเรือนครัว ริมพระโอษฐ์บางขยับยิ้มแฉ่งเมื่อทอดพระเนตรจานขนมวางอยู่ ชะรอยยายแคคงจักเตรียมเอาไว้รอท่ากระมัง คนที่บอกว่าไม่เด็กถือวิสาสะยกจานออกมาวางที่ยกพื้น แล้วเลยลงประทับขัดสมาธิถูพระหัตถ์ไปมาด้วยท่าทีที่ไม่ว่าจักมองด้วยใจที่เป็นธรรมเยี่ยงใดก็ทรง 'เด็ก' อยู่วันยังค่ำ สันธิลาส่ายหน้าอย่างระอาแกมขัน แต่ไม่ปฏิเสธที่จักร่วมวงด้วย


*** มีต่อค่ะ

แก้ไขเมื่อ 27 ธ.ค. 54 15:28:55

จากคุณ : อินทรายุธ
เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 15:25:17




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com