สวัสดีเพื่อนนักอ่านทุกท่านครับ ไปเที่ยวปีใหม่กันที่ไหนบ้างครับ ของผมเองกลายเป็นต้องไปเฝ้าไข้ญาติผู้ใหญ่ในโรงพยาบาลแทนครับ กลายเป็นว่านอนเคาต์ดาวน์ศํกราชใหม่ในโรงพยาบาลไปแล้วกัน
ขอบคุณความเห็นและกิฟต์จากเพื่อนนักอ่านทุกท่านนะครับ คุณ กุหลาบมอญ, เรียวรุ้ง, อินทรายุธ, Hermosa, นารีจำศีล, Setakan, kdunagin, รุ้งปลายฟ้า และคุณ wor_lek ขอให้ทุกท่านมีความสุขตลอดปี และตลอดไปนะครับ
สำหรับกีฏมนตรา ตอนที่ผ่านมาครับ http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11517674/W11517674.html
เพื่อไม่ให้เสียเวลา ของเชิญติดตามตอนที่ 40 ได้เลยครับ
บทที่ 40
ภาพเบื้องหน้าเหมือนเหตุการณ์ในห้วงแห่งฝันร้ายสำหรับเกตุมาลา หญิงสาวหวีดร้องด้วยความตื่นตระหนกเมื่อเห็นร่างธุมชาลทรุดฮวบลงกับพื้น ทั้งที่แขนของเขายังโอบร่างหล่อนเอาไว้ แนบแน่น พลอยรั้งให้ทรุดกายตามลงไปด้วยกัน
อาจารย์ชาล อาจารย์คะ อาจารย์ต้องไม่เป็นอะไรนะ
พยายามเขย่าต้นแขนอีกฝ่ายเบาๆ ความห่วงกังวลมีมากกว่าตัวเอง มองเห็นแต่ใบหน้าธุมชาลซีดขาวราวปราศจากสีเลือด มือข้างหนึ่งของเขาก็กุมต้นแขนตัวเองเอาไว้แน่น
มีเลือดไหลซึมออกมาจากเสื้อที่ขาดวิ่นและสกปรก ไหลผ่านผ่านช่องนิ้วมือที่ไม่อาจกดรอยแผลฉกรรจ์นั้นเอาไว้ได้
ยังไม่ทันจะทำสิ่งใดต่อไป ร่างอรชรก็ถูกกระชากด้วยพลังแรงมหาศาลของผู้ประทุษร้าย ดึงให้หล่อนถลาลิ่วตามออกไปโดยไม่อาจขัดขืน เสียงคำรามในลำคอดังขึ้นโดยที่ยังไม่ทันแม้แต่จะเห็นใบหน้าของมัน
แต่เป็นเสียงที่เกตุมาลาจดจำได้เป็นอย่างดี
บุรโชติ!!
*****************************
ในที่สุดทุกอย่างก็เป็นไปตามที่คาดคิดเอาไว้โดยไม่มีผิดพลาด เวลาที่ต้องการมาถึงแล้ว มีเพียง มันคนเดียวเท่านั้น ที่รู้วิธีการจัดการทั้งหมด และไม่มีทางที่จะตกเป็นเหยื่อของกีฏยา เหมือนกับคนพวกนั้น!
กีฏยา??
น่าขันนัก ชื่อที่ไพเราะเหมือนไร้ความหมายนี่แหละคือ นามรหัสที่มันเป็นผู้ กำหนดขึ้นมาด้วยตัวเอง ตามความหมายที่สอดคล้องกับ ภารกิจของเจ้าสิ่งที่ว่านี้
พรีออน...
พรีออนสังเคราะห์ที่จะติดเข้าสู่ผีเสื้ออันเป็นราชินีแห่งมวลแมลง จึงเรียกขานนามของพรีออนชนิดพิเศษนี้ ด้วยนามแห่งพาหะของมันว่า กีฏยา... นางแมลง!
น่าสงสาร โปรเฟสเซอร์สาวใหญ่คาเรนนั่นเสียจริง ผู้ที่ฉลาดปราดเปรื่องในทุกๆด้าน รวมทั้งศาสตร์ที่ตนเองมั่นใจหนักหนาว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสุดยอดของโลก อนาถนัก... สุดท้ายของต้องมาเสียท่าให้กับสิ่งที่ตนเองคิดว่ารู้ดีที่สุดนั่นเอง
หมองูตายเพราะงู!
คำนี้ยังใช้ได้อยู่เสมอไม่เคยเปลี่ยนแปลง และตรงกับที่มันคิดเอาไว้มากที่สุด คาดไว้แล้วว่าคาเรนจะต้องตัดสินใจทำอย่างนั้น ด้วยวิธีการแบบนั้น และสุดท้ายหล่อนก็ต้องพลาดติดเชื้อ ด้วยคาดไม่ถึงว่าจะถูก ซ้อนกล อีกชั้นหนึ่งด้วยฝีมือของมัน
เพียงแต่อดประหลาดใจไม่ได้เท่านั้น ว่าคาเรนยังสู้อุตส่าห์มีเรี่ยวแรงทรหด เดินทางกลับมาจากผาติ้วได้อย่างไรกัน ทั้งที่นังแม่มดนั่น น่าจะเจ็บป่วยหรือตายอยู่ที่หมู่บ้านนั้นไปเลย จนไม่มีโอกาสกลับมาพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เลยด้วยซ้ำ
แต่เอาเถอะ! ถึงจะกลับมาได้ แต่ก็เก็บตัวเงียบเชียบ ในสายตาคนภายนอกอาจจะเป็นเรื่องผิดปกติ แต่สำหรับมันแล้ว คาดว่าคงจะเก็บซ่อนอาการผิดปกติจากการติดเชื้อนั่นไว้ โดยไม่กล้าแพร่งพรายออกไปเป็นแน่ และอาจจะคิดไม่ถึงด้วยซ้ำว่าจะเกิดขึ้นด้วยฝีมือของตัวมันเองนั่นแหละ.
...คนที่คาเรนบอกว่าไว้ใจที่สุด!
การหายตัวของคาเรนในวันนั้น ทำให้มั่นใจว่าพรีออนจะต้องออกฤทธิ์ในระยะสุดท้ายแล้ว เหมือนกับที่นงลักษณ์และเหมวดี ได้รับเข้าไป และป่านนี้ ก็แน่ใจว่าเหมวดีก็คงจะทุรนทุรายด้วยฤทธิ์พรีออนเช่นเดียวกัน โดยไม่อาจบอกได้ว่าหล่อนจะต้องเผชิญกับชะตากรรมใด
ช่างเป็นเรื่องน่ามหัศจรรย์เสียเหลือเกิน เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น มาจากฝีมือการรังสรรค์ของมันเอง... แต่เพียงผู้เดียว!!
ร่างปริศนาหัวเราะลั่นให้กับตัวเองด้วยความปลื้มปิติและลำพองใจ
และในช่วงเวลาเช่นนี้ มันรับรู้แล้วว่าทุกคนต่างกำลังเดินทางไปยังผาติ้ว แม้ว่าจะด้วยวัตถุประสงค์ต่างกัน ธุมชาล... ก็เพื่อตามหาเกตุมาลา ส่วนเกตุมาลานั้นเล่า?
มันหัวเราะอีกครั้ง เมื่อนึกถึงสภาพของหญิงสาว
ให้อภัยด้วยเถิดนะเกตุมาลา... โปรดให้อภัยฉันด้วย
และนั่นจะเป็นการเปิดโอกาสสำคัญที่มันจะได้นำผีเสื้อแสนสวยตัวนั้นกลับมาเป็นของตัวเองได้เสียที ไม่ต้องมีการเฝ้าระมัดระวังใดๆอีกต่อไป
แน่ใจได้เลยว่าจะไม่มีใครจะเฉลียวใจว่า มันจะย้อนกลับมาที่นี่แน่นอน และคาเรนก็จะไม่มีวันนำผีเสื้อสตาฟฟ์ตัวนั้นกลับคืนไปที่ผาติ้วเป็นแน่ ผีเสื้อสำคัญตัวนั้นจะต้องถูกเก็บเอาไว้ที่ใดที่หนึ่งในห้องทำงานของหล่อนเองนั่นแหละ
มันหยิบกุญแจที่ได้มาดังปรารถนา ขึ้นมาเดาะเล่นไว้ในกำมือ ด้วยอารมณ์รื่นรมย์เหนือสิ่งอื่นใด เวลาสำคัญสำหรับการ จัดการ กับผีเสื้อสีเงินยวงมาถึงแล้ว เพื่อนำไปสู่การสร้างผีเสื้อเรืองแสงตัวแรกของโลก ที่จะเกิดขึ้นด้วยน้ำมือของมันเองเพียงผู้เดียว ขอเพียงให้ได้ผีเสื้อตัวนั้นมา เพื่อศึกษารหัสทางพันธุกรรมและทราบแหล่งสำคัญอันเป็นต้นกำเนิดของพวกมันแล้ว แน่ใจได้ว่าหลังจากนั้น ทุกอย่างก็จะสำเร็จลงอย่างง่ายดาย
โดยตัวของมันเอง... ผู้สามารถควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างเอาไว้ในกำมือ ผู้ที่ใครๆก็ไม่มีวันจะนึกไปถึง
แน่นอน... ภายหลังจากที่ต้องเป็นฝ่ายคอยซุกซ่อนตัวหลบอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของคาเรนมานานแล้ว ไม่มีใครรู้หรอกว่า มันต้องอดทนกับนังปีศาจผมทองนั่นมากสักเพียงใด ภายนอกศาสตราจารย์สาวใหญ่ผู้นั้นอาจจะดูดีด้วยบุคลิกภาพที่ปรุงแต่งขึ้น แต่ธาตุแท้ภายในตัวของหล่อนที่แสดงออกถึงความเห็นแก่ตัว ความโลภ และความเลือดเย็นนั้น ก็ทำให้มันต้องซุกซ่อนความเกลียดชังเอาไว้อย่างลึกเร้น
เพื่อให้ไว้ใจว่าจะไม่ทรยศ ด้วยการยอมทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ แทบไม่ต่างกับทาสผู้ซื่อสัตย์ ภายใต้เงามืดที่ไม่มีผู้ใดอื่นจะล่วงรู้
ถึงเวลาเสียทีที่จะปรากฏตัวออกมาจากเงามืดนั้น ด้วยภาพลักษณ์อันสวยงาม ด้วยเกียรติยศล้ำค่า ไม่ต่างกับผีเสื้อที่จะผงาดรูปโฉมให้ทุกคนได้ประจักษ์ เมื่อสามารถเคลื่อนผ่านเปลือกนอกของตัวดักแด้ที่น่าเกลียดออกมาได้สำเร็จ
และคาเรนก็คือ เปลือกอัปลักษณ์ที่ควรสลัดทิ้งนั่นเอง
มันยิ้มให้กับตัวเอง อดฮัมเพลงในลำคอเบาๆไม่ได้ เมื่อบรรจงสวมถุงมือพร้อมชุดที่รัดกุมเตรียมความพร้อม บัดนี้ ทุกอย่างช่างปลอดโปร่ง ปราศจากอุปสรรคใดๆอีกต่อไป
ปล่อยให้กีฏยาได้ทำหน้าที่ของมันไปตามการ โปรแกรม ที่กำหนดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ด้วยฝีมือของมันเอง
ใช่! เป็นฝีมือของมัน ที่คาเรนมิได้เกี่ยวข้องเลยแม้แต่น้อย และมันจะไม่ยอมให้ผู้หญิงต่างชาติตัวแสบคนนั้นมาชุบมือเปิบ ในความสำเร็จอันแท้จริงไปโดยเด็ดขาด!!
กีฏยา...
บางความรู้สึกในส่วนลึกแย้งเหตุผลและความเป็นจริงขึ้นมาให้ฉุกคิดฉงนใจ แต่ทว่าก็บางเบาเสียจนตรรกะเหล่านั้นกลืนหายไป มันคิดว่าคงเป็นเรื่องเล็กน้อยที่สามารถจัดการได้ภายหลังจากภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว
นั่นก็คือการเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทาง ไปยังสถานที่อันเป็นเป้าหมาย
พิพิธภัณฑ์แมลง ของมหาวิทยาลัยเพชรพยัต!
*******************
ท่าทางของชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ผู้นั้น เหมือนกับคนที่ปราศจากสติสัมปชัญญะ หรือมึนเมาด้วยพิษสุราจนไม่อาจควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป
นัยน์ตาที่เคยกระจ่างจ้าสดใสกลับขุ่นมัวหม่นทึบเหมือนถูกบดบังไว้ในเงาดำแห่งอารมณ์ด้านมืด ต้นแขนใหญ่กำยำยิ่งกดรัดร่างของหญิงสาวเอาไว้และกระชากจนเซปะทะกับแผ่นอกหนาทึบราวพะเนินเหล็ก หล่อนสัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนระอุที่เป่าผ่านรูจมูกพะเยิบพะยาบออกมาตลอดเวลา เป็นกลิ่นลมหายใจที่เหม็นเน่าผิดปกติ
หญิงสาวขนลุกซู่ เมื่อตระหนักว่า เขาสะกดรอยตามหล่อนมาตลอด รวมถึงการลักพาตัวมาจากหอพัก ด้วยวัตถุประสงค์ที่หล่อนเองก็ไม่อาจรู้...
และนี่ย่อมไม่ใช่ พี่โชติอย่างที่เคยรู้จักมาก่อนหน้าอีกต่อไป แม้ในช่วงขณะเวลาสั้นๆที่เขาก้าวผ่านเข้ามาในชีวิต และก่อให้เกิดความประทับใจขึ้นมาในขณะนั้น
เกตุมาลาตระหนักขึ้นมาในทันที นั่นเป็นเพียง มายาการที่เขาสร้างขึ้นมากลบเกลื่อนตัวตนที่แท้จริงเท่านั้น ตัวตนที่ต้องการสร้างความประทับใจแก่เด็กสาวช่างเพ้อฝันคนหนึ่ง และคงจะเหมือนกับเด็กสาวอีกเป็นร้อยเป็นพันคนที่เข้ามาติดอยู่ในบ่วงเสน่ห์ของบุรุษผู้เพียบพร้อมคนนี้โดยไม่รู้ตัว
เพียบพร้อม?
เมื่อนั้นเอง จึงเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองเป็นครั้งแรกเกี่ยวกับชายหนุ่มที่เข้ามาพัวพันในชีวิตทั้งสองคน ธุมชาลและบุรโชติ คนทั้งคู่ต่างเป็นสุภาพบุรุษผู้เพียบพร้อมสมบูรณ์แบบในตอนแรกเหมือนกัน แต่ในที่สุด ก็เรียนรู้แล้วว่ามันไม่ใช่!
แล้วอะไรกันเล่าคือความหมายของความเพียบพร้อม? ความเพอร์เฟ็คสมบูรณ์แบบ อันเป็นสุดยอดแห่งอุดมคติสูงสุดของมนุษย์?
บุคลิก รูปร่างหน้าตา อันเป็นสิ่งประทับตาตรึงใจแต่แรกเห็น รวมอุปนิสัยแท้จริงที่ถูกฉาบปิดเอาไว้ให้เห็นแต่เพียงด้านสวยงาม โดยมิได้สนใจตัวตนแท้จริง
เฉกเดียวกับชายหนุ่มทั้งสองคนที่ยืนอยู่กับหล่อนนี่เล่า? ผู้ที่เกตุมาลาตระหนักว่า เพียบพร้อมสมบูรณ์อย่างที่บุรุษอื่นสมควรจะอิจฉา
เช่นนั้นจริงหรือ?
แล้วก็ได้เห็นสัจธรรมเกิดขึ้นในชั่วพริบตา ปรากฏขึ้นในท่ามกลางวาระวิกฤติของชีวิต ระหว่างสองบุรุษผู้เคยสมบูรณ์แบบ เป็นต้นแบบแห่ง พระเอกในฝันของหญิงสาวทั้งหลาย ที่ทำให้หลงติดอยู่ในกับดักภาพลวงตาทั้งคู่
ทั้งธุมชาล และบุรโชติ ต่างมี รอยแผลที่ซ่อนลึกเอาไว้ภายในเหมือนกัน มีความอัปลักษณ์ซุกซ่อนอยู่ในความสมบูรณ์แบบเหมือนกัน
แต่เมื่อถึงที่สุดแล้ว คนทั้งสองก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง!
แตกต่างในการ เลือก ก้าวออกจากเปลือกที่ห่อหุ้มตัวเองเอาไว้ และเดินไปสู่จุดหมายปลายทางคนละเส้นทาง...
เกตุมาลามองเห็นแล้วในตัวของธุมชาล เมื่อเขาพยายามผงาดกายลุกขึ้นยืนหยัดอีกครั้ง ทั้งที่ร่างกายยังบาดเจ็บสาหัส ขณะที่ร่างของหล่อนยังอยู่ในอ้อมแขนแข็งกร้าวของบุรโชติที่กำลังคุกคามอยู่...
พี่โชติ พาเกตุมาทำไม? เกตุไม่เคยทำอะไรให้พี่เลยนะ ปล่อยเกตุไปเถอะค่ะ...
พยายามพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่สุดกับท่าทีเหมือนคนสติวิปลาสนั้น
ทำไมน่ะหรือเกตุมาลา ก็เพราะต้องการตัวแทนยังไงล่ะ
ตัวแทน?
หล่อนงุนงงจนนิ่งขึงไปชั่วขณะ และท่าทีนั้นก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วเมื่อเขาหมุนร่างให้หันกลับมาเผชิญหน้าตรงๆ ประกายกลางนัยน์ตาขุ่นขวาง เหมือนมีสายฟ้าพาดผ่าน
แล้วคำตอบที่ได้มา ก็ทำให้ถึงกับยืนตัวแข็งทื่อ
เธอจะกลัวฉันทำไม มัทนียา? เราจะมาตกลงกันยังไงล่ะ อย่างที่เธอต้องการ
มะ- ไม่นะ ไม่ใช่...
ทุกคำติดค้างอยู่ในลำคอ เขามองหล่อนเหมือนกับไม่ได้มองเกตุมาลา แต่มองใครอีกคนที่ซ้อนทับอยู่ ผู้หญิงที่ชื่อประหลาดว่า มัทนียา...
มัทนียา? หล่อนไม่เคยรู้จักผู้หญิงคนนั้นมาก่อน ใครกันที่บุรโชติเอ่ยถึง? บัดนี้ท่าทางของอีกฝ่ายไม่ได้แสดงถึงสัมปชัญญะใดๆหลงเหลืออยู่อีก เหมือนคนที่ได้รับยากล่อมประสาทเกินขนาดหรือกำลังตกอยู่ในห้วงภวังค์หลอนจากความผิดปกติของสมอง
ผู้ป่วยจิตเวช!!
ความคิดอันว้าวุ่นหยุดชะงักในฉับพลันเมื่อสัมผัสความเย็นยะเยียบของวัตถุโลหะที่เป็นสาเหตุทำร้ายธุมชาล บัดนี้ถูกเลื่อนมาแตะที่ปลายขมับของหล่อนอย่างช้าๆ ไม่จำเป็นต้องหันไปมองก็ตระหนักชัดว่ามันคือปลายกระบอกปืน
เสียงขึ้นนกดังกริ๊ก ในความเงียบสงัดรอบด้าน หญิงสาวหลับนัยน์ตาลง รู้สึกเหมือนลมหายใจใกล้ขาดห้วงด้วยความตื่นกลัว รอคอยเสียงกัมปนาทของมันที่ระเบิดหัวสมองให้กระจุย
ความตายมันจะเป็นเช่นนี้เองหรือ? เริ่มต้นด้วยความเงียบงันและเย็นยะเยือก โดยไม่มีเวลาแม้แต่จะให้เตรียมตัวรับมือกับมัน?
แต่แล้วเสียงทุ้มกังวานของดอกเตอร์ธุมชาลก็ดังขึ้นในเวลาต่อมา
หยุดก่อนบุรโชติ! เราสองคนมีเรื่องที่ต้องตกลงกัน ตอนนี้ทุกอย่างกำลังจะจบลงแล้ว
ตกลง? มีอะไรที่จะต้องตกลง? ในเมื่อตอนนี้นายก็ไม่มีอะไรสำคัญเพียงพอสำหรับฉันอีกต่อไปแล้ว ไอ้ชาญ ไอ้คนอ่อนแอ
เสียงอำมหิตดังสวนขึ้นมาแปมปนด้วยกระแสเสียงเย้ยหยัน เหมือนกับไม่คาดคิดกับคำพูดของอีกฝ่าย
มีสิ... ในเมื่อมันเกี่ยวกับมัทนียา และความลับของใครอีกคนหนึ่ง ที่ร่วมมือร่วมใจ กับนายทุกครั้ง ในการฆ่า ใครคนที่เป็นคู่แฝดทางจิตวิญญาณของนายอย่างแท้จริง... ซึ่งไม่ใช่ฉัน!
นัยน์ตาฆาตกรเบิกกว้างขึ้นเป็นครั้งแรกอย่างคาดไม่ถึง
แก ไอ้ชาญ... แกรู้!
************************
เกตุมาลาไม่ได้มองเห็นท่าทางของชายหนุ่มทั้งคู่ที่ต่างก็กำลังทำ สงครามจิตวิทยาระหว่างกันอยู่อย่างเอาเชิง ไม่ได้สนใจปลายกระบอกปืนที่จ่อดิ่งตรงยังศีรษะตนเองอีกต่อไป แต่กลับมองเห็นรอยยิ้มของกีฏยาปรากฏที่มุมปากในจังหวะนั้น รอยยิ้มที่ชายทั้งสองคนไม่มีโอกาสได้เห็น
กีฏยากำลังยิ้มอะไร? ดีใจ เสียใจ หรือผิดหวังที่พลังอำนาจลึกลับเหล่านั้นมิอาจเอาชนะทั้งหล่อนและธุมชาลได้สำเร็จ อำนาจที่เคยมีเหนือคนอื่นและบงการผ่านการล้วงลึกลงไปสู่จิตใต้สำนึกของพวกเขาเหล่านั้น จนไม่อาจต่อสู้กับพลังแห่งมโนธรรมที่ฆ่าพวกเขาทั้งเป็นมาแล้ว
หล่อนมองทะลุผ่านร่างนั้นที่ยิ้มให้อีกครั้งโดยปราศจากความหมายที่อ่านได้ออก ก่อนจะค่อยๆเลือนสลายลงช้าๆ เหมือนกับทุกอย่างเสร็จสิ้นในภารกิจของตนเองแล้ว ภารกิจที่เกิดความผิดพลาด...
เกตุมาลาเพ่งจ้องผ่านลึกเข้าไปที่ร่างเลือนแสง เหมือนกับจะละลายหายไปกับอากาศธาตุเบื้องหน้า กำลังมองเห็นทะลุผ่านเข้าไปสู่ ที่มาของหญิงสาวปริศนาลึกลับผู้นั้น ใครอีกคนหนึ่งที่ ธุมชาลกำลังพูดถึง
ไม่ใช่ภาพหลอนในร่างจำแลงของมารดาคาเรน ไม่ใช่มัทนียา ไม่ใช่พี่พี หรือแม้แต่ แม่ของเหมวดี หรือเป็นใครคนใดทั้งสิ้น นอกจากผู้ที่เป็นคู่แฝดทางจิตวิญญาณของบุรโชติ... ฆาตกรฆ่าต่อเนื่องหญิงขายบริการเหล่านั้นนั่นเอง
แท้จริง มีใครบางคน ซ่อนตัวอยู่ภายใต้เงามืดของร่างฆาตกรผู้นี้ด้วย อีกคนหนึ่ง...
หล่อนมองร่างสูงใหญ่กำยำของชายหนุ่มผู้นั้น แล้วหันกลับมากีฏยาอีกครั้ง ผ่านภาพมายาหลอนเบื้องหน้า ด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปจากเดิม
การมองเห็นกีฏยาอาจจะเป็นลักษณะอาการอย่างที่ธุมชาลเรียกว่า ปรากฏการณ์จิตหลอนอันมีสาเหตุมาจากพรีออน อนุภาคมฤตยูขนาดจิ๋วที่สามารถก่อพยาธิสภาพได้ ผ่านผีเสื้อพาหะเพื่อเข้าไปเปลี่ยนแปลงระบบพันธุกรรมในสิ่งมีชีวิต
...รวมถึงมันสมองของมนุษย์!!
และก่อนการสลายตัวของมันนั้นเอง ปรากฏการณ์สุดท้ายที่กำลังจะเกิดขึ้นนั่นต่างหาก ที่ทำให้เกตุมาลามองเห็น อดีตอันเป็นที่มาของกีฏยา ได้แจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆ
วูบเดียวเมื่อมองทะลุผ่านนัยน์ตาล้ำลึกที่เคยสะกดให้จมดิ่งลงไปสู่ภายใต้จิตสำนึกตัวเอง หล่อนมองเห็นนัยน์ตาคู่นั้นกำลังดึงให้ย้อนกลับเข้าไปมองเห็นภาพตัวตนของใครอีกคนหนึ่งที่ซ่อนตัวอำพรางกายอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด
ใครคนที่นำพาให้กีฏยา จิตรางคนางค์ ให้ปรากฏขึ้น เป็นทั้งภาพหลอนในจิตใต้สำนึกส่วนลึกของทุกคน เป็นต้นแบบที่ก่อกำเนิดมายาภาพนี้มาโดยตลอด รวมทั้งเป็น คู่หูคู่สังหารให้กับ บุรโชติมาโดยตลอด
ไม่! เป็นไปไม่ได้... ต้องไม่ใช่แน่ๆ!!
เผลอหลุดปากอุทานออกมาสุดเสียง เมื่อเห็น มันชัดเจนขึ้น... มันผู้ซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมดโดยแท้จริง!
เพราะ มันคนนั้นก็คือ...
**************************** ส่วนคอมเมนต์ เดี๋ยวผมขอมาตอบวันพรุ่งนะครับ หมอกมุงเมือง
จากคุณ |
:
สามปอยหลวง
|
เขียนเมื่อ |
:
3 ม.ค. 55 14:25:26
|
|
|
|