ตอนที่ 6
กลิ่นหวานอมเปรี้ยวของดอกไม้สีขาวตระกูลส้มหอมฟุ้งกระจายอยู่ภายในห้องนอนสี่เหลี่ยมเล็กๆที่ดูเรียบง่าย ในขณะที่เจ้าของห้อง ก็กำลังยืนตัวตรงอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ที่ติดผนังด้านหนึ่ง พร้อมกับใช้หวีซึ่งทำจากไม้หวีผมตรงยาวสีดำขลับอย่างเหม่อลอย ภาพสะท้อนในกระจกเงาปรากฏเป็นร่างบอบบางสูงโปร่งของหญิงสาวผู้มีนัยน์ตาคมลึกสีดำสนิทนั้นให้ความรู้สึกราวกับมองลงไปในมหาสมุทรที่ลึกจนหยั่งไม่ถึง ภาพความทรงจำตอนอยู่ชายหาดเมื่อช่วงเย็นยังคงชัดเจนอยู่ในความคิดคำนึง ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนกล้าทำกับเธอได้เหมือนที่ชายหนุ่มชาวไทยคนนั้นกล้าทำ และที่สำคัญที่สุด ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนได้ใกล้ชิดเธอถึงขนาดนี้มาก่อนเลย ใบหน้าคมสันกับสายตาคมกริบรับกับคิ้วหน้าเข้มแบบไทยแท้ของเขา ยังคงตามมาหลอกหลอนอย่างไม่สามารถห้ามความคิดตนเองได้ และถ้าตอนนั้นไม่มีเสียงโทรศัพท์มาขัดจังหวะได้ถูกเวลาพอดิบพอดี สิ่งที่เธอพยายามทำมาตลอดก็อาจจะสูญเปล่า
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น มีมี่สะดุ้งนิดๆแล้วรีบวางหวีไว้บนโต๊ะหน้ากระจกเงา คว้าผ้าคลุมสีดำมาคลุมศีรษะและใบหน้าจนมองเห็นเพียงลูกตาข้างเดียวดังเดิมก่อนจะเดินไปเปิดประตู
จะนอนหรือยัง พี่เดยันให้ฉันมาชวนคุณไปดื่มน้ำชาด้วยกันน่ะ วันนี้พี่ชายของฉันอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เพราะงานต่างๆดูจะคืบหน้าไปมาก
เนเนสต์เอ่ยชวนด้วยน้ำเสียงสดใส ทันทีที่มีมี่เปิดประตูออกมา
ไปสิจ๊ะ ฉันยังไม่รีบนอนหรอก
ตอบและหันหลังกลับไปหยิบขลุ่ยไอริชสีเงินมาถือและเดินตามเนเนสต์ออกไปยังระเบียงชั้นสามของบ้าน ตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหญ่ของคาจาร์ ซึ่งเป็นตึกทาสีส้มสามชั้น มีมี่ก็ยังไม่เคยมีโอกาสได้พบกับผู้เป็นเจ้าของบ้านเลยสักครั้ง ทราบแต่เพียงว่า บ้านหลังนี้เป็นทั้งบ้านและสำนักงานของกลุ่มสมัชชาฯที่เพิ่งสร้างขึ้นมาเพียง 2 ปี ชั้นบนสุดหรือชั้นสามจะเป็นห้องนอนของผู้ที่คาจาร์ให้การอุปการะ ซึ่งนอกจากเดยันกับเนเนสต์แล้วก็ยังมีเจ้าหน้าที่สมัชชาฯบางส่วนรวมทั้งตัวเธอที่มาอาศัยอยู่ ส่วนชั้นสองเป็นห้องโถงสำหรับพักผ่อนอยู่ตรงกลาง โดยมีห้องประชุมกับห้องสมุดขนาบข้าง และชั้นล่างสุดก็แบ่งเป็นส่วนต้อนรับผู้มาติดต่อ ห้องครัว ห้องอาหารและห้องพักของคนงานทำความสะอาดกับพ่อครัว มีมี่เคยทราบจากเนเนสต์ว่า คาจาร์เองก็มีบ้านส่วนตัวของเขาอีกหลัง ซึ่งน้อยคนจะรู้ว่าอยู่ที่ไหน เพราะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก นานๆครั้ง ถึงจะมาพักที่บ้านหลังนี้
เชิญนั่งตามสบาย
เดยันลุกขึ้นยืนและกล่าวเป็นเชิงทักทายเมื่อเนเนสต์พามีมี่มาถึง
ขอบคุณค่ะ ตรงนี้ บรรยากาศดีจังเลยนะคะ
มีมี่เอ่ยด้วยรอยยิ้มขณะเดินมองไปรอบๆระเบียงที่เป็นมุขยื่นออกมาจากตัวตึก สายลมทะเลพัดมาปะทะใบหน้าเบาๆ ชวนให้รู้สึกสดชื่น
มุมโปรดของพี่เดยันเลยล่ะ วันไหนไม่มานั่งเล่นตรงนี้ก่อน แทบนอนไม่หลับกันเลย
เนเนสต์พูดพลางรินน้ำชาใส่ถ้วยกระเบื้องเคลือบสีขาวขุ่นให้กับมีมี่
ช่วงเทศกาลทะเลดอกไม้ไฟ มุมนี้ จะมองเห็นดอกไม้ไฟได้ชัดเจนมาก ในวันที่ไม่ได้ไปเที่ยวที่งาน ผมก็มาอาศัยชมความงามของดอกไม้ไฟตรงนี้แหละ
มีมี่ได้ยินที่เดยันพูดก็หันหลังเดินกลับมานั่งที่โต๊ะ และบอกด้วยแววตาเป็นประกาย
ปีนี้คงเป็นปีแรกที่ฉันจะได้มีโอกาสเห็นทะเลดอกไม้ไฟแห่งไซเบิ้ลสักครั้งในชีวิต
มีมี่ยังไม่เคยเที่ยวงานทะเลดอกไม้ไฟมาก่อนเลยเหรอ
เนเนสต์ถามกลับอย่างแปลกใจ มีมี่สายหน้าช้าๆ แววตาดูหม่นแสงลงเล็กน้อย
ไม่เคยหรอกจ้ะ แค่เอาตัวเองให้รอดในแต่ละวันที่บาตูฮานยังยากเลย แล้วจะมีปัญญาที่ไหนมาเที่ยวงานเทศกาลอะไรแบบนี้
อะไรที่มันเป็นอดีตไปแล้วก็ลืมๆมันไปเถอะ ตอนนี้คุณก็มาเป็นพวกเดียวกับเรา เป็นหนึ่งในครอบครัวของเราแล้ว ชีวิตของคุณจะไม่มีทางกลับไปตกระกำลำบากเหมือนเดิมอีกแน่นอน พี่ว่าเรามาวางแผนการส่งดอกไม้ไฟเข้าร่วมประกวดปีนี้กันดีมั้ย
ประโยคสุดท้าย เดยันหันไปถามน้องสาว หากคนที่ให้ความสนใจมากกว่ากลับเป็นคนที่ไม่เคยสัมผัสกับงานเทศกาลที่มีชื่อเสียงมายาวนานสักครั้ง
ส่งดอกไม้ไฟเข้าร่วมประกวดเหรอคะ น่าสนุกจัง งั้นก็แสดงว่าคุณสองคนพี่น้องทำดอกไม้ไฟเป็นด้วย
ไม่ใช่เราสองพี่น้อง พี่เดยันคนเดียวต่างหาก ฉันเป็นแค่ผู้ช่วยเท่านั้นแหละ เราลองส่งประกวดมาสามปีติดแล้ว ก็เข้ารอบลึกๆนะ แต่ยังไม่ติดหนึ่งในสามสักที ปีนี้ได้มีมี่มาช่วยคิดและออกแบบอีกคน อาจจะได้ไอเดียอะไรใหม่ๆบ้างก็ได้นะ
ถ้ามีอะไรที่ฉันช่วยได้ ก็บอกมาได้เลยนะ ฉันอยากมีส่วนร่วมทำอะไรกับพวกคุณทุกๆเรื่องเลย เป็นการขอบคุณที่ทำให้ฉันไม่ต้องเร่ร่อนอีกต่อไป
จริงเหรอ ถ้าอย่างนั้นสิ่งแรกที่ผมอยากขอให้ช่วยก็คือ คุณช่วยปลดผ้าคลุมหน้า ให้เราได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของคุณได้รึเปล่าล่ะ
เดยันพูดทีเล่นทีจริง และก็ทำให้มีมี่ต้องนิ่งไป ทว่า นัยน์ตาสีดำสนิทที่มองเห็นในความมืดสลัวนั้น ก็ฉายแววของความลำบากใจออกมาชัดเจน จนเนเนสต์เห็นแล้วต้องแอบเตะที่ขาของพี่ชายเป็นเชิงปราม
แหม ผมล้อเล่นนิดเดียว เลยเงียบกันหมดเลย โอเค ถ้าคุณยังไม่สะดวกในวันนี้ก็ไม่เป็นไร เปลี่ยนเป็นขออย่างอื่นก็ได้ เปล่าขลุ่ยให้ฟังสักเพลงได้หรือเปล่า
ได้สิจ๊ะ ด้วยความเต็มใจเป็นอย่างยิ่งเลยล่ะ
มีมี่รีบตอบรับคำขอของเดยันอย่างไม่อิดออด เธอลุกขึ้นยืนและหันหน้าออกไปทางด้านหน้าระเบียง สองพี่น้องหันไปมองสบตากันยิ้มๆ เมื่อท่วงทำนองของเพลงขลุ่ยไอริช เริ่มบรรเลงขึ้น อย่างอ่อนหวาน ท่ามกลางความมืดของยามราตรี และเสียงปรบมือจากเดยันก็ดังขึ้นเมื่อเพลงสั้นๆที่มีมี่บรรเลงค่อยๆเงียบลงไปในที่สุด
ไพเราะมากครับ ทั้งอ่อนหวาน และ แฝงความว้าเหว่อยู่ด้วย เป็นความรู้สึกของคุณในตอนนี้รึเปล่า
ฉันเป็นคนตัวคนเดียว นอกจากยายที่จากไปแล้วก็ไม่มีพ่อแม่ญาติพี่น้องที่ไหน บางที ความรู้สึกนึกคิดอะไรที่อยู่ในส่วนลึกของจิตใจมันก็คงถ่ายทอดออกมาทางเสียงเพลงแบบไม่รู้ตัวได้เหมือนกันมั้งคะ
มีมี่ตอบและถือขลุ่ยเดินกลับมานั่งที่เดิท ทุกคนพากันดื่มน้ำชาเงียบๆ โดยไม่พูดอะไรอยู่ครู่หนึ่ง
แล้วเสียงขลุ่ยที่ทำให้คนหลับได้ เป็นเรื่องจริงเหรอ คุณทำแบบนั้นได้จริงๆเหรอ
มีมี่ดูมีแววตาแปลกใจนิดๆ เพราะไม่คิดว่า เนเนสต์จะถามเรื่องนี้ขึ้นมา
ถ้าคุณอยากรู้ ฉันก็จะสารภาพตามตรงก็ได้ สิ่งที่ฉันทำให้คนอื่นหลับไปได้ ความจริงไม่ใช่เสียงขลุ่ยเพียงอย่างเดียวหรอก แต่ฉันสะกดจิตคนผู้นั้นด้วย คนที่ต้องการพิสูจน์ว่าฉันสามารถเปล่าขลุ่ยกล่อมให้เขาหลับได้จริงมั้ย จะต้องสบตากับฉัน แล้วฉันก็จะสะกดจิตเขาจนหลับไป
สองพี่น้องหันมาสบตากันอย่างอึ้งๆกับสิ่งที่ได้รับรู้อีกครั้ง
คุณไปเรียนรู้สิ่งเหล่านี้มาจากไหนกัน มีมี่
ยายของฉันไงล่ะจ๊ะ ตอนเด็กๆ ยายบอกว่า ฉันเป็นเด็กที่มีอะไรพิเศษๆ เหนือกว่าเด็กคนอื่นหลายอย่าง ฉันมักจะมีลางสังหรณ์ถึงเหตุการณ์ในอนาคตจากความฝัน ยายบอกว่าเวลาเมื่อก่อนฉันเล่าความฝันอะไรให้ยายฟัง อีกไม่กี่วันต่อมาเหตุการณ์เหล่านั้น ก็มักจะเกิดขึ้นจริงเสมอ แต่น่าแปลกที่พอโตขึ้นมาฉันก็แทบไม่ฝันอีกเลย อ้อ และอีกอย่างฉันก็มีจิตที่มีสมาธิสูงมาก วิชาสะกดจิตที่หลายคนรู้สึกว่าเป็นเรื่องยากที่จะเรียนรู้และฝึกฝน จึงไม่ยากสำหรับฉันเลย
แต่มีมี่ ก็ไม่ได้เล่าทุกสิ่งทุกอย่าง เธอเลือกที่จะปิดบังเรื่องที่เธอมีความสามารถพิเศษอีกอย่าง ไม่ให้สองพี่น้องได้รับรู้ นั่นคือ ประสาทสัมผัสในการฟังของเธอ ซึ่งสามารถฟังเสียงระยะไกลกว่าผู้คนปกติ เท่าที่บอกไปแค่นี้ ก็ถือว่าเปิดเผยความลับส่วนตัวมากพอแล้ว
คุณทำให้ผมทึ่งในตัวคุณมากเลยนะ มีมี่ ขอสารภาพว่า ตอนแรกผมก็คิดว่า ไอ้วิชามายากลเปล่าขลุ่ยทำให้คนหลับใหลของคุณเป็นแค่เรื่องหลอกลวงของนักต้มตุ๋นซะอีก ไม่คิดว่าจะทำได้จริงๆ
มีมี่เพียงแต่ยิ้มรับคำกล่าวนั้นโดยไม่พูดอะไรอีก สำหรับเธอ เดยัน เป็นคนที่อ่านความรู้สึกได้ยากนัก ตัวตนที่แท้จริงของชายหนุ่มผู้นี้เป็นอย่างไร ก็ยังไม่รู้ รู้เพียงว่า ตอนอยู่กับคาจาร์ อยู่บนเวทีปราศรัย เขาดูราวกับเป็นคนละคนกับผู้เป็นพี่ชายที่แสนดีของเนเนสต์ในเวลานี้อย่างเห็นได้ชัด และเธอก็จะต้องคอยเฝ้าสังเกตพฤติกรรมของชายผู้นี้อย่างใกล้ชิดต่อไป
ธรณ์ไม่มีโอกาสได้ไปที่พิพิธภัณฑ์ฯกับหมู่บ้านช่างทำดอกไม้ไฟตามแผนที่วางไว้ตั้งแต่เมื่อคืน เพราะวันนี้เขาต้องไปสำรวจพื้นที่รอบเกาะกับเจ้าชายอาร์กฟาและมาร์ลิคในตอนสาย เพื่อนำมาเป็นข้อมูลประกอบ และจัดลำดับความสำคัญในการออกแบบเบื้องต้นโครงสร้างพื้นฐานหลัก เช่น เขื่อนกันคลื่น ซึ่งจะอยู่ในระยะที่ 2 ของโครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึก และเป็นความรับผิดชอบของธรณ์กับมาร์ลิคโดยตรงด้วย
นี่คือ ภาพโครงสร้างของเขื่อนกันคลื่นที่ผมกับเจ้าชายอาร์กฟาร่วมกันออกแบบรายละเอียด และให้ช่างเขียนแบบออโต้แคดที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ พลอตเป็นภาพออกมา คุณจะศึกษาดูคร่าวๆก่อนระหว่างรอเจ้าชายก็ได้ แล้วถ้ามีอะไรอยากเสนอแนะเพิ่มเติมหลังออกสำรวจพื้นที่แล้ว ก็ขอให้นำเสนอในการประชุมตอนค่ำวันนี้ได้เต็มที่เลย
มาร์ลิคส่งกระบอกพลาสติกสีดำที่บรรจุม้วนกระดาษพิมพ์เขียวปึกหนาส่งให้กับธรณ์ ระหว่างนั่งรอเจ้าชายอาร์กฟาอยู่ในรถยนต์ซึ่งจอดอยู่ด้านหน้าประตูรั้วพระตำหนักของเจ้าชายฟารินอส
แล้วเจ้าชายฟารินอส ไม่เสด็จไปกลับพวกเราด้วยเหรอ
ธรณ์เอ่ยถามพลางคลี่แผ่นกระดาษพิมพ์เขียวขนาดเอศูนย์แผ่นหนึ่งออกมาดู
องค์ชายไม่ถนัดงานด้านวิศวกรรมชายฝั่ง ทรงเชี่ยวชาญด้านผลเศรษฐศาสตร์และการประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจมากกว่า หน้าที่นี้จึงเป็นของเจ้าชายอาร์กฟา และคุณกับผม หลังจากงานสำรวจและออกแบบรายละเอียดได้ข้อสรุปแล้ว ผมอยากให้คุณใช้ภาพถ่ายดาวเทียมและแบบจำลองทางคณิตศาสตร์วิเคราะห์ความสูงของคลื่นกับการกัดเซาะชายฝั่งด้วย คงไม่เกินความสามารถของคุณใช่มั้ย
ได้สิ แต่ก็คงต้องขอคำปรึกษาจากคุณและเจ้าชายอาร์กฟา มากเป็นพิเศษเลยนะ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ทำงานด้านชายฝั่งอย่างจริงจัง ถึงจะเรียนมาโดยตรงก็เถอะ แต่ตอนอยู่เมืองไทยก็แทบไม่ได้ใช้เลย ใช้แค่ความรู้ทางโครงสร้างเท่านั้น
น้ำเสียงของธรณ์ฟังดูค่อนข้างหนักใจไม่น้อย งานนี้ทั้งยากและท้าทายความสามารถของเขาอย่างที่สุด
จากคุณ |
:
Travel to the moon
|
เขียนเมื่อ |
:
4 ม.ค. 55 01:46:09
|
|
|
|