[มือใหม่หัดเขียน] Change the Fate ปาฏิหาริย์เปลี่ยนรัก บทนำ + บทที่ 1
|
 |
[Edit] นิยายเรื่องนี้ไม่ใช่นิยายวายนะครับ ถึงจะส่อมากก็ตาม เห็นมีหลายคนทักเลยขอชี้แจ้งไว้ก่อนครับ แฮะๆ [Edit]
สวัสดีครับ ผมเป็นนักเขียนมือใหม่ครับ เพิ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรก ขอฝากตัวด้วยนะครับ นิยายเรื่องนี้ผมเคยส่งสำนักพิมพ์ แต่ไม่ผ่านมา 3 ครั้ง / 3 สำนักพิมพ์ครับ ด้วยเหตุผลที่ว่า
1.ใช้ตัวละครชายในการดำเนินเรื่อง ซึ่งไม่เป็นที่นิยมในนิยายแนวรัก 2.พล็อตเรื่องก่ำกึ่งระหว่างแนววัยรุ่นกับแนวผู้ใหญ่
พอได้รับคำวิจารณ์เช่นนี้จาก สนพ มา ผมเลยวางแผนว่าจะปรับแก้ต้นฉบับนิยายเรื่องนี้โดยเปลี่ยนสำนวนการบรรยายเป็นแบบผู้ใหญ่ โดยใช้บุคคลที่ 3 เป็นผู้เล่าเรื่อง เหมือนที่นักเขียนนิยายแนวรักผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ใช้กัน แต่ตัวผมเองอ่านแต่นิยายรักหวานแหววที่มีอีโมไอคอนเป็นส่วนใหญ่ สำนวนเลยยังไม่ถึงขั้นครับ เลยต้องศึกษาสักระยะก่อนจะลงมือปรับแก้ได้
ผมเลยลองเอาต้นฉบับแบบเดิมมาลงที่นี้ดู ติชมได้เต็มที่เลยนะครับ ผมยังประสบการณ์น้อย ยังต้องเรียนรู้อะไรอีกมากเลย
และอยากรบกวนถามผู้รู้หน่อยครับ ว่ามีสำนักพิมพ์ใด ที่พิมพ์นิยายรักที่ใช้ตัวละครชายเป็นตัวดำเนินเรื่องบ้าง
ขอคำแนะนำด้วยนะครับ
==============================
คำโปรย
1 ชายหนุ่ม... 1 เด็กหนุ่ม... และ 1 หญิงสาว กาลเวลาที่ผันผ่าน ได้สร้างความรักและความผูกพันประทับลงในหัวใจของคนทั้งสาม
หากแต่ใครจะรู้ล่ะ ว่าความรักอันแสนบริสุทธิ์ที่ทั้งสามต่างมีให้กัน... จะนำพาให้พวกเขาต้องพบกับจุดจบเช่นนั้น...
==============================
[ บทนำ ]
สัมผัสอบอุ่นและอ่อนนุ่มในอ้อมแขนของผม มันคืออะไรกันนะ?
ตอนนี้ เปลือกตาของผมหนักอึ้งเกินจะฝืนเปิดไหว เฮ่อ… สมควรอยู่หรอกนะ ก็เมื่อคืนเล่นซัดเหล้าเข้าไปซะขนาดนั้น แถมรูมเมทของผมก็ดันปิดไฟ เปิดเพลงแดนซ์กันกระจายอีก เลยโดนเพื่อนร่วมหอพักเคาะประตูด่าเข้าให้เลย ผมก็นึกว่าพวกนั้นคงรู้สึกสำนึกแล้วปิดเพลงยุบวงเหล้าเข้านอนกันสักที แต่ที่ไหนได้ดันไปชวนคนด่าเข้ามาร่วมวงด้วยซะอย่างนั้น
ไอ้สนุกก็สนุกอยู่หรอก แต่แลกกับการต้องมาทนปวดหัวหนึบแบบนี้ ไม่เอาด้วยแล้ว… แถมตอนนี้ยังรู้สึกอยากจะคายของเก่าออกมารอมร่อ
แม้เปลือกตาของผมจะไม่ได้เลื่อนเปิดขึ้น แต่ก็รับรู้ได้ถึงการเดินทางมาเยือนโลกของดวงอาทิตย์ แต่จะเป็นดวงอาทิตย์ยามรุ่งอรุณ ยามเที่ยง หรือยามเย็นกันแน่นั้น ผมเองก็ไม่อาจรู้ได้
เอาน่า ไม่เป็นไร วันนี้วันเสาร์ไม่มีเรียนสักหน่อย นานๆ ทีนอนกินบ้านกินเมืองกับเขาบ้าง คงไม่เสียหายอะไรหรอกน่า… ผมนึกแก้ตัวให้ตัวเอง ก่อนจะหวนกลับมาที่คำถามเดิม…
แล้วตกลงว่าไอ้สัมผัสอ่อนนุ่มในอ้อมแขนของผมมันคืออะไร?
ผมคิดอย่างฉงน พลางเลื่อนฝ่ามือลูบไล้สิ่งแปลกปลอมที่อยู่ในอ้อมแขนไปมาทั้งๆ ที่ยังหลับตาอยู่ มันเป็นความรู้สึกที่ผมไม่เคยได้สัมผัสมาก่อนเลย มันอ่อนนุ่มและให้ความรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
แล้วมันคืออะไรล่ะ?
หมอนข้างเหรอ? ไม่น่าใช่หรอกเพราะหมอนข้างของผมแข็งโป๊กจนสามารถใช้เป็นอาวุธฆาตกรรมสุนัขได้เลย แต่จะว่าไป ผมทิ้งลงกล่องบริจาคเด็กภาคเหนือไปแล้วนี่หว่า
หรือว่า จะเป็นตุ๊กตายัดนุ่นตัวโตๆ แต่นี่มันหอพักนักศึกษาชายนะ จะไปมีของพรรค์นั้นได้ยังไงเล่า ยิ่งคิดถึงไอ้รูมเมทร่วมห้องทั้งสามคนของผมแล้ว… ความน่าจะเป็นยิ่งมีค่าติดลบทันที เพราะพวกมันออกจะแมนกันซะขนาดนั้น
หรือว่า… จะเป็นตุ๊กตายางนะ?
ก็ไม่น่าใช่อีกนั่นแหละ เพราะผมไม่ได้เป็นพวกหมกมุ่นแบบนั้น ส่วนไอ้บ้าสามคนนั่นก็ไม่มีปัญญาสอยมาเล่นแน่ๆ ผมกล้าฟันธงเชียวล่ะ
แล้วตกลงว่าผมกำลังกอดอะไรอยู่กันแน่!?
หือ? อะไรนะ ให้ผมลืมตาซะทีเหรอ?
เออ นั่นสินะ ผมก็นอนเดาอยู่ได้ตั้งนาน บ้าจริง ก็อ้าว… ผมกำลังมึนหัวอยู่นี่หว่า สติสัมปชัญญะจะไปสู้คุณผู้อ่านได้อย่างไรกัน ถ้าอย่างนั้น เรามาลุ้นพร้อมกันเลยดีกว่า ว่าอะไรกันแน่ที่อยู่ในอ้อมกอดของผม?
สาม… สอง… หนึ่ง… เอ้า!
เปลือกตาที่ปิดสนิทมาช้านานค่อยๆ เลื่อนเปิดขึ้นอย่างช้าๆ เพื่อปรับความเคยชินกับแสงอาทิตย์ที่สาดส่องเข้ามาตรงใบหน้าผมพอดี… เป๊ะ!
ผมนึกขอบคุณสวรรค์ที่จัดวิตามินดี มาให้ผมถึงเตียงนอนทุกๆ เช้าแบบนี้ ก่อนจะเลื่อนสายตามองสิ่งที่อยู่ในอ้อมกอดอย่างใจเย็น
ใบหน้าขาวเนียนอมชมพู เรือนผมสั้นสีน้ำตาลอ่อนต้องแสงแดดเป็นประกายระยับ เปลือกตาบางปิดสนิทเห็นแต่เพียงขนตาเป็นแพสวย ริมฝีปากสีแดงระเรื่อเผยอเล็กน้อย
ร่างเปลือยเปล่าท่อนบนของเขา… กำลังแนบชิด… กับร่างเปลือยเปล่าท่อนบนของผม
ผมกลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่ พยายามมองภาพตรงหน้าอย่างใจเย็น ภาวนายุบหนอ พองหนอในใจ
ท่าทางผมกำลังฝันอยู่สินะ… ชัวร์ป้าบสิ! ผมต้องกำลังฝันอยู่แน่ๆ ไอ้ร่างเปลือยเปล่าที่ผมกอดอยู่นี่มันใครกันเล่า?
ผมปิดเปลือกตาลง… แล้วเลื่อนเปิดขึ้นอีกครั้ง นั่น… ยังอยู่อีก… แถมยังขยับตัวเข้ามาใกล้แล้วหายใจรดหน้าผมด้วย
ผมปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง… คราวนี้ผมสวดมนต์ในใจด้วยนะเออ… หลายบทเลยทีเดียว
เอาล่ะ เลื่อนเปิดขึ้นอีกครั้ง!!
เฮ้ย! ยังอยู่ แถมยังกระชับกอดผมแน่นขึ้นอีกต่างหาก
ไอ้หมอนี่เป็นใคร!?
ผมคิดอย่างกระวนกระวายใจ เหงื่อเริ่มทะลักออกมาจนชุ่มร่าง หัวสมองพยายามรวบรวมสติสตังที่เริ่มแตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ แล้วนึกย้อนไปว่า…
เมื่อคืนนี้ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
แก้ไขเมื่อ 06 ม.ค. 55 13:43:20
จากคุณ |
:
Ezkun
|
เขียนเมื่อ |
:
4 ม.ค. 55 20:51:44
|
|
|
|