Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เสียงกระซิบจากเกลี่ยวคลื่น ติดต่อทีมงาน

=================

เสียงกระซิบจากเกลียวคลื่น

GTW
=================


“ได้ยินไหม......”

เสียงของเธอแทรกมากับเสียงคลื่น บรรจบซบแนบหาดทรายขาว เส้นผมละเอียดละเมียดพลิ้วไหวระเรื่อเกลี่ยแผ่วกลางสายลมทะเล ใบหน้าขาวสวยและรอยยิ้ม..ขณะเอียงหูอิงแอบแนบผืนทราย

“ได้ยินอะไร”

ผมถามโดยที่ไม่ต้องการคำตอบอย่างจริงจัง เพราะสายตาจับจ้องอยู่บนแก้มใสและผิวขาวสวย...จนแทบอดใจจะยื่นมือไปสัมผัสจับต้อง แต่ต้องอดใจไว้

กลัวเธอจะหายไป

ใช่แล้ว....สายลมและเกลียวคลื่นล้วนเคลื่อนไหวไปตามกระแสธรรมชาติ สรรพสิ่งเคลื่อนไหวแปรเปลี่ยนตามคลื่นน้ำและแรงลม เกลียวคลื่นถาโถมกลบลมรอยเท้าบนผืนทรายซึ่งผมประทับร่องรอยยาวเหยียด หากพอเกลียวคลื่นพัดมาก็พัดพาร่องรอยหายไป แต่ร่องรอยในใจไม่มีวันลาลับดับหายไปกับสายลมและเกลียวคลื่น แรงลมและเกลียวคลื่นเพียงสามารถกลบลบรอยเท้าบนผืนทราย แต่ไม่สามารถลบรอยรักในหัวใจ

“เสียงหัวใจ”

เธอตอบสั้นๆ ก่อนลุกขึ้นยืน ผมไม่อยากอธิบายหรอกครับว่ามันยิ่งกว่าภาพในฝัน ถ้าคุณจะรักใครสักคน คนๆนั้นจะมีความหมายกับคุณเสมอไม่ว่าหลับหรือตื่น อยู่ใกล้หรืออยู่ไกลแต่ไหน....ก็ตาม

มองไปชายฝั่ง เห็นอาคารสามชั้นหลายหลัง ดวงอาทิตย์กลมโตดวงใหญ่เหมือนลูกไฟยักษ์สีแดงบนฟากฟ้ากำลังจะแตะขอบฟ้า

ผมมีโอกาสพบเธอเพียงปีละครั้ง

ใช่......ผมหมายความว่าอย่างนี้จริงๆ แต่ใครจะเชื่อบ้างว่าเรื่องราวแบบนี้จะมีจริง....เธอยังรอคอยผมอยู่เสมอ..เวลาเดิม หาดทรายเดิม ในเวลาโพล้เพล้และแสงแดดอาบหมู่เมฆ เงาชองผู้คนเคลื่อนไหวสับสนปนหาดทราย ในความเคลื่อนไหวเหล่านั้นเหมือนมีสายใยพิเศษซึ่งมองไม่เห็นสอดสร้อยถักร้อยประสานกันอย่างลึกซึ้ง เป็นส่วนผสมของรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ หรือแม้แต่ความชั่วร้ายแอบแฝง

“ถึงเวลาแล้วล่ะ”

เธอหันมาบอกพร้อมรอยยิ้ม ดวงตาเป็นประกาย ลุกขึ้นอวดสัดส่วนสวยกลางสายลมและแสงแดดยามสนทยา


แล้วเริ่มเดินลงทะเลไป



ผมไม่ได้ห้ามเธอ..อาจเป็นเพราะว่าผมชินชาแล้ว

ชินกับการมองดูเธอเดินลงทะเล..เป็นเช่นนี้ทุกปี....อย่างน้อยก็ห้าปีมาแล้ว เราพบกันช่วงสั้นๆ แต่มีความหมาย..หมายถึงว่าการที่เราจะคุ้นเคยหรือผูกพันกับใครสักคน บางครั้งไม่ต้องรอเวลาให้เป็นไปตามขั้นตอนหรืออะไรทั้งนั้น

เส้นผมของเธอสยายพลิ้วไหวท่ามกลางคลื่นลมยามเย็น แสงสว่างยังพอมีให้ผมเห็นเธอลับหายไปกับทะเล ในใจรู้สึกเย็นยะเยือกอย่างประหลาด  

หัวใจของผมจมลงไปด้วย..เธอมาเพียงเดินลงทะเลไปเท่านั้น ยังพรากหัวใจของผมลงทะเลไปด้วย ทุกๆปี....เพียงหัวใจคนเรามันพิสดาร ต่อให้ถูกพรากกระทำย่ำยีพียงใดก็ตาม ยังมีวันพลิกฟื้นตื่นขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่า ....ซ้ำแล้วซ้ำเล่า....เจ็บครั้งแล้วครั้งเล่า..แต่ก็ทานทนครั้งแล้วครั้งเล่าเช่นกัน

คลื่นซัดรอยเท้าของเธอหายไปจนหมดสิ้น แต่ร่องรอยในหัวใจยังคงอยู่
ที่จริงผมควรจะเขียนจดหมายบอกเล่าหรือสารภาพความจริงให้ชาวโลกรู้ แต่มาคิดดูอีกที ไม่ดีกว่า....เรื่องราวบางอย่างควรจบลงในตัวของมันเอง ไม่ต้องให้คนอื่นยุ่งยากมากความ

ผมเริ่มเดินลงทะเล ใช่แล้ว ผมจะไปหาเธอ


ไม่ต้องรอให้เธอเดินขึ้นมาจากทะเล มานอนกับผม เหมือนทุกปีที่ผ่านมา ไม่ต้องพยายามตอบคำถามว่าทำไมรุ่งเช้าที่นอนของผมถึงเต็มไปด้วยเม็ดทราย....ทั้งที่ก่อนนอนอาบน้ำสระผมล้างตัวเรียบร้อยแล้ว

สัมผัส ซึมซับ รับรู้ความเย็นยะเยือกของสายน้ำ ท่ามกลางปีกม่านแห่งรัตติกาลคลี่ลงมาปกคลุม ความเยือกเย็น หรือความอ้างว้างกลับกลายเป็นเพื่อนปลอบประโลมใจและกาย อ้อมแขนของเธอเหมือนกำลังกอดรัดอยู่และลมหายใจอบอุ่น

หากเป็นลมหายใจแห่งความตาย

++++++


“ผมไม่แนะนำให้พวกคุณลงทะเลตอนเย็น”

“ทำไมครับ”

“มันอันตราย”

นั่นเป็นคำตอบที่ไม่ชัดเจนนัก แล้วพนักงานต้อนรับของโรงแรมริมทะเลก็ไม่อธิบายอะไรเพิ่มเติมแถมยังเดินหนีไปทำหน้าที่อื่นๆ

ชายหนุ่มส่ายหัวอย่างไม่เข้าใจ พลางมองไปยังชายหาด

รู้สึกเหมือนมีใครสักคนกำลังรอคอยอยู่ในหาดทราย ในสายน้ำ ในสายธารแห่งกาลเวลา





******

THE END

บางฉาก ดัดแปลงมาจากประสบการณ์จริงของผู้เขียน

จากคุณ : GTW
เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 21:28:14




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com