สาธุค่ะ หลวงพ่อ
สิ้นเสียงอนุโมทนา สตรีวัยย่างหกสิบที่นั่งก้มกราบพระอยู่ก็เงยหน้าขึ้นมองพระภิกษุที่มารับบาตร สีหน้าของเธออิ่มเอิบทุกครั้งที่ได้มีโอกาสตักบาตรหน้าบ้านตามอุปนิสัยใจบุญสุนทาน เพราะรู้ว่าบุญทำให้ใจดำรงสุขเสมอ
มาค่ะคุณใหญ่ เดี๋ยวป้าช่วยถือให้นะคะ หญิงมากวัยกว่าซึ่งเป็นคนใช้เก่าแก่ของคุณวริญญา หรือที่ใครๆมักเรียกว่าคุณใหญ่ กุลีกุจอดึงเอาขันเงินใส่ข้าวสวยจากมือเจ้านายที่ตอนนี้เหลือก้นหม้อมาถือไว้ให้
เดี๋ยวเอาไปเลี้ยงปลาหลังบ้านนะป้าแก้ว เออนี่ ป้าแก้วจ๊ะ ตาตั้มตื่นหรือยัง เห็นเปรยๆตั้งแต่เมื่อคืนว่าจะออกไปแต่เช้า ท่าดีทีเหลวอีกละมั้ง จะทำได้หรือเปล่า เห็นทีไร ไม่เก้าโมงก็เกือบสิบโมง ฉันละไม่เข้าใจจริงๆ เข้าเรียนก็แทบไม่ทันเพื่อน แต่ดันทำเกรดแต่ละเทอมออกมาได้ดี เห็นทีต้องไปพบอาจารย์เสียแล้วสิ เผื่อพวกเขาเกรงใจฉัน พากันช่วยแจกเกรดตาตั้ม คุณวริญญาบ่นนิสัยของลูกชายคนเดียวให้คนใช้ฟังยาวเหยียด แหม คุณใหญ่ขา คุณตั้มหัวดีออกค่ะ คุณพ่อเป็นนักธุรกิจที่เก่ง ทำอะไรก็รุ่ง คุณตั้มคงได้รับเชื้อทางพ่อมาเยอะกว่าทาง
เมื่อรู้สึกตัวว่าพูดมากไปแล้ว แถมสายตาของเจ้านายก็เริ่มจ้องเขม็ง ป้าแก้วจึงรีบหุบปากทันที เสียงแตรรถดังลั่นเข้ามาแทรกได้จังหวะ ป้าแกขี้ตกใจเผลออุทานออกมา
ว้าย! ตาเถรลงหม้อ
ตาเถรเขามีที่ทางของเขาอยู่ คงไม่อยากลงหม้อหรอกป้าแก้ว กระจกรถสปอร์ตสีแดงเลื่อนลงมาพร้อมใบหน้าเข้มคมคายยิ้มกริ่ม และโบกมือทักทายผู้ใหญ่ทั้งสอง
ออกไปเรียนแต่เช้าเลยหรือตาตั้ม
ครับแม่ วันนี้มีสอบตอนเช้า คงต้องรีบไปเตรียมตัวก่อน ผมไปก่อนนะครับ
ขับรถระวังนะตาตั้ม คุณวริญญาเตือนลูกชายด้วยความเป็นห่วง ไม่รู้ว่าลูกจะฟังหรือไม่ เพราะกระจกรถถูกปิดลงก่อน เธอส่ายหน้าเล็กน้อย แต่ไหนแต่ไรมาลูกชายก็ไม่เคยจะหยุดรอฟังเธอพูดจนจบประโยคสักครั้ง เวลานี้ยังเช้าอยู่มาก ผู้คนส่วนใหญ่ยังไม่ออกจากบ้านกัน ถนนในซอยลึกแห่งนี้ยังโล่งอยู่ รถจึงเคลื่อนตัวได้ดีกว่าช่วงอื่น นี่ถ้าไม่ออกมาเช้าๆ สงสัยต้องมานั่งทนติดไอ้พวกคนในชุมชมแน่ ไม่รู้ว่าแม่จะให้พวกนี้มาเช่าอยู่ทำไม เงินก็ได้น้อย เอาที่ไปทำศูนย์การค้ายังดีเสียกว่า
ภานุบ่นอย่างหัวเสีย มองสองข้างทางที่เป็นห้องแถวไม้กระดานเรียงชิดติดกันตั้งแต่ท้ายซอยซึ่งเป็นบ้านหลังใหญ่ของเขาเองจนมาถึงต้นซอย ขณะขับรถผ่าน ผู้คนเริ่มออกมาบ้างแล้ว แต่ก็มีอีกหลายหลังยังปิดประตูบ้านอยู่ ภานุมองเวลาจากนาฬิกาข้อมือ เขาต้องไปรับลูกเกด แฟนสาวที่หอพักของเธอ ทำเวลาหน่อย เดี๋ยวลูกเกดโกรธอีก เพิ่งคบกันไม่นาน ขอแอ้มก่อนเถอะ แล้วจะไปไหนก็ไป ภานุคิดไปตามประสานิสัยผู้ชาย มองผู้หญิงเป็นแค่ความสุขทางกายที่หาได้ง่าย เบื่อก็ทิ้งไปได้ง่ายดายเช่นกัน จะเอาอะไรกับลูกคนมีเงินอย่างเขา ในเมื่อมีผู้หญิงตั้งมากมายผ่านเข้ามาในชีวิตให้ได้เลือกเฟ้นจนพอใจ ฉะนั้นเมื่อใดที่รู้สึกว่ามีของที่ดีกว่า การจะทิ้งขว้างพวกเธอเหล่านั้นไปสักคนก็เป็นเรื่องธรรมดา
ภานุ หรือตั้ม ลูกชายคนเดียวของคุณวริญญากับพรวัฒน์ อังคกุล เจ้าของบ้านหลังใหญ่ท้ายซอยผู้มีฐานะมั่งคั่ง แถมยังเป็นเจ้าของกิจการอาหารแช่แข็งส่งออกอันดับต้นๆของเมืองไทยอีกต่างหาก เขาจึงเป็นชายหนุ่มที่ครบสูตรทายาทเศรษฐีที่ผู้หญิงส่วนใหญ่อยากจะเข้ามาใกล้ชิดและหาทางให้ได้เป็นตัวจริงเพื่อเลื่อนฐานะขึ้นเป็นสะใภ้อังคกุล ด้วยใบหน้าคมเข้มราวกับนายแบบเมืองนอก ถ้าจะอยู่เฉยๆไม่ต้องทำงานอะไรก็ไม่มีวันอด เพราะมรดกพ่อแม่มีให้เหลือเฟือ แถมยังเรียนเก่งเข้าขั้นที่อีกไม่กี่คะแนนก็ได้เกียรตินิยม นั่นยังไม่เท่ากับการใช้ชีวิตโก้หรู ติดนิสัยใจป้ำเอาใจสาวๆด้วยเงินทองที่ประเคนให้พวกหล่อนไม่ขาด เพื่อให้บรรดาหญิงสาวเหล่านั้นยอมทอดกายให้ได้เชยชม โอ๊ย เกะกะจริง หลีกไปได้ไหม ภานุบีบแตรไล่รถจักรยานพ่วงข้างที่ขวางหน้า ชายหนุ่มหักพวงมาลัยหลบหลีกออกไป แล้วเหยียบคันเร่งเสียครึ่งเพื่อให้รถพุ่งไปข้างหน้า และก็ต้องตกใจเมื่อเห็นคนกำลังเดินอยู่ แม้จะอยู่ริมถนนก็จริง แต่ดันอยู่ในระยะที่ไม่พ้นด้านข้างของรถจะหักหลบทัน
เฮ้ย!
ว้าย!
ร่างบอบบางในชุดนักศึกษาล้มลงกับพื้นถนนคอนกรีตเมื่อถูกรถเฉี่ยว หนังสือที่ถือติดมือหล่นกระจายเกลื่อนถนน คนขับรถใจเสียเหมือนกันที่เฉี่ยวชนคนแบบนี้ ไม่ใช่อะไรหรอก เขาอยากรีบๆไปให้พ้นต่างหาก ไม่ได้สนใจนักว่าใครจะเป็นอะไร
เป็นอะไรหรือเปล่า รู้ว่าซอยมันแคบก็เดินหลบข้างๆทางหน่อยสิ ภานุออกจากรถไปยืนมองเธอ ปากก็ว่าไปด้วย ไม่คิดจะขอโทษหรือแม้แต่ช่วยพยุง หญิงสาวในชุดนักศึกษาเกล้าผมเรียบร้อยหันหน้ากลับมาจ้องเขม็ง ดวงตาดำรีค้อนขวับ ริมฝีปากบางได้รูปเม้มสนิท
อ้อ นึกว่าใคร รินเองหรือ ขอโทษที ไม่ได้ตั้งใจ เมื่อเห็นว่าเป็นคนที่เขารู้จักเป็นอย่างดี ท่าทีก็เปลี่ยนไป ภานุยื่นมือจะให้เธอจับ แต่เจ้าหล่อนเมินมือของเขาเสีย พยายามลุกขึ้นยืนทั้งที่ยังเจ็บอยู่ สำรวจตัวเองว่าตรงไหนเปื้อนเปรอะฝุ่นก็ใช้มือปัด
รินต้องถามคุณตั้มมากกว่า เขตชุมชนทำไมต้องขับรถเร็วขนาดนี้คะ หลังจากได้สติแล้วก็หันหลับไปต่อว่าคู่กรณี
อ้าว ก็นี่มันถนน มีให้รถวิ่ง ฉันจะขับยังไงก็เรื่องของฉัน
นี่คุณตั้ม แล้วถ้าเกิดชนใครตายจะว่ายังไง หญิงสาวเริ่มขึ้นเสียง ก็ในเมื่อพูดจาดีด้วยกลับตอบกวนมา
ก็ชดใช้ให้ จ่ายเงินไปเท่านั้นเอง ระรินตาชักโมโห คนอะไรใจดำเป็นที่สุด ไม่เคยเห็นคุณค่าของชีวิตคนนอกจากตัวเองบ้างหรือไง เมื่อเห็นแววตาขึ้งโกรธแสดงออกมาอย่างโจ่งแจ้งแบบนั้น ภานุเองก็ไม่ค่อยชอบใจเหมือนกัน
มองหน้าหาเรื่องฉันหรือไงริน ว่าไง เจ็บแค่นี้จะให้ช่วยออกค่ารักษาพยาบาลไหมเล่า หรือให้พาไปส่งโรงพยาบาล
ไม่ต้อง เก็บเงินของคุณตั้มไว้เถอะ รินมันคนจน ดวงแข็งอยู่แล้ว ไม่ตายง่ายๆหรอก
งั้นหรือ ภานุยักคิ้วกวนๆส่งไปอย่างไม่สำนึก พลางใช้สายตาโลมเลียมระรินตาตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า กระโปรงที่เธอใส่มามีรอยขาดเป็นทางยาวเห็นขาขาวเนียน แถมเสื้อก็ยังหลุดลุ่ยออกมาข้างนอกอีก ให้ตายเถอะ เห็นหน้าเชยๆแบบนี้ เนื้อในจะน่าจับต้องไหมนะ เขาคิดทะลึ่งในใจ
ระรินตาหยิบหนังสือมาปิดตรงส่วนที่โป๊ที่สุดเมื่อรู้สึกว่ากำลังถูกมองด้วยสายตาที่คิดไม่ดีกับเธอ ชายหนุ่มจึงยิ้มเก้อๆ ตกลงจะให้ไปส่งไหม
ไม่ต้อง รินไปเองได้ เธอปฏิเสธทันควัน
ดื้อจริงนะ มาเถอะ ยังไงฉันกับเธอก็เรียนที่เดียวกัน อาศัยกันไปได้น่า
ไม่ค่ะ ขอบคุณ ระรินตาตอบอย่างเสียไมได้ หันหลังจะเดินหนี แต่ภานุรู้สึกเสียหน้า อุตส่าห์แสดงน้ำใจรับผิดชอบ แต่กลับถูกปฏิเสธ มือหยาบหนาของเขาจะยื่นไปคว้าข้อมือเธอ แต่ก็มีเสียงหวานแหลมแทรกขึ้นมาก่อน
พีรินเป็นอะไรหรือเปล่า
เด็กสาววัยรุ่นวิ่งหน้าตาตื่นมาทางพวกเขาทั้งสองพร้อมเพื่อนชายวัยเดียวกัน พอมาถึงตัวระรินตา เธอก็เอาแต่ถามโดยไม่ทันสังเกตว่ามีอีกคนยืนอยู่ พี่ริน เมื่อกี้ณัฐเห็นแต่ไกลว่าพี่ถูกรถเฉี่ยว ณัฐตะโกนไปบอกรุ้ง เนี่ยตกใจแทบแย่ พี่รินไม่เป็นอะไรนะ
ไม่เป็นไรหรอกรุ้ง ถลอกนิดหน่อยเอง แค่เฉี่ยว ไม่ได้ชนจังๆหรอกจ้ะ
จริงนะ ค่อยยังชั่วหน่อย แล้วคนชนพี่... รุ้งลดาหันขวับไปทางเจ้าของรถ พอเห็นว่าเป็นใครก็ทำสีหน้าตกใจพี่ตั้ม!
พี่เองรุ้ง ขอโทษนะ ใจร้อนไปหน่อย เลยทำให้พี่สาวเธอเจ็บ แล้วนี่จะพาไปส่งโรงพยาบาลก็ไม่ไป
อ้าว ทำไมล่ะพี่ริน ให้คนชนพาไปโรงพยาบาลดีกว่า จะได้เอกซเรย์ว่าตรงไหนมันแตกมันหักแล้วรักษา ปล่อยไว้แบบนี้ เป็นอะไรไปจะหาใครมารับผิดชอบ เพื่อนชายของรุ้งลดาว่าได้ฟังเด็กหนุ่มที่ชื่อณัฐพูดจาเหน็บแนมเขาแบบนี้ ภานุก็ชักฉุน ไม่ยอมให้เด็กเมื่อวานซืนมาดูหมิ่นง่ายๆ ฉันทำอะไรก็รับผิดชอบเสมอ ว่าไงริน จะขึ้นรถได้หรือยัง รอนานแล้วนะ ฉันก็มีธุระของฉันเหมือน
ไม่เป็นไรค่ะคุณตั้ม คุณไปทำธุระของคุณเถอะ ฉันไม่ได้เจ็บอะไรมากหรอก ว่าแล้วหญิงสาวก็ก้มหน้าก้มตาเดินแทรกกลางระหว่างณัฐกับน้องสาวย้อนกลับไปบ้านเพื่อเปลี่ยนชุดใหม่ ภานุมองตามเจ้าของร่างบาง ยักไหล่ทีหนึ่ง ก่อนหันมาทางเด็กหนุ่มสาว
เอางี้ ภานุหยิบกระเป๋าเงินออกมา คว้าธนบัตรใบละพันมาสามใบยัดใส่มือรุ้งลดา รุ้งช่วยพาพี่รินไปหาหมอเองละกัน เอ้า นี่ค่ารักษาพยาบาล ไม่รู้พอไหม ถ้าไม่พอก็ไปหาพี่ที่บ้านได้นะ
พี่ตั้ม คือ
รุ้งว่ามัน รุ้งลดาอยากปฏิเสธ เงินที่เขาให้มามันมากเกินไปด้วยซ้ำ แต่ไม่ทันแล้ว เพราะภานุรีบเดินกลับขึ้นรถขับออกไปทันที
โธ่เอ๊ย ไอ้พวกคนรวย ไม่เคยจะรับผิดชอบสิ่งที่ตัวเองทำ ดีแต่ใช้เงินฟาดหัวคนอื่น รณัฐว่ากระทบตามหลัง รู้สึกหมั่นไส้ท่าทางเย่อหยิ่งแบบนี้มาตั้งแต่เห็นครั้งแรก
ณัฐ วันหลังอย่าไปว่าพี่ตั้มแบบนั้นนะ ดูสิ เขาก็ให้เงินมาเป็นค่าหมอแล้วไง
เฮอะ ก็ทำแค่นั้นแหละ ทำไปเพราะจำยอม กลัวเราจะไปแจ้งความให้เสียชื่อเสียงมากกว่า จะห่วงอะไรกับชีวิตคนจนๆอย่างเรา
ณัฐ รุ้งลดาทำเสียงเข้มใส่ ปรามไม่ให้เพื่อนชายของเธอพูดถึงภานุในแง่ไม่ดีอีก
เออๆ ไม่ว่าก็ไม่ว่า เข้าใจว่าเป็นลูกเจ้านายเก่าแม่ของรุ้ง ว่าแต่รีบไปดูพี่รินดีกว่า ไม่รู้เป็นยังไงบ้าง
โต๊ะหินที่ตั้งบนทางเดินริมสนามหน้าอาคารสูงสี่ชั้น กลายเป็นสถานที่นัดพบของบรรดานักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งเป็นประจำแทบทั้งวัน บ้างก็มานั่งอ่านหนังสือ ไม่ก็จับกลุ่มพูดคุยเฮฮาตามประสาคนวัยเรียนที่ยังไม่มีเรื่องทุกข์ร้อนอะไรมาก เช่นเดียวกับกลุ่มนักศึกษาสาวคณะวิทยาศาสตร์ชั้นปีสามทั้งสี่คน จ๋า แก้ว และบัว เพื่อนสาวคนสนิทของระรินตาก็กำลังนั่งคุยสัพเพเหระกันอย่างสนุกปาก ส่วนมากก็มีแต่เรื่องนินทาคน เพราะพวกเธอคือผู้หญิง และก็เป็นนิสัยโดยปกติ ส่วนระรินตาถึงมีบ้างบางเวลาที่อยากจะร่วมแจมด้วย แต่ตอนนี้กลับสนใจอยู่กับการสอบในวันพรุ่งนี้มากกว่า
นี่ยายริน แกจะเอาเกียรตินิยมหรือไง โอ๊ย ไม่ต้องขยันหรอก ยังไงก็ได้อยู่แล้วนี่ สอบครั้งที่แล้วเล่นฉุดมีนเขากระจุย
อ้าว ไม่ได้สิจ๊ะ เดี๋ยวโดนแซง ระรินตาพูดประชดไปตามเพื่อน ก้มหน้าก้มตากับการจดบันทึกความจำอยู่
หมั่นไส้จริงๆนะพวกเด็กเรียนนี่ จ๋าอดเหน็บเพื่อนเข้าให้ไม่ได้เหมือนกัน ระรินตาไม่ได้พูดต่อความอะไร เอาแต่ก้มหน้าอมยิ้ม เธอกับเพื่อนรักทั้งสามชอบต่อปากต่อคำแบบนี้มาตั้งแต่คบกันวันแรก
ยิ้มเข้าไป จะไปประกวดนางงามหรือไง หรือว่าไว้โปรยเสน่ห์หนุ่มหล่อ แต่ว่าเอ๊ะ ใครหนอหล่อและดีพอสำหรับยายริน หรือว่าเขาคนนั้น
สายตาของแก้วเลยผ่านไปยังถนน ระรินตาและเพื่อนสาวอีกสองคนจึงพากันหันไปมองตามรถสปอร์ตสีสดคันที่เฉี่ยวเธอเมื่อเช้าขับผ่านหน้าพอดี คนขับเป็นใครไม่ต้องบอกก็รู้ แต่สาวอีกคนที่นั่งมาด้วยกันได้กลายเป็นหัวข้อใหม่สำหรับเพื่อนทั้งสามของระรินตาทันที
คนที่เท่าไหร่แล้วนะแฟนของนายภานุ คนดังนี่เปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่น บัวเริ่มบทนินทาชายหนุ่มที่เพิ่งขับรถผ่านหน้าไปด้วยคำถามที่ไม่คิดอยากได้คำตอบจริงจังนัก แต่ก็มีคนหาคำตอบมาให้จนได้
เดี๋ยวนะ ขอฉันเปิดโพยก่อน เมื่อสิงหาที่ผ่านมา วันที่สิบเจ็ดควงสาวคณะนิติฯ ชื่อวรรณษา ไปเปิดตัวกลางงานรับน้อง ก่อนหน้านั้นสามเดือนราวๆวันที่ยี่สิบ มีคนเห็นควงน้องปีหนึ่งคณะเดียวกัน และอีกไม่กี่วันก็พาผู้หญิงที่ไหนไม่รู้ ตามข่าวไม่ได้บอกว่าเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเรา หรือไม่ก็เจอแถวผับกลางสุขุมวิทเมื่อต้นปี ว้าย นี่ยายบัว จะเอาสมุดฉันไปทำไม ยังไม่ทันที่จ๋าจะอ่านจบ บัวก็คว้าสมุดของเธอมาเปิดอ่านเสียเอง โห นี่ยายจ๋า เธอไปเก็บรายละเอียดมาซะยิบเชียว
เอ๊า แน่นอนสิ ไม่งั้นเสียชื่อเจ้ากรมข่าวประจำคณะหมด
แบบนี้ไม่ใช่เจ้ากรมข่าวละมั้ง น่าจะเป็นยายเมาท์ตลาดแตกมากกว่า
ว่าแต่เขา ตัวเองก็เหมือนกันละบัว เรื่องแบบนี้ก็ชอบที่จะบอกต่อเหมือนกันใช่ม้า นี่ยาย...
โอ๊ย! พอได้แล้ว รำคาญจริงสองคนนี่ แก้วรีบปรามเพื่อนเมื่อเห็นว่าเถียงกันต่อก็คงไม่จบ พวกเธอนะ ทีเรื่องพวกนี้รู้เยอะเชียว ทีเรื่องข้อสอบทำไมไม่เก่งแบบนี้บ้าง ทำคะแนนทีไร เกินมีนมาไม่กี่คะแนนทุกที นี่จะสอบแล้ว เอาหนังสือมาอ่านจะดีกว่าไหม
แหม จะให้เจ้ากรมข่าวล้วงไปถึงอาจารย์นี่ มันยากอยู่นะ แต่มีคนหนึ่งทำได้ สอบทีไรยังกับรู้ข้อสอบแน่ะ เธอว่าไหมแก้ว จ๋าชายตาไปทางระรินตาที่กำลังก้มหน้าก้มตาทำในสิ่งที่ตนเองทำอยู่ก่อนแล้ว ไม่ได้สนใจฟังเรื่องที่พวกเพื่อนของเธอนินทา
พวกเธอว่าชาตินี้ยายรินจะมีแฟนกับเขาไหมนะ บัวหัวเราะน้อยๆ แอบกระซิบกระซาบกับเพื่อนอีกสองคน ที่จริงใช่ว่าระรินตาจะไม่รู้ว่าพวกเพื่อนเธอพูดอะไรกัน เธอได้ยินทุกคำ แต่การอยู่เงียบๆไม่ออกความเห็นน่าจะเป็นการดีกว่า แฟนหรือคนรักงั้นหรือ พอได้เห็นพฤติกรรมเจ้าชู้ไม่เลือกหน้าของภานุแล้วก็รู้สึกสมเพช ทำไมเขาไม่คิดถึงจิตใจของผู้หญิงบ้างว่ามันจะเจ็บปวดแค่ไหน ผู้ชายแบบนี้เป็นตัวอันตรายที่สุด สำหรับระรินตา หากไม่เจอคนดีๆอย่างพ่อของเธอที่รักและซื่อสัตย์ต่อแม่เพียงคนเดียวมาตลอดชีวิต จะไม่ยอมมีคนรักเด็ดขาด ยิ่งยังเรียนอยู่แบบนี้ ฝันไปเถอะว่าจะยอมให้การมีแฟนมาทำให้การเรียนของตนต้องเสีย
การสนทนาแต่เรื่องของคนอื่นก็มีอันต้องจบลงในอีกชั่วโมงต่อมา เมื่อถึงเวลาที่ต่างคนต่างก็ต้องกลับบ้านของตนเอง ระรินตาเดินหอบหนังสือสะพายกระเป๋าประจำตัวของเธอออกนอกมหาวิทยาลัยไปยืนรอรถประจำทาง เพราะมัวแต่มองหารถที่ตนเองต้องใช้โดยสารกลับบ้าน จึงไม่ได้สังเกตว่ามีรถคันหนึ่งแล่นผ่านหน้าเธอไปอย่างรวดเร็ว สาดน้ำที่นองตรงพื้นถนนใส่หญิงสาวอย่างจัง
ว้าย! ระรินตากระโดดถอยหลังแทบไม่ทัน ช้าไปอีกนิดมีหวังกระโปรงนักศึกษาของเธอเปียกน้ำโคลนเลอะเทอะ
ขับรถประสาอะไรกันนะ หญิงสาวบ่นอย่างหัวเสีย หันไปมองรถเจ้าปัญหาไร้มารยาทคันนั้น เห็นเพียงท้ายรถกับทะเบียน ใบหน้าเธอก็งอหงิกกว่าเก่า
ไอ้คุณตั้ม ผู้ชายอะไรทำทุเรศที่สุด อย่าให้ถึงทีฉันบ้างแล้วกัน ระรินตาทำได้เพียงแต่เก็บความคับแค้นไว้ในใจรอวันเอาคืน ถึงเป็นลูกชายผู้มีพระคุณก็เถิด นิสัยเสียแบบนี้ เธอก็ไม่ไว้หน้าเหมือนกัน
กลับมาแล้วหรือริน
เสียงแผ้วเรียกลูกสาวดังมาจากในครัว ขณะที่ระรินตากำลังถอดรองเท้าเก็บเข้าที่ เธอยังไม่ขึ้นไปห้องนอนตนเองบนชั้นสอง แต่วางกระเป๋าตรงโต๊ะตัวยาวแล้วเข้าไปหาแม่ในครัว
วันนี้แม่ทำอะไรทานจ๊ะ ระรินตาชะโงกหน้ายื่นเข้ามา อาหารปรุงใหม่ร้อนๆในหม้อส่งกลิ่นหอม
แกงเลียงจ้ะริน เอ้า นี่ไม่ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าล่ะลูก จะได้ลงมาทานข้าว โทร.ตามรุ้งให้หน่อยนะ เห็นบอกไปเอาสมุดบ้านณัฐ ป่านนี้ยังไม่กลับเลย ไม่รู้แอบเถลไถลไปที่ไหนหรือเปล่า ไปแค่นี้นานเชียว
จ้ะแม่ ระรินตารับคำแม่ก่อนจะขึ้นไปจัดการกับตนเองให้เรียบร้อย บ้านณัฐอยู่อีกสองซอยถัดจากบ้านของเธอ ไม่ไกลกันนัก แม้ขึ้นชื่อว่าไปบ้านผู้ชาย แต่ที่นั่นก็มีผู้ใหญ่อยู่ด้วย ระรินตาไว้ใจเด็กหนุ่มคนนี้พอควร ครอบครัวของรณัฐกับเธอรู้จักกันเป็นอย่างดีเพราะพ่อของพวกเขาเป็นเพื่อนมาจากต่างจังหวัดด้วยกัน ไม่ใช่ญาติก็เหมือนญาติ
ริน คุณใหญ่โทร.มา ให้ลูกไปหาท่านหน่อย คุณคงมีอะไรจะเรียกใช้ละมัง แผ้วรีบบอกเรื่องสำคัญอีกเรื่องที่เพิ่งจะนึกได้ก่อนที่ระรินตาจะใส่รองเท้าออกจากบ้าน หญิงสาวหันขวับกลับมามองมารดาอยู่พักหนึ่ง ก่อนก้มหน้ารับคำ
ค่ะแม่
เป็นอะไรหรือเปล่าริน ทำหน้าเหมือนไม่อยากไปเลย
อยากไปสิแม่ รินทำหน้ายังไงหรือ แม่ถึงว่าเหมือนรินไม่เต็มใจไป
ให้แม่อธิบายอย่างไรดีล่ะลูก แม่เลี้ยงรินมา มองแค่นี้ทำไมแม่จะไม่รู้ว่ารินคิดอะไร ว่าไง มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่า
ไม่มีอะไรหรอกค่ะ รินไปก่อนนะ
เสียงเพลงที่ดังก้องในเวลาพลบค่ำมาจากเรือนหลังเล็กที่อยู่ถัดจากตึกใหญ่เพียงไม่กี่ร้อยเมตร แต่ก็อยู่ภายในอาณาบริเวณรั้วบ้านอังคกุล ตอนนี้เจ้าของห้องกำลังนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาจากห้องน้ำ มองร่างกำยำที่มีหยดน้ำพรมไปทั่วตัวผ่านกระจกเงาบานใหญ่ ปีนี้ภานุอายุย่างเข้ายี่สิบสอง อีกปีเดียวก็จะเรียนจบ แล้วเขาจะทำอย่างไรต่อดีหลังจากนั้น ถ้าเป็นคนอื่นก็คงพยายามจะหาคำตอบให้กับอนาคตตนเอง แต่สำหรับเขามีอนาคตตั้งแต่ถือกำเนิดมาในครอบครัวนักธุรกิจค้าอาหารแช่แข็งส่งนอก ผู้บริหารบริษัทในเครืออังคกุลคนต่อไปคงไม่พ้นภานุ อังคกุล
อ้าว ตาตั้ม จะไปไหนล่ะลูก คุณวริญญาถามเมื่อเห็นลูกชายแต่งตัวหล่อเดินผ่านหน้าบ้าน ขณะกำลังเดินเล่นออกกำลังกายกับคุณพรวัฒน์ผู้เป็นสามี
นัดเพื่อนไว้ครับว่าจะไปฉลองหลังสอบ
งั้นหรือลูก ขับรถดีๆนะ ถ้าเมาก็อย่าขับรถเด็ดขาด เกิดอะไรขึ้น มันไม่คุ้ม
จะไปห้ามทำไมคุณ มันไม่ห่วงตัวเองก็ช่างหัวมันสิ ชายสูงวัยพูดแทรกเข้ามา พรวัฒน์รู้สึกรำคาญที่ภรรยาของตนแสดงความเป็นห่วงลูกชายมากเกินไป
ไว้ใจได้ที่ไหนล่ะคุณพี่ กลางคืนอันตรายจะตายไป
เชอะ มันเที่ยวจนตัวมันจะน่ากลัวกับคนอื่นด้วยซ้ำไป วันๆเอาแต่ออกนอกบ้านไม่ทำอะไร ดีนะที่การเรียนไม่เสีย คุณน่ะตามใจมันจนเสียคน ผู้เป็นพ่อบ่นอุบ สีหน้าบ่งบอกว่าไม่ค่อยชอบใจนัก จากนั้นก็หันหลังเดินเข้าบ้านไปทันที ไม่สนใจต่อสายตาของภานุที่มองตามหลัง ชายหนุ่มหันไปทางแม่ใหญ่ ใบหน้าสลดลง
ไปเถอะลูก แล้วอย่ากลับดึกนะ คุณวริญญาลูบหลังลูกชายเบาๆ ทำเหมือนว่าไม่มีอะไร ก่อนจะเดินตามสามีเข้าไปในบ้านอีกคน ภานุเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ข่มตาหลับลง พยายามปัดเอาความน้อยใจที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ออกไป แม้มันจะไม่ถาวร แต่ก็ไม่อยากจะเก็บเอามาคิดไว้ในสมองตลอดเวลา ชายหนุ่มเดินไปที่โรงรถ เห็นระรินตากำลังเปิดประตูรั้วเข้ามาในบ้านพอดี ความคิดที่จะแกล้งหญิงสาวแวบเข้ามาในสมองโดยพลัน
ระรินตาเดินก้มหน้าก้มตาเร่งฝีเท้าเพื่อไปพบคุณวริญญาตามที่ท่านโทร.ไปบอกมารดา พอเห็นขาคนเข้ามาขวางก็เงยหน้าขึ้นมอง
คุณตั้ม หญิงสาวเรียกชื่อเขาเบาๆ รู้สึกตกใจเหมือนกัน ถึงแม้จะทำใจมาบ้างแล้วว่าอาจต้องเจอคนที่ไม่อยากเจอมากที่สุดในชีวิต
ว่าไงริน แม่ฉันเรียกให้มาหาหรือ
ภานุถามออกไปทั้งที่รู้คำตอบดี หากระรินตาจะเหยียบย่างเข้ามาในบ้านหลังนี้ ก็คงมีธุระกับแม่เขาเพียงคนเดียว ชายหนุ่มยืนกอดอกจ้องมองหญิงสาวไม่วางตา เธอเองก็รู้สึกประหม่า ไม่ใช่เพราะความอาย แต่ไม่ชอบวิธีการมองของเขา
ขอโทษค่ะคุณตั้ม รินรีบ หญิงสาวขอทาง แต่เมื่อเขาไม่ยอมหลีกให้ เธอจำต้องเดินเลี่ยงเอาเอง ดูเหมือนชายหนุ่มจงใจจะแกล้ง ไม่ว่าระรินตาขยับตัวไปทางไหน เขาก็ขยับตาม
คุณตั้ม รินขอร้อง คุณใหญ่รออยู่ ระรินตาพยายามจะพูดจาดีด้วย
อ๋อเหรอ โทษที ภานุยอมหลีกทางให้เธอไปก้าวหนึ่ง ระรินตาถอนใจโล่งอก คงต้องมีสักครั้งบ้างที่นายคนนี้จะยอมฟังคนอื่น หญิงสาวกำลังก้าวผ่านเลยไป คิดว่ารอดพ้นแล้ว แต่กลับถูกมือหนาของเขาคว้ามือไว้
คุณตั้ม ปล่อยรินนะ ระรินตาพยายามใช้มืออีกข้างแกะมือของชายหนุ่มที่จับเธอแน่นออก ปากก็สั่งไปด้วย
ฉันถามคำ หน้าฉันมันน่ารังเกียจมากหรือไง ถึงได้ไม่อยากจะเจอะเจอ
จะน่ารังเกียจกว่านี้แน่ ถ้าคุณตั้มไม่ปล่อยมือริน ปล่อยนะ ไม่งั้นรินร้องจริงๆด้วย
เหรอ อยากร้องเรียกความสนใจงั้นสิ ร้องเลย ฉันจะได้ให้ใครต่อใครมาเห็นฉากสนุกๆกัน
ภานุดึงตัวหญิงสาวเข้ามาใกล้ โน้มตัวเอียงใบหน้าทำท่าจะหอมแก้ม ระรินตาระวังตัวอยู่แล้วว่าอาจเจอไม้นี้เข้า ปฏิกิริยาเธอจึงว่องไวกว่า หญิงสาวใช้มือผลักตัวชายหนุ่มออกไปอย่างแรง พอหลุดมาได้แล้วก็ไม่รอช้า หมุนตัวกลับหลังวิ่งออกจากตรงนั้นทันที ภานุมองตามหลังระรินตาที่วิ่งหนีเขาไปพร้อมกับหัวเราะสะใจ
นึกว่าจะแน่สักแค่ไหน
แก้ไขเมื่อ 07 ม.ค. 55 11:18:55
จากคุณ |
:
myjay
|
เขียนเมื่อ |
:
7 ม.ค. 55 11:05:55
|
|
|
|