...
สามจุดนี่คงเป็นการบรรยายความรู้สึกหลังอ่านดีที่สุุดแล้วค่ะ เห็นด้วยกับคุณ Psycho ว่าดีที่เป็นหัวข้องานประพันธ์อื่นๆ หาไม่แล้วคงจะโดนจัดเต็มกันเลยทีเดียว
เอาเป็นว่าจัดให้เบาๆ ก็แล้วกันนะคะ ว่ามันมีอะไรแปลกตรงไหน คนอ่านแต่ละคนถึงให้คอมเม้นท์แบบนี้
ด้วยหัวข้องานประพันธ์อื่นๆ ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ยกให้ก็แล้วกันค่ะ แต่เอาเป็นว่าสถานที่ที่ตัวหนังสือไปโลดแล่นอยู่มีหลายประเภท เช่น หนังสือเป็นเล่มๆ หรือเป็นเวบที่ให้งานประพันธ์เอามาลง เช่น ถนนฯ หรือเป็นกระทู้ เช่น กระทู้ใน pantip รวมไปถึง Blog ต่างๆ หรือไดอารี่ออนไลน์ แต่ละสถานที่ต่างก็มีการนำเสนอในรูปแบบที่ต่างกันออกไป แน่นอนว่าระดับความเป็นทางการ รูปแบบของงานเขียน การใช้ภาษาก็ย่อมต่างด้วยเช่นกัน
งานเขียนของคุณ ไม่ใช่เรื่องประหลาดอะไรเลย หากมันไปปรากฏอยู่ใน Blog ค่ะ แต่มันแปลกเวลาที่มาอยู่ในเวบสำหรับลงงานเขียน (ซึ่งเวบลงงานเขียน แต่ละที่ยังมี norm ที่ไม่เหมือนกันอีกต่างหาก)
เพราะฉะนั้น หากคุณต้องการคำอธิบาย ก็คือ ทุกอย่างคุณเขียนล้วน "แปลก" ทั้งสิ้นเวลาที่เอามาลงบนถนนนักเขียนนี่ เหมือนอยู่ผิดที่ผิดทางน่ะค่ะ
1. ภาษาที่ใช้ ถ้าอยู่ใน Blog มันคือที่ทางของคุณเอง เพราะฉะนั้นคุณเป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่ แต่ถนนฯ คือบอร์ดสาธารณะที่มีคนหลายประเภทเข้ามาอยู่ ช่องว่างระหว่างคนเขียนกับคนอ่านจึงยังคงมีอยู่บ้าง ภาษาที่คุณใช้เหมือนภาษาในเวบ หรือใช้ในชีวิตประจำวันที่คุณเล่าให้กับเพื่อนๆ ฟัง
แต่คนอ่านที่นี่ไม่ใช่เพื่อนของคุณค่ะ
อย่าเพิ่งโกรธนะคะ คำที่ใช้อาจจะดูแรง แต่ขออธิบายก่อนก็แล้วกันค่ะ คือ คุณอาจจะต้องการให้ความรู้สึกสนิทสนมกับคนอ่านก็เลยใช้ภาษาลักษณะนี้ หรืออาจจะรู้จักใครสักคนในที่นี้เป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว แต่อย่างที่บอกว่านี่คือบอร์ดสาธารณะ แน่นอนว่าคนที่คุณไม่รู้จักก็หลงเข้ามาอ่านได้เหมือนกัน มันให้อารมณ์เหมือนกับว่าคุณเจอคนแปลกหน้าสักคน ไม่เคยมีการแนะนำตัวกันมาก่อน จู่ๆ คุณก็เดินไปตบบ่าเขาแล้วก็บอกว่า 'Hey! What's up?" คนที่จู่ๆ ก็เจอแบบนั้นคงเหวอน่าดู ก็เหมือนกับคนอ่านที่เข้ามาอ่านก็เหวอแบบนั้นน่ะค่ะ (ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่แนะนำตัวก่อนนะ นี่เป็นแค่อุปมาเฉยๆ ค่ะ)
พูดง่ายๆ ก็คือ ระดับภาษาควรเพิ่มระดับความเป็นทางการมากกว่านี้ (มากขึ้นแต่ไม่ได้หมายความว่าให้เขียนหนังสือราชการนะคะ) เช็คการสะกดคำที่ถูกต้อง หรือภาษาการบรรยายคือการบรรยายที่ควรเป็นภาษาเขียนมากกว่าภาษาพูด
2. การนำเสนอ ค่อนข้างหลากหลายค่ะ แต่ถ้าให้ใช้คำที่ตรงประเด็นก็คือ 'มั่ว' อยู่มากทีเดียว ไม่ได้หมายความว่าเนื้อหาของไม่ดีหรืออะไร แต่ไม่รู้ว่างานนี้ต้องการนำเสนออย่างไรกันแน่ แม้แต่จุดประสงค์ของคนเขียนก็หลากหลายจนอ่านแล้วงงไปหมดค่ะ
- ต้องการเล่าประสบการณ์ชีวิตให้ฟัง? - ต้องการแต่งเรื่องให้อ่าน?
คือต้องการอะไรกันแน่คะ ถ้าจะเล่าประสบการณ์ชีวิตของตัวเอง ขอแนะนำว่าอย่าใช้ตัวละครเป็นบุคคลที่สามเลยค่ะ มันจะเสียอรรถรสมากมาย ในขณะเดียวกัน ถ้าต้องการแต่งเป็นเรื่องเล่าให้อ่าน ก็ขอแนะนำว่าอย่ากระโดดลงมาคุยกับคนอ่านเองเป็นอันขาด มันไม่ใช่เรื่องที่สมควรทำเท่าไรนัก เหมือนกับกำลังอ่านอยู่ดีๆ ก็สะดุดหัวทิ่มยังไงยังงั้นเลยค่ะ
ก่อนอื่นขอแนะนำว่า หาความต้องการของตัวเองให้ได้ก่อนในสองคำถามข้างบน แล้วจากนั้นก็ค่อยหาคนเล่าเรื่องให้ได้ ว่าจะเล่าเรื่องโดยใช้มุมมองไหน มุมมองพระเจ้า (หรือมุมมองที่กวาดตาไปทั่ว รับรู้ความคิดในใจของตัวละครทุกตัว) หรือมุมมองที่จำกัด เช่น มุมมองของมี่คนเดียว ทุกอย่างมองผ่านสายตาของมี่หมด จะไม่รู้ว่าม่อนคิดยังไงรู้สึกยังไง (แต่เขียนเป็นบุรุษที่สาม) หรือสุดท้ายก็คือมุมมองของ "ฉัน" พูดง่ายๆ คือ ฉันเป็นตัวดำเนินเรื่อง เช่น มี่เป็นคนมองเรื่องราวทุกอย่าง เพียงแต่เขียนเป็นบุรุษที่หนึ่งเท่านั้น
ขอแนะนำให้ประมาณนี้ค่ะ ถ้ามีโอกาสได้อ่านงานดีๆในเชิงวรรณกรรมบ้างก็จะดีนะคะ อาจจะช่วยให้ไอเดียในงานเขียนหลากหลายขึ้นค่ะ
ด้วยความเคารพ
จากคุณ |
:
peiNing
|
เขียนเมื่อ |
:
14 ม.ค. 55 15:54:36
|
|
|
|