ธีริทธ์จูงมือมนัญชยาเข้ามาภายในร้านขายของเล่นอันเต็มไปด้วยตุ๊กตามากมาย
ธีริทธ์เหลียวกลับมามองดูใบหน้าเด็กสาวที่แววตาฉายแววความสุขออกมาให้ตนได้เห็นอย่างชัดเจน ยามที่เธอได้ใช้สายตากวาดมองดูสิ่งต่างๆ ที่อยู่ภายในร้านแห่งนี้ พลอยทำให้ใจของธีริทธ์เต็มตื้นและรู้สึกดีตามไปด้วยที่ทำให้มนัญชยาเด็กสาวที่เคยอยู่ในความทุกข์มาพักหนึ่งเริ่มมีความสุข และยิ้มออกด้วยแววตาสุกสกาวพราวระยับ และริมฝีปากคู่บางก็เผยให้เห็นไรฟันขาวๆ เรียงกันอย่างเป็นระเบียบ...
และ ..รอยยิ้มของเธอมันคล้ายๆ กับรอยยิ้มของคุณแม่เธอเอง ที่เขาเคยเห็นในตอนนั้น..เสียด้วยสิ .
“เพลินอยากได้ตุ๊กตาตัวไหน เลือกเอาเลยลูก” ธีริทธ์ค่อยๆ ย่อตัวลงนั่งตรงหน้า พร้อมทั้งบอกเด็กสาวเบาๆ
มนัญชยาเอง ก็รีบพยักหน้าแรงๆ ด้วยรอยยิ้มแห่งความตื่นเต้นดีใจที่จะได้เลือกหาสิ่งที่เป็นยอดปรารถนาของเด็กสาวทั่วๆ ไปโดยการเลือกหาตุ๊กตาที่น่ารักและเธอชอบมันที่สุดมาเก็บเอาไว้
หลังจากที่มนัญชยาหมุนตัวกลับไปเดินดูตุ๊กตาที่วางโชว์ตามชั้นวางต่างๆ เขาก็ค่อยๆ หยัดตัวขึ้นเต็มความสูง พร้อมทั้งเหลียวมองทั่วๆ ร้าน เพราะเขานึกอยากจะได้ตุ๊กตาหนึ่งตัวที่จะต้องเลือกกลับไปให้ใครบางคนด้วยเช่นกัน...
หลังจากนั้นเวลาผ่านไปได้ไม่นาน มนัญชยาก็เดินกลับมาพร้อมด้วยตุ๊กตาหมีสีชมพูนุ่มๆ ตัวใหญ่ ด้วยรอยยิ้ม ธีริทธ์ที่กำลังยืดกอดอกด้วยรอยยิ้มเช่นกัน จากนั้นค่อยๆ ก้มหน้าลงไปถามไถ่ “ตกลงหนูเลือกตัวนี้ใช่มั้ย”
“ค่ะ” มนัญชยาตอบด้วยสุ้มเสียงสดใส
แล้วธีริทธิ์ค่อยๆ เงยหน้าขึ้น มองไปทางเจ้าของร้านที่อยู่ด้านหลัง แล้วพยักหน้าเป็นสัญญาณ..
ก่อนจะเดินออกจากร้าน โดยที่ให้มนัญชยาขออุ้มตุ๊กตาตัวนั้นกลับแบบไม่ให้ทางร้านห่อหรือใส่ถุงให้ และนอกจากที่เธอจะเห็นเจ้าของร้านยื่นตุ๊กตาตัวนี้คืนให้เธอกอด เด็กสาวยังเห็นพนักงานของร้านได้ยื่นถุงใบใหญ่มาให้ลุงธีถุงหนึ่งด้วย พลอยทำให้เด็กสาวต้องย่นหัวคิ้วน้อยๆ ทอดสายตามองตามด้วยความสงสัย ธีริทธ์เมื่อได้สบสายตาแห่งความสงสัยนั้นจึงอมยิ้มน้อยๆ ก่อนจะตอบให้เธอฟังเอง
“ของเพลินเค้าน่ะลูก...”
มนัญชยาค่อยๆ ลดสายตาแห่งความสงสัยลงสู่พื้น แวบหนึ่งในใจกลับรู้สึกแปลก ๆ ยามเมื่อเห็นลุงธีกำลังให้ความเอาใจใส่ต่อเด็กสาวอีกคนที่เป็นถึงลูกสาวในไส้ของลุงธีเอง ซึ่งจุดนี้เองก็ได้ตอกย้ำให้เธอได้รู้สึกตัวว่า จริงๆ ด้วย ลุงธีและป้ามน ไม่ได้มีแค่เธอสักหน่อย คนทั้งคู่ยังมีลูกสาวในไส้ของท่านเอง... ที่ไม่ใช่เธอ!
“กลับกันเถอะ ฝ้าย”
สุ้มเสียงที่ดังขึ้น พร้อมทั้งมือข้างหนึ่งที่ยื่นมาที่ตรงหน้า เป็นสัญญาณที่จะให้เธอเดินกุมมือข้างหนึ่งกลับเหมือนตอนที่เธอได้กุมมือข้างนี้มา มนัญชยาเผยรอยยิ้มอีกครั้ง ก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งไปกุมมือลุงธีและเริ่มต้นเดินออกมาจากร้าน พยายามกดความรู้สึกชั่วครู่ให้นิ่งจมอยู่ในอก .. แต่บางครั้งที่เดินๆ ไปกับลุงธีมันทำให้เธอรู้สึกอบอุ่น มีความสุขเสียเหลือเกิน และสุดท้าย มันก็ทำให้เธอนึกได้ หากว่าเธอได้เป็นลูกสาวจริงๆ ของลุงธีและป้ามน เธอจะมีความสุขมากแค่ไหนนะ
ภายในรถยนต์ที่กำลังมุ่งหน้ากลับบ้าน มนัญชยาก็กอดตุ๊กตาตัวใหม่แน่นๆ เหมือนกับที่เธอเคยได้กอดตุ๊กตาอีกตัวหนึ่งเอาไว้ แต่มันจะแตกต่างก็ตรงที่ ตุ๊กตาตัวใหม่ตัวนี้ เธอกำลังกอดมันด้วยรอยยิ้ม
ถึงแม้ใบหน้าของเธอในยามนี้จะเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข แต่ยามใดที่เห็นลุงธีให้ความสนใจอยู่กับการขับรถ มนัญชยาก็คอยแต่จะเหลือบดูถุงใบใหญ่ที่วางอยู่ด้านหลังลุงธี มองให้เห็นว่า
ภายในถุงใบนั้นมันมีตุ๊กตาอะไรอยู่ มันจะ สวยงาม น่ารัก กว่าเจ้าตัวนี้ของเธอมั้ยนะ และถ้าลุงธีเลือกได้น่ารักกว่าเจ้าตัวนี้ของเธอล่ะ เธอคงรู้สึกน้อยใจแน่ๆ เลย
“ลุงธีคะ..” มนัญชยาได้ปัดความรู้สึกวุ่นวายใจนั้น ออกเรียกคุณลุงธีด้วยน้ำเสียงแจ่มใส “หึ ว่าไงลูก?” ธีริทธ์หันมาขานรับสั้นๆ และคอยฟัง เจ้าของน้ำเสียงเจื้อยแจ้วอยู่เรื่อยๆ “ลุงธีช่วยตั้งชื่อเจ้าตัวนี้ให้หน่อยสิคะ มันจะได้เป็นเพื่อนกับโอเลี้ยงไง” ธีริทธิ์พยักหน้าขึ้นลงในอาการเข้าใจ พร้อมทำท่าครุ่นคิด ก่อนจะหันมาบอกคนที่ตั้งหน้าตั้งตาฟังเสียดิบดี อย่างเด็กสาวข้างตัว “หวานเย็นดีมั้ยลูก มันสีชมพู น่ารัก ชื่อนี้ก็เหมาะกันดี” “หวานเย็น กับโอเลี้ยง” เด็กสาวทวนสองชื่อนี้พร้อมๆ กัน ก่อนจะเผยรอยยิ้มกว้าง พร้อมทั้งรีบตกลงรับคำจะใช้สองชื่อนี้ด้วยกัน “ตกลงค่ะคุณลุง หวานเย็น กับ โอเลี้ยง น่ารักจริงๆ ด้วย” ธีริทธ์ไม่ได้ว่าอะไรต่อ เห็นเด็กสาวยิ้มร่าเริงเขาก็พลอยมีความสุขตามไปด้วยเท่านั้น
รถยนต์คันโตที่แล่นเข้ามาจอดยังโรงจอดรถของบ้าน สายตามองด้วยสีหน้านิ่งกระด้างที่มองรถคันดังกล่าวเคลื่อนเข้ามาในบ้านอย่างช้าๆ และยิ่งเพิ่มรับความนิ่งกระด้างเข้าไปอีกเมื่อได้เห็นเด็กสาวคนนั้นกระโดดลงจากรถเบาๆ พร้อมกับตุ๊กตาหมีตัวหนึ่ง
จากนั้นเธอก็เลื่อนสายตาไปดูบิดาของเธอที่กำลังจะก้าวลงจากรถตาม ท่านเดินไปหาเด็กสาวคนนั้น ย่อตัวลงวางมือข้างหนึ่งลงไปขยี้ศีรษะเบาๆ และพูดอะไรกับเด็กสาวคนนั้นคำสองคำ เด็กสาวคนนั้นก็ยกมือไหว้ แล้วหมุนตัวเข้ามาในบ้านด้วยใบหน้าที่เต็มแต้มไปด้วยความสุขอย่างชัดเจน
ณิชนันท์หมุนตัวกลับเข้ามาภายในห้องนอนของเธอทันที พยายามควบคุมความรู้สึกร้อนรุ่มบางอย่างให้อยู่กับตัว ก่อนจะเดินปึงๆ ไปกระชากประตูห้องเบาๆ เพื่อยืนอยู่รอหน้าห้องไม่นาน เด็กสาวอีกคนก็วิ่งกระเตงขึ้นมาพร้อมทั้งตุ๊กตาตัวใหม่สีชมพูตัวนั้น ณิชนันท์เผลอมองแบบไม่วางตา และเอ่ยชมขึ้นมาลอยๆ ด้วยหัวจิตหัวใจร้อนรุ่มอยู่ไม่สุข “ตุ๊กตาตัวใหม่สวยดีนะ ” คำชมเรียบๆ ทำให้มนัญชยา ที่กำลังเดินร่าเริงหยุดอยู่กลับที่ใบหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มค่อยๆ ลดระดับลง ยามเห็นเต็มตาว่าเจ้าของคำทักทายเรียบๆ นั้นคือใคร คือเด็กสาวอีกคนหนึ่งที่เธอรู้เต็มอกว่าเป็นแก้วตาดวงใจของลุงธีและป้ามนนั่นเอง มนัญชยาทำทีสนใจกับคำชมเรียบๆ ของอีกฝ่ายด้วยการหลุบสายตามองตุ๊กตาหมีตัวใหม่อีกครั้ง ก่อนจะเลยสายตาขึ้น พร้อมทั้งจงใจเค้นรอยยิ้มตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานกลับไปทันที
“สวยมั้ยล่ะ คุณลุงซื้อให้ฉันเองนั่นแหละ มันมีชื่อด้วยนะ ชื่อหวานเย็น อ้อ และชื่อของมันคุณลุงธี คุณพ่อของเธอท่านก็ตั้งให้มันด้วย ดูสิ เข้ากันดีมั้ยล่ะ”
..ไร้ แม้แต่คำตอบกลับว่า สวยหรือไม่สวย และ ชื่อที่บิดาของเธอตั้งให้กับตุ๊กตาตัวนี้มันเข้ากันดีมั้ย ..
ณิชนันท์เม้มริมฝีปากแน่นเข้าไว้ด้วยกันอีก ยามนี้เธอรู้สึกร้อนรนจนอยู่ไม่สุขเป็นสองเท่านับตั้งแต่เห็นบิดาเธอจูงมือเด็กสาวตรงหน้าที่ห้างสรรพสินค้าแห่งนั้นด้วย! มองเห็นเด็กสาวคนนี้บิดริมฝีปาก เลื่อนตุ๊กตาตัวใหม่ขึ้นมากอดด้วยความหวงแหน ก่อนจะเดินผ่านร่างที่ยืนนิ่งงันด้วยความขัดใจด้วยความเมินเฉยอย่างเธอไปเลย และการแสดงออกของมนัญชยาก็ทำให้ความรู้สึกบางอย่างที่ณิชนันท์พยายามกักเก็บเอาไว้กับตัวยิ่งปะทุขึ้นมาอีก เวลานั้นเธอก็เห็นบิดากำลังเดินขึ้นบันไดมา ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวที่มีอยู่เต็มอก ทำให้เธอเลือกที่จะหมุนตัวกลับเข้าไปในห้องนอน พร้อมปิดประตูเสียงดังใส่ท่าน!
(มีต่อค่ะ)
จากคุณ |
:
พิณพลอย
|
เขียนเมื่อ |
:
9 ม.ค. 55 21:18:25
|
|
|
|