Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เสน่หา...ปารีส บทนำ+ตอนที่1 ติดต่อทีมงาน

มาจะกล่าวบทไป...
สวัสดีค่ะ พบพรนะคะ เพิ่งได้รับการเป็นสมาชิกวันนี้ ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ก่อนเลยค่ะ อย่างไรช่วยแนะนำเด็กใหม่คนนี้ด้วยนะคะ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความเมตตากรุณาจากทุกท่าน ว่ากันว่าการเขียนเป็นการแสดงออกถึงตัวตนของเราอย่างหนึ่งค่ะ ดังนั้นจะขอแนะนำตัวเอง ผ่านนิยายที่ได้แต่งนะคะ...

บทนำ:Paris I’m coming !

          เสียงหวานปานระฆังแก้วของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินสายการบินแห่งชาติ ประกาศให้ผู้โดยสารนั่งประจำที่และคาดเข็มขัดนิรภัย มีผลทำให้บัวบูชารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาหลังจากงีบหลับไปเพียงหนึ่งชั่วโมง ก่อนหน้านี้เด็กสาวมัวแต่แอบร้องไห้ฟูมฟายแบบไม่ให้ใครเห็นเพราะอายคู่สามี ภรรยาชาวแอฟริกันที่นั่งอยู่ไม่ไกลนัก จริงๆแล้วหากจะคิดเข้าข้างตัวเองก็คงไม่ผิดนักที่จะร้องไห้ให้กับการเดิน ทางออกนอกประเทศเพียงลำพังเป็นครั้งแรก สำหรับสาวน้อยวัยสิบเจ็ด ที่เพิ่งเรียนจบมัธยมปลาย แถมโดนประคบประหงมด้วยความรักจากครอบครัวแบบประหลาด ๆ มาโดยตลอดแล้ว การเดินทางออกนอกประเทศครั้งนี้ก็คงไม่ต่างจากการที่ชาวปิ๊กมี่(ที่เธอเคยดู ผ่านสารคดีทางช่องดิสคัพเวอรี่)ถูกเนรเทศออกจากเผ่าเลยสักนิดเดียว แต่เมื่อเธออดทนเดินทางข้ามฟ้ามหาสมุทรกว่าสิบชั่วโมงจนเกือบจะถึงปารีส เมืองฟ้าอมรในอีกเพียงไม่กี่อึดใจนี้แล้ว สาวน้อยในกะลาก็เริ่มคิดได้ว่าการร้องไห้ให้กับการตัดสินใจของตัวเองนั้น เป็นสิ่งที่ผู้เจริญ(พันธุ์)แล้วไม่สมควรทำเป็นอย่างยิ่ง

ทันทีนี่ล้อเครื่องบินแตะลงบนรันเวย์ของสนามบินชาน เดอ โกล(Paris-Charles de Gaulle Airport) ประเทศฝรั่งเศสอย่างปลอดภัยเป็นอันว่าการเดินทางครั้งนี้สิ้นสุดลงแล้วอย่าง สวัสดิภาพ ร่างแบบบางค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออกช้า ๆ เพื่อขจัดอารมณ์บางอย่างที่อัดแน่นอยู่ในอก ต้องยอมรับว่ามีหลายๆความรู้สึกเกิดขึ้นในหัวของเธอ ถึงขนาดที่ทำให้ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด ทั้งความรู้สึกกลัว ทั้งความรู้สึกว้าเหว่เพราะตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยต้องอยู่ห่างไกลจากครอบ ครัวและคนใกล้ชิด ทุกครั้งที่กลัวเธอก็ยังมีครอบครัวคอยอยู่ข้างๆเสมอ มันเป็นอย่างนี้ทุกทีจนเด็กสาวรู้สึกชิน ไม่มีครั้งไหนที่ความกลัวได้เข้ามาแผ้วพานหากมีพ่อและแม่คอยปกป้องคุ้มครอง แต่ในตอนนี้เธอจำต้องทำใจยอมรับว่า ที่นี่ต่อจากนี้จะไม่มีทั้งพ่อและแม่ที่เธอรักสุดดวงใจ ไม่มีคุณทวดที่คอยทะนุถนอมกล่อมเกลี้ยงเธอตั้งแต่อ้อนแต่ออก ไม่มีพี่วัตรที่คอยบอกคอยสอนว่าอะไรควรอะไรไม่ควร ไม่มีตาพุทธน้องชายแสนซนที่คอยปลุกปลอบยามเธอทำอะไรไม่ได้เรื่อง มีแต่ใยบัวผู้เดียวดายกลางสายหมอก  แต่ก็นั่นแหละด้วยความที่ตั้งแต่เกิดจนโตเป็นสาวขนาดนี้ ชีวิตไม่ค่อยได้เจอเรื่องโลดโผนโจนทะยานสักเท่าไหร่ ก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ๆที่กำลังรออยู่ เป็นความรู้สึกที่ขัดแย้งกันอยู่ลึกๆในดวงใจดวงน้อยๆของเธอ

พอนึกถึงครอบครัวแล้วนึกถึงแม่ขึ้นมาทันที นี่ถ้าแม่รู้ว่าเธอมีแผนการสำรองที่เตรียมไว้ตั้งแต่อยู่เมืองไทยว่าหากดู ลาดเลาแล้วไม่น่าไว้ใจ เธอจะลงทุนซื้อตัวเครื่องบิน บินกลับเมืองไทยตั้งแต่วันแรกที่มาถึงเพราะอาการปอดแหกแบบที่ไม่เคยเป็นมา ก่อนผสมกับนิสัยที่ไม่ค่อยจะมั่นใจที่จะทำอะไรด้วยตัวเองสักเท่าไหร่กำเริบ แล้วละก็...โอ!!! แค่คิดก็แอบขนลุกขึ้นมาหน่อย ๆ แล้ว ถ้าเป็นพ่อก็คงไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าแม่รู้คงได้วีนบ้านแตกไปสามวันแปดวัน นึกสภาพตอนแม่ วีนแตกแบบผู้ดีฝรั่งเศส อย่างที่ชอบบอกกับพ่อแล้วสาวน้อยก็ต้องเบะปากด้วยความขยาด แถมความรู้สึกที่เรียกว่า เสียวสันหลังก็ แล่นวาบเข้ามาในทันใด ก็แม่สุดโหดเหมือนแม่ของชาวบ้านเค้าซะที่ไหนกันล่ะ ขนาดเมื่อเร็วๆนี้ 'พุทธรักษา' น้องชายวัยห้าขวบของเธอโดนเพื่อนที่โรงเรียนแย่งของเล่นเข้าหน่อย แม่ก็ฟาดด้วยไม้เรียวซะแล้ว ข้อหาไม่สู้คน แถมบอกให้น้องแย่งของเล่นกลับมาให้ได้อีก ไม่อย่างนั้นก็ไม่ต้องได้ของเล่นอะไรอีกเลยตลอดชีวิตโทษฐานที่ไม่รู้จัก รักษาของๆตัวเอง(สรุปคือแม่ชอบเลี้ยงลูกให้เป็นกอลั่ม พ่อบอก) แล้วถ้าแม่รู้ว่าใยบัวสุดที่รักทำตัวเป็นเด็กๆไม่รักษาคำพูด ชอบทำอะไรครึ่งๆกลางๆ แค่เหยียบฝรั่งเศสไม่ถึงห้านาทีก็รีบร้องไห้จะกลับบ้านเช่นนี้นะ มีหวังได้โดนฟาดแถมกักบริเวณให้อยู่แต่ในห้องเป็นเดือน ๆ จนไม่ได้ออกไปเห็นเดือนเห็นตะวันแหง ๆ ระหว่างทำให้แม่ของขึ้นจนร่างทรงประทับโดยการกลับเมืองไทย กับอยู่ฝรั่งเศสแบบกล้า ๆ กลัว ๆ โดยปลอดภัยจากการวีนและเหวี่ยงของแม่ เอาเป็นว่าบัวบูชาคนนี้ขอเลือกอย่างหลังดีกว่า สาวน้อยสูดหายใจเข้าไปให้ลึกที่สุด กักเก็บออกซิเจนอันน้อยนิดบนเครื่องบิน โดยคิดไปว่าอากาศจากเมืองไทยที่ติดมากับเครื่อง(คิดได้นะ) จะได้ไหลเวียนในร่างกายแล้วส่งพลังปัดเป่าความกลัวในหัวใจออกไป มือเล็กของเด็กสาวกระชับผ้าพันคอไหมพรมสีน้ำตาลนุ่มมือที่คุณทวดถักให้เป็น ของขวัญ ก่อนจะฉีกยิ้มให้กับดินแดนใหม่ที่รออยู่นอกหน้าต่าง

         

          ปีแอร์ กาลาส ฉีกยิ้มกว้างเมื่อเห็นสาวน้อยผมยาวสยายสีดำ และนัยน์ตาดำขลับเป็นประกายกล้าดั่งนิลน้ำงาม เดินออกมาจากช่องทางผู้โดยสารขอออกอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ แอบสงสารหลานสาวตัวน้อยเล็ก ๆ เมื่อเธอฉีกยิ้มกว้างอย่างมีความหวังเมื่อเห็นหน้าของเขา ไม่แปลกที่พ่อและแม่จะหวงนักหวงหนาแต่ก็ตัดสินใจปล่อยออกมาจากป่า(ทุเรียน) ไม่เช่นนั้นหลาสาวคนดีของเขาได้กลายเป็นกบน้อย ๆ ที่วัน ๆ กระโดนเล่นอ๊บ ๆ อยู่แต่ในสวนทุเรียนเป็นแน่ เด็กอายุสิบเจ็ดในทางฝั่งเอเชียยังถูกมองว่าเป็นเด็กเล็ก ๆ ที่ต้องได้รับการดูแล แต่ในทางกลับกัน ทางฝั่งยุโรปแห่งนี้ก็ถือว่าโตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว แต่เด็กสาวชาวเอเชียคนนี้กลับมีพ่อและแม่ที่เติบโตมาแบบตะวันตกแถมมีหัวสมัย ใหม่สุด ๆ ก็ต้องแอบงงกับชีวิตของตัวเองที่จะต้องพลิกผันกลับไปกลับมาไม่เหมือนเพื่อน ฝูงเป็นธรรมดา แล้วพ่อกับแม่ยัยหนูนี่ก็ใช่ย่อยซะที่ไหน โดยเฉพาะยัยตัวแม่ที่ร้ายจนใคร ๆ ต้อง"หน้าแหก" มานักต่อนัก แค่คิดก็สยองแล้วเว้ยเฮ้ย!

          เธอไหว้เขาแบบไทยพร้อมกับรอยยิ้มสดใส ในขณะที่เขาเองก็รับไหว้กลับด้วยท่าทีขัดเขินเล็กน้อย แอบเตรียมตัวมาเล็กน้อยเพราะรู้ว่าจะต้องเจออะไรแบบนี้ แต่ก็รู้สึกไม่ชินซักที สวัสดีค่ะคุณลุง สรรพนามที่ก็แอบเตรียมใจมาว่าจะได้ยิน ก็ทำเอาสะดุ้งอีกรอบ หูย ลุงเลยหรอ

          ห่างกันแค่ยี่สิบปีกลายเป็นลุงซะแล้ว แต่ก็ไม่แปลก เพราะเด็กสาวตรงหน้าเป็นลูกบุญธรรมที่เพื่อนรักของเขารับมาเลี้ยงเอาไว้ ตั้งแต่เธออายุได้เพียงห้าปี เห็นกันมาแต่เล็กแต่น้อย ป๊อบ ๆ แป๊บ ๆ ก็โตเป็นสาวซะแล้ว ศิรการเพื่อนรัก(คุณพ่อหนูบัว)มีลูกไปแล้วสอง ในขณะที่วิกเตอร์รุ่นน้องร่วมก๊วนก็มีไปแล้วอีกสอง แต่ทำไมปีแอร์ กาลาสผู้ลือชื่อ ถึงไม่มีเลยซักคน อย่าว่าแต่ลูกเลย บัดนี้เมียก็ยังหาไม่ได้ เอาเป็นว่าเก็บตังค์ไว้เลี้ยงหลานดีกว่า เลี้ยงยัยหนูเซิฟ ๆ ไปก่อน ดีไม่ดีค่อยว่ากันอีกทีอ่านะ

          ผู้ปกครองคนใหม่ที่ไม่ค่อยได้เจอหน้ากันนานรับไหว้อย่างเก้ๆกังๆ จนเด็กสาวเผลอยิ้มออกมาด้วยความชอบอกชอบใจ ความประหม่าเมื่อครู่ได้จางหายไปหมดสิ้นเมื่อเจอกับเขา ปีแอร์ กาลาส เขายังเป็นคุณลุงที่แสนใจดีเหมือนตอนที่ได้เจอกันเมื่อหลายปีก่อน

             จะว่าไปปารีสมันก็...ไม่ได้น่ากลัวเสมอไปหรอกนะ แม้ว่าเขาจะดูเสียฟอร์มที่ไหว้ไม่เป็น แต่กลับทำให้เธอรู้สึกใจชื้นในท่าทีที่ดูเป็นธรรมชาติของเขาขึ้นมาเป็นกอง เลยทีเดียว

          หิวมั้ยคุณหลาน ปี แอร์ฉีกยิ้มกว้างก่อนที่จะรับกระเป๋าเป้ของสาวน้อยมาสะพาย อย่างไม่ขัดเขินเลยสักนิด แม้ตัวเองจะอยู่ในสูทหรูสีเทาขรึมของอามานี่ก็ตาม ถึงจะมีหลายต่อหลายสายตาที่จับจ้องมองมา แต่คนอย่างเขาไม่จำเป็นต้องแคร์สายตาใคร เพราะเขาคือ ปีแอร์ กาลาส นักธุรกิจหนุ่มผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคพื้นทวีปยุโรปที่ใครต่อใครจะต้องยอมสิ โรราบ(เกี่ยวกันไหมลุง)

          ไม่หิวค่ะ สาว น้อยฉีกยิ้มกว้างอย่างมีความสุข ไม่เป็นไรถึงไม่มีพ่อกับแม่ก็ไม่เป็นไร เธอยังมีคุณลุงสุดเท่ห์อยู่ทั้งคน แถมยังมีใครต่อใครที่เธอรู้จักอยู่แถวๆนี้อีกเป็นเบือ ออกจะน่าสนุก ไม่เห็นจะน่ากลัวอย่างที่คิดไว้สักนิด

          Paris I’m coming ! ”


Normal 0 false false false EN-US X-NONE TH /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-priority:99; mso-style-qformat:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0in 5.4pt 0in 5.4pt; mso-para-margin-top:0in; mso-para-margin-right:0in; mso-para-margin-bottom:10.0pt; mso-para-margin-left:0in; line-height:115%; mso-pagination:widow-orphan; font-size:11.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Calibri","sans-serif"; mso-ascii-font-family:Calibri; mso-ascii-theme-font:minor-latin; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-theme-font:minor-fareast; mso-hansi-font-family:Calibri; mso-hansi-theme-font:minor-latin; mso-bidi-font-family:"Cordia New"; mso-bidi-theme-font:minor-bidi;}

Chapter1:The Top Secret

เจ้าของนัยน์ตาสีเขียวมรกตกำลัง ยืนอยู่บนชั้นบนสุดของอาคาร La Belleสำนักงานใหญ่ อาคารสูง8ชั้น รูปทรงสถาปัตยกรรมแบบฝรั่งเศสสมัยศตวรรษที่19 นี้ตั้งอยู่ใจกลางกรุงปารีสในย่านมาเรส์อันเป็นย่านที่เต็มไปด้วยอาคารเก่าแก่รูปทรงวิจิตรตระการตามากมายซึ่งถูกอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดีโดยรัฐบาลฝรั่งเศส ในอดีตมาเรส์เคยเป็นย่านที่อยู่อาศัยของขุนนางและศิลปินผู้เลื่องชื่อไม่ว่าจะเป็นปิกัสโซ่ หรือนักเขียนผู้โด่งดังอย่างวิกเตอร์ อูโก้

อีกทั้งในเวลาต่อมาย่านนี้ก็กลายมาเป็นแหล่งรวมของความเก๋ไก๋ที่สุดเท่าที่ปารีสจะมีได้ ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะหรือแม้แต่เป็นแหล่งช้อปปิ้งสำหรับสินค้ายี่ห้อแปลกๆแบบฝรั่งเศสก็ไม่แปลกอะไรที่ La Belle จะเลือกทำเลนี้สำหรับใช้เป็นที่ตั้งของบริษัทซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับแฟชั่นและจิวเวลรี่ที่ต้องอาศัยจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์เช่นนี้

ชายหนุ่มเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างเหมือนต้องการจะชมท้องฟ้าในฤดูใบไม้ผลิด้วยทีท่าเศร้าสร้อยแฝงด้วยความเบื่อหน่ายเอาไว้ก็หลังจากที่ได้ทำงานอารักขามาดามริต้าคนสวยแบบที่คนที่มีอาชีพเป็นบอดี้การ์ดสมควรจะทำแล้ว เขาก็ไม่เคยได้อารักขาใครอีกเลยนอกเสียจาก...เมอซิเออร์เอเตียนรู้ทั้งรู้ว่าชายหนุ่มผู้คร่ำเคร่งกับการทำงานเป็นบ้าเป็นหลังผู้นี้ไม่ค่อยจะอยากเก็บเขาเอาไว้สักเท่าไหร่หรอก ถ้าหากว่าเลโอเนลคนนี้ไม่ได้ไปล่วงรู้ความลับบางอย่างของเมอซิเออร์เอเตียนทายาทและผู้สืบทอดเพียงคนเดียวแห่ง La Belle เข้าอย่างไม่ได้ตั้งใจ

ความลับดำมืดของปีศาจนัยน์ตาสีน้ำเงินที่ถ้าใครรู้เข้าแล้วละก็อาจโดนส่งไปเฝ้าพระเจ้าอย่างไม่ทันรู้ตัวเลยก็เป็นได้แล้วที่ดราม่าที่สุดก็คือ..ไอ้เลคนนี้แหละที่จะโดนส่งเสด็จเป็นคนแรกความลับที่ถึงขนาดทำให้คนอย่างเมอซิเออร์เก็บเขาเอาไว้ข้างกายไม่ยอมให้คลาดสายตาไปไหนและเป็นความลับที่แม้แต่นิโกลาส์บอดี้การ์ดคนสนิทที่ทำงานกับเขามาเกือบสิบปีก็ยังคงไม่ล่วงรู้

เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาแล้วก็พาลพาให้คิดไกลไปถึง“น้องสาว”ผู้เป็นจุดเริ่มต้นของความลับดำมืดทั้งปวงของเมอซิเออร์เอเตียนสาวน้อยชาวไทยแก้มป่องในตาใสซื่อ...ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างน้า แค่คิดก็ทำให้เลโอเนลเผลอยิ้มจนแก้มปริ เขาเป็นลูกชายคนสุดท้องในพี่น้องทั้งหมดห้าคนซึ่งทุกคนล้วนแต่เกิดมาเป็นผู้ชายทั้งสิ้นแล้วสิ่งที่ครอบครัวของเขารู้สึกโหยหามากที่สุดก็คือ การได้มีน้องสาวโชคชะตานำพาให้เจอกับมาดามปาลิตา คนสวยเพื่อนสนิทและอดีตคู่หมั้นของเมอซิเออร์เอเตียนที่มีน้องสาววัยกำลังน่ารักอยู่คนหนึ่งที่สำคัญคือเขาและพวกเธอเข้ากันได้ดีทั้งพี่ทั้งน้อง

จับพลัดจับผลูมาดามสลัดรักกับเมอซีเออร์ไปแต่งงานกับพ่อบุญธรรมของน้องสาวเข้า เลยกลายเป็นว่า จากน้องสาวมาดาม กลายเป็นลูกสาวมาดามซะอย่างนั้นเล่นเอาไอ้เลงงกันไปเลยทีเดียว แต่ก็นั่นแหละ จะอย่างไรก็ช่าง น้องสาว หรือลูกสาวของมาดาม ก็คือน้องสาวร่วมสาบานของเขาที่มาดามฝากฝังเอาไว้เมื่อห้าปีก่อนคำสัญญาที่เขาได้ให้ไว้กับเพื่อนที่จะคอยปกป้องดูแลเธอจะยังคงเป็นคำมั่นที่เขาจะต้องรักษาไว้ยิ่งชีพถ้าหาก...ไม่ตายเพราะฝีมือของเมอซีเออร์เอเตียนเสียก่อนน่ะนะ

บัวบูชา ชื่อนี้มีความหมายยิ่งนัก เป็นทั้งลูกสาวของมาดามเป็นทั้งน้องสาวร่วมสาบานของเขา และเหนือสิ่งอื่นใดเป็นจ้าวหัวใจของเอเตียนปีศาจปารีเซียงนัยน์ตาสีน้ำเงินเจ้านายของเขานี่ยังไง! เขาเองก็ไม่น่าปากพล่อยไปสัญญากับยัยมาดามขาวีนนั่นเลยจริง ๆรู้ไหมว่าเขาเกือบตายเพราะแรงหึงของเมอซิเออร์ มาหลายร้อยครั้งแล้วแต่ก็รอดมาได้ด้วยคุณความดีที่เลโอเนลสั่งสมมาเป็นระยะเวลาหลายพันปีจนตะบะแก่กล้า

จะต่อกรกับมหาปีศาจอย่างเมอซิเออร์ไม่ใช่ใช่เรื่องเล่นๆเลยจริงๆโดยเฉพาะกับพี่เบิ้มเบิ๋มเบอะคู่ขา..เอ๊ย!!!มือขวาของเมอซิเออร์ อดีตทหารสวิสการ์ดอย่างนิโกลาส์...นั่นไง ยืนเด่นเป็นสง่าอยู่เบื้องหลังเมอร์ซิเออร์ในตอนนี้ไงล่ะเห็นงี้แล้วใครจะกล้าเข้าใกล้เมอซิเออร์ ไม่มี๊ ไม่มีเพราะเจอบาเรียของนิโกลาส์ที่แผ่กระจายมาปกป้องเจ้านายจนใครต่อใครก็พากันกระเด้งกระดอนออกไปหมด

ถ้าไม่รู้มาก่อนว่าเมอซิเออร์ชอบกินเด็กแถมยังชอบหิ้วนางแบบแอบไปซั่มกันที่ห้องลับ เขาก็ลงความเห็นว่าสองคนนี้มีแนวโน้มที่จะโช๊ะเด๊ะกันชัวร์ ๆ อะจึ๋ย!หรือไอ้นิกกี้มันแอบชอบเขาอยู่นะ โอ้มายก็อด! หวังว่าจะไม่ใช่อย่างที่คิดไว้นะ เห็นหล่อ ๆ อย่างนี้ก็สู้คนนะโว้ย!

 

ก๊อก ๆ ๆ...

 

เสียงเคาะหนักๆจากด้านนอกของประตูไม้โอ๊คบานใหญ่ทำเอาเลโอเนลสะดุ้งตื่นออกจากภวังค์ ร่างท้วมของหญิงวัยสาวเหลือน้อยนางหนึ่งที่ยังดูคล่องแคล่วปราดเปรียวเดินอาด ๆเข้ามาอย่างไม่สนอกสนใจว่าเจ้านายของเขาต้องการสมาธิและกำลังคร่ำเคร่งกับการทำงานอยู่ ยัยป้านี่บอกสอนกันทีไรก็ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงสักทีคิดว่าเส้นใหญ่เคยเป็นเลขาเก่าของมาดามอเมเลียแล้วยังไงฮะป้า เห็นแล้วหงุดหงิด เมอซิเออร์ของเขาเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับแววตานิ่งเฉยไม่คิดจะด่าซักคำ

“มีอะไร”ชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ผู้บริหารหลังโต๊ะทำงานสไตล์โมเดิร์นเอ่ยปากถามเมื่อรู้ว่าเป็นคุณเลขาเจ้าป้าโซฟีร่างสูงสง่าในเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินแขนยาวที่บัดนี้ถูกถลกขึ้นมาเกือบถึงข้อศอกก็ก้มหน้าก้มตาทำงานต่ออย่างไม่ใส่ใจผู้มาใหม่เท่าไหร่นัก

          สรุปหัวข้อที่จะประชุมในสัปดาห์หน้าค่ะ”เธอวางแฟ้มเล่มโตในอ้อมแขนไว้บนโต๊ะก่อนที่คนที่กำลัง งานเข้าจะเลิกคิ้วคมขึ้นถามด้วยความสงสัย...

          มีแค่นี้หรอ?” คำถามนี้ทำให้เลขาเจ้าป้าโซฟีแสยะยิ้มด้วยความสะใจก่อนจะฮุกซ้ายด้วยหมัดเด็ด

            “และนี่คือเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมดค่ะ เมอซิเออร์” สิ้นเสียงคุณเลขาเจ้าป้าโซฟีก็ตบมือสามครั้ง เป็นการส่งสัญญาณให้เด็กเดินเอกสารทยอยเข็นบางสิ่งบางอย่างเข้ามาในห้อง

รถเข็นเหมือนที่เข็นกันในซุปเปอร์มาเก็ตทยอยเข็นแฟ้มเอกสารเข้ามาถึงสามคันรถคราวที่แล้วยังแค่หนึ่งคันกับอีกนิดนึงอยู่เลย คราวนี้มหาศาลบานตะไทเป็นเท่าตัว เกิดเป็นทายาทแห่งLa Belleแบรนดังระดับโลก ใครว่าดี บอดี้การ์ดหนุ่มเห็นแล้วเวียนหัวแทนอยากจะอ้วกออกมาแล้วร้องไห้เป็นภาษาดาวยูเรนัส แต่ร่างสูงสง่าบนโต๊ะทำงานกลับไม่สะทกสะท้านเพียงแค่ปรายตามามองคุณเลขาของเขาพร้อมกับเอ่ยขอบคุณเบา ๆแล้วก็กลับเข้าโหมดขยันขันแข็งในการทำงานตรงหน้าต่อไป

“อย่าลืมอ่านให้ครบทุกหน้าก่อนเข้าประชุมด้วยนะคะเมอซิเออร์ อ้อ..แล้วก็ก่อนออกจากออฟฟิศกรุณาแต่งตัวให้เรียบร้อยด้วยค่ะท่าน-ผู้-บอ-ริ-หาร” เจ้าป้าชี้มือชี้ไม้ไปที่แขนเสื้อด้วยสีหน้าไม่ค่อยจะพออกพอใจเสียเท่าไหร่ก่อนจะกลับออกไปสถิตย์ยังฐานที่มั่นของตนเองอย่างเงียบๆ เห็นทีคราวนี้คนที่ปราบปีศาจนัยน์ตาสีน้ำเงินได้ไม่ใช่ใครที่ไหนก็ผู้คุมกฎโซฟีและกองเอกสารบนรถเข็นนั่นไง มันดราม่าก็ตรงนี้แหละ เลโอเนลแอบคิดเมื่อเห็นสีหน้าคร่ำเคร่งของผู้เป็นนายที่ยังคงจมจ่อมอยู่กับกองเอกสาร

 

เขาเฝ้าหลงรักเด็กผู้หญิงคนหนึ่งมาเป็นเวลานานหลงรักแบบหัวปักหัวปำอย่างที่ไม่ควรจะรักเพราะเธอกับเขาอายุห่างกันไกลถึงสิบสองปี เพราะเธอคือลูกสาวของเพื่อนรักและเพราะเธอเป็นเธอ แล้วเขายังคงเป็นเขา เขาที่เป็นทายาทของLa Belleทุกวินาทีของเขาถูกใช้ไปกับงาน เพื่อให้ได้เป็นที่ยอมรับของทุกคนในบริษัททุกอย่างที่มาจากฝีมือของเขาจำเป็นที่จะต้องสมบูรณ์แบบ โปร่งใสและน่าเชื่อถือ ไม่มีคำว่าผิดและพลาดสำหรับคนอย่างเขาเพื่อที่จะยืนอยู่บนจุดสูงสุดแทนอเมเลียผู้เป็นแม่ และเพื่อให้ได้เป็นคนที่สมบูรณ์แบบเขาจำเป็นที่จะต้องสูญเสียความเป็นตัวตนของเขาไป เพื่อให้ได้มันมาความรักที่ไม่คู่ควรจึงเหมือนกับเป็นหนามแหลมที่เฝ้าทิ่มแทงหัวจิตหัวใจของเขาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

หัวใจของเขาสั่นระริกทุกทีที่ได้มองดูภาพถ่ายของเธอที่แอบเก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์ กลัวเหลือเกินว่าใครจะมาเห็นเข้า แล้วรู้ว่าเธอเป็นเพียงเด็กหญิงอายุสิบสองขวบ กลัวเหลือเกินว่าใครจะเอาสุดที่รักของเขาออกจากกระเป๋าสตางค์ไป แค่เขารักเธอแค่นี้มันผิดนักหรือ... แค่คิดก็พาลพาให้รู้สึกจุกแน่นที่อกจนอยากจะร้องไห้

แต่คนอย่างเอเตียนร้องไห้ได้อย่างไรต่อให้ใครเอามีดมาจ่ออยู่ที่คอเขาก็ต้องไม่ร้องไห้ เขาก็ต้องเข้มแข็งให้สมกับที่เป็นลูกของอเมเลียเป็นว่าที่ผู้บริหารหมายเลขหนึ่งของLa Belleแค่คิดก็เหนื่อยแล้วจริง ๆ ร่างสูงใหญ่ผ่อนลมหายใจออกช้า ๆ ก่อนที่จะเอนหลังพิงพนักพิงเก้าอี้หนังสีดำมันปลาบอยากเหนื่อยล้า

          เลโอขอกาแฟหน่อย”เสียงทุ้มกังวานหันไปสั่งบอดี้การ์ดตาเขียวที่เลี้ยงมันไว้ดูเล่น(เพราะความจำเป็นบางอย่าง) ก่อนที่จะหันไปหานิกกี้บอดี้การ์ดจริง ๆที่ยืนนิ่งอยู่เบื้องหลัง“นิก..เอาเอกสารพวกนี้กลับบ้านที เย็นนี้ฉันต้องเคลียร์ในส่วนของบนโต๊ะนี่ให้เสร็จ แล้วค่อยไปจัดการไอ้พวกนั้นที่บ้านต่อ”เอเตียนรีบจัดแจงก่อนที่จะคว้าซองมาร์ลโบโล แบล็กเมนทอลที่โปรดปรานขึ้นมาจุดสูบเวลาเครียดๆต้องอัดควันพิษเข้าไปให้เต็มปอดเพื่อความสะใจแต่มันเซ็งก็ตรงที่บุหรี่ของเขาเหลืออยู่มวนเดียวนี่แหละหงุดหงิดหัวใจชะมัดยาด

“มาแล้วครับเอสเปรสโซ่หอมกรุ่น”เลโอเนลเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มสดใส อย่าเรียกว่าบอดี้การ์ดเลย เรียกว่าบาริสต้ามือหนึ่งแห่งLa Belleจะดีกว่า ขนาดมาดามอเมเลียชิมแล้วยังติดใจ พรสวรรค์ขั้นเทพขนาดนี้ไม่ว่าใครก็ใช่ว่าจะทำกันได้ง่าย ๆ

“ไปซื้อบุหรี่มา”เสียงทุ้มของเจ้านายสวนกลับแบบไม่ให้ทันได้ตั้งตัว เล่นเอาเลโอเนลยู่หน้าอย่างไม่ชอบใจนัก นอกจากจะเป็นบาริสต้ามือหนึ่งแห่งLa Belleแล้ว เจเนอรอลเบ๊ก็เป็นงานหลักที่สำคัญของเขาอีกงานหนึ่งเลยทีเดียว อยากสกรีนทับสูทหรูของตัวเองไว้ด้านหลังด้วยข้อความที่ว่า “อะไรๆก็กู!จริงๆ

 

ต่อจากนี้ที่นี่จะถูกเรียกว่า บ้านบัวบูชามองไปรอบ ๆ แฟลตสุดหรูของปีแอร์อย่างอึ้ง ๆ แฟลตสำหรับชาวปารีสที่อาศัยอยู่ในเขต16อันเป็นเขตที่พักอาศัยของประชากรชาวฝรั่งเศสที่มีรายได้ระดับแนวหน้านั้น ไม่ได้หมายความตามคำว่าแฟลตที่เธอรู้จักเลยสักนิด

 บ้านของคุณลุงไฮโซ้ไฮโซ สาวน้อยไล่สายตาไปที่เครื่องเรือนทุกชิ้นบางทีก็เป็นปูนเปลือยผสานกับเนื้อโลหะมันวาว บางทีก็เป็นกระจกใสที่ผนวกรวมกับไม้ขัดเงาเนื้อดีการออกแบบที่ดึงความสมดุลของแมททีเรียลและและเน้นฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย ช่างเข้ากันได้ดีกับรูปทรงของบ้านที่เป็นตึกทรงสูงสไตล์ฝรั่งเศสแท้ๆ นี่มันบ้านโพสต์โมเดิร์นของแท้ “เจ๋งอ่ะ! สาวน้อยกรีดร้องอยู่ในใจ พร้อมกับรอยยิ้มที่ฉายฉายอยู่ทั่วดวงหน้าหวาน

ขณะที่ปีแอร์ผู้ซึ่งกลายเป็นคุณลุงอย่างเต็มตัวได้แต่ยืนขำกับท่าทางตื่นเต้นของหลานสาว ไม่บอกก็รู้ว่าได้แม่มาเยอะ ปาลิตาจิวเวอรี่ดีไซเนอร์สาวชื่อดังก้องโลกแห่งLa Belleผู้ผันไปเป็นคุณนายสวนทุเรียนเมื่อห้าปีก่อนเธอคงจะถ่ายทอดความเป็นศิลปินมาให้กับบัวบูชาอย่างเต็มเปี่ยม แม้ไม่ได้สืบทอดกันทางสายเลือดแต่ก็ถูกส่งผ่านมาทางจิตวิญญาณเป็นแน่แท้ นัยน์ตาดำขลับถึงมีประกายกล้าอย่างประหลาด

ทันทีที่รถแล่นเข้าสู่ปารีสเมืองแห่งศิลปะตระการตา ทั้งตึกรามบ้านช่อง สถาปัตยกรรม ประติมากรรมข้าวของเครื่องใช้ ผู้คนหรือแม้กระทั่งเสื้อผ้า นัยน์ตากลมโตของหลานสาวก็ส่องประกายแบบคนช่างสังเกตมาตลอดทางสมควรที่ส่งมาอยู่ปารีสเพราะสาวน้อยคงได้เรียนรู้อะไรอีกมากมายในสิ่งที่เธอสนใจ

“ชอบมั้ยบ้านใหม่”คุณลุงถามขณะที่สาวน้อยรีบพยักหน้าหงึกหงัก“ดีจังนึกว่าจะไม่ปลื้ม”ปีแอร์เอ่ยติดตลกพร้อมกับเดินมาโอบไหล่สาวน้อยตรงหน้า

“ใยบัวชอบค่ะ บ้านคุณลุงสวยมาก”คุณหลานตอบอย่างเป็นปลื้ม

“งั้นเดินดูรอบ ๆ บ้านกันนะ เดี๋ยวลุงจะได้บอกว่าอะไรอยู่ตรงไหนหรือของบางอย่างต้องใช้ยังไง” ปีแอร์เอ่ยชวน ก่อนที่จะพาสาวน้อยเดินดูนั่นดูนี่ไปรอบ ๆพร้อมกับต้องแนะนำผู้ร่วมบ้านคนใหม่ไปในตัว เริ่มตั้งแต่ประตูบ้านที่จะล็อคเองโดยอัตโนมัติทุกครั้งหรือว่าจะเป็นวิธีการใช้เครื่องตอบรับเวลามีคนมากดกริ่งหน้าบ้านแบบที่มีกล้องวงจรปิด ที่จะทำให้คนในบ้านสามารถโต้ตอบกับคนที่มาเยือนก่อนได้รวมทั้งอื่นอีกมากมายที่บัวบูชารู้สึกว่าคงต้องใช้เวลาสักระยะในการจดจำ

สำหรับคนอย่างปิแอร์ไม่บ่อยนักหรอกที่เขาจะอาสาพาแขกเดินชมบ้านสุดหรูที่มีไว้เพื่อซุกหัวนอนของเขาด้วยตัวเอง แต่นี่เป็นสมาชิกใหม่คนสำคัญคุณลุงคนใหม่ก็ต้องต้อนรับขับสู้สุดพลังเลยล่ะคุณหลาน 

เดินไปเดินมาจนเมื่อยลุงหลานก็พากันมากองอยู่ที่โซฟารับแขก ก่อนที่คุณลุงจะนึกอะไรขึ้นได้“ใยบัวโทรหาริต้าแล้วรึยัง”เขาร้องเตือนสาวน้อยที่สะดุ้งเฮือกขึ้นมาทันทีที่ได้ยินชื่อแม่ของตนเอง

“แหะ ๆ”คุณหลานยิ้มแหย ๆ พร้อมกับมองตาคุณลุงปริบ ๆ ลืมสนิทเลยว่าแม่ย้ำนักย้ำหนาว่าให้โทรกลับหลังจากที่เหยียบผืนแผ่นดินฝรั่งเศสแล้ว

ปีแอร์บ่นเอื้อมมือไปขยี้ผมนุ่มของสาวน้อยตรงหน้าด้วยความมันเขี้ยวพร้อมกับกดโทรศัพท์ในมือยิก ๆด้วยความชำนาญแน่นอนว่าเขาจะไม่โทรไปหาปาลิตาผู้เป็นแม่ของสาวน้อยอย่างแน่นอน โทรหาศิรการเพื่อนรักดีกว่าสบายใจกว่าเยอะ

“ว่างาย”ปลายสายรับเสียงงัวเงีย ก่อนที่จะได้ยินเสียสะบัดคอกร๊อบ ๆ

“หลานสาวถึงแล้ว ฝากบอกน้องสะใภ้ด้วย”เขารีบแจ้งข่าวอย่างเร็วรี่ ก่อนที่จะได้ยินเสียงสวนกลับ

“เออ...คุยกันเอง”ปลายสายตัดบท

“โทรมาให้มันเร็วกว่านี้มันจะตายใช่มั้ย!” ก่อนที่เสียงแหวจากปลายสาย(อีกคน)จะดังลั่นมาแต่ไกล เล่นเอาปีแอร์แอบสะดุ้งยัยริต้านี่ยังเหวี่ยงสามร้อยหกสิบองศารอบโลกไม่เลิกจริง ๆแถมพลังเสียงโซปราโน่นั่นก็สุดยอดไปเลย

“เครื่องมันดีเลย์น่ะจ้ะ” เขาอ้อมแอ้มตอบ ตั้งแต่ตบแต่งได้เป็นเมียไอ้ลูกพี่ของเขาเนี่ยยัยคนนี้มันข่มตลอด

“ดีเลบ้าบออะไร ฉันโทรไปเช็กที่สายการบินมา เขาบอกว่าถึงตั้งนานแล้ว ไม่มีดีลงดีเลย์อะไรทั้งนั้น!!!” ปลายสายกรีดร้องดังลั่นขณะที่เขาเริ่มเบ้หน้าด้วยความขยาดสาวน้อยมองหน้าผู้รับเคราะห์ด้วยความเป็นห่วงก่อนที่จะยื่นมือขอโทรศัพท์ร่างสูงใหญ่ผ่อนลมหายใจออกช้า ๆก่อนที่จะเลิกคิ้วถามด้วยความเป็นห่วง...เอาจริงหรอ...

“แม่คะใยบัวถึงแล้ว” เสียงใสรีบกรอกใส่โทรศัพท์ หลังจากนั้นเธอก็ได้ยินเสียงผ่อนลมหายใจช้า ๆ

“อย่าทำแบบนี้อีกนะ เป็นห่วงมาก” ปลายสายบ่นก่อนที่จะเงียบอยู่ครู่หนึ่ง...และเงียบไปนานเสียจนสาวน้อยรู้สึกใจหาย

“ใยบัวปารีสสนุกมั้ย”เสียงทุ้มของผู้เป็นพ่อสวนขึ้นแทน ขณะที่ลูกสาวเริ่มใจหวิว ๆ แม่ล่ะ แม่ไปไหน แม่โกรธใยบัวหรอ

“ดีค่ะ คุณลุงใจดีกับใยบัวมากไม่ต้องห่วงนะคะ”สาวน้อยตอบกลับขณะที่พ่อร้องเออออ

“จ้า ๆ โทรหาแม่บ่อย ๆ หน่อยนะ แม่คิดถึง” พ่อตอบ ก่อนที่จะได้ยินเสียงเพียะดังลั่น ตีกันอีกแล้วคู่นี้

“ใยบัวก็คิดถึงแม่ค่ะ”เธอตอบเพราะรู้ว่ายังไงแม่ก็ต้องได้ยิน

“อื้อ...โทรหาเลโอด้วยล่ะ”เสียงอู้อี้ตอบกลับมาจากปลายสาย ก่อนที่จะเงียบหายไปอีกแม่ไม่ได้โกรธแต่แม่คิดถึงใยบัวอยู่ต่างหากสาวน้อยคิดก่อนที่จะเผยยิ้มออกมาจาง ๆ

“ค่ะ ฝันดีนะคะ”จะต้องโตเป็นผู้ใหญ่กลับไปให้แม่ภูมิใจในตัวลูกสาวคนนี้ให้ได้คอยดูสิ...  

           

          ห้องนอนของบัวบูชาเป็นห้องนอนของเด็กผู้หญิงโดยแท้ ไม่ใช่อะไรแบบที่แอบคิดเอาไว้ เตียงสี่เสาที่ประดับประดาด้วยม่านลูกไม้สีอ่อน พร้อมกับเครื่องนอนสีขาวสะอาดตา ม่านโปร่งสีขาวถูกมัดรวบไว้ด้านหนึ่งเผยให้เห็นระเบียงเล็กๆสีขาวที่มี กระถางดอกเจอราเนียมสีสดใส แขวนเรียงรายรับแสงแดดเต็มไปหมด ห้องนอนสีเหลืองพาสเทล และเครื่องเรือนไม้มะฮอกกานีที่ทุกชิ้นเข้าชุดกันหมด ไม่ว่าจะเป็น ตู้ เตียง โต๊ะเครื่องแป้ง ชั้นหนังสือ โต๊ะเขียนหนังสือ ล้วนแล้วโค้งมนและมีลวดลายอ่อนช้อยพลิ้วไหว มักจะถูกแกะสลักเป็นเถาว์กุหลาบแซมออกมาอย่างกลมกลืน ห้องนอนของเธอ เรียกได้ว่าเป็นโลกของอาร์ตนูโวชัด ๆ ( Art Nouveau) ทุกอย่างล้วนแต่หวานพลิ้วด้วยท่วงท่าที่เป็นจังหวะจะโคน และคุมโทนด้วยสีที่ดูอบอุ่น และเห็นได้ชัดว่าทั่วทั้งห้องนั้นเต็มไปด้วยลูกไม้ฝรั่งเศสสีขาวสะอาดตา เครื่องนอน ผ้าคลุมโต๊ะ แม้กระทั่งผ้าเช็ดมือในห้องน้ำยังแอบขลิบขอบด้วยลูกไม้ฝรั่งเศสเลย หรูซะ คุณลุงรวยอย่างน่าเกลียดอย่างที่แม่บอกจริง ๆ จนพ่อของเธอต้องให้สมยานามว่า ปีแอร์ขาเว่อร์ ก็พอ ๆ กับ คุณลิตาขาวีน นั่นล่ะ แต่เธอชอบลุงนะ เป็นผู้ชายมีสไตล์และรสนิยมดีสุดๆ

          ชอบรึป่าวจ๊ะ! เจ้าของฉายาปีแอร์ขาเว่อร์โผล่หน้าเข้ามาดูเอ่ยถามเจ้าของห้องคนใหม่ ก่อนจะได้รับคำตอบเป็นรอยยิ้มหวาน ๆ กลับมา แอบชื่นใจนะเนี่ย ไม่เสียแรงที่เสียเงินไปหลายพันยูโรจ้างบริษัทตกแต่งบ้านชั้นนำและมัณฑนากร มือหนึ่งของปารีสมาตกแต่งห้องนอนให้บัวบูชา ทันทีที่ทราบข่าวว่าจะมีสมาชิกใหม่มาอยู่ด้วย เขาอยากให้เธอมีความสุขและรู้สึกอบอุ่นเหมือนกับอยู่บ้านตัวเอง อะไรที่สามารถหาให้ได้ เขาก็พร้อมจะมอบให้แม่หนูน้อยทุกอย่าง ประหนึ่งว่าเป็นลูกสาวของตัวเอง

          คุณลุงคะ ขอใช้โทรศัพท์ได้มั้ยคะ ปีแอร์ทำท่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้ารับอย่างงง ๆ เด็กไทยเวลาจะทำอะไรต้องขอทุกอย่างเลยหรอเนี่ย มีมารยาทจริงเชียว ดูไปดูมาก็น่ารักไปอีกแบบ อย่างน้อยก็ไม่แก่นเซี้ยวเท่ากับริต้าที่สิบสี่สิบห้าก็มีหวานใจเป็นนายเอ เตียนซะแล้ว อย่างว่าละนะเป็นวัยที่ดอกไม้กำลังผลิบาน แต่ถ้าใครจะมาจีบคุณหลาน คุณลุงขอแสกนก่อนแล้วกันว่าผ่าน ไม่ผ่าน ป้องกันนางมารร้ายริต้ามาแหกอกข้อหาดูแลหลานสาวไม่ดี

         

          มาร์ลโบโล แบล็ค เมนทอล เอามาหนึ่งแพ็คเลย เผาปอดซะให้พอ เลโอเนลพึมพำอยู่ในใจ ขณะที่กำลังหิ้วถุงกระดาษสีน้ำตาลบรรจุบุหรี่ที่เมอซิเออร์รูปหล่อฝากซื้อ ออกจากร้านตาบา(Tabac) ก่อนจะแวะซื้อไอศกรีมรูปดอกไม้ของ Amorino ร้าน ไอศกรีมเจลลาโตสไตล์อิตาลีชื่อดัง อารมณ์บ่จอยต้องกินไอติม มาธาร์ สจ๊วตเคยว่าไว้งั้นนะ พอได้ไอศกรีมรสพีชและกล้วยหอมแบบที่ต้องการร่างสูงใหญ่ในสูทสีดำก็เดินทอดน่องไปเรื่อยๆ เขาเดินเข้าตรอกเล็กๆข้างร้านขายภาพเขียนซึ่งเป็นทางลัดทะลุไปยังสำนักงาน ของLa Belle ร่างใหญ่กระตุกอยู่ครู่เมื่อเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อดังขึ้นพร้อมกับอาการ สั่นเป็นจังหวะ นิกกี้โทรมาตามแหงม ๆ ไอ้หมอนี่ต้องแอบชอบเขาชัวร์ ๆ โทรจิกซะยิ่งกว่าแม่ที่บ้านอีก นิกเอ๊ยเห็นอย่างงี้ก็เลือกนะเว๊ย ชายหนุ่มเหน็บถุงกะดาษที่ใส่บุหรี่ไว้ที่รักแร้ก่อนจะควักโทรศัพท์มือถือสี ขาวปลอดขึ้นมาอย่างทุกลักทุเล

          กำลังไปจ้า เขาตอบกลับพลางละเลียดไอศกรีมไปด้วย พอกล้วยผสมกับพีซแล้วรสชาติไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ

          ไปไหนคะพี่ชาย ตกตะลึงพรึงเพริด นี่มันเสียงใส ๆ ของน้องสาวเขานี่นา เจ้าของนัยน์ตาสีเขียวสำลักจนไอติมพุ่งพรวด แต่นี่มันโลคอล นัมเบอร์ (Local Number)นี่นา ไม่ใช่เบอร์จากเมืองไทยที่เขาจำได้เสียหน่อย

          เฮ้..น้องสาว ! ” เขาร้องเรียกด้วยความตกใจไม่หาย พลางมองไอศกรีมที่กำลังเริ่มละลายอยู่ในมือด้วยหัวใจเต้นระรัว แม้จะติดต่อกันอยู่บ่อยๆแต่ปรกติน้องสาวจะไม่โทรมาในเวลางานของเขานี่นา ถ้าหากว่าเมอซิเออร์รู้ว่าเขายังแอบติดต่อกับสาวน้อยใยบัวอยู่ละก็ มีหวังไอ้หนูเลได้ตายหยังเขียดแหง ๆ

          ใยบัวอยู่ปารีส เซอร์ไพรซ์มั้ยคะ เสียงใสหัวเราะคิกคักทำเอาวิญญาณน้อย ๆ ของไอ้หนูเลผู้แสนอับโชคแทบจะหลุดออกมาจากร่างเสียให้ได้ เซอร์ไพรซ์มากค่ะ สุด ๆ ไปเลย

          เอ๋ มากับมาดามหรือจ๊ะ เออวะ อย่างน้อยก็ยังมีมาดามเอาไว้คุ้มกะลาหัว อย่างมาดามเนี่ยนะจะปล่อยให้ลูกสาวตัวน้อยน่ารัก มาปารีสคนเดียว ไม่มีทาง ! ร่างสูงใหญ่พยายามปลุกปลอบตัวเอง

          มาคนเดียวค่ะ นั่น!! แล้ว มันก็มีทางจนได้ แค่คิดถึงนัยน์ตาดุ ๆ สีน้ำเงินของเมอซิเออร์เวลาโกรธแล้วนั้น ร่างสูงใหญ่ถึงกับหนาวเยือกขึ้นมาด้วยความกลัวพาลให้นึกถึงนัยน์ตาสีน้ำเงิน เรืองรองยามต้องแสงจันทร์ในคราวนั้น รู้ได้ในทันทีเลยว่าเจ้าของดวงตาคู่นั้นสามารถฆ่าเสือเบงกอลได้ด้วยมือเปล่า..กลัวจังเลยแม่จ๋า!!

          เอ๋ ! ” เขาร้อง

หนีออกจากบ้านมาหรือจ๊ะ จะบอกว่าให้หนีไปอยู่ประเทศอื่น อย่ามาเชียวฝรั่งเศสเนี่ย โดยเฉพาะปารีส เนื่องจากว่ามีปีศาจตนหนึ่งกำลังหลับใหลอยู่ในกายของเทพบุตรหนุ่มรูปงาม ถ้าหนูมามันต้องตื่นขึ้นมาอาละวาดเป็นก็อตซิล่าบุกปารีสแน่ ๆ อย่าได้เจอะได้เจอกันเลยนะ กับเมอซิเออร์เอเตียนนั่นน่ะ

          เปล่าค่ะมาเรียนหนังสือกับคุณลุง เสียงใสตอบกลับ ก่อนจะขยายความต่อ ปีแอร์ กาลาส เพื่อนพ่อของใยบัวไงคะ พี่ชายไม่รู้จักหรอ ออกจะดัง

          นรก ! ร่างสูงใหญ่สบถลั่นอยู่ในใจ เมอร์ซีเออร์กาลาส ทำไมเขาจะไม่รู้จักล่ะ ศัตรูคนสำคัญและคู่แข่งตลอดการของเมอซิเออร์เอเตียน ผู้ถือหุ้น La Belle อันดับ สองรองลงมาจากมาดามอเมเลียนผู้เป็นแม่ของเมอซิเออร์เจ้านายเขานั่นไง โลกมันกลม หรือพรหมณ์ลิขิต อย่างไรก็ไม่ทราบแน่ แต่ถ้าเมอซิเออร์รู้ปารีสได้ราบเป็นหน้ากลองแหง ๆ

         

          รู้จักจ้า รู้จัก รู้จักเขา รีบตอบรับแสร้งทำเสียงสดใส ขณะที่สาวน้อยซึ่งอยู่อีกปลายสายชำเลืองมองหน้าปิแอร์ที่กำลังเอนกายดูหนัง ไปพลางกินป๊อบคอร์นไปพลางอยู่ข้างๆ

          คุณลุงบอกว่า ว่าง ๆ ก็ให้ชวนพี่ชายมากินมื้อค่ำที่บ้านด้วยกันค่ะ สาวน้อยเอ่ยชวน ขณะที่คุณลุงวางรีโมทคอนโทรลมาขยี้หัวหลานสาวเบา ๆ

          ชะอุ๋ย ! ” เสียงอุทานดังมาจากปลายสาย

          ไม่ว่างหรือคะ น้ำเสียงของบัวบูชาออกอาการเศร้าสร้อยอย่างเห็นได้ชัด จนปลายสายจับสัญญาณของความผิดหวังได้

          ช่วงนี้พี่งานยุ่งน่ะ แต่ว่าหลังเลิกงานสัญญาว่าจะพาน้องสาวไปเที่ยวเพื่อเป็นการไถ่โทษนะจ๊ะ บัวบูชาเปลี่ยนมายิ้มจนแก้มปริ เอาเรื่องเที่ยวมาล่อแบบนี้มีหรือที่จะปฏิเสธ

          ขออนุญาตคุณลุงก่อนนะคะ แล้วค่อยว่ากัน เธอหันไปส่งสายตาออดอ้อนให้กับปีแอร์ที่กำลังเลิกคิ้วมองมาด้วยความสงสัยเช่นกัน

          ได้จ้า บ๊ายบายนะจ๊ะ ปลายสายตอบกลับด้วยน้ำเสียงสดใส

          บ๊ายบายค่ะ บัวบูชากดตัดสายไปแล้วแต่รอยยิ้มยังไม่จางไปจากใบหน้าจิ้มลิ้ม

  พี่ชายไม่ว่างค่ะ แต่บอกว่าจะพาไปเที่ยวปารีส ถ้า..คุณลุงอนุญาต คุณ หลานเริ่มอ้อนอีกครั้ง ขณะที่เจ้าของนัยน์ตาสีสนิมเหล็กครุ่นคิด เพื่อนของริต้า แล้วใยบัวสนิทสนมกันถึงขั้นเรียกว่าพี่ชายก็น่าจะไว้ใจได้แหละ

          อย่าให้เกินสองทุ่มนะจ๊ะสาวน้อย ปิแอร์ ที่เพิ่งหายงงเอ่ยพร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่น แล้วกลับไปตั้งอกตั้งใจดูอลิซในดินแดนมหัศจรรย์ที่ถึงจุดไคลแม็กซ์ของเรื่อง พอดิบพอดี แต่คนที่กำลังจะได้ไปเที่ยวนี่สิ..ดูไม่รู้เรื่องแล้วเพราะตอนนี้ใจเธอมัน ลอยไปเที่ยวถึงไหนต่อไหน อยากให้ถึงเวลานั้นเร็วๆจัง

 

นัยน์ตา ของคุณลุงมีแววกังวลอย่างเห็นได้ชัด เมื่อได้รับโทรศัพท์จากอาวีลีนเลขาแสนสวย เขาจำเป็นต้องไปประชุมผู้ถือหุ้นอย่างลับ ๆ ที่ไมอามี่ในอีกสามวัน แถมยังต้องบินไปเมืองจีนเพื่อดูโรงงานสิ่งทอกับเข้าร่วมสัมมนาเรื่องปัญหา จากอุตสาหกรรมของก็อปเกรด AAA ที่กำลังเฟื่องฟู ขนาดหลุยส์ วิตตองยังร้องไห้มาแล้ว La Belle จะ เหลือหรอ แล้วจะให้หิ้วหลานสาวไปด้วย ไม่ใช่เรื่องแน่ ๆ คิดไปมือใหญ่ก็คว้าป๊อปคอร์นเข้าปากไปเรื่อย เป็นครั้งแรกที่มีใครถามเขาว่า จะกินในถุงหรือว่ากินในชาม เออมันก็แปลกดีที่เขารู้สึกดีกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้ บ้านดูเป็นบ้านขึ้นเยอะตอนที่มีสมาชิกมาเพิ่มขึ้นอีกหนึ่ง หลังจากที่เขาใช้มันเป็นแค่ที่ซุกหัวนอนอยู่นานหลายปี

         

          หลังจากที่ลางานครั้งแรกในรอบสี่ปี ปีแอร์ก็กลับเข้าสู่โหมดที่ทั้งชีวิตและจิตใจมีแต่งานเสียจนกระดิกตัวไปไหน ไม่ได้ ไหนจะต้องอ่านรายงานผลประกอบการในไตรมาสที่ผ่านมาที่หนาเป็นตั้งๆ แล้วยังจะต้องประชุมกับฝ่ายมาร์เก็ตติ้งเพื่อหารือเรื่องการทำตลาดในตะวัน ออกกลางอีก โอ๊ยปวดหัว ในใจก็นึกห่วงหลานสาววัยสิบเจ็ดที่จำเป็นต้องปล่อยให้อยู่บ้านอยู่คนเดียว แถมพรุ่งนี้ยังต้องบินไปไมอามี่อีกและต่อด้วยเมืองจีนอีกกว่าจะกลับก็ตั้ง อาทิตย์หน้าโน่นแน่ะ

          เขาออกจากบ้านแต่เช้าตั้งแต่บัวบูชายังไม่ตื่น พอกลับถึงบ้านคุณหลานก็หลับปุ๋ยไปเสียแล้ว ก็ยังดีที่ทุกมื้อเช้า กลางวัน และเย็นของสาวน้อยจะมีอาหารจากโรงแรมห้าดาวมาส่ง อาจจะต้องพึ่ง พี่ชายเพื่อน ของริต้าในบางที ลึก ๆ แล้วคุณลุงก็แอบคิดเล็ก ๆ ว่าใครกันหนอ คือพี่ชายของหลานสาว เพื่อนที่เป็นผู้ชายของริต้าน้องสะใภ้คนสวยที่เขารู้จักก็มีแค่...ไอ้เตียน เอ๊ย ! เอเตียนคนเดียว แต่จะเป็นไปได้หรือ ที่คนอย่างมัน เอ๊ย ! คน อย่างเขา จะเจียดเวลาที่แสนจะมีค่า มาคอยดูแลสาวน้อยตัวเล็ก ลูกสาวของอดีตคู่หมั้น ถ้าไม่มีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง คนอย่างเอเตียนเทพบุตรรูปงามไม่มีวันที่จะทำหรอก วัน ๆ มันก็นั่งหล่อเป็นปู่โสมเฝ้าทรัพย์หวงสมบัติแม่มันอยู่บนเก้าอี้ผู้บริหาร La Belle อยู่ นั่นไง ได้ข่าวมาว่าหลังจากที่ไปงานแต่งงานของริต้ากับศิรการเพื่อนรักของเขาเมื่อ ห้าปีก่อน สองคนนี้ก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย และด้วยความเป็นอดีตคู่หมั้นกันเนี่ยแหละ ริต้าคนสวยเลยใช้มารยาหญิงหลอกให้เพื่อนรักของเขาออกคำสั่งสายฟ้าฟาดให้เขา ถอนตัวออกจาก La Belle ระหว่างริต้ากับเอเตียนความสัมพันธ์ของคนคู่นี้ก็แสนจะคลุมเครือ หลังจากที่เขาถอยออกมาจาก La Belle ก็ ขอลงความเห็นว่าดูไปดูมาก็ไม่เห็นจะมีอะไรในบริษัทที่มันดูเจริญขึ้นซักกะติ๊ด ก็เลยอยากจะเทคโอเวอร์ให้อะไร ๆ มันดีขึ้น ถึงเราจะเป็นญาติกันก็เถอะ แต่โทษทีนะเตียนที่นายมันอ่อนแอ เรื่องผลประโยชน์นี่มันไม่เข้าใครออกใครจริง ๆ

 

          รำคาญจริงโว้ย !  สายตาคมกริบราวกับใบมีดโกนมองเลโอเนลด้วยแววตาตำหนิกับท่าทีหลุกหลิกของเขา ไม่รู้ว่าคิดถูกหรือคิดผิดที่ยังเก็บมันไว้อยู่ข้างตัว แต่เลี้ยงไปเลี้ยงมาก็ล่วงเลยมาแล้วตั้งห้าปี นอกจากชงกาแฟกับไปซื้อบุหรี่ มันก็ดูจะไม่มีประโยชน์สำหรับเขาเลยสักนิด ถ้าหากมันไม่ใช่ ไอ้เวรที่แอบมากิ๊กกับ แฟนของ เขาละก็ คงไม่เลี้ยงไว้ให้เสียข้าวสุกหรอก ยังจำได้ดีว่าเมื่อห้าปีก่อนมันบังอาจเอารูปแฟนของเขาขึ้นดิสเพล แถมยังคุยโทรศัพท์กันจ๊ะจ๋าคะขาเสียน่ากระทืบ ก็เลยจำเป็นต้องจัดหนักประกาศศักดาให้รู้ว่าของ ๆ ใครเป็นของ ๆ ใคร เรื่องมันเลยวุ่นวายไปกันใหญ่เมื่อลืมไปว่าเขานั้นเป็นทายาทแห่ง La Belle ที่ ประวัติต้องใสกิ๊งเหมือนน้ำแร่จากเทือกเขาแอลป์ กลับมาปารีสก็เลยต้องเก็บมันไว้ใช้เงินปิดปาก ดีไม่ดีอาจจะได้รู้ข่าวคราวของอีกคนนึงด้วย แค่คิดก็พาลพาให้หัวใจที่แสนหงุดหงิดงุ่นง่านของเขาสดใสเบิกบานขึ้นมาถนัดตา ดอกบัวขาวบริสุทธิ์ของริต้า แต่เป็น Lilly of the valley ของเขา ราวกับตะเกียงไฟเล็กๆ ที่คอยส่องสว่างให้คนที่มืดมิดและสิ้นไร้หนทางอย่างเขามองเห็นอีกตัวตนที่ซุกซ่อนอยู่ในตัวเอง บางทีเขาก็แค่อยากเป็นผู้ชายธรรมดา ๆ ที่ได้รักเธอก็เท่านั้นเอง

เมอซิเออร์คะ ! ” เสียงหนึ่งร้องขึ้นด้วยความหงุดหงิด ทำเอาเขาแอบสะดุ้ง

ดิฉันเตือนคุณแล้วใช่ไหมว่ากรุณาอย่าสูบบุหรี่ก่อนออกไปพบสื่อ เพราะกลิ่นของมันจะทำให้ภาพลักษณ์ของบริษัทเสื่อมเสีย และอยากเป็นผู้ชายธรรมดา ๆ ที่สูบบุหรี่ได้ เมื่ออยากสูบ ไม่เข้าใจว่ายัยป้านี่ใช้ปอดร่วมกับเขาหรือยังไงนะ ถึงได้เป็นเดือดเป็นร้อนจัง

ถ้ามันเสียหายนักก็นัดสัมภาษณ์กันวันอื่น ร่างสูงสง่าบนเก้าอี้ผู้บริหารสวนขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ จะมาเยอะกับเขาเรื่องงานเขาไม่เคยว่า แต่ความเป็นส่วนตัวเป็นเรื่องที่เขาหวงและห้าม !

          มาดามอเมเลียไม่เคยทำตัวไร้เหตุผลเช่นนี้ เล่นเอาเอเตียนถึงกับชาวาบไปทั้งตัว ขณะที่นัยน์ตาสีน้ำเงินสั่นระริกด้วยความโกรธขณะที่เรียวปากบางเม้มเข้าหากันจนเป็นเส้นตรง

  ดิฉันก็แค่เตือนคุณค่ะ ในฐานะที่คุณเป็น ว่าที่ท่านประธานคนใหม่ ภาพลักษณ์ที่ดีสำคัญกว่าอะไรทั้งสิ้นสำหรับ..คนที่ยังอ่อนประสบการณ์อย่างคุณคุณเลขาวัยดึกสวนกลับก่อนที่จะสะบัดก้นใหญ่ๆกลับไป

          ...ผมไม่ใช่อเมเลีย เขาพึมพำเสียงแผ่ว ก่อนที่จะผ่อนลมหายใจออกช้า ๆ เพื่อระงับความกรุ่นโกรธที่กำลังปะทุอยู่ในใจ ถ้าเอาที่เขี่ยบุหรี่ปาหัวยัยป้านี่ ตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดก็คงจะปลิดปลิวราวกับพญาอินทรีย์โดนสไนเปอร์สอยเป็นแน่ อย่าพลาดมาก็แล้วกันนะป้า ไม่เช่นนั้นจะโดนมิใช่น้อยเลยทีเดียว

 

          นิโกลาส์ที่ยืนอยู่เบื้องหลังของเอเตียนมองมาที่เจ้านายด้วยความเห็นใจ ก่อนจะก้มลงกระซิบกระซาบบางอย่างที่เขาเคยได้ยินสาว ๆ ในออฟฟิศเม้าท์กันมา มันเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจสำหรับคุณโซฟีที่เมอซิเออร์ควรจะทราบ นี่คือเหตุผลที่หล่อนยังครองพรหมจรรย์อยู่ยาวนานจนถึงทุกวันนี้

          สิ้นเสียงของนิโกลาส์ เอเตียนที่นั่งหน้าเครียดอยู่ก็ถึงกับสำลักขำออกมาอย่าง หลีกเลี่ยงไม่ได้ บอดี้การ์ดผิวสีของเขาหันมามองใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังกลั้นขำจนหน้าดำหน้าแดง พลางคิดในใจว่า ที่บอกเนี่ยไม่ได้ให้ขำ บอกให้เห็นใจเธอบ้างต่างหากเล่า

          แต่แปลกที่คนที่เส้นตื้นมากที่สุดอย่างเลโอเนลกลับไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับมุกของนิโกลาส์ จนเอเตียนนึกเอะใจ

  นายเป็นอะไรรึเปล่าเลโอ เสียงทุ้มกังวานร้องถามบอดี้การ์ดตาเขียวที่ยืนมองประตูไปพลางมองนาฬิกาไปพลาง ร่างใหญ่สะดุ้งเฮือก ขณะที่เหงื่อเริ่มจะซึม ๆ ออกมาจนเห็นได้ชัด

 

          จะไม่ให้สั่นเป็นเจ้าเข้าได้ยังไงล่ะ ก็วันนี้เขานัดน้องสาวเอาไว้ ว่าจะไปพาไปเที่ยว ถ้าเมอซิเออร์รู้ต้องถูกบั่นคอด้วยกิโยตินแน่ๆ ไอ้เลเอ๊ย..ทั้งตื่นเต้นทั้งกลัวจริงๆนะ

อะ...เอ้อ ! ไม่มีอะไรครับเมอซิเออร์ ผมปรกติดี คนปรกติดีตอบเสียงสั่น เหงื่อซึมจนมือเปียกไปหมด

          นัยน์ตาคมมองไอ้หนูเลเด็กปั้นของมาดามริต้า ที่ห้าปีเป็นยังไง ก็เป็นยังงั้น มันยืนทำท่าเหมือนจะร้องไห้ ก็ยังบอกว่าไม่มีอะไรอีก

ก็ดี! ” เอเตียนอัดควันบุหรี่เข้าปอดต่อ โดยไม่ได้สนใจคำตำหนิของป้าเลขาเลยสักนิดเดียว แม้น้ำเสียงจะฟังดูไม่ใส่ใจนักแต่ในใจกลับรู้สึกสังหรณ์ใจอะไรแปลก ๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

          ชายหนุ่มยืดตัวขึ้นจากเก้าอี้ผู้บริหาร ก่อนที่จะเดินหายเข้าไปในห้องลับข้างห้องทำงานของเขา มันถูกสร้างไว้เคียงคู่กับห้องของผู้บริหารระดับสูงของ La Belle ทุกคน และมีเหมือน ๆ กัน ในสำนักงานใหญ่ของ La Belle ประจำ ภาคพื้นทวีปรอบโลก ห้องพักส่วนตัวที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถเข้าไปได้นอกจากผู้ที่เป็นเจ้าของโดยสมบูรณ์ ชายหนุ่มสแกนลายนิ้วมือ พร้อมกับลงรหัสเลขสิบสองหลัก ก่อนที่ประตูเหล็กบานใหญ่จะเปิดออก เขาทิ้งตัวลงนอนบนเตียงสปริงขนาดคิงไซส์หนานุ่ม ก่อนจะหยิบกระเป๋าสตางค์ที่อยู่ในกางเกงผ้าวูลเนื้อดีขึ้นมาดู ไม่เคยรู้สึกคิดถึงใครได้มากมายเท่านี้มาก่อนเลยจริง ๆ ขอมองหน้าเธอแล้วหลับสบาย ๆ ซักงีบก่อนที่จะกลับไปเป็นเมอซิเออร์เอเตียนต่อ อ้อ ! ตื่นขึ้นมาแล้วก็อย่าลืมแปรงฟัน เปลี่ยนเสื้อผ้า พร้อมกับฉีดน้ำหอมให้ฟุ้ง เอาใจเจ้าป้าด้วยล่ะ ขี้เกียจจะมีปัญหา

 

น้องสาวโตเป็นสาวแล้วจริง ๆ ด้วย เลโอเนลยิ้มแป้นเมื่อเห็นหน้าของสาวน้อยบัวบูชาตัวเป็น ๆ อีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้เจอหน้ากันนานนม เพราะที่ผ่านมาติดต่อกันทางโทรศัพท์บ้างและอีเมล์ซะเป็นส่วนใหญ่ วันนี้เลโอเนล(แอบ)นัดแนะกับบัวบูชาหน้าร้านขายโปสการ์ดใน Metro สถานีทรอคาเดโร (Trocadéro) เหตุเพราะบัวบูชายังไปไหนมาไหนเองไม่คล่องการเจอกันที่สถานีรถไฟเป็นอะไรที่ สะดวกแม้ว่าผู้คนจะพลุกพล่านเนื่องจากเป็นเวลาเลิกงานของชาวปารีเซียง

          Salut ! ” บัวบูชาร้องทักเป็นภาษาฝรั่งเศสด้วยน้ำเสียงสดใส สาวน้อยวันนี้รวมผมดำเป็นมันขลับแนบตึงเป็นหางม้าสะบัดไปมา เข้ากับเสื้อยืดสีขาวสกรีนลายกราฟิกทับด้วยสเวตเตอร์ตัวใหญ่โคร่งสีดำ กางเกงยีนส์และบู้ทหุ้มข้อยี่ห้อ Dr Martin อีกทั้งกระเป๋าหนังแบบสะพายเฉียงขับให้สาวน้อยตัวเล็กดูปราดเปรียวและคล่องแคล่วเข้าไปใหญ่ มิกซ์แอนแมชสมกับเป็นลูกสาวของมาดามริต้าจริง ๆ

          Salut ! ” เลโอทักตอบด้วยน้ำเสียงสดใสไม่แพ้กัน ชายหนุ่มอยู่ในชุดเสื้อเชิตสีขาวพับแขน มีเสื้อสูทสุดหรูที่บัดนี้ยับยู่ยี่พาดอยู่บนบ่ากว้าง ไม่เหลือเค้าเมน อิน แบล็ก แบบที่บอดี้การ์ดทั่วสหภาพยุโรปนิยมใส่กันเพื่อเพิ่มความน่าเกรงขาม สาวน้อยโผลกอดร่างใหญ่ด้วยความคิดถึงก่อนจะทักทายแบบฝรั่งเศสที่แม่สอนให้ทำ บ่อย ๆ แก้มชนแก้มกับคนที่สนิท ในนี้ก็มีแค่คุณลุงกับพี่ชายนี่แหละที่เธอรู้สึกว่ากล้าทำชนแก้มซ้ายแล้วไปชนแก้มขวาแอบเขินแต่ก็ดูสนิทสนมกันดี

          เริ่มจากตรงไหนกันดีเราเลโอเนลหยิกแก้มยุ้ยของคนตรงหน้าด้วยความมันเขี้ยว..น่ารักจริงเชียวยัยเด็กคนนี้

          ใยบัวอยากเดินดูปารีสให้ทั่วๆ เริ่มจากตรงแถวๆนี้ก่อนก็ได้ เสร็จแล้วเราไปหาอะไรกินกัน ดีมั้ยคะ สาวน้อยส่งยิ้มน่ารักมาให้ก่อนจะเดินคล้องแขนชายหนุ่มออกจากเมโทรเล่นเอาคน ตัวโตหน้าบาน ลืมไปซะสนิทว่าที่กำลังทำอยู่เนี่ยถ้าเมอซิเออร์มาเห็นเข้าละก็..เป็นเรื่อง มีหวังได้ระเบิดบู้มแล้วตัวเขาก็กลายเป็นโกโก้ครั้นจ์แน่ๆ พอนึกขึ้นได้สัญชาตญาณแห่งการเอาตัวรอดก็เริ่มทำงาน ชายหนุ่มหยิบแว่นกันแดดสีดำขึ้นมาใส่ หวังไปว่ามันคงช่วยอำพรางไม่ให้ คนที่คุณก็รู้ว่าใครจำเขาได้ถ้ามาเห็นเข้า โอเค เล็ทสะโก คนหล่อพร้อมแล้วจ้า

          เลโอพาสาวน้อยจากเมืองไทยเดินทอดน่องเลียบแม่น้ำแซนก่อนจะพาข้ามสะพานเลนา เพื่อมุ่งตรงไปยังหอไอเฟล โชคดีที่วันนี้อากาศดีเพราะเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิย่างเข้าฤดูร้อน อากาศในปารีสยามเย็นเช่นนี้จึงเหมาะแก่การเดินเล่นเป็นที่สุด เพราะไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไปอีกทั้งยังมีลมพัดมาอ่อนๆ พาเอากลิ่นละอองเกสรดอกไม้ที่กำลังผลิดอกสะพรั่งอยู่ทั่วปารีสมาด้วย มันเป็นกลิ่นที่บัวบูชาไม่เคยได้กลิ่นที่ไหนมาก่อน..กลิ่นของปารีส

          ทั้งสองเดินไปคุยไป บางทีคนตัวใหญ่กว่าก็หยุดถ่ายรูปให้สาวน้อยที่ดูจะตื่นตาตื่นใจกับไอ้โครง เหล็กมหึมาที่เรียกว่าหอไอเฟลเป็นพิเศษ ซึ่งในความคิดของเลโอเขาไม่เห็นว่ามันน่าถ่ายรูปด้วยตรงไหนเลย ทำไมคนชอบมาด้อมๆมองๆไอ้หอนี่กันจัง เดินไปเดินมาก็ชักจะเหนื่อยเจ้าถิ่นจึงเสนอไอเดียให้เปลี่ยนจากเดินไปเป็น นั่งรถเมล์แทน ซึ่งบัวบูชาก็ไม่ขัดศรัทธาเพราะเริ่มจะเมื่อยและหิวขึ้นมานิดๆ ร่างสูงจึงพาลูกทัวร์คนเดียวของเขาขึ้นรถเมล์ชมเมืองราวกับเป็นทัวร์อาม่า จากเมืองจีน ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองหัว เอ๊ย..สองตัวจริงๆ ไหนจะไม่ต้องเดินให้เหนื่อยแถมยังไม่ต้องกลัวว่าเมอซิเออร์จะมาเห็นอีก ไม่เคยเห็นใครฉลาดเป็นกรดอย่างผู้ชายที่ชื่อเลโอเนลเลยจริงจริ๊ง

          บัวบูชาเคี้ยวเนื้อบดทอดกับมันฝรั่งตุ้ยๆจนแก้มตุ่ยอย่างมีความสุข สุโก้ย ! ” สาว น้อยร้องพร้อมกับชูนิ้วโป้งสองนิ้วให้กับพี่ชายตาเขียว ขณะนั่งกันอยู่ในร้านอาหารเล็กๆ บนถนนโคโลมบ์ไม่ไกลจากวิหารนอเตรอะตาม ดวงตาโตใสมีประกายแห่งความปลาบปลื้มในรสชาติอาหารอย่างเห็นได้ชัด ไม่บ่อยนักหรอกที่เด็กสาวที่โตมากับสำรับน้ำพริกและอาหารไทยรสจัดจ้านอย่าง เธอจะกินอาหารฝรั่งได้อย่างเอร็ดอร่อยเช่นนี้ นี่อาจเป็นเพราะว่าได้เจอกับเลโอก็เป็นได้ เขาเองก็มีความสุขที่ได้เจอกับเธอเช่นกันถึงขนาดหยิบโทรศัพท์มาชักภาพสาว น้อยน่ารักทุก ๆ สามนาทีด้วยความบ้าคลั่งเห็นจะได้ แม้ว่ามันจะเสี่ยงถ้าหากเมอซิเออร์มาเจอเข้า แต่ก็นั่นละนะ อดใจไม่ได้ซักที ตอนนี้เป็นพี่ชายที่เห่อน้องสาวเอามาก ๆ น่ารักอ่ะ เครซี๊ เครซี่ (เดี๋ยวได้เครซี่จริงๆแน่ไอ้หนูเลเอ๊ย)

 

          นิ โกลาส์เห็นท่าทางแปลก ๆ ของเลโอเนลมาหลายต่อหลายวัน โดยเฉพาะวันนี้ที่มันดูจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเป็นพิเศษ เพื่อความปลอดภัยของเมอซิเออร์เขาจึงตามมาดูความประพฤติของไอ้คนมีพิรุธอยู่ อย่างเงียบ ๆ ที่แท้มันก็แอบมีแฟนนี่เอง นัยน์ตาสีดำสนิทมองเลโอที่กำลังระริกระรี้ด้วยสีหน้านิ่งเฉย พลางพยายามจับสังเกตคู่เดทของเพื่อนร่วมงานจากด้านหลังเป็นเด็กหญิงเอเชีย ที่ดูยังไงก็ไม่น่าจะเกินสิบสองสิบสามไปได้ อย่างนี้ไงมันถึงหลุกหลิกหยุกหยิกอยู่ตลอดเวลา ก็มันแอบกินเด็กนี่เอง ไม่คิดว่าไอ้คนเพ้อเจ้ออย่างมันจะกล้าทำเรื่องที่ผิดศีลธรรมได้ขนาดนี้ อยากจะแจ้งตำรวจจับมันจริง ๆ แต่ก็นะ ความรัก...ใครห้ามได้ล่ะ แต่ก็นั่นแหละชาวคริสต์ตัวอย่างเช่นเขารู้สึกไม่ปลื้มอย่างแรง ชิส์ !

 

          เอเตียนสลัดหัวจนกระดูกลั่นดังกร๊อบ ๆ ด้วยความเมื่อยขบ เล่นเอาคนมีชะนักติดหลังอย่างเลโอเนลสะดุ้งโหยง พร้อมกับมองมาด้วยนัยน์ตาสั่นระริก ไม่ว่าเมอซิเออร์จะทำอะไรเขาก็รู้สึกตื่นกลัวไปเสียหมด โอ๊ย ! หัวใจจะวายตาย ทำไมช่วงนี้รู้สึกว่าเมอซิเออร์ตัวใหญ่ขึ้นเป็นสองถึงสามเท่านะ

          นิกโกลาส์เลิกคิ้วถามถึงอาการตื่น ๆ ของเพื่อนร่วมงาน ทั้ง ๆ ที่ก็รู้อยู่แล้วล่ะ ว่ามันเป็นเดือดเป็นร้อนด้วยเรื่องอะไร

          เอิ่ม...ปวดฉี่อ่ะ เลโอเนลรีบตอบเสียงสั่นก่อนที่จะวิ่งฉิวออกไป

 

          มันเป็นอะไรของมัน คุณเจ้านายบ่นพึมพำขณะที่ยังคร่ำเคร่งกับกองเอกสารอย่างไม่ลดละ ช่วงนี้ต้องเร่งเครื่องเพราะดูเหมือนว่าไอ้กากกาลาสมันดูจะฟิตเปรี๊ยะเต็ม กำลัง เสียจนผู้ถือหุ้นรายอื่น ๆ เริ่มจะเอนเอียงให้การสนับสนุนกับปิแอร์อัศวินหนุ่มเจนสนามรบ ขณะที่เขาทำงานแทบเป็นแทบตายก็เป็นได้แค่ เอเตียนเจ้าชายน้อยเจ้าสำราญ กากเอ๊ย ! กากกว่านี้มีอีกมั้ย

          ช่วงนี้เลโอกำลังมีความรัก พรายดำกระซิบเบา ๆ ขณะที่เขาเหลียวหันมามองต้นเสียงด้วยความประหลาดใจ ไอ้ล่ำจอมเบ๊อะเนี่ยน่ะนะ

  ที่มันดูเอ๋อ ๆ เพราะว่า...เอ่อ...รักต้องห้าม คำหลังเล่นเอาคนฟังสะดุ้งเฮือกเลยทีเดียว เหมือนนิโกลาส์จะตีวัวกระทบคราดโดยไม่รู้ตัว

          ชีฮ็อทมั้ยล่ะ เขาถามไปเรื่อย ขณะที่ในใจเริ่มคิดถึงเรื่อง...รักต้องห้าม...ของตัวเอง

          เด็ก ร่างใหญ่กระตุกรอบสอง คราวนี้เขาแอบเห็นใจเลโอเนลอยู่ลึก ๆ ที่ต้องมีชะตากรรมเช่นเดียวกับตัวเอง

เด็กมาก ๆ เลยเมอซิเออร์ ประมาณสิบสองสิบสามเห็นจะได้ ผิดศีลธรรมมาก เดินไปทางไหนนะก็มีแต่คนมอง แบบนี้มันน่าแจ้งตำรวจจับเข้าคุกเสียให้เข็ด นิกกี้บ่นด้วยน้ำเสียงที่เจือไปด้วยความไม่ชอบใจอย่างแรง ขณะที่คนฟังคิดวกไปวนมาแต่กับเรื่องของเขากับสาวน้อย ขนาดคนธรรมดา ๆ อย่างเลโอยังขนาดนี้ แล้วถ้าเป็นเรื่องของเขากับใยบัวล่ะจะขนาดไหน คำก็ผิดศีลธรรม คำก็จับเข้าคุก รักเด็กมันผิดตรงไหนวะนิกถามจริง เอเตียนได้แต่แย้งอยู่ภายในใจขณะที่ใบหน้ายังคงนิ่งเฉย

          เอาเหอะ เขารีบตัดบทก่อนที่คนมีชะนักติดหลังจะเหวอะหวะด้วยวาจาเชือดเฉือนประหัดประหารของบอดี้การ์ดคู่ใจ

          แต่นิกกี้ขาเม้าท์ยังไม่ยอมหยุดเมื่อมือใหญ่หยิบโทรศัพท์สีขาวปลอดของใครบางคน ที่ลืมเอาไว้มากดยิก ๆ ก่อนจะยื่นให้กับเจ้านายพลางกระซิบกระซาบเบา ๆ

รู้แล้วเหยียบไว้เลยนะ เมอซิเออร์ มือเรียวรับโทรศัพท์มาดูอย่างไม่ใส่ใจนัก แต่เมื่อสายตาคมจับจ้องไปที่หน้าจอโทรศัพท์ก็เล่นเอาวิญญาณของเขาแทบหลุดออก จากร่างด้วยแรงโกรธมหาศาล

          เออ ! เหยียบแน่ กูอยากเหยียบหน้ามัน !!!









แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 55 20:57:35

แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 55 19:41:15

แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 55 19:39:32

แก้ไขเมื่อ 10 ม.ค. 55 19:34:38

จากคุณ : พบพร
เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 19:31:37




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com