พบกันตอนที่สองแล้วนะคะ แต่ต้นฉบับยาวไปหน่อยขอแบ่งเป็นสองตอนแล้วกันนะคะ
อาถรรพ์กำลังเดินหน้าเข้าหาลูน่าแล้วค่ะ
Hexi : ขอบคุณค่ะ แวะมาอ่านบ่อยๆ นะคะ 
ขอบคุณสำหรับกิฟนะคะ สามปอยหลวง, มานีโอลา, นารีจำศีล 
ตอนที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11553809/W11553809.html
+++++++++++++++++++++++++++++++++
2
48 ชั่วโมงก่อนหน้านั้น....
อรุณสวัสดิ์ค่ะ ลูน่ายิ้มทักยามรักษาความปลอดภัยประจำตึกคณะ
มาแต่เช้าเลยนี่
แต่ก็ไม่ใช่คนแรกนี่ หญิงสาวตอบ เธอแน่ใจว่าเห็นรถยนต์ของดร.เกรทจอดอยู่ แสดงว่าโปรเฟสเซอร์คงมาแต่เช้าตรู่
ด็อกเตอร์ยังไม่ได้กลับเลย
หา! อย่าบอกนะคะว่าตั้งแต่เมื่อคืน
หญิงสาวนึกทึ่งความทุ่มเทของอาจารย์ ใบหน้าสะสวยของเธอแสดงความนึกคิดในใจอย่างไม่ปิดบัง ลูน่าเดาว่าอาจารย์ของเธอคงหมกหมุ่นอยู่กับการตรวจสอบวัตถุโบราณที่เพิ่งได้มาแน่ๆ แถมทำท่าว่าจะสนุกจนลืมเวลาเสียด้วยล่ะมั้ง ร่างบอบบางส่ายศรีษะอย่างอ่อนใจจนผมยาวสลวยปลิวไสว โปรเฟสเซอร์ของเธอแม้จะเป็นชายวัยกลางคนแต่ยังมีกิริยาเหมือนเด็กวัยรุ่นติดเกมคอมพิวเตอร์ ที่เล่นแล้วเพลินจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน ก้าวยาวๆ ตรงไปยังห้องทำงานส่วนตัวของท่าน
โปรเฟสเซอร์คะ ลูน่าเอ่ยทักขึ้นมา
เมื่อพบว่าดร.เกรท นั่งซบหน้ากับฝ่ามือ บนโต๊ะมีเศษกระดาษเกลื่อนไปหมด บนพื้นก็เต็มไปด้วยเศษกระดาษที่ขยุ้มเป็นก้อนๆ ชายวัยกลางคนผมสีดอกเลายังนั่งนิ่งไม่รู้สึกตัวถึงการมาของเธอ จนกระทั่งลูน่าเอื้อมมือมาแตะที่บ่าเบาๆ ถึงกับสะดุ้งเฮือก
โปรเฟสเซอร์ไม่ได้นอนทั้งคืนเลยใช่ไหมคะ ไปพักหน่อยดีกว่านะคะ หรือจะดื่มกาแฟให้ตาสว่างดี เดี๋ยวหนูชงให้ดีไหมคะ?
ขอบใจมากลูน่า...ขอกาแฟก็แล้วกัน ดร.เกรท ยกฝ่ามือขึ้นลูบหน้าตนเอง พร้อมทั้งตบแก้มเบาๆ อีกสองสามที เป็นการปลุกตนเอง
ผมคงเผลอหลับไป กี่โมงแล้วนี่?
เช้าแล้วค่ะ 7 โมงแล้ว
ลูน่าตะโกนตอบจากเคาท์เตอร์กาแฟอีกฟากของห้อง จากนั้นก็พบว่ากาแฟในหม้อว่างเปล่า จึงต้องใช้เวลาอีกหลายนาทีกว่าจะยกมาเสิร์ฟให้ได้ ข้างฝ่ายนักวิชาการร่างท้วมรับกาแฟเข้ามาดื่มไปนิดหน่อยแล้ววางถ้วยลง สีหน้าของเขาเหมือนกลืนยาขมมากกว่าจะกินกาแฟ จนหญิงสาวชักไม่แน่ใจว่าตนเองชงกาแฟขมไปหรือไม่
หนูใส่น้ำตาล 2 ก้อนตามปกตินะคะ ขมไปหรือคะ?
ไม่..ไม่หรอกลูน่า ผม OK เพียงแต่รู้สึกเพลียๆ น่ะ
เอ้อ..เมื่อคืนติดพันอะไรอยู่เหรอคะ ถึงไม่กลับบ้าน เธออาศัยความเป็นลูกศิษย์คนโปรดซักถาม พลางก้มลงเก็บกระดาษที่อาจารย์ของหล่อนทิ้งไว้เกลื่อนพื้นลงถังขยะ
ผมพยายามศึกษาบันทึกในสุสานที่เพิ่งได้มาน่ะ....ตอนแรกนึกว่าเป็นบันทึกเรื่องราวที่ข้ารับใช้เขียนถึงเจ้านายเสียที แต่กลับเป็นจารึกของนักบวชต่างหาก
นักบวช....ก็ไม่แปลกนี่คะ สมัยก่อนนักบวชต้องทำพิธีฝัง แล้วมีอะไรผิดปกติหรือคะ? สาวน้อยคาดเดาจากสีหน้าของอาจารย์
ไม่ใช่นักบวชธรรมดา ดร.เกรทตอบมาแค่นั้น ไม่ได้ขยายความต่อ แต่สบตาลูกศิษย์ด้วยความนัยบางประการ ก่อนจะเฉลยออกมา
นักบวชผู้ทำหน้าที่ล่าปีศาจต่างหาก
นักล่าปีศาจ? ลูน่าอุทาน ท่าทางเรื่องจะเกินกว่าที่คาดเอาเอาไว้เสียแล้ว หญิงสาวจึงลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ อาจารย์ เพื่อสนทนาได้ถนัด
หมายความว่า นักล่าปีศาจเป็นคนทำสุสานขึ้น งั้นโจ บล็อกซ์ อาจถูกกล่าวหาว่าเป็นปีศาจอย่างนั้นหรือคะ?
โจ บล็อกซ์??
เอ่อ...คือหนูเรียกเล่นๆ น่ะค่ะ
ไม่จำเป็นต้องเรียกชื่อนั้นหรอก...เขามีชื่ออยู่แล้ว ดร.เกรทเปิดให้ดูบันทึกโบราณ กระดาษสีน้ำตาลเข้มมีตัวหนังสือเขียนด้วยภาษาที่ลูน่าเห็นแล้วต้องขมวดคิ้ว
ภาษาลาติน...เขามีชื่อว่า...ท่านเคานท์ ยูเลียส ฮามุทซาสด์
เคานท์ยูเลียส...ฮามุทซาลด์ นามสกุลฟังเหมือนพวกตาตาร์ ไม่สิ....น่าจะเป็นแมกยาร์ขนานแท้เลยด้วยซ้ำ
ใช่เลยล่ะ ....ในบันทึกเขียนไว้ว่า มหาบุรุษแห่งความมืด ผู้จมอยู่ในแสงแห่งความสิ้นหวัง ผู้ต่อต้านพระเจ้าด้วยความบ้าคลั่ง จงซ่อนเร้นกายไว้ในความมืด อยู่ให้ห่างไกลในคืนเดือนดับ อย่าให้สัมผัสกลิ่นไอ แม้ลมหายใจสัตว์เดรัจฉาน มิเช่นนั้น เจ้าทั้งหลายจะเผชิญนรกทั้งที่มีลมหายใจ
เมื่อฟังจบต่างฝ่ายต่างมองตากัน ด้วยความคิดบางประการ บันทึกนี้เหมือนเรื่องตลกของเด็กๆ หรือเรื่องเล่าก่อนนอนของคนสมัยโบราณที่เชื่อเรื่องผีสาง ทว่ามันเป็นหน้าหนึ่งของประวัติศาสตร์ ที่อาจมีการวินิจฉัยหรือเข้าใจผิดกับบางเรื่องไป หาใช่เรื่องภูตผีปีศาจก็เป็นได้
แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 55 14:13:26