Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เสน่หา...ปารีส ตอนที่3 ติดต่อทีมงาน

ตอนที่2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11566899/W11566899.html

Chapter3 : once upon a dream 50%
           เขาพยายามข่มใจไม่ให้เหลียวไปมองหน้าคนตัวเล็กที่ยังคงนั่งสะอึกสะอื้นอยู่ข้าง ๆ กลัวจะทนไม่ไหว กระชากเข้ามากอดปลอบให้หายกลัว ให้เธอได้รู้ว่า อย่างน้อยก็ยังมีเขา

           “เป็นลูกสาวของเพื่อนหรือครับ เมอซิเออร์” เสียงของเจ้าหน้าที่ตรงข้าม ทำเอาเอเตียนสะดุ้งเฮือกใหญ่

ใช่ ! ลูกสาวเพื่อน ลูกสาวของปาลิตา ผู้หญิงที่เขารักที่สุดยิ่งกว่าอเมเลียอีก

           “ครับ” เขาตอบเพียงสั้น ๆ พลางมองหน้าสาวน้อยที่ยังคงใช้หลังมือปาดน้ำตา เธอยังคงเป็นยัยขี้แยที่ไม่ชอบพกผ้าเช็ดหน้าเหมือนเมื่อห้าปีก่อนไม่มีผิดเพี้ยนเสียจนเขาแอบหงุดหงิด

           ผ้าเช็ดหน้าสีเทาอ่อนถูกยื่นให้เธออย่างเสียมิได้ ขณะที่สาวน้อยเงยหน้ามองขึ้นมาทำตาปริบๆ ห้าปีก่อนเธอกลัวเขายังไง ห้าปีให้หลังเธอก็ยังคงรู้สึกกลัวผู้ชายคนนี้เหมือนเดิม มือเล็กรับมันมาอย่างงงๆ ขณะที่เขาชักสีหน้าหงุดหงิดใส่เธอไม่หาย ตั้งแต่ได้เจอกัน ไม่มีคำทักทายใดๆ เกินขึ้นระหว่างทั้งเขาและเธอ มีแต่เพียงบทสนทนาระหว่างเขาและเจ้าหน้าที่ ไปพร้อมๆกับเสียงสะอึกสะอื้นใจของเธอ จำได้ว่าครั้งล่าสุดเธอโทรหา...พี่ชาย

           “ผมพาเธอกลับบ้านเลยได้ไหมครับ” เสียงทุ้มกังวานของคนข้างๆเอ่ยเป็นการเป็นงาน ขณะที่พนักงานหนุ่มเริ่มมีสีหน้าลำบากใจ

           “มันเป็นกฎครับเมอซิเออร์ เธอยังเป็นผู้เยาว์จำเป็นต้องมีผู้ประครองที่ดูแลเธอมารับ” เจ้าหน้าที่ผู้โอบอ้อมอารีเริ่มอธิบาย ในขณะที่เมอซิเออร์เริ่มชักสีหน้าด้วยความหงุดหงิด ทำไมมันยากมันเย็นขนาดนี้ ก็แค่จะพายัยนี่กลับไปส่งที่บ้านก็เท่านั้นเอง

           ผลั่ว !

“ผมมารับหลานสาว!” ประตูสำนักงานถูกเปิดออกพร้อมกับปรากฏร่างของ ‘ผู้ปกครอง’ ที่กระหืดกระหอบมาแต่ไกล นัยน์ตาสีน้ำเงินของเอเตียนวาววาบไปด้วยแรงโกรธมหาศาล เมื่อเจอกับปิแอร์ กาลาสที่ตรงดิ่งมา ขณะที่แฟนของเขาก็ถลาเข้าไปสู่อ้อมกอดของผู้มาใหม่ราวกับว่ารู้จักกันมาชาติกว่า

           ไม่นานนักสมองของเอเตียนก็ประมวลผลทุกอย่างออกมาอย่างรวดเร็ว วีเคยบอกว่าใยบัว อยู่ในที่ๆปลอดภัย ในขณะที่เมื่อกี้ปิแอร์มันบอกว่ามารับหลานสาว...สรุปคือ สองคนนี้อยู่ด้วยกัน ! แค่นั้นก็พาลให้เอเตียนกระตุกวูบราวกับวิญญาณของเขาถูกกระชากออกมาจากร่าง เรียวปากบางสีแดงระเรื่อเม้มแน่นด้วยความโกรธ ขณะที่มือเรียวกำไว้แน่นเมื่อเห็นปิแอร์เข้าจุมพิตประทับรับขวัญที่กระหม่อมของบัวบูชาโดยที่ไม่สนใจใคร แรงริษยาที่อัดแน่นในอกของเขาแทบจะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ จุกจนพูดอะไรไม่ออก หากไม่ได้นั่งอยู่ เขาเองก็คงจะล้มทั้งยืน



           อยากจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกเสียนี่กระไร สองสิงห์หนุ่มแห่งฝรั่งเศสนั่งอยู่ตรงหน้าตัวเป็น ๆ ฝั่งหนึ่งเป็นเอเตียน โบวิเย่ร์ รูปงามบรรเจิดขนาดผู้ชายด้วยกันเองยังต้องตกตะลึง ส่วนอีกฝั่งคือปิแอร์ กาลาส ผู้ที่มีรูปหน้าแกร่งสมชายชาตรี วงในแว่วมาว่าสองคนนี้ไม่ถูกกัน สงสัยจะไม่จริงกระมัง เพราะเขามีหลานสาวคนเดียวกันอยู่นี่ไง สาวน้อยชาวเอเชียสุดยอดแห่งความขี้แยระดับโลก

           “คุณเป็นผู้ปกครองของเธอหรือครับ” รู้อยู่แล้วล่ะแต่ก็ต้องถามเพราะว่ามันเป็นกฎ ปิแอร์พยักหน้าช้าๆขณะที่ร่างเล็กของสาวน้อยยังคงซุกหน้าสะอื้นอยู่อ้อมแขน

           “ตลอดช่วงเวลาที่อยู่ฝรั่งเศสผมมีหน้าที่ดูแลเธอ” ชายหนุ่มเอ่ยอย่างเป็นการเป็นงานพร้อมยื่น ID card ของตนเองกับหนังสือเดินทางของบัวบูชาให้เจ้าหน้าที่ ขณะที่อีกหนึ่งหนุ่มที่กำลังแค้นแสนสาหัสนั่งฟังอยู่เงียบๆ

           “แต่เพราะต้องบินไปโน่นมานี่เพื่อทำสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควรอยู่บ่อยๆ เลยไม่มีปัญญา เอ๊ย! ไม่มีเวลาดูแลเด็กเล็กๆ จนเกิดเรื่องเข้าไง” เอเตียนแอบเหน็บด้วยท่าทีสบายอกสบายใจ ขณะที่คนไม่มีเวลาหันควับกลับมามองด้วยแวบหนึ่งด้วยแววตาชิงชัง เอ็งมาเจ๋ออะไรด้วย!

           เอาแฟนของเขามาให้ไอ้บ้าห้าร้อยนี่มันเลี้ยง แนวความคิดพิสดารนี้ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ามาจากไหน ก็สองผัวเมียคู่เพี้ยนนั่นไง แสบนักนะโดยเฉพาะยัยคนเมีย รู้อย่างนี้ขโมยตัวเล็กเอามาเลี้ยงซะเองตั้งแต่เมื่อห้าปีที่แล้วก็คงจะไม่วุ่นวายกันถึงขนาดนี้หรอก นึกแล้วก็เจ็บใจตัวเองไม่หาย ทำไมเขาถึงได้เป็นคนดีขนาดนี้ด้วยก็ไม่รู้ คิดแล้วเซ็ง



           เมื่อห้าปีก่อนเขาตั้งใจเอาไว้ว่าวันนั้น จะมาขอปาลิตาแต่งงาน เอเตียนกลับเข้าสู่ห้วงคำนึงแรกที่ได้เจอกับบัวบูชา ครั้งแรกที่เธอได้พบสาวน้อย คือตอนที่เธอหลับใหลอยู่ข้างๆเตียงคนไข้ เธอสวยในสายตาของเขา แม้ไม่ได้งดงามตระการตาจนแทบจะหยุดหายใจเฉกเช่นปาลิตา แต่กลับติดตาตรึงใจจนยากจะลืมเลือน อยากดูแล้วดูอีกจนไม่อยากจะละสายตาไปไหนไกล แต่เหนือสิ่งอื่นใดเธอยังเป็นเพียงแค่เด็กหญิงอายุสิบสองขวบ นั่นล่ะปัญหาหนักอกสำหรับหนุ่มปารีเซียงในวัยยี่สิบสี่ เอเตียนสูดหายใจลึกๆก่อนที่จะบอกกับตัวเองว่า วันนี้เขาจะมาขอริต้าแต่งงาน พากลับไปปารีสให้อเมเลียได้ชื่นใจ จึงได้ข้ามน้ำข้ามทะเลมาเมืองไทยพร้อมๆกับแหวนหมั้น

           เขารู้จักและเป็นเพื่อนรักกับปาลิตาตั้งแต่เกรดหนึ่ง บอกได้คำเดียวว่าเธอเป็นเพื่อนรักและศัตรูคู่แค้น ไม่ว่าอะไรเขาและเธอก็มักจะเป็นคู่แข่งกันเสมอๆ ผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะเสียจนเคยชิน ผลักดันให้อีกคนหนึ่งไปอยู่ในจุดที่สูงขึ้นเรื่อยๆ เป็นอย่างนี้มาเนิ่นนานจวบจนวันที่ริต้าต้องทิ้งทุกอย่างที่ปารีสบินกลับมาเมืองไทย เขาถึงได้รู้ว่า เธอ คือคนสำคัญสำหรับเขา เอเตียนหมดสิ้นหนทางที่จะเหนี่ยวรั้งเพื่อนรักคนนี้เอาไว้ ถึงขนาดต้องงัดไม้ตายขั้นสุดท้าย ด้วยการยื่นข้อเสนอโอนหุ้นบางส่วนให้กับเธอ เพราะแลกกับการได้พบเจอกันทุกวันบนโลกออนไลน์ในฐานนะผู้บริหารและที่ปรึกษา เจ้านายและลูกน้อง แบบนี้ให้ได้พอชื่นใจอยู่บ้าง ปาลิตาดูมีความสุขกับเมืองไทยจนช่วงหลังๆเขาไม่กล้าคิดไกลชวนเธอกลับปารีส จนวันนึงที่เขาล้มไม่เป็นท่าเพราะความบ้าบิ่นและเลือดร้อนของตัวเอง อเมเลียจึงยื่นคำขาดให้เขาพาตัวลิตามาช่วยกอบกู้สถานการณ์ของบริษัทให้ได้ เกิดคำถามหนึ่งขึ้นภายในใจ ทำไมแม่ของเขาถึงไว้ใจริต้ามากกว่าเขา แค่นี้ก็ทำให้คนเป็นลูกเจ็บหนึบไปถึงหัวใจ เห็นทีคงต้องยอมแพ้ให้กับปาลิตา ภารกิจการมาของเขาจึงมาเพื่อขอเธอแต่งงาน...แล้วไงล่ะ ทันทีที่ได้เจอดอกบัวน้อยๆสีขาวบริสุทธิ์ที่ริต้ามักจะเล่าถึงความน่ารักของเธอให้ฟัง เขาก็ถึงกับไปไหนไม่เป็นกันเลยทีเดียว

           ดีที่ริต้าเข้ามาพร้อมกับชายหนุ่มคนนึงเสียก่อนที่เขาจะเผลอไผลทำอะไรไม่ถูกไม่ควรไป เอ๊ะเดี๋ยว! ไหนบอกไม่สบายนิดหน่อยไงล่ะ ทำไมถึงมีคนมานอนป่วยอยู่เป็นเพื่อนด้วยล่ะเนี่ยยัยก็อตซิล่า แปลกๆแฮะ ท่าทางของคนคู่นี้ช่างไม่ชอบมาพากลเสียนี่กระไร เห็นทีเขาคงต้องกลับปารีสไปหาอเมเลียมือเปล่าแหงๆ แต่ทำไมคนที่อกหักเช่นเขาถึงได้รู้สึกสบายอกสบายใจอย่างบอกไม่ถูกก็ไม่รู้สิ เป็นอันว่าแผนการขอแต่งงานด้วยกระเช้าดอกกุหลาบสีขาวของเขามีอันต้องพับเก็บไว้ในใจอย่างไม่มีกำหนด

           และด้วยความที่เขาเป็นหนุ่มน้อยหน้าตาใสซื่อไร้พิษสงจึงได้ออกมาเที่ยวรอบๆโรงพยาบาลกับใครบางคน...มันสุดยอดก็ตรงนี้ล่ะเมืองไทย

           ‘กลับฝรั่งเศสของคุณไปซะ แล้วไม่ต้องมาที่นี่อีก’ เสียงเล็กแหวเป็นภาษาอังกฤษใส่เขาเสียชัดถ้อยชัดคำทันที่อยู่ด้วยกันเงียบๆสองต่อสองบริเวณสระน้ำของทางโรงพยาบาล เอเตียนจำได้ว่าเขาถึงกับเลิกคิ้วด้วยความตกตะลึงเมื่อนางฟ้าน้อยๆที่หลับใหลเมื่อครู่ตื่นขึ้นมาจะกลายเป็นปีศาจจิ๋วไปเสียแล้ว

           ‘ทำไมฉันถึงต้องทำตามที่เธอบอก’ เขาสวนขึ้นทันควัน พลางเลิกคิ้วคมขึ้นยั่วเย้ากวนประสาทสาวน้อย น้องสาวริต้ายิ่งดูก็ยิ่งน่ารัก

           ‘เพราะฉันเกลียดคุณ !’ คนตัวเล็กกระแทกเสียงใส่ พร้อมกับเงยหน้าส่งสายดำขลับเข้าสู้อย่างไม่กลัวเกรงร่างใหญ่ไซส์ยุโปรอย่างเขาแต่อย่างใด จะมาแค้นเคืองอะไรนักหนาทั้งๆที่เขาออกจะเอ็นดูเธอซะ !

           เอเตียนหัวเราะในลำคอ พลางก้มลงหรี่ตาประเมินปีศาจน้อยๆที่กำลังแผลงฤทธิ์ น้องสาวริต้าตื่นขึ้นมาแล้วอย่างเซี้ยวอ่ะ ‘เราเพิ่งรู้จักกันแค่ห้านาทีที่แล้วเองนะ แล้วฉันไปทำอะไรให้เธอเกลียด’ เขาถามพลางมองน้องสาวของเพื่อนด้วยความรู้สึกชอบอกชอบใจอยู่ครามครัน ไม่แปลกที่ริต้าจะทั้งรักทั้งหลงเด็กคนนี้ ก็นะน่ารักจริงๆจังๆจนเขาไม่คิดจะเถียงซักแอะ  

           ‘ไม่จำเป็นที่ฉันจะต้องตอบ’ เวลาที่จมูกรั้นๆเชิดขึ้นด้วยความขัดใจยิ่งให้ความรู้สึกน่ามองเข้าไปใหญ่  ‘กลับไปฝรั่งเศสบ้านคุณซะ อย่ามายุ่งกับครอบครัวเขาเรา’ เธอเอ่ยกับเขาด้วยน้ำเสียงเฉียบขาดเกินเด็ก ขณะที่เรียวปากบางของเอเตียนยิ้มไม่หุบ อยากเอาใส่กระเป๋ากลับไปเลี้ยงที่ปารีสบ้างจัง ชอบอ่ะ ! อยากได้บ้าง !

          ‘หวงพี่สาวขนาดนั้นเชียว’ เขาเลิกคิ้วคมขึ้นถาม

           ‘แน่นอน ก็เจ๊ตาเป็นพี่สาวฉันนี่’ สาวน้อยยืนยันเสียงเข้ม ‘ห้ามเอาพี่สาวฉันไปฝรั่งเศสนะ’

           ‘อืม...รู้มั้ยว่าพี่สาวเธอสำคัญกับฉันมาก’ เขาเริ่มอธิบายด้วยท่าทีเอาการเอางาน ขณะที่บัวบูชาตัวน้อยจับจ้องร่างสูงตระหง่านตรงหน้าอย่าใช้ความคิด

           ‘รู้ ! แต่พี่สาวก็สำคัญกับฉัน กับพี่ชาย และกับคุณยายเหมือนกัน’ เสียงเล็กเถียงทันควันหลังจากที่เขาพูดจบ ‘คุณห้ามแย่ง’  ยัยตัวเล็กถึงกับเอาปริมาณเข้าข่มกันเลยทีเดียว

           ‘แต่ฉันมาก่อน’ พ่อรูปหล่อรีบแย้งแบบไม่มีทีท่าว่าจะลดราวาศอก ‘พวกเราอยู่ฝรั่งเศสด้วยกันดีๆเธอ พี่ชาย และคุณยาย ต่างหากที่แย่งปาลิตาไปจากฉัน’

           ‘ ฮือ ๆ’ เขาถึงกับอึ้งเมื่อเธอแหกปากร้องไห้ลั่น น้ำหูน้ำตาไหลพรากอย่างกับว่าจะมีใครตายอย่างนั้นล่ะ เหลียวซ้ายและขวาดีที่แถวนี้ไม่มีใคร แต่ถ้ายัยหนูนี่ไม่หยุดสงสัยจะมีปัญหาใหญ่แน่ ๆ

           ‘นี่เธออย่าร้องให้สิ’ เขาเอ็ดเล่นเอาสาวน้อยสะดุ้งเฮือกก่อนที่จะแผดร้องไต่ระดับความสูงของเสียงไปสองถึงสามคีย์ ขณะที่หน้าของเธอแดงก่ำราวกับลูกตำลึง

           ท่านผู้บริหารหนุ่มผู้ไม่เคยจะเกรงกลัวใครสูดหายใจเข้าไปลึก ๆ กับสถานการณ์ที่ยากจะรับมือเช่นนี้ ถ้าเป็นสาวรุ่นๆที่เขาหิ้วมานอนด้วยร้องห่มร้องไห้มหาศาลเช่นนี้ ให้เช็คเปล่าไปทุกอย่างก็จบ แต่กับเด็กสิบสองขวบเขาต้องทำยังไงล่ะทีนี้ ไม่น่าแกล้งเลยเรา

           ‘มันก็พอจะมีวิธี แต่ต้องเงียบก่อน’ เขาอธิบายช้า ๆ ชัด ๆ ในขณะที่เด็กหญิงใช้หลังมือน้อยๆปาดน้ำตาจนเอเตียนรู้สึกทนไม่ได้ ถึงกับต้องอุ้มเธอไปวางไว้บนโต๊ะหิน

‘ไหนเงยหน้าขึ้นซิ’ เขาสั่งพร้อมกับใช่มือเรียวช้อนคางมนให้เงยขึ้น ก่อนที่จะใช้อีกมือหยิบผ้าเช็ดหน้าสีฟ้าอ่อน ก้มลงเช็ดน้ำตาให้เด็กหญิง นัยน์ตาสีน้ำเงินเผลอไผลไปสบตาเข้ากับนัยน์ตาสีนิลเป็นประกายของเธอเข้าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เหมือนจะโดนของเข้าซะแล้ว เขาพึมพำกับตัวเองอยู่ในใจขณะที่ยังคงจับจ้องเธอไม่ยอมหยุด เมื่อตะกี้แค่ชอบ แต่ตอนนี้เหมือนจะรู้สึกว่า...รัก

           รักเด็กเนี่ยนะ ! เขาร้องลั่นอยู่ภายในใจ ตอนนี้อะไรๆมันก็อื้ออึงไปหมด ไม่ใช่หรอก ก็แค่ชอบแค่เอ็นดู เขาพยายามบอกกับตัวเอง ไม่ให้นำพาหัวใจเข้าไปสู่สภาวะการณ์ที่เสี่ยงเหลือเกินที่จะถูกถอดออกจากเก้าอี้ผู้บริหาร แล้วนี่มันก็น้องสาวสุดรักสุดหวงของริต้าไม่ใช่ใครที่ไหน เธออายุสิบสองขวบเมนส์ยังไม่มา นมก็ยังไม่มี ตัวเล็กจิ๊ดเดียวเอาไปทำอะไรๆก็ไม่ได้ จะให้เขารักเข้าไปได้ยังไง เสียงหนึ่งในใจค้านหัวชนฝา แต่อีกเสียงหนึ่งในหัวแผดเสียงดังลั่นตอบกับมาว่า กูจะเอา!!! เขาสะบัดหัวให้กับความเพ้อเจ้อของตัวเอง ก่อนที่จะพยายามข่มจิตข่มใจให้เป็นปรกติ

‘ถ้าไม่หยุดร้องไห้ก็จะไม่บอกเข้าใจไหม’

           ‘ค่ะ’ เธอตอบรับเบาๆพร้อมกับเสียงสะอื้น กลายเป็นเขาที่หน้าแดงเพราะความเขิน หูอื้อตาลายคล้ายจะเป็นลมจริงๆนะเนี่ย

           

           ‘ฉันจะไม่พาพี่สาวของเธอกลับปารีสก็ได้...แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนนะ...เธอต้องไปอยู่ที่ปารีสกับฉัน’ เสียงของปีศาจนัยน์ตาสีน้ำเงินเมื่อห้าปีก่อน ยังคงก้องสะท้อนอยู่ในจิตใจของสาวน้อยมาจนถึงทุกวันนี้ โชคดีที่เขาเองเป็นคนผิดสัญญาเอาแม่เธอไปก่อน ทุกอย่างก็เลยกลายเป็นโมฆะในที่สุด อย่างเขาคงจำเรื่องพวกนี้ไม่ได้เสียกระมัง คงเกลียดเธอกับพ่อที่แย่งแม่คืน แล้วทิ้งให้เขาต้องอยู่คนเดียวที่ปารีสแห่งนี้

         

ปารีสน่ากลัวกว่าที่เธอคิดเอาไว้เยอะ เกิดคำถามขึ้นภายในใจว่า เธอจะอยู่รอดปลอดภัยในปารีสได้อย่างไร หรือต้องคอยเป็นลูกแหง่ให้ใครต่อใครเขาเดือดร้อนเพราะเธอไปทั่ว กลับบ้านดีกว่ามั้ย กลับบ้านไปใช้ชีวิตโง่ๆเซ่อๆของเธอตามประสาจะดีกว่าที่จะให้ใครต้องมายุ่งวุ่นวายกันไปหมด อยู่เฉยๆไม่เรียกร้องไม่เป็นภาระจะได้ไม่ถูกเกลียด อย่าอวดดีให้มันมากนักนะบัวบูชา สาวน้อยกระซิบเตือนตัวเองอยู่ในใจด้วยความผิดหวังระคนคับแค้นใจในความล้มเหลวของตัวเอง ริมฝีปากจิ้มลิ้มเผลอขบกันจนได้รสฝาดปนขมปร่าของเลือด แต่ในใจก็เริ่มคิดถึงอาบังน้อยรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ เขาดูมีความสุขกับโลกใบนี้ แววตาที่เหมือนกับว่าทุกอย่างไม่ใช่ปัญหาในชีวิตของเขา ทำให้เธอรู้สึกอิจฉาอยู่ลึก ๆ อยากจะพิสูจน์ตัวเองอีกสักครั้ง อย่างจะลองกับมันดูอีกซักตั้ง แต่อยู่ที่ว่า ‘คนที่รักและเป็นห่วงเธอ’ เขาจะให้โอกาสรึเปล่า

           ดวงหน้าหวานยังคงซุกอยู่ในอ้อมแขนของปิแอร์ขณะที่เขายังคงประคองกอดหลานสาวเอาไว้แน่น อยู่ด้านหลังลีมูซีนสุดหรูที่กำลังจะตรงดิ่งกลับบ้าน ที่หลุดออกจากปากบัวบูชาตลอดเวลาที่ได้เจอก็กันก็มีเพียงประโยคสั้น ๆ ที่ว่า “หนูขอโทษ” เล่นเอาคุณลุงรู้สึกสงสารหลานสาวตัวน้อยขึ้นเป็นทวีคูณเลยทีเดียว

           ร่างสูงใหญ่ผ่อนลมหายใจออกช้า ๆ ก่อนที่จะกดริมฝีปากหนัก ๆ ลงบนกระหม่อมของสาวน้อยเพื่อปลอบขวัญ “ใยบัวหยุดขอโทษลุงได้แล้ว หนูไม่ได้ทำอะไรผิดนี่จ๊ะ”

           “คุณ...ลุง...” หลานสาวเงยหน้าขึ้นมองคุณลุงด้วยความร้สึกผิดอยู่เต็มตื้น

           “ลุงต่างหากที่ควรจะขอโทษใยบัว” เขาเอ่ยพร้อมกับรอยยิ้มจากๆบนใบหน้า เลี้ยงวัยรุ่นไม่ใช่แค่มีที่นอนสะอาดๆและอาหารให้กินครบสามมื้อ...สำคัญที่สุดจะต้องใส่ใจในทุกๆรายละเอียด อาวีลีนเลขาแสนสวยของเขาเอ่ยขึ้นเบาๆหลังจากที่เขาออกจากห้องประชุมที่มิลาน ปรกติเธอไม่ใช่คนพูดเยอะโดยเฉพาะเรื่องส่วนตัว แต่คราวนี้เธอคงทนเขาไม่ไหวจริงๆถึงได้ออกปากสั่งสอนเขาซึ่งเป็นเจ้านายของเธอมากว่าห้าปี

“จากนี้เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะ”ปิแอร์บอกพร้อมกับรอยยิ้มเป็นประกายอบอุ่น จะเลี้ยงสาวน้อยนี่ให้เป็นผู้ใหญ่ที่ดีแล้วก็แข็งแกร่งให้ได้ ให้สมกับที่ศิรการและปาลิตาเชื่อใจเขาก็แล้วกัน

           “ไม่ส่งใยบัวกลับเมืองไทยใช่ไหมคะ” หลาวสาวในอ้อมกอดเลิกคิ้วถามเบาๆ ขณะที่เขาเริ่มเบะปากเหมือนเด็กๆโดนขัดใจ

           “เบื่อลุงแล้วหรอ” สิ้นเสียงคุณหลานก็สะบัดหัวจนคอแทบหัก

           “คุณลุงไม่เบื่อใยบัวหรือคะที่สร้างเรื่องวุ่นวาย” สาวน้อยถามออกไปตรงๆขณะที่คุณลุงใช้มือใหญ่ขยี้หัวเธอเบาๆ “ไม่เบื่อหรือคะที่จะต้องเอาเวลางานมาดูแลเด็กเล็กๆ” เสียงใสถามขึ้นอีก พร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆ “ใยบัวไม่อยากเป็นตัวปัญหาของคุณลุง”

           “ก็ไม่นี่ !” คุณลุงแย้งพร้อมกับรอยยิ้มสดใส “เลี้ยงเด็กเล็กๆมันก็สนุกดีออก ดื้อบ้างซนบ้างตามประสา ก็เป็นเรื่องธรรมชาตินี่นา”

           “ไม่ส่งกลับเมืองไทยแน่นะคะ” สาวน้อยหรี่ตามองหน้าละห้อย

           “เจออุบัติเหตุแค่นี้ถอดใจแล้วหรือสาวน้อย” ปิแอร์ถามขึ้นด้วยความสงสัย

           “ไม่อยากเป็นตัวปัญหา ไม่อยากทำให้ใครต้องเดือดร้อน...” เสียงเล็กย้ำอีกทีพร้อมหลุบตาลงต่ำอย่างสำนึกผิด

           ขณะที่นัยน์ตาสีสนิมเหล็กของปิแอร์จับจ้องสาวน้อยด้วยความเข้าอกเข้าใจ เด็กคนนี้ผ่านเรื่องราวและความเจ็บปวดมามากมายเหลือเกิน เขายังจำได้ว่าครั้งแรกที่เขาเจอสาวน้อยคนนี้ในวัยห้าขวบพร้อมๆกับศิรการ สภาพของเธอย่ำแย่ถึงเพียงไหน

           คุณตาและคุณยายข้างบ้านของศิรการเรียกไปพบแจ้งว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย เมื่อศิรการและเขาไปถึงบ้านของคุณตาและคุณยายก็ต้องผงะ เมื่อเห็นร่างน้อยๆของเด็กหญิงในวัยห้าขวบที่เต็มไปด้วยบาดแผลฟกช้ำกำลังสั่นระริกอยู่ในอ้อมอกของคุณยาย

           ทันทีที่เธอเกิด แม่เธอก็ตาย หลังจากนั้นคนที่เตรียมพร้อมว่าจะเป็นพ่อที่ดีก็กลับกลายเป็นผู้ชายเมามาย และก่นด่าทารกน้อยว่าเป็นความผิดของเธอที่ทำให้คนรักของเขาต้องตาย เขาทั้งรักทั้งชังทารกน้อยบัวบูชาในเวลาเดียวกัน รักที่เธอเป็นลูก ชังที่เธอเป็นสาเหตุทำให้ผู้หญิงที่เขารักต้องจากไปก่อนเวลาอันควร บางเวลาเขาก็เป็นพ่อที่ดีที่พร้อมจะปกป้องคุ้มครองเธอ แต่ในบางเวลาที่เขาเมามายไม่ได้สติ ความเจ็บปวดกดลึกที่ถาโถมอยู่ภายในใจก็จะปะทุออกมาจนถึงขั้นทำร้ายร่างกายเด็กหญิงตัวเล็กๆ เด็กน้อยกลับไม่เคยโทษพ่อ ไม่เคยร้องให้ใครเห็น เพราะเธอรู้ดีว่าความผิดทั้งหมดมันเป็นเพราะเธอ เด็กน้อยยอมทำทุกอย่างที่จะให้พ่อไม่ไปไหน เพราะทั้งชีวิตของเธอมีแต่พ่อเพียงคนเดียว แล้ววันหนึ่งเขาก็หลับแบบที่ไม่มีวันตื่นขึ้นมา นั่นคือวันที่เธอไม่เหลือใครจริงๆ ถึงพ่อจะทุบตีแต่พ่อก็ตื่นขึ้นมาปลอบเธอทุกครั้งในวันที่เธอฝันร้าย น้ำเสียงอบอุ่นซ่านที่บอกว่า ฝันร้ายจะกลายเป็นดี ของพ่อ มันทำให้เธอเข้มแข็งขึ้นมาอย่างน่าประหลาด อ้อมกอดและสัมผัสจากคนที่เธอรักสุดหัวใจ จากนี้ไม่มีอีกแล้ว ผู้ใหญ่บอกว่าพ่อไปสบายแล้ว พ่อไปอยู่กับแม่แล้ว แล้วใยบัวล่ะ ทำไมต้องทิ้งเธอไว้ที่นี่คนเดียว เกลียดเธอขนาดนั้นเลยหรือ...เรื่องราวเหล่านี้ยังคงฝังใจบัวบูชามาจนถึงทุกวันนี้ แม้แต่ตอนที่เธอมีทั้งพ่อและแม่ที่รักเธอสุดหัวใจและพร้อมจะให้เธอทุกอย่าง แต่เธอเองก็ยังคงคิดว่าตัวเองเป็นเด็กที่น่ารังเกียจ

           ปิแอร์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ๆพลางกระชับวงกอดด้วยความสงสารหลานสาวสุดหัวใจ เหนื่อยไหมใยบัวที่ต้องพยายามทำให้ใครต่อใครรัก โดยเฉพาะกับริต้า เขารู้ดีว่ายิ่งศิรการกับปาลิตามีลูกเป็นของตัวเองแล้วนั้น ยิ่งทำให้จิตใจของสาวน้อยหวาดกลัวเข้าไปใหญ่ แต่ทำไมจะต้องกลัวก็ในเมื่อปาลิตารักเธอยิ่งกว่าชีวิตของตัวเองซะอีก หากไม่มีแผนการในคราวนั้นมีหรือที่ปาลิตาจะปล่อยให้มีเด็กอยู่ในท้อง แล้วออกมาเป็นพุทธรักษาในวัยห้าขวบจนถึงทุกวันนี้ อย่าได้หวัง!

           “นี่หลานสาว ลุงรักหนูนะจ๊ะ หนูไม่ใช่ตัวปัญหาสำหรับลุง แล้วเรื่องเล็กๆน้อยๆพวกนี้ก็ไม่ทำให้ลุงเดือดร้อนด้วย” เขาพยายามอธิบายในขณะที่บัวบูชาเงยหน้าขึ้นมองอย่างงงๆ จนเขาต้องเริ่มอธิอบายอีกครั้ง “ในทางกลับกันถ้าลุงลืมเอกสารสำคัญไว้ที่บ้านแบบว่าด่วนมากๆ แล้วหนูกำลังจะออกไปเที่ยวลูฟวร์ที่หนูอยากไป แบบนั้นหนูจะทำยังไง”

           “ไม่เห็นต้องคิดเลยค่ะ หนูจะไปหาคุณลุงให้เร็วที่สุด” บัวบูชารีบตอบ

           “ทำไมล่ะนั่นเป็นลูฟวร์ที่ใยบัวอยากไปไม่ใช่หรือ แล้วจากบ้านเราไปออฟฟิศของลุงมันก็ลำบากมากเลยนะ หนูอาจจะหลงทางก็ได้”

           “ไม่เห็นจะต้องคิดมากเลยค่ะ ก็เราเป็นครอบครัวเดียวกันนี่คะ มีอะไรก็ต้องช่วยเหลือกัน ไม่เห็นจะแปลก” สาวน้อยเอ่ยเสียงใสพร้อมกับระบายรอยยิ้มบนใบหน้า ขณะที่คุณลุงจ้องตากลับพร้อมกับรอยยิ้มเช่นกัน

           คราวนี้บัวบูชาทราบดีถึงความหมายที่คุณลุงต้องการจะสื่อ ก็ถึงกลับน้ำตาคอด้วยความซาบซึ้งใจ

“ไม่เห็นจะต้องคิดมากเลยเนอะ” เขาต่อพร้อมใช้มือใหญ่ขยี้หัวเธอด้วยความเอ็นดู

จากคุณ : พบพร
เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 23:16:20




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com