Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
Ooo๐... เลี่ยมลายรัก...ตอนที่ 4 ๐ooO ติดต่อทีมงาน

บทนำ+ ตอนที่ 1 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11533190/W11533190.html

ตอนที่2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11546089/W11546089.html

ตอนที่3http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11557827/W11557827.html

Ooo๐... เลี่ยมลายรัก...๐ooO

ตอนที่ 4


วันนี้มนัญชยาตื่นแต่เช้าด้วยความสดใสด้วยเครื่องแบบนักเรียนตัวใหม่ ที่เพิ่งได้มา... วันนี้คุณลุงธีจะพาเธอไปโรงเรียนใหม่ ไปรู้จักกับคุณครูและเพื่อนใหม่ ที่ๆ เต็มไปด้วยสิ่งแปลกใหม่ที่จะเข้ามากลบเกลื่อนกับสิ่งเลวร้ายเดิมๆ ที่เธอได้ประสบมาก่อนหน้านั้น
 
เธอเปิดประตูออกมาพร้อมกับเด็กสาวอีกคนหนึ่งที่อยู่ในเครื่องแบบโรงเรียนเดียวกันกับเธอ แวบหนึ่งสายตาคู่นั้นเหลือบมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ด้วยใบหน้าราบเรียบ ก่อนจะตวัดขึ้นมามองหน้าเธอตรงๆ และถ้ามนัญชยาเห็นไม่ผิดนัก จะเห็นตรงมุมปากคู่อิ่มนั้น มีอาการเหยียดออกมา คล้ายๆ กับว่าเจ้าของริมฝีปากคู่อิ่มเอิบนั้นกำลังยิ้มเหยียดหยันหรือ ดูแคลนเธออยู่ จากนั้น เจ้าตัวก็รีบสะบัดตัวเดินลงไปชั้นล่าง ทิ้งความระคายเคืองใจไว้ให้ มนัญชยารู้สึกเกลียดขึ้นมา

“พ่อคะ เพลินพร้อมแล้วนะคะพ่อ ไปกันเถอะ”

และไม่นานณิชนันท์ก็ได้แสดงถึงความเอาแต่ใจที่มีอยู่ ทางน้ำเสียงและการกระทำ โดยพยายามดึงแขนบิดาที่ยืนรอที่รถคันหรูเพื่อให้ขึ้นรถไวๆ  ส่วนธีริทธิ์ก็ทำหน้ายุ่งขึ้นมาทีเดียว ไม่รู้ว่าลูกสาวรีบ หรือแกล้งรีบโดยการทำเป็นลืมว่าเช้านี้เขาจะต้องพาเด็กสาวอีกคนไปส่งที่โรงเรียนเดียวกันกับณิชนันท์อีกด้วย

ณิชนันท์ที่ทำเป็นเร่งๆ กระตุกแขนบิดาตลอด ยิ่งรู้สึกชัดใจขึ้นไปอีก เมื่อบิดาเธอพยายามแกะมือเธอออกจากแขน พร้อมๆ กับหันไปยิ้มอย่างอบอุ่นให้กับเด็กสาวอีกคนที่กำลังเดินด้วยรอยยิ้ม มาพร้อมๆ กับมารดาเธอที่เดินแตะหลังมาส่งที่รถ

“พร้อมมั้ย ฝ้าย วันนี้หนูจะต้องไปพบกันเพื่อนใหม่ คุณครูคนใหม่นะ”

ธีริทธิ์เอ่ยถามเด็กสาวตรงหน้าด้วยแววตาและน้ำเสียงแห่งความเอ็นดู และเด็กสาวก็เงยหน้าที่แต้มด้วยรอยยิ้มชวนมอง พยักหน้าหงึกๆ รับ  และในยามที่หางตาเหลือบเห็นสีหน้าบึ้งตึงจัดของเด็กสาวอีกคนหนึ่งที่อยู่ไม่ไกล  เธอก็ใช้มือข้างหนึ่งไปแตะมือลุงธี และบอกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นตาม

“ตื่นเต้นๆ มากเลยค่ะ คุณลุง คุณป้า”

เด็กสาวพูดพร้อมกับหันหน้าไปทาง ชุติมน  ชุติมนเองก็ยิ้มน้อยๆ รับ และไม่ลืมที่กำซับต่อเด็กสาวด้วยความปราถนาดี  

“หนูเองก็ต้องตั้งใจเรียนนะ  มีอะไรก็ถาม เพลินเค้าได้  หนูจะได้อยู่ห้องเดียวกันกับเพลินจ้ะ..”

คนที่ชุติมนพูดถึงทำให้มนัญชยา ค่อยๆ เลื่อนสายตาไปทางนั้น ก่อนจะแกล้ง ทำเป็นยิ้มให้และเดินเข้าไปหา “ดีใจจังเลยค่ะ ที่เราสองคนได้อยู่ห้องเดียวกัน”

ณิชนันท์พยายามบ่ายเบี่ยงมือที่มาเกาะตัวออก คล้ายรังเกียจ ชักสีหน้าหงุดหงิดขึ้นเมื่อเห็นว่าทั้งบิดามารดาของเธอดูจะให้ความสำคัญกับเด็กสาวตาโตตรงหน้าเกินไปแล้ว เธอหันไปเร่ง บิดาทันควัน

“เร็วๆ สิคะคุณพ่อ คุณแม่ เดี๋ยวเพลินก็ไปโรงเรียนสายหรอก..”

และทั้งชุติมนและธีริทธิ์เห็นก็ได้แต่พาส่ายหน้าไปมา พยายามทำความเข้าใจว่า ท่าทีของณิชนัท์แบบนี้เพราะ เธอยังไม่คุ้นเคยกับมนัญชยา



ณิชนันท์ กำลังนั่งพูดคุยอยู่กับเพื่อนในห้องเรียน ขณะที่กำลังรอให้อาจารย์ประจำวิชาในชั่วโมงแรกของตอนเช้าเข้ามาสอน และไม่นานอาจารย์ประจำวิชาคนนั้นก็มา แต่ไม่ได้มาเพียงคนเดียว ด้วยด้านหลังของอาจารย์มีนักเรียนใหม่ของห้องมาหนึ่งคน

ยามนี้ณิชนันท์เห็นเต็มตาแล้วว่า นักเรียนใหม่ของห้องคือใคร เด็กสาวจึงเบือนสายตาหนีนิดนึง เมื่อหล่อนคนนั้นได้ก้าวออกมาอยู่หน้าห้องช้าๆ เพื่อจะกล่าวแนะนำตัวต่อหน้าเพื่อนคนอื่นๆ ในห้องที่ค่อนข้างตื่นเต้นกันหน้าดูกับนักเรียนใหม่ ซึ่งมันแตกต่างจากความรู้สึกเฉยๆ ของณิชนันท์เหลือ เพราะเธอเกินได้รู้จักกับนักเรียนใหม่คนนี้อยู่ก่อนแล้ว เธอจึงหันไปคุยอะไรกับเพื่อนข้างๆ เบาๆ แทน

“ณิชนันท์ ตั้งใจฟังเพื่อนแนะนำตัวหน่อยสิ”

เสียงเคาะกระดาน ที่ดังพอๆ กับเสียงเรียกชื่อเธอทำให้เพื่อนในห้องต่างเหลียวมองดูเธอดุจตัวประหลาด และแวบหนึ่ง ณิชนันท์ก็ทันสายตาอันนิ่งกริบของนักเรียนใหม่มองมาที่เธอ  ก่อนที่หล่อนคนนั้นจะตั้งใจกล่าวแนะนำตัวให้เพื่อนในห้องฟังต่อไปจนจบ

“นี่เป็นเด็กสาวที่เธอบอกว่าอาศัยอยู่ที่บ้านเธอนี่ เพลิน”

เพื่อนคนหนึ่งของณิชนันท์ถามขึ้น เธอจำได้แม่นยำว่า วันที่พวกเธอไปทานไอศกรีมเห็นเด็กสาวคนนี้จูงมือ คุณพ่อของณิชนันท์อยู่เลย

“อื่ม..” คนถูกถามตอบเบาๆ ในลำคอ ขณะสายตาก็เหลือบมองไปยังเด็กสาวดังกล่าวที่กลับมานั่งที่โต๊ะและมีเพื่อนส่วนหนึ่งกำลังให้การทักทายได้อย่างดิบดี

“ที่ เธอบอกว่าที่บ้านเขามีปัญหาใช่มั้ย”

“อื่ม”

“ปัญหาอะไรล่ะ?”

“ก็...” ณิชนันท์ดูมีอาการลังเลเพียงนิด ก่อนจะตัดสินใจกระซิบเล่าเรื่องมนัญชยาให้เพื่อนเธอฟังอย่างคร่าวๆ อย่างไม่คิดที่จะปิดบังแม้แต่น้อย เพราะเธอเห็นว่าเรื่องนั้นมันคือเรื่องจริง

“เอาล่ะนะ เด็กๆ”

เสียงคุณครูประจำวิชาบอกอีกครั้งเพื่อเป็นสัญญาณให้เด็กนักเรียนของเธอ ตั้งใจฟังเธอพูด หลังจากผ่านการแนะนำนักเรียนคนใหม่ของชั้นไปแล้ว

 “... นอกจากคุณครูมีเรื่องของเพื่อนใหม่ที่ต้องบอกให้เด็กๆ รู้แล้ว วันนี้คุณครูมีอีกเรื่องที่สำคัญจะต้องให้เด็กๆ ทักคนในห้องเรียนทราบก็คือ ในกลางเดือนหน้าจะมีการแข่งขันคณิตคิดเร็วระดับประเทศ ทางห้องจึงต้องคัดเลือกตัวแทนของนักเรียน ไปเข้าร่วมแข่งขัน ซึ่งการคัดเลือกก็จะใช้หลักเหมือนปีที่ผ่านมาคือ จะมีโจทย์คณิตฯ คิดเร็วให้กับเด็กๆ คิด โดยคุณครูจะจับเวลา ใครคิดได้เร็วและถูกต้องที่สุด คนนั้นก็จะได้คัดเลือกเป็นตัวแทนของห้อง เป็นตัวแทนของโรงเรียนเข้าแข่งขันระดับประถมศึกษาจ้ะ”

จบประโยคบอกเล่าของคุณครูประจำวิชาคณิตศาสตร์คนสวยแล้ว เด็กนักเรียนที่อยู่ในห้องต่างอุทานเสียงเบาไปตามๆ กัน ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยทราบข่าวแบบนี้มาก่อน แต่ก็เหมือนกับทุกครั้งที่ตัวเก็งอย่างณิชนันท์จะได้ไปแข่งทุกปี

“ ณิชนันท์มารับโจทย์ไปแจกเพื่อนๆ ด้วย”

“ค่ะ คุณครู..”

ณิชนันท์ที่ถือว่าเป็นหัวหน้าชั้นเรียนออกมารับกระดาษจำนวนหนึ่ง แล้วแจกให้กับเด็กนักเรียนแต่ล่ะโต๊ะ  จนมาถึงโต๊ะของนักเรียนใหม่ เธอจะจงใจวางไว้ด้วยสีหน้าเรียบเฉย ซึ่งแตกต่างจากทุกโต๊ะที่เธอเดินผ่าน เธอจะมีรอยยิ้มให้กับเพื่อนๆ แต่กับเด็กสาวตรงหน้าเธอวางกระดาษให้  แล้วเดินผ่านไป  

ซึ่งมนัญชยาเองก็เหลือบมองร่างที่มึนตึงไปนั้นด้วยหางตา แต่ก็ไม่นึกอยากจะเก็บมาใส่ใจนัก ที่เธอต้องให้ความสนใจที่สุดก็คือ กระดาษสีขาวที่วางตรงหน้าต่างหาก ว่าแล้วเด็กสาวจึงใช้มือหยิบมันขึ้นมาอ่านดู....

หลังจากที่นักเรียนทยอยส่งงานให้คุณครูประจำวิชาเกือบหมด ไม่นานผลที่ทุกคนต่างรอคอยก็มาถึง เมื่อคุณครูประจำวิชาได้แจกผลงานของนักเรียนคืนแต่ล่ะคนพร้อมด้วยการบอกถึงผลคะแนนที่แต่ละคนทำได้  

“งานนี้คุณครูไม่เห็นต้องให้พวกเราทำโจทย์นี่ส่งเลย มอบหมายหน้าที่นี้ให้กับเพลินไปเสียก็หมดเรื่อง”

เสียงพูดคุยแว่วๆ ดังอยู่ข้างตัวมนัญชยาเด็กสาวที่เป็นสมาชิกใหม่ของห้องจึงเหลียวกลับไปดู  ซึ่งก็เด็กสาวด้านหลังคุยกันอยู่ เธอไม่ลังเลเลยที่จะยื่นหน้าเข้าไปถามเบาๆ  “ทำไมล่ะ...”

“ก็ เพลินเขาเป็นตัวแทนของห้องนี่น่า ฝ้ายเพิ่งมาอยู่ใหม่น่ะสิ  เลยไม่รู้” เด็กสาวคนแรกตอบก่อน

และเพื่อนอีกคนก็พูดเสริม “เพลิน เรียนเก่งที่สุดในห้องนี้ และทำกิจกรรมก็เก่งเลยเป็นที่ชื่นชอบของคนในห้องนี้อีกด้วย”

มนัญชยาหลุบสายตาครุ่นคิด ยามรับฟังคำบอกเล่านั้น ก่อนจะพึมพำตามเบาๆ  “เหรอ...”

และเสียงที่ประกาศต่อมาก็เป็นไปตามที่เพื่อนทั้งสองคนเล่าให้กับมนัญชยาฟัง เมื่อคุณครูประจำวิชาได้รายงานคะแนนคนเก่งของห้อง

“ของณิชนันท์ได้ 39 ส่วน 40 จ้ะ..”

“โอ้โห ว่าแล้วเชียว...!”

เจ้าของชื่อผุดยืนขึ้นด้วยรอยยิ้มกริ่มแห่งความภูมิใจ พร้อมกับตั้งหน้าตั้งตาเดินไปรับกระดาษผลการทดสอบคืน ท่ามกลางเสียงชื่นชมของเพื่อนๆ ในห้องที่จะนำความภาคภูมิใจมาสู่เธออย่างท่วมท้นทีเดียว แต่ทว่า

“แต่ ของมนัญชยา นักเรียนใหม่ของห้อง ได้ 40 เต็มจ้ะ”

แววตาที่ทอประกายแสงแห่งความยินดีของณิชนันท์นั้นเป็นอันต้องลดลงวูบ พร้อมกับรีบเหลียวหลังกับไปดูคนที่คุณครูเอ่ยถึง ท่ามกลางเสียงแห่งความตื่นเต้นของบรรดาเพื่อนคนอื่นๆ ที่แน่นอนว่าเสียงแห่งความยินดีนั้น มันต้องดังกว่าระดับเสียงของเธอ

“โอ้โห ... เก่งจังเลย ได้เต็มด้วยแหละ!”

มนัญชยายิ้มรับคำชมนั้น เมื่อกลับมานั่งที่โต๊ะ ยามนี้เธอดูจะเป็นที่โดดเด่นของห้องขึ้นมา เมื่อสายตาของเด็กทั้งห้องต่างก็หันมาจับจ้องเธอด้วยความชื่นชม  ถึงแม้ว่าใครหลายๆ คนรวมทั้งตัวคุณครูประจำวิชาจะมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น แต่สำหรับเด็กสาวอีกคนกลับ ไม่เป็นเช่นนั้น

ณิชนันท์ก้มมองแผ่นกระดาษในมือ  รู้สึกคับข้องอยู่ในอก เป็นความรู้สึกยังไง เธอก็ไม่สามารถบอกกับตนเองได้เหมือนกัน  เพราะเท่าที่ผ่านเธอจะเป็นที่หนึ่งของห้อง แต่ทว่ายามนี้ กับเด็กสาวคนนั้น ที่ดูโดดเด่นด้วยดวงตากลมโตดำขลับด้วยขนตาแพงอน กำลังทอประกายแววตาแห่งความดีใจรับกับความชื่นชมอันนั้นจากเธอไปเสียจนหมดสิ้น


(มีต่อค่ะ)

จากคุณ : พิณพลอย
เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 55 13:05:31




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com