Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เพลงดวงดาว ตอนที่ 17 ติดต่อทีมงาน

ประตูเลื่อนเปิดออกโดยไม่คาดหมาย เผยให้เห็นพื้นที่โล่งกว้างที่อยู่เบื้องหลังบานประตู ทั้งสองฝ่ายได้แต่ยืนมองดูกันอย่างตกตะลึง ก่อนที่เหล่าเจ้าหน้าที่พิเศษในชุดสีดำจะชักกระบองไฟฟ้าออกมา ก่อให้เกิดเสียงดังเฉพาะตัว ซึ่งทำให้ผู้ที่เคยได้ยินต้องรู้สึกเสียวสันหลัง

โนอาออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ของเขาเข้าจู่โจมทันที ถึงแม้ว่าพวกเขาจะได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี แต่นี่ก็นับเป็นครั้งแรกที่ต้องต่อสู้โดยมีชีวิตเป็นเดิมพัน ซึ่งแตกต่างจากเจ้าหน้าที่พิเศษที่คุ้นชินกับการปฏิบัติงานภายใต้ภาวะเสี่ยงอันตราย และมีแรงกดดันสูงอยู่เสมอ

อีกทั้งพวกเขายังตกเป็นรองในด้านทำเลพื้นที่ เจ้าหน้าที่พิเศษนั้นคอยตั้งรับอยู่ในสถานที่เปิดโล่ง ในขณะที่พวกเขายังคงติดอยู่ในช่องทางเดินแคบๆ ปากประตูที่เปิดออกแห่งนี้ จึงไม่ต่างอะไรจากด่านมรณะนั่นเอง

เสียงของกระบองไฟฟ้าในยามเคลื่อนไหว กับเสียงร้องปลุกใจยามที่ฟาดฟันดาบตัดผ่านอากาศ ดังขึ้นห่างๆ การหันอาวุธเข้าใส่กันแบบนี้เป็นสิ่งที่ทั้งสองฝ่ายต่างไม่คุ้นชิน โดยเฉพาะเมื่อไม่ได้มีความโกรธแค้นเป็นการส่วนตัวมาก่อน

กรณีการใช้ความรุนแรงนั้น มีเกิดขึ้นภายในเมืองต่างๆ น้อยมาก จนไม่นับเป็นปัญหาอีกต่อไป ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะไอพีได้เข้ามาแทนที่การติดต่อโดยตรงระหว่างบุคคลไปจนเกือบหมดนั่นเอง

เจ้าหน้าที่พิเศษคนหนึ่งตวัดกระบองไฟฟ้าเข้าที่แขนของคู่ต่อสู้เต็มแรง ในขณะที่เขาพยายามจะพุ่งผ่านประตูเข้ามา ความเจ็บปวดทำให้ดาบหลุดจากมือ และเมื่อกระแสไฟฟ้าแล่นผ่านร่าง ก็ทำให้เขาถึงกับกระเด็นไปทางด้านหลัง พร้อมกับชนเพื่อนอีกหลายคนให้ล้มลงไปด้วย

“ก้มลง”

เสียงตวาดของโนอาดังขึ้นกลบเสียงวุ่นวายทั้งหมด เจ้าหน้าที่ของเขาต่างปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด ยูดาที่หลบอยู่ทางด้านหลังมองดูสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นด้วยความตื่นตะลึง

ร่างสูงใหญ่ของโนอาพุ่งข้ามเจ้าหน้าที่ซึ่งขวางอยู่ไปราวกับไม่มีน้ำหนัก เจ้าหน้าที่พิเศษที่ดักรออยู่จ้องมองดูเงาที่โบยบินเข้ามาหาอย่างไม่เชื่อสายตา แต่พวกเขาเคยรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่ไม่อาจคาดหมายนานาชนิดซึ่งเกิดขึ้นข้างนอกนั่น กระบองไฟฟ้าสองเล่มจึงพยายามต้านทานการบุกนี้เอาไว้

ยูดาไม่ทันได้เห็นอย่างถนัดตา แต่กระบองไฟฟ้าทั้งสองนั้นกลับหลงเหลือเพียงด้ามจับ ส่วนโนอาก็สามารถออกไปยืนอยู่ในพื้นที่เปิดโล่งได้อย่างสง่าผ่าเผย

“ยังไม่เข้าใจอีกหรือ เจ้านายของพวกคุณกำลังทำสิ่งผิดพลาดร้ายแรงอยู่ หากปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป มนุษยชาติจะต้องล้มตายลงจนหมด”

เขามองไปรอบๆ และรับรู้ได้ในทันทีว่า เจ้าหน้าที่พิเศษพวกนี้ไม่มีใครหวั่นไหวไปกับคำพูดของเขาเลยแม้แต่น้อย 'ก็ควรจะเป็นอย่างนั้น' เขาคงไม่อาจคาดหวังสิ่งที่น้อยไปกว่านี้จากเหล่าผู้คนที่หญิงเหล็กให้ความไว้วางใจได้

มาสะมุเนะ ถูกชักออกจากฝักอีกครั้งอย่างช้าๆ ในใจของเขาไม่มีความกลัว ความกังวล ความลังเลสงสัยหลงเหลืออยู่อีก มีเพียงดาบในมือ กับศัตรูที่รายล้อม เจ้าหน้าที่พิเศษหลายคนที่เคยมีโอกาสได้ชมการต่อสู้ของทริกด้วยตาตนเอง ต่างมีความรู้สึกเดียวกันเกิดขึ้น 'ชายคนนี้ช่างคล้ายกับเธอเหลือเกิน' และมันทำให้พวกเขาถอยหลังไปอย่างลืมตัว

เจ้าหน้าที่ของโนอาเร่งออกมาให้พ้นประตู ก่อนกระจายกำลังเข้าเผชิญหน้ากับศัตรู เมื่อมีเขายืนเปลือยดาบขวางอยู่ เจ้าหน้าที่พิเศษจึงได้แต่ปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามนั้น เพราะตอนนี้ไม่มีใครกล้าวู่วามลงมือจู่โจมเข้าใส่ประธานสภาที่ไม่ธรรมดาคนนี้

แต่แล้วโนอากลับเก็บดาบของตนคืนสู่ฝัก ก่อนก้าวถอยไปทางด้านหลัง ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้ตั้งใจจะลงมือเองตั้งแต่แรก เพียงแต่ต้องการแก้ไขสถานะที่เคยตกเป็นรอง แล้วจึงค่อยปล่อยให้คนของเขาได้ลงมือต่อ

สายลมแห่งการต่อสู้เริ่มพัดขึ้นอย่างช้าๆ อีกครั้ง เสียงร้อง เสียงปะทะกันของคมอาวุธค่อยๆ ดังถี่ขึ้น กลิ่นไหม้ กลิ่นคาวเลือด การต่อสู้ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น โทสะ และอัตตาของทั้งสองฝ่ายเริ่มลุกโชน ก่อกวนไปทั่ว จนทำให้พายุแห่งการฆ่าที่แท้จริงพัดทำลายไปทั่วทั้งสนามรบ

ยูดาจับตามองโนอาที่ยืนดูการต่อสู้อยู่ข้างๆ อย่างไม่เข้าใจ 'จะว่าเขาขี้ขลาดก็ไม่น่าใช่' แต่เพราะเหตุใดเขาจึงไม่ลงมือเองเพื่อให้ทุกอย่างจบลงอย่างรวดเร็วตามที่ต้องการ

หัวหน้าทีมนักเจาะระบบเดินเข้ามาพูดคุยกับโนอา สีหน้าของเขาแสดงความกังวลออกมาอย่างไม่ปิดบัง

“...เอ่อ คือว่า”

โนอารู้สึกรำคาญกับนิสัยอ้ำอึ้งที่เหมือนๆ กันของนักเจาะระบบพวกนี้เสียเหลือเกิน

“มีอะไรก็รีบว่ามา”

“ครับท่าน...เอ่อ คือ เมื่อครู่นี้ไม่ใช่ฝีมือของพวกเราครับ”

“...คุณพูดเรื่องอะไร”

“ประตู...พวกเราไม่ได้เป็นคนเปิดมันครับ”

พอพูดจบเขาก็ก้มหน้าลง โนอาขบคิดครู่หนึ่ง 'แต่มันไม่ใช่กับดัก พวกนั้นเองก็ตกใจที่เห็นประตูเปิดออก' ถ้าอย่างนั้นก็หมายความว่า ยังมีอีกฝ่ายหนึ่งที่ยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย 'ศัตรูของศัตรูก็คือสหาย แต่มันเป็นพวกไหนกัน'

“พยายามเจาะเข้าระบบของสำนักงานต่อไป ถ้ามันยังคงช่วยงานของเราอยู่ ก็ช่างมัน”

“แต่ว่า...”

“งานหลักของพวกคุณคือการเข้าไปในระบบของสำนักวิทยาศาสตร์ให้ได้ นอกนั้นไม่ต้องสนใจ”

“ครับ”

พวกเขายืนคุยกันอย่างเปิดเผย ยูดาจึงได้ยินทั้งหมด 'ดูเหมือนว่าเรื่องราวจะซับซ้อนยิ่งกว่าเก่า' การตัดสินใจหักหลังมิตรสหายที่คบหากันมาอย่างยาวนานเมื่อครู่นี้ ยังคงทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ และการที่เรื่องราวต่างๆ ไม่เป็นไปอย่างที่คาดก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกไม่ดีมากยิ่งขึ้น

สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดในตอนนี้ คือให้โนอาดำเนินการไปตามแผนจนสำเร็จลุล่วงโดยเร็ว เพราะอย่างน้อยมันก็จะช่วยทำให้เขารู้สึกว่า การตัดสินใจที่ผ่านมานั้นถูกต้องแล้ว

#####

“ช่วยหยิบไอ้นั่นให้หน่อยสิ”

หนุ่มอ้วนชี้มือไปยังกองสิ่งของที่มุมห้อง สายตาของเขาไม่ยอมละจากหน้าจอ แม้แต่มืออีกข้างหนึ่งก็ยังคงเคลื่อนไหวไม่หยุด

“อันนี้หรือ”

เด็กสาวหยิบอุปกรณ์ที่ไม่รู้จักชิ้นหนึ่งขึ้นมา ยังคงไม่เข้าใจว่ามันกลายเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร เขาเหลือบตามองมาแวบหนึ่ง

“ไม่ใช่ ไม่ใช่ อีกอันหนึ่งต่างหาก”

เด็กสาวยกของในมือชิ้นนั้นขึ้น แล้วขว้างใส่หัวของเขาเต็มแรง

“หนอย พอยอมช่วยหน่อยก็เอาใหญ่เชียวนะ”

หนุ่มอ้วนยกมือข้างที่ว่างขึ้นลูบหัว พร้อมกับหัวเราะ

“โทษที ฉันอยากได้อีกอันที่วางอยู่ข้างๆ นั่นต่างหาก”

เด็กสาวหยิบมันมาส่งให้ พร้อมกับมองเข้าไปในหน้าจอหนึ่งในหลายหน้าจอที่เขากำลังวุ่นวายกับมัน เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว และยังคงไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น ทั้งภายในห้องนี้ และข้างนอกนั่น ราวกับว่าเรื่องที่ผ่านมาเป็นเพียงฝันร้ายเท่านั้นเอง

#####

“เจ้าหมูขี้เซา ตื่นได้แล้ว”

หล่งยังคงนอนนิ่งไม่ขยับ จูเลียตจึงเปลี่ยนเป็นเตะเข้าไปที่สีข้างของเขาแทน

“โอ๊ย”

ในที่สุดเขาก็ลืมตาตื่นขึ้นมาจนได้ เขาลุกขึ้นมานั่งงง มองไปรอบๆ ก่อนที่ความทรงจำทั้งหมดจะค่อยๆ กลับคืนมา เขาจ้องมองใบหน้าของคนที่ปลุกอย่างตื่นเต้น

“จูเลียต เธอยังไม่ตาย ฉันนึกว่า...และก็ตัวฉันด้วย”

คำพูดของเขาทำให้เธอหวนนึกถึงความรู้สึกที่ยากลืมเลือนในตอนนั้นอีกครั้ง ยามที่ส่วนเชื่อมต่อระบบประสาทของกล้ามเนื้อเทียมเข้ากับส่วนสั่งการภายในหมวกถูกกระชากดึงฉีกขาด เธอรู้สึกราวกับว่า หัวได้ถูกดึงขาดออกไปจริงๆ ความรู้สึกรุนแรงที่เกิดขึ้นในตอนนั้น ทำให้เธอหมดสติไป

เขาเองก็นึกถึงความรู้สึกในตอนนั้นเช่นกัน ตอนที่อยู่ในอ้อมกอดของทริก ตอนที่เธอเพิ่มแรงบีบเข้าไปที่ด้านหลังคอ ความรู้สึกเย็นเยียบเหมือนถูกจับแช่ลงในน้ำแข็งวิ่งลงไปตามไขสันหลัง ก่อนที่ทุกอย่างจะกลายเป็นความดำมืด 'ไม่รู้ว่าความตายที่แท้จริงนั้น จะทำให้รู้สึกแบบนี้เหมือนกันหรือเปล่า'

“แล้ว...เราอยู่ที่ไหน”

“ฉันก็ไม่แน่ใจนัก แต่น่าจะเป็นห้องเก็บของที่ใดที่หนึ่งในโรงเรียน อย่ามัวแต่นั่งงง รีบมาเปิดประตูบานนี้ก่อนเลย”

“ฉันทำไม่ได้หรอก ไอพีของฉัน...”

คำพูดของเขาหยุดลงแค่นั้น เมื่อยกแขนของตนขึ้นดู และพบเห็นแสงสว่างบนหน้าจอที่คุ้นเคยอีกครั้ง เขาต้องรีบยกมืออีกข้างขึ้นมาขยี้ตาอย่างไม่เชื่อ เธอมองดูท่าทางของเขาอย่างไม่เข้าใจ

“ยังมัวนั่งเล่นทำอะไรอยู่อีก”

“...ไอพีของฉัน มันติดแล้ว มันติดแล้ว”

เขาลุกขึ้นมากระโดดโลดเต้นจนสั่นกระเพื่อมไปทั้งตัว ก่อนที่จะเซเสียหลักไปทางเธอ ซึ่งแทนที่จะช่วยประคอง กลับรีบผลักเขาจนล้มไปอีกทางหนึ่ง

ความรู้สึกแปลกประหลาดวาบหวามรองรับร่างของเขาเอาไว้ เขานอนทับลงไปบนอะไรบางอย่างที่นุ่มนิ่ม มือของเขาขยับเลื่อนเพื่อหาตำแหน่งที่จะยันตัวลุกขึ้น อะไรก็ตามที่เขานอนทับอยู่นั้น มีส่วนยื่นนูนขึ้นมาในอุ้งมือของเขาพอดี เขามองดูสิ่งที่อยู่ใต้ร่างของตนอย่างไม่เข้าใจ

“จับอะไรอยู่ได้ เจ้าหมูลามก”

กำปั้นของเธอเขกลงมาบนหัวของเขาเต็มแรง ความเจ็บปวดทำเอาเขาต้องรีบกระโดดขึ้นมา เขานอนทับอยู่บนร่างสีดำของผู้หญิงที่ไม่มีหัว เมื่อครู่นี้มือของเขาวางอยู่บนหน้าอกของมันพอดี หน้าอกที่มีขนาดใหญ่โต และมีสัมผัสราวกับเป็นร่างกายของคนจริงๆ

“มันเป็นชุดกล้ามเนื้อเทียมเหมือนกับของฉันนั่นแหละ...”

เขาจำได้แล้ว มันคือชุดสีดำของเจ้าหน้าที่พิเศษ และรูปร่างอวบอัดแบบนั้นต้องเป็นทริกอย่างไม่ต้องสงสัย

“...ไม่สิ มันไม่เหมือนกันเสียทีเดียว เส้นใยกล้ามเนื้อในชุดนี้เล็กละเอียดถักทอซ่อนอยู่ทางด้านใน แต่มีความยืดหยุ่นกว่ามาก ส่วนการบังคับควบคุมก็มีจุดเชื่อมต่อเข้ากับระบบประสาทไขสันหลังโดยตรง”

'นอกจากเธอแล้ว คนอื่นจะใช้ไม่ได้เลย' มันเป็นระบบควบคุมในแบบที่เธอนึกไม่ถึง 'มันเหนือกว่าชุดของฉันทุกด้าน' นั่นสามารถอธิบายถึงที่มาของเรี่ยวแรงมหาศาลเกินมนุษย์ของทริกได้ 'แต่ก็ไม่ทั้งหมด' ยังมีอีกหลายส่วนที่เกิดจากความสามารถในการต่อสู้ของผู้สวมใส่เองด้วย

เขามองดูมันด้วยความสนใจ และพบว่ามันไม่มีไอพีติดอยู่แล้ว

“...มันเสียหรือไง”

“ฉันคิดว่าไม่นะ มันยังดูเรียบร้อยดีทุกอย่าง”

“ถ้าอย่างนั้นเธอจะถอดมันทิ้งไว้ทำไม แล้วเธอแก้ผ้าไล่ตามคีย์ไปงั้นหรือ...ข้างในชุดนั้นไม่มีพื้นที่ว่างมากนัก ตัวจริงของเธอคงรูปร่างแบบบางน่าดู”

“ถามฉัน แล้วฉันจะไปถามใครได้ล่ะ...ยังไงก็เปิดประตูบ้านี่เสียที ฉันจะได้รีบกลับ”

เขาพยักหน้าก่อนเลื่อนมือไปมาบนไอพีของตนเองอย่างแสนคิดถึง การที่มันเปิดตัวเองขึ้นมาได้นั้นก็เป็นเพราะเหตุการณ์พลังงานดับนั่นเอง เพราะเมื่อพลังงานกลับคืนมาอีกครั้ง ไอพีทุกตัวจะได้รับการกระตุ้น ทำให้เครื่องที่ถูกปิดแต่มีการสวมใส่อยู่บนตัวบุคคลเปิดตัวเองขึ้นใหม่อีกครั้ง

เพียงครู่เดียวประตูห้องเก็บของก็เด้งเปิดออก แม้แต่เธอก็นึกไม่ถึงว่าเขาจะทำได้รวดเร็วขนาดนี้

“...เก่งเหมือนกันนี่นา”

เธอเผลออุทานออกมาเบาๆ ก่อนจะรู้ตัวแล้วรีบเดินออกจากห้องไป เขายืนลังเลอยู่ว่าจะเอาชุดของทริกกลับไปด้วยดีไหม แต่กลัวจะถูกเธอเข้าใจผิดว่าจะเอามันไปทำอะไรแปลกๆ สุดท้ายจึงทิ้งไว้อย่างนั้น

“เธอจะทำอะไรต่อ”

เธอถามในขณะที่ยังเดินนำอยู่ข้างหน้า

“...ฉันจะแก้แค้นพวกนั้น”

เธอหยุดแล้วหันหลังกลับมา สีหน้าแสดงว่าไม่เชื่อคำพูดของเขาเลย

“เธอจะทำได้อย่างไร”

“ด้วยวิธีแบบของฉันไงล่ะ”

เขาตอบกลับมาด้วยความมั่นใจ และนั่นทำให้เธอติดตามเขามาที่ห้องนี้ด้วย ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ทั้งสองคนต่างคาดไม่ถึง สุดท้ายทั้งคู่ก็มายืนอยู่หน้าอดีตศูนย์บัญชาการที่ตอนนี้ได้แต่นอนนิ่งเงียบงัน

“...ช่วยฉันหน่อย ฉันต้องคืนชีพให้กับเจ้าปีศาจตนนี้”

#####

หล่งต่ออุปกรณ์ชิ้นที่จูเลียตพึ่งนำมาให้เข้าไป ก่อนยื่นมือชี้นิ้วไปยังหน้าจอหลักของศูนย์บัญชาการ

“ขอจงบังเกิดแสงสว่าง”

หน้าจอกระพริบวูบวาบก่อนติดสว่างขึ้น ราวกับตอบสนองต่อคำสั่งนั้น เขาฉีกยิ้มอย่างพอใจ ก่อนเอนหลังนั่งพิงเก้าอี้ตัวโปรด

“รหัส อีสเตอร์เอกส์”

ดวงไฟต่างๆ เริ่มติดสว่างขึ้นอีกครั้ง ศูนย์บัญชาการของเขาสามารถฟื้นกลับมาจากความตายได้ในที่สุด 'ฉันโกหก ระบบยังกู้คืนได้อยู่' เขาหัวเราะออกมาอย่างสะใจ

“งั้นฉันกลับก่อนล่ะ”

เธอเดินไปที่ประตูแต่มันไม่ยอมเปิดออก เธอหันมาสบสายตากับเขาอีกครั้ง

“เธออยู่กับฉันจะปลอดภัยกว่า เราไม่รู้ว่าพวกนั้นวางแผนจะทำอะไรอีก อย่างน้อยเมื่อมีศูนย์บัญชาการ กับไม้ตายลับอยู่ในมือ ฉันน่าจะสามารถต่อรองกับพวกนั้นได้”

“เธอนี่นะ...จะต่อรองกับสำนักวิทยาศาสตร์”

เธอไม่เชื่อ และไม่มีวันจะเชื่อ แต่เขากลับมีท่าทางมั่นใจอย่างที่สุด

“ขั้นแรก ต้องทำให้พวกนั้นรู้ก่อน ว่าฉันทำอะไรได้บ้าง หลังจากนั้นจึงค่อยเจรจา”

เพียงไม่นานระบบป้องกันชั้นแรกของสำนักวิทยาศาสตร์อันแสนยิ่งใหญ่ก็ถูกเจาะ ประตูที่เคยปิดตายถูกเปิดออก และเขายังตั้งใจจะเจาะเข้าไปให้ถึงชั้นในสุด เปิดเข้าไปให้ถึงห้องทำงานของหญิงเหล็กในตำนาน ไอมานเด้ รอนโนวิช เลยทีเดียว

ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไร แต่จูเลียตเลิกคิดที่จะเรียกหล่งเป็นหมูไปแล้ว

จากคุณ : zoi
เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 23:34:58




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com