Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เสน่หา...ปารีส ตอนที่3(100%) ติดต่อทีมงาน

ตอนที่3(50%) http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11575683/W11575683.html

Chapter3 : once upon a dream 100%            

          ริต้าเคยบอกว่า...ถ้าคุณเจอเธอคุณจะตกหลุมรักอย่างถอนตัวไม่ขึ้นเลยล่ะ...เสี้ยววินาทีนี้ เข้ารู้สึกว่าริต้าพูดจริง เขาถอนตัวไม่ขึ้นมาเนิ่นนานกว่าห้าปีแล้ว แม้จะรู้สึกขัดใจเมื่อรู้ว่าสุดที่รักของเขาอยู่กับปิแอร์ แต่ไอ้ความรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจที่ได้เจอมันมีมากมายจนกลบความรู้สึกขุ่นข้องหมองใจไปหมด ในที่สุดวันนี้เขาก็ได้เจอเธออีกครั้ง แค่คิดถึงดวงหน้าหวานก็พาให้เอเตียนยิ้มจนแก้มปริ นานแค่ไหนแล้วนะที่เขาไม่ได้รู้สึกมีความสุขได้มากมายขนาดนี้ ในเวลานี้อะไรๆก็ดูสวยงามไปหมด

           ขับรถไปก็ไม่วายหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาเปิดดูรูปของใครบางคน นางฟ้าน้อยๆของเขาโตแล้วสินะ สวยด้วย ถึงแม้ว่าจะดูแคระๆแกร็นๆไปหน่อยก็เถอะแต่ก็สวยอยู่ดี โอ๊ย!หุบยิ้มไม่ได้อ่ะทำไงดี

           อยากเจออีก อยากจะเจอเธอทุกวันต้องทำยังไงนะ...



           “ย้ายบ้าน!” เลโอเนลโวยลั่นเมื่อเมอซิเออร์เอเตียนแจ้งความจำนงแบบกะทันหันสุดๆ ขนาดนิโกลาส์ผู้เสถียรแล้วในทุกๆสิ่งยังออกอาการเหวอ

           “ไม่ใช่เรื่องเล็กๆนะเมอซิเออร์” นิโกลาส์ออกความเห็นในฐานะหัวหน้าหน่วยอารักขาทีมA ทุกย่างก้าวของชายผู้นี้จะต้องปลอดภัยที่สุดเมื่ออยู่ในความคุ้มครองของเขา

           “แล้วมันเป็นเรื่องใหญ่ตรงไหน” เจ้านายรูปหล่อสวนขึ้น พร้อมกับเลิกคิ้วเข้มขึ้นมอง เม็น อิน แบล็กของเขาทั้งสอง...ก็แค่ย้ายบ้าน จะอะไรกันนักกันหนา

           นิโกลาส์ยิ่งตีหน้าเครียดเข้าไปใหญ่ เขาเข้าใจว่าเมอซิเออร์คือเจ้านาย แต่รู้สึกว่ามันฉุกละหุกเกินไปสำหรับคนที่มีอันตรายอยู่รอบด้านเช่นเอเตียน โบวิเย่ร์ผู้นี้ เพราะสมบัติพัสถานที่มหาศาลล้นฟ้าขนาดนั้น ใครๆก็จ้องจะให้เขาตายทั้งนั้นล่ะ ยิ่งเป็นเมื่อห้าปีก่อนที่เมอซิเออร์ประกาศหมั้นกับมาดามริต้ามันยิ่งไปกันใหญ่ ทั้งการลอบสังหารรายวัน แผนการลักพาตัวเพื่อเรียกค่าไถ่ และอีกมากมายที่หมายจะเอาชีวิตทายาทแบรนดัง และคู่หมั้น แม้ว่าส่วนใหญ่แล้วจะหนักไปที่มาดามริต้าซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญในการสร้างฐานอำนาจในบริษัทให้เมอซิเออร์ แต่กับเมอร์ซิเออก็ใช่ว่าจะไม่มี อาจจะมีมานานเสียจนเขาเริ่มจะชินแล้วกระมัง

           “อย่างน้อยก็ขอผมกับทีมให้ได้สำรวจเส้นทางและวางระบบรักษาความปลอดภัยซักอาทิตย์ก็ยังดีนะเมอซิเออร์” นิโกลาส์ออกความเห็น ขณะที่เลโอเนลพยักหน้าหงึกๆหงักๆ

           “ไม่จำเป็น” น้ำเสียงทรงอำนาจกับลำแสงพิฆาตจากดวงตาสีน้ำเงินทำให้สองหนุ่มขาวดำถึงกับต้องหุบปากฉับ!

ลองเขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเช่นนี้จะไม่มีคำว่าเปลี่ยนใจเป็นอันขาด ย้ายบ้านก็คือย้ายบ้าน วันนี้ก็คือวันนี้ อย่าได้คิดจะโต้แย้งเชียว เดี๋ยวจะโดนสั่งประหาร!



           เหวอ! เจ้าของร่างยักนัยน์ตาสีเขียวมรกตแทบหัวใจจะวายตาย เมื่อได้มายืนอยู่หน้าบ้านหลังใหม่ของเจ้านายรูปหล่อ ปากหยักเม้มสนิทจนแทบจะเป็นเส้นตรงเมื่อนึกถึงความวุ่นวายที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า ไม่รู้ว่าปารีสจะราบเป็นหน้ากลองด้วยฝีมือใคร เจ้าชายปีศาจที่หมายจะเด็ดดอกไม้แห่งสรวงสวรรค์ อัศวินยอดนักรบผู้พิทักษ์ดอกไม้งาม หรือราชินีจอมโหดเจ้าของตัวจริงเสียงจริง ซัดกันเลือดสาดแน่ๆคราวนี้ ดูเหมือนว่ารูปหล่อออร่าที่ยืนอมยิ้มมองดูบ้านใหม่ของตัวเองเนี่ยแหละ จะหนักสุด

           ไม่คิดว่าจะได้กลับมาที่นี่อีก...เรียวปากบางสีแดงระเรื่อฉีกยิ้มเล็กๆให้กับบ้านตรงหน้า บัดนี้เขาตั้งฐานที่มั่นเข้าประชิดกำแพงเมืองของศัตรูห่างออกไปเพียงไม่กี่ร้อยเมตร หึๆๆแผนการต่อไปจะเป็นยังไงก็ไม่รู้(เดี๋ยวค่อยคิด) ตอนนี้ขอให้ได้อยู่ใกล้ไว้ก่อนเป็นพอ

           “ไม่ยักรู้ ว่าเมอซิเออร์มีบ้านอยู่แถ้วนี้ด้วย” เลโอเนลคนบาปเอ่ยเสียงอ่อย พลางสวดภาวนาอยู่ภายในใจให้เหตุการณ์ไม่เป็นอย่างที่เขาคิด เพราะไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาจะคือคนที่ซวยอภิมหาซวยอันดับหนึ่งเลยทีเดียว

           เอเตียนปรายตามองเจ้าของเสียงงุ๊งงิ๊งที่สะพายเป้ขนาดยักษ์ เหมือนพวกเด็กนักเรียนเกรดหกที่กำลังจะไปเข้าค่ายลูกเสือ

“ไม่ยักรู้ ว่าฉันจำเป็นต้องบอกนาย”เจ้าของบ้านสวนกลับด้วยท่าทีสบายๆ จะว่าไปเขาไม่เคยรู้สึกดีใจที่มีบ้านอยู่ใกล้ๆคู่ปรับตลอดกาลอย่างปิแอร์ กาลาสมากเท่าวันนี้เลย ดูเหมือนสวรรค์จะเมตตาเขาอยู่บ้างที่ไม่ทำให้เขาตัดสินใจขายบ้านเก่าหลังนี้ที่เคยอยู่ตั้งแต่สมัยเด็กไปเสียก่อน หลังจากที่พ่อกับแม่ของเขาทำเหมือนจะแยกทางกัน แล้วอเมเลียก็ไปอยู่อพาทเม้นหลังใหม่ใกล้ๆกับสำนักงาน ส่วนพ่อก็..เฮ้อไม่อยากจะพูดถึง

           ลูกเสือสำรองเลโอเนลได้แต่ทำปากขมุบขมิบไล่หลังร่างสูงสง่าของเจ้านายที่เดินหายเข้าไปในตัวบ้านเท่านั้น ขณะที่พรายดำนิโกลาส์ที่ยืนถือกระเป๋าเจมส์ บอนด์ อย่างเท่ห์ มองดูการกระทำของคู่หูด้วยแววตาแปลกใจ

“ช่วงนี้นายดูแปลกๆนะ...แต่ฉันก็เข้าใจ” มือใหญ่ตบหลังเลโอดังป้าบ ร่างดำทะมึนส่ายหัวช้าๆอย่างคนปลงตก แล้วเดินตามเมอซิเออร์รูปหล่อเข้าไปในตัวบ้าน

           “นายจะไปเข้าใจอะไร ไอ้ต๊องเอ๊ย” เลโอเนลตะโกลไล่หลัง ก่อนที่จะกระแทกเท้าหนักๆเข้าสถานกักกัน ย้ายมาอยู่เขต 16 ละแวกเดียวกันกับเมอซิเออร์ปิแอร์ แถมยังชวนให้เขากับนิโกลาส์มาอยู่ด้วยอีก เจ้าชายปีศาจต้องมีแผนการร้ายๆกับน้องสาวแน่ๆ

แอร๊ย!แค่คิดก็สยองแล้ว



           เอเตียนค่อยๆย่างเท้าสำรวจไปรอบๆด้วยความคิดถึง มองทุกสิ่งทุกอย่างภายในบ้าน เครื่องเรือนทุกชิ้น ข้าวของทุกอย่าง ยังคงถูกจัดวางไว้เหมือนดังเช่นวันสุดท้ายที่เขาจากมาไม่มีผิดเพี้ยน นิ้วเรียวค่อยๆไล่ไปตามเส้นปากกาเคมีสีน้ำเงินตรงขอบประตูทางเข้าห้องนั่งเล่น ที่ขีดไว้ตามส่วนสูงของเด็กคนหนึ่งในแต่ละปี

           เอเตียน1ขวบ...เอเตียน2ขวบ...เอเตียน3ขวบ...ไล่ไปจนถึง...เอเตียน10ขวบ

เขายิ้มให้กับมัน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง เส้นวัดส่วนสูงเส้นหนึ่ง ซึ่งสูงกว่าระดับสายตาของเขาไม่มากนัก เส้นสีแดงของคุณพ่อ เส้นที่ตอนเด็กๆเขามักจะเงยหน้าขึ้นมองมันก่อนจะวิ่งไปกินนมอย่างมีความหวัง เขาอยากจะสูงและอยากจะแข็งแรงเหมือนคุณพ่อ

นึกแล้วอยากจะสำลักนมตาย สุดท้ายแล้วในวันที่เขาสูงเท่าพ่อแข็งแรงเท่าพ่อ ก็อยากจะตั๊นหน้าไอ้คนที่มันหนีออกจากบ้านทิ้งลูกทิ้งเมียไปอยู่แอฟริกา อ้างว่าอยากจะออกตามหาแรงบันดาลใจ แล้วทิ้งสมบัติบ้าบอไร้สาระเอาไว้ให้ ไม่มาสนใจใยดีกันซักแอะว่าใครจะเป็นตายร้ายดียังไง แล้วใครมันจะสนถ้าเกิดว่าตาแก่นั่นโดนเสือชีตาร์คาบไปกิน หรือโดนช้างป่าวิ่งไล่กระทืบ เขาไม่ใช่พรีเซนเตอร์ยาน้ำแก้ไอตราลูกตัญญูชวนป๋วยปี่แปกอสักหน่อย ให้ตายสิ!

           “นิก..จากนี้นายจะต้องจัดการทุกอย่างในบ้านหลังนี้” เสียงทุ้มออกคำสั่งเมื่อเห็นพรายดำเดินเข้ามาในตัวบ้าน ขณะที่เจ้าของชื่อพยักหน้ารับคำสั่งอย่างแข็งขัน พร้อมกับยิ้มกว้างจนเห็นฟันสีขาวสะอาดเรียงตัวสวยงามเกือบจะทุกซี่ อาชีพที่เขาใฝ่ฝันตั้งแต่เด็กๆบังเกิดขึ้นในบ้านของเมอซิเออแล้ว...คุณพ่อบ้านนิโกลาส์ สุดยอดนักจัดการมือหนึ่งแห่งปารีส หึๆๆ

           “ส่วนนาย...”เอเตียนปรายตามองไอ้ตัวล่ำตาเขียวที่แบกเป้ใบใหญ่พร้อมกับลากกระเป๋าเดินทางใบเขื่องของเขาเข้ามาหมาดๆ

           “เรียกผมรึ!” เลโอใช้นิ้วชี้ไปชี้เข้าหาตัวเอง พลางกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ นิโกลาส์ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นพ่อบ้าน สงสัยว่าเขาคงได้เลื่อนขึ้นมาเป็นบอดีการ์ดมือวางอันดับหนึ่งของเมอซิเออร์เป็นแน่ ฮิ้วววววว!

“ใช่ นายนั่นแหละเลโอเนล”เอเตียนพยักหน้า คนโดนเรียกยิ้มกริ่มเตรียมรับพระบัญชาจากองค์ชาย

“จากนี้เป็นต้นไป นายมีหน้าที่เป็นผู้ช่วยฉัน” ขนลุกเกรียวกันเลยทีเดียว

ขนาดนิกกี้มาดขรึมยังหันมาชูนิ้วโป้งให้ในความมานะอุตสาหะของเขา วิ่งไปชงกาแฟวิ่งไปซื้อบุหรี่ตลอดห้าปีจนได้ดิบได้ดี คิดผิดแล้วไอ้นี่ เป็นผู้ช่วย(คอยรองมือรองเท้า)เมอซิเออร์ เรื่องดีเสียเมื่อไหร่ โดยเฉพาะคนที่มีชนักติดหลังอย่างเลโอเนลน้อยคนนี้

“อย่างแรกที่ควรจะเป็นคือ ต้องให้โซฟีติดต่องานทั้งหมดกับฉัน...ผ่านนาย”

นั่นไงกูว่าแล้ว! เลโอเนลคำรามลั่นอยู่ภายในใจ พลางมองหนุ่มรูปงามออร่ารัศมีความร้ายเปล่งประกายจนแสบตา มือไม้ไม่มีแรงจนเผลอปล่อยกระเป๋าเป้ใบใหญ่ในมือหล่นดังตุ้บ

           หนุ่มล่ำผมสีน้ำตาลอ่อนพยักหน้ารับช้าๆอย่างไม่มีทางเลือก ก่อนจะเดินหน้าเนือยไปทางห้องพักของตัวเอง นึกแล้วอยากเป็นนางเอกเอ็มวี นอนซบหน้ากับหมอนแล้วร้องไห้... นับวันเมอซิเออร์จะจัดหนักเขาเข้าไปทุกที แค่นึกถึงหน้าเจ้าป้าโซฟีก็รู้สึกเจ็บไปถึงลิ้นปี่ ขอบตาร้อนผ่าวจนอยากจะหลั่งน้ำตา ไอ้เลเอ๊ยตายแน่ๆ



           วันนี้บัวบูชานอนหลับไปนานเป็นพิเศษ เพราะเมื่อวานเกิดเรื่องราวมากมายในชีวิต กว่าจะกลับบ้าน กว่าจะนั่งเขียนเรื่องราวมหากาพย์ในไดอารี่ของเธอจนหมด ก็เล่นเอาหมดแรงข้าวต้มไปเลยทีเดียว ระหว่างทางที่กลับบ้าน เธอกับคุณลุงคุยกันมากมายรวมๆแล้วมากเสียยิ่งกว่าการได้อยู่กับคุณลุงตลอดครึ่งเดือนเสียอีก แต่คำถามหนึ่งของคุณลุงที่เธอเองก็เกิดความสงสัย...เอเตียนมาได้อย่างไร

           สาวน้อยได้แต่ส่ายหัวช้าๆแทนคำตอบ ขณะที่คิ้วของบัวบูชาเริ่มจะขมวดเป็นปมด้วยความสงสัยใคร่รู้ไม่แพ้คุณลุง จู่ๆเขาก็มา จู่ๆเขาก็ไป เขามาได้อย่างไรไม่รู้ แล้วเขามาช่วยเธอทำไมกันในเมื่อไม่จำเป็นเลยสักนิด แต่วินาทีนั้นเธอรู้สึกดีใจอย่างประหลาดที่ได้เจอเขาอีกครั้ง เพื่อนของแม่ที่เจอกี่ครั้งๆก็รู้สึกว่าเขาหล่อเหมือนกับหลุดออกมาจากในแมกกาซีน GQ อย่างนั้นแหละ

สองลุงหลานเงียบอยู่ครู่ก่อนที่ ปิแอร์จะเปิดประเด็นสนทนาใหม่ แม้ภายในใจของเขายังคงขบคิด ถึงปริศนาของเจ้าชายจอมหยิ่งที่ขี่ม้าขาวมาช่วยหลานสาวตัวน้อยของเขาไว้ตอนไหน ทำไมก็ไม่รู้ รู้เพียงแต่ว่า...

           เอเตียนไม่ใช่คนที่ทำอะไรโดยไม่หวังผลประโยชน์ มันอาจจะรู้มาตั้งแต่แรกว่าบัวบูชาอยู่กับเขา และอาจเข้าทางเขาผ่านบัวบูชา ซึ่งเป็นลูกสาวของแฟนเก่า มาแบบเนียนๆ เพื่อหวังอะไรสักอย่าง เจ้าชายไม่มาดีแน่ๆ ต้องระวัง!

           ร่างใหญ่ในชุดลำลองสบายๆยืนอิงประตูมองสาวน้อยที่ยังคงพริ้มหลับอยู่บนเตียงสี่เสาด้วยรอยยิ้มจางๆ ก่อนจะหันเหความสนใจไปที่โทรศัพท์มือถือในมือ พลางต่อสายถึงใครบางคน

           “เจ้านาย คุณสาย!” ปลายสายรับเสียงเข้มโดยที่ไม่คิดจะทักทายกันซักกะนิ๊ด ถ้าไม่ติดที่ความสวยและสาวกว่า อาวีลีนไม่ต่างอะไรจากเจ้าป้าโซฟีคนเก่าคนแก่ของอเมเลียที่ถูกโอนไปให้เอเตียนเลยซักนิด เฉียบขาด ดุดัน เข้มงวด และไม่เกรงใจใครแม้กระทั่งคนที่จ่ายเงินเดือนให้กับพวกเธอ

           “วันนี้ผมลางานหนึ่งวันนะคนสวย” ปิแอร์เอ่ยเสียงนุ่มขณะที่เดินสำรวจห้องหลานสาววัยรุ่นไปทั่ว

           “วันหลังจะทำอะไรช่วยแจ้งกันล่วงหน้าด้วยนะคะ เมอซิเออร์กาลาส” คุณเลขาอาวีลีนตอกกลับเสียงเยียบเย็น ก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงปิดแฟ้มพรึบพรับด้วยความหงุดหงิด วันนี้การนำเสนอเทรนแฟชั่นในอีกสองปีข้างหน้า อเมเลียกับเอเตียนคิดว่ามันสำคัญ แต่สำหรับคนไม่มีหัวทางด้านการออกแบบของเขา ไม่เห็นมันจะเท่าไหร่ ก็วกไปวนมาเหมือนเดิม ไม่เห็นมันจะน่าตื่นตะลึงตรงไหน เขาไม่ใช่พวกที่สนใจในรายละเอียดมากนัก สนแต่ภาพรวมและพลังการขับเคลื่อนของบริษัทต่างหากที่สำคัญสำหรับเขา เรื่องพวกนี้ก็ปล่อยให้แผนกดีไซน์กับมาร์เกตติ้งทำไปสิ จะอะไรกับเขากันนักกันหนา

           “คร้าบๆ ผมผิดไปแล้ว วันนี้ผมมีเดทไปที่ไหนดีล่ะ” เขาขอความเห็น พลางมองโปสการ์ดที่ยังไม่ได้ส่งหลายต่อหลายใบที่อยู่บนโต๊ะของหลานสาว...เป็นเด็กอ่อนไหวและขี้อาย...ปิแอร์สรุป ขณะที่รอคำตอบของคุณเลขาคนสวย

           “ไม่เห็นต้องถามเลยค่ะเจ้านายเรื่องพวกนี้คุณถนัด” ไม่บ่อยนักที่เขาจะเจอผู้หญิงที่ตรงไปตรงมาและไม่ไว้หน้าคนอย่างปิแอร์ กาลาส แต่กับผู้หญิงคนนี้เขาชินเสียแล้ว

“หมดธุระคุณแล้วหรือยังคะ” เธอเอ่ยถามเสียงเรียบ

           “ผมจะไปเดทกับหลานสาว มีอะไรแนะนำผมไหม” เขาถามซ้ำอย่างอารมณ์ดี พลางใช้ฟอกกี้ฉีดน้ำฟิดๆใส่ดอกเจอราเนียมหลากสีสันที่แขวนอยู่ตรงระเบียง

           “ถ้าเธอยังไม่ตื่น ก็ช่วยปลุกเธอด้วยจูบเบาๆที่หน้าผาก ทำอาหารเช้าให้เธอทาน รับฟังเธอ ยิ้มให้เธอ แล้วก็...” คุณเลขาอาวีลีน ร่ายยาวด้วยน้ำเสียงอบอุ่นแบบที่เขาไม่ค่อยจะเคยได้ยินมาก่อน มุมนึงเล็กๆนอกจากความสวย เธอก็ดูน่ารักดี ทำให้ความรู้สึกคิดอยากจะขอเดทกับเธอหวนกลับมาอีกครั้งในรอบห้าปี ถ้าเธอไม่เผลอแต่งงานไปซะก่อนนะ เพราะห้าปีที่ผ่านมาเขารู้จักเธอเพียงแค่ นางสาวอาวีลีน เดอลาโน สุดยอดเลขาลำดับต้นๆของLa Belle ก็แค่นั้น



           วันนี้เป็นวันที่เธอมีความสุขที่สุดเท่าที่ใช้ชีวิตในปารีสมา คุณลุงปลุกเธอด้วยจุ๊บเบาๆที่หน้าผาก เหมือนที่พ่อเคยทำ ก่อนจะมานั่งกินมื้อเช้าง่ายๆ(คอนเฟรกใส่นมถ้วยโต)กันที่ระเบียงห้องของเธอ แดดอุ่นๆ กับนัยน์ตาสีสนิมเหล็กที่แสนอ่อนโยนของคุณลุงทำให้เธอรู้สึกดีจริงๆ สายหน่อยเขาก็พาเธอขึ้น Maserati สีขาวสนิทสุดเท่ห์ออกท่องปารีส ในแบบที่ไม่มีอยู่ในหนังสือนำเที่ยว เรียกว่าช้อปปิ้ง ออน ทัวร์ จะถูกกว่า เพราะคุณลุงพาเธอมุ่งหน้าไปยังแหล่งช้อปปิ้งที่กระจายตัวอยู่ทั่วปารีส

เริ่มตั้งแต่แซงต์ โตโนเร (St. Honoré) ที่ทำให้บัวบูชาถึงกับตะลึงในความละลานตาของร้านสื้อผ้าแบรนด์ดังๆมากมายที่เรียงรายตลอดถนนทั้งสาย อย่างคริสเตียน ดิออร์ ที่เธอคงต้องเก็บเงินสักสามปีกว่าจะได้ผ้าพันคอสักผืน แล้วไหนจะร้านขายจิวเวลรี่หรูๆอีกเพียบ แสงวูบวาบจากเพชรในร้านทำเอาเธอถึงกับตาลาย(แอบเห็นชอปของ La Belle ด้วย) คุณลุงดูมุ่งมั่นที่จะถอยเข็มขัดหนังเส้นเล็กๆที่แสนจะน่ารักที่หัวเข็มขัดเป็นรูปตัว H ของแอร์เมสให้เธอ แต่พอเหลือบไปเห็นป้ายราคาแล้วทำเอาลมแทบจับ

เข็มขัดบ้าอะไรเนี่ย..แพงกว่าราคาเสื้อผ้าในตู้ของเธอรวมกันทั้งหมดเสียอีก!! แต่คนจ่ายตังค์ดูจะสนุกสนานในการรูดการ์ดจนสีถลอก คนรวยทำอะไรก็ไม่น่าเกลียดจริงๆสินะ

ตอนนี้บัวบูชารู้สึกเหมือนอยู่ในรายการทีวีอะไรซักอย่าง เมื่อคุณลุงบอกว่าจะเมคโอเวอร์ให้เธอ กลายเป็นสาวปารีเซียนที่หนุ่มๆจะต้องตะลึงแล้วพาเธอขับรถซิ่งมาถึงย่านถนนเฮาส์มัน(Boulevard Haussmann) อันเป็นที่สถิตของกาเลอรี ลาฟาแยต (Galeries Lafayette) ตั้งตระหง่านอยู่ตรงข้ามกับ ห้างแปรงตอมป์ (Au Printemps) ที่ตอนนี้คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวหัวดำเสียเป็นส่วนใหญ่ สาวน้อยอดทึ่งในความมานะบากบั่นของชาวเอเชียด้วยกันไม่ได้ ถึงขนาดบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาไกลถึงปารีสแล้วมายืนเข้าแถวที่ยาวยิ่งกว่าหางว่าวอยู่หน้าร้านหลุยส์ วิตตอง เพื่อที่จะได้เข้าไป “ซื้อ” กระเป๋าสักใบซึ่งราคาไม่ใช่ถูกๆซึ่งจะไม่มีวันลดราคาและมีแนวโน้มว่าจะแพงขึ้นเรื่อยๆ อีกต่างหาก

         

การเลือกซื้อเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้สำหรับหญิงสาวนั้น ถือเป็นพรสวรรค์ที่ติดตัวปิแอร์หนุ่มเจ้าเสน่ห์แห่งปารีสคนนี้มาตั้งแต่เกิด แล้วหลานสาวตัวเล็กก็น่ารักสมใจเสียด้วย ไม่ว่าจะหยิบมาจับแต่งอะไรก็ดูดีไปเสียหมดจนพนักงานสาวๆในร้านออกปากชมเสียยกใหญ่ มีหรือคนพามาจะไม่รู้สึกปลื้มอกปลื้มใจไปด้วย

           “เยอะเนอะ กลับไปบ้านลุงต้องกล้ามขึ้นแบบที่ไม่ต้องยกเวทแน่ๆ” ชายหนุ่มเอ่ย ขณะที่ยกถุงข้าวของมากมายขึ้นลง ทำท่าเหมือนเวลาที่อยู่ในฟิตเนส ขณะที่สาวน้อยที่เพิ่งสวยวิ๊งออกมาจากซาลอนยิ้มอย่างเขินๆ ก็ไม่ว่าจะเดินเขาออกร้านไหนเธอก็ถูกปฏิบัติเหมือนกับเจ้าหญิงเมื่อมากับคุณลุง ดูท่าว่าใครๆก็อยากจะสมัครมาเป็นคุณป้าของเธอกันทั้งนั้น ก็คุณลุงปิแอร์ของเธอเท่ห์ระเบิดไปเลย แค่ยิ้มทีเดียวสาวๆก็เหมือนกับต้องมนต์สะกด พูดจาไม่เป็นภาษาไปเสียแล้ว ว่าอย่างไรเธอก็รับเพียงแค่ ค่ะ ๆ ๆ แล้วก็ ค่ะ

           “หนูช่วยถือมั้ยคะ” สาวน้อยยื่นมือไปจะรับของขณะที่รอยยิ้มยังคงไม่จางไปจากใบหน้า ก็ข้าวของที่เขาถือน่ะมีแต่ของเธอทั้งนั้น ไม่ใช่ของใครที่ไหนเสียหน่อย

           ปิแอร์ส่ายหน้าช้าๆ ก่อนที่จะใช้ลำแขนใหญ่โอบหลานสาวพร้อมกับโยกไปมาด้วยความเอ็นดู

“เรามาคิดกันดีกว่าว่ามื้อกลางวันเราจะกินอะไรกันดี อาหารไทยเป็นไง” ประโยคสุดท้ายของคุณลุงเล่นเอาบัวบูชายิ้มกว้างกว่าเดิมเป็นสองเท่า “เยี่ยมค่ะ..ถ้าอย่างนั้นช่วยพาไปชิมอาหารไทยในปารีสหน่อยนะคะเมอซิเออร์”

         

วันนี้เป็นวันที่แสนวิเศษสำหรับบัวบูชา ไม่ใช่เพราะข้าวของราคาแพงที่คุณลุงซื้อให้ หรืออาหารไทยที่คุณลุงพาไปกิน(ซึ่งรสชาติก็งั้นๆ) มันก็แค่ส่วนเล็กๆ เพราะสำหรับเด็กขี้เหงาแบบเธอแล้ว แค่มีคุณลุงให้ถูกขังอยู่ในบ้านทั้งวัน เธอก็จะไม่ปริปากบ่นสักคำ มันเป็นนิสัยเสียของเธอที่ติดตัวตามตั้งแต่เด็กๆกลัวเหลือเกินที่จะต้องถูกทอดทิ้งให้อยู่คนเดียว

จากคุณ : พบพร
เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 55 18:22:36




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com