Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
กีฏมนตรา บทที่ 43 ติดต่อทีมงาน

สวัสดีวันสุขสำหรับเพื่อนนักอ่านทุกท่านครับ กีฏมนตราเหลืออีกแค่สามบท ก็อวสานแล้วครับ (มี 46 ตอนครับ)
สำหรับตอนที่ผ่านมาครับ
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11580883/W11580883.html

ขอบคุณกิฟต์จากเพื่อนๆทุกท่านครับ
คุณ Hermosa, มานีโอลา, Travel to the moon, รพิชา, แก้วกังไส, นวลน้ำผึ้ง, kdunagin, กาแฟเย็นเพิ่มช็อต, เรียวรุ้ง, เขมปัณณ์, อินทรายุธ, อมราวตี, XueYitan, Setakan, mimny, wor_lek, และคุณนุ้ย นารีจำศีล ครับ

ติดตามต่อได้เลยครับ

บทที่ 43

           “จำไว้ว่า ทุกอย่างต้องเป็นความลับนะ โรส”


             ยังจำได้ทุกคำพูดของอาจารย์สาวใหญ่ชาวรัสเซียที่เพิ่งรู้จักตัวตนแท้จริงในอีกด้านหนึ่ง หล่อนเกลียดสายตา “รู้ทัน”และ “เป็นต่อ”ของนังแม่มดผมทอง จนอยากจะรู้เหลือเกินว่าภายใต้ใบหน้าราบเรียบเย็นชาที่มองผ่านแว่นสายตาออกมา ประกอบไปด้วยหน้ากากซ้อนทับไว้ทั้งหมดกี่ชั้น?


             “ทำไมคะ ทำไมอาจารย์ถึงไม่เลือกเกตุมาลา?”


              หลุดปากถามออกไป คาเรนเคาะโต๊ะด้วยปลายปากกาด้ามทองของหล่อน นัยน์ตาสีฟ้าหรี่ลงจ้องมองมาไม่กระพริบ


              “เพราะเคทไม่ได้เรียนมาทางไวรัสเหมือนเธอยังไงล่ะ แล้วอีกอย่าง ก็มีเธอเพียงคนเดียวที่เชื่อมต่อกับดอกเตอร์สุคันธาได้ง่ายที่สุด”


           เกือบเบะปากออกไปด้วยความเคยชิน แต่ก็ต้องยั้งเอาไว้


           “ไม่ใช่หรอกค่ะ นั่นเป็นข้ออ้างของอาจารย์ หนูอยากรู้ความจริงมากกว่า”


               ไม่มีประโยชน์ที่จะต้องแสดงท่าไร้เดียงสาอีกต่อไป เห็นนัยน์ตาสีฟ้าไหววับเหมือนน้ำที่กระเพื่อมด้วยระลอกคลื่นน้อยๆสะท้อนผ่านออกมา


            “ถ้าต้องการอย่างนั้นก็ได้สิ โรส! เป็นเพราะฉันมองเห็นแรงผลักดันและพลังไฟในตัวของเธอยังไงล่ะ พลังที่จะพุ่งไปข้างหน้า ด้วยแรงขับจากตัวเอง ไม่ใช่จากปัจจัยภายนอกเหมือนเกตุมาลา”


             หล่อนรู้ในทันที ว่าปัจจัยภายนอกที่อีกฝ่ายพูดถึงคือใคร!


                   จะมีสิ่งใดอีกเล่า ที่เล็ดลอดสายตาของคาเรนไปได้ ถ้าสิ่งนั้นจะเป็นประโยชน์ในการต่อรองผลประโยชน์ในอนาคต  


                “ถ้าไม่มีชาลสักคน เคทก็อาจจะไม่ใช่แบบนี้ ฉันไม่ไว้ใจว่าวันใดวันหนึ่งข้างหน้า เมื่อการวิจัยดำเนินไปยังไม่เสร็จสิ้น อาจจะต้องล้มเลิกกลางคันเสียก่อน เคทยังอ่อนแอเกินไป เด็กเกินไป...”


                และซื่อเกินไปด้วย ซื่อจนเซ่อ!


              หล่อนนึกต่อประโยคในใจ ระหว่างการนั่งนิ่ง ฟังนังแม่มดพล่ามต่อไป มือของโปรเฟสเซอร์แตะลงเบาๆที่หลังมือ นัยน์ตาแน่วแน่


               “และฉันรู้ว่าเธอทำได้!!”


                แค่นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะตอบตกลง ไม่มีประโยชน์ที่จะเป็นศัตรูกับคนที่เหนือกว่า และมีอิทธิพลจนไม่อาจปฏิเสธ การโอนอ่อนครั้งนี้หล่อนมองเห็นหนทางข้างหน้าสว่างไสว สวยงาม รู้ดีว่าจะไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้แน่นอน ความสัมพันธ์ระหว่างคาเรนกับหล่อน นับแต่บัดนี้ ไม่ใช่ศิษย์กับอาจารย์อีกต่อไป


               ดังนั้น จึงเป็นเรื่องง่ายมากที่จะนำไปสู่การเจรจาต่อรอง รวมถึงผลประโยชน์ ไม่ต่างกับนักธุรกิจ คันธรสมองเห็นความแข็งกระด้างเย็นชาแฝงตัวอยู่ในความต้องการของคาเรนชัดเจน


             และการทดลองลับๆนั่นก็เริ่มต้นขึ้น...


               ไม่ยากเลยสำหรับการเข้าไปทำงานกับดอกเตอร์สุคันธา ในเมื่ออีกฝ่ายมีท่าทีชอบพอหล่อนเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว  เพียงไม่นานเลยกับบทบาทที่คันธรสเล่นออกมา ทำให้ดอกเตอร์สาวใหญ่ผู้เบี่ยงเบนทางเพศหลงไว้วางใจ ไม่ทันจะคิดว่าเด็กสาวเสน่ห์พราวที่มีท่าทีถูกใจคนนี้ จะถูกส่งเข้ามา เพื่อศึกษาเทคนิคและวิธีการเตรียมโปรตีนพรีออนสังเคราะห์ขึ้นเองในห้องปฏิบัติการ


                   นอกจากประทับใจในความตั้งอกตั้งใจ และว่านอนสอนง่าย เสียจนสุคันธาคิดหาทุนให้หล่อนไปทำวิจัยร่วมกันที่ต่างประเทศเสียด้วยซ้ำ


               การศึกษาวิจัยดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ด้วยวิธีการดีไซน์มันขึ้นมาจากโปรแกรมวิเคราะห์คอมพิวเตอร์ ก่อนจะถูกสังเคราะห์ขึ้นโดยกระบวนการทางอณูชีววิทยาได้เป็นผลสำเร็จ


           แล้วจากนั้น ก็ทำให้มันติดเชื้อเข้าในผีเสื้อสีขาวที่ไร้รงควัตถุที่คาเรนกำลังเสาะแสวงหาอยู่ ถ้าการ “infected” หรือการติดเชื้อสำเร็จ  โปรตีนที่จะก่อให้เกิดการผ่าเหล่า เกิดเป็นผีเสื้อเรืองแสงในเจนเนอเรชัน หรือผีเสื้อรุ่นลูกหลานถัดมา งานทั้งหมดนี้เข้ากันดีกับงานวิจัยสำหรับการทำวิทยานิพนธ์ไปพร้อมกันโดยไม่มีใครติดใจสงสัย


          ทุกอย่างเป็นความลับที่มีเพียงหล่อนและคาเรนเท่านั้น


             “ต่อไปชื่อของเธอและฉันจะปรากฏเป็นผลงานการศึกษาชิ้นเยี่ยมร่วมกัน ฉันได้ผลงานการวิจัยส่วนเธอ การศึกษานี้สามารถนำไปใช้ศึกษาต่อเนื่องได้ถึงระดับปริญญาเอก ทุกอย่างวิน-วิน ถ้าหากเราหาผีเสื้อชนิดที่ว่านั้นมาได้แล้ว”


            และมันก็ได้เกิดขึ้นในจังหวะที่จันผาเข้ามาติดต่อคาเรน การค้นพบผีเสื้อหิมะโดยบังเอิญที่สุด... ผีเสื้อพาหะที่ปลอดเกล็ดรงควัตถุใดๆบนแผงปีก สายพันธุ์บริสุทธิ์ในพื้นที่ป่าปิด ที่พบว่าไม่มีการผสมข้ามพันธุ์ใดๆทั้งสิ้น และนั่นเองจะนำไปสู่การก่อกำเนิดผีเสื้อสังเคราะห์ทางพันธุวิศวกรรมตัวแรกของโลก!!


           จะมีเพียงชื่อของหล่อนและคาเรนเท่านั้น โดยไม่มีชื่อของเกตุมาลาร่วมอยู่ด้วย


             นี่คือการก้าวย่างที่ยาวไกล และสวยงามของคันธรส ปล่อยให้เกตุมาลาหลงอยู่ในความหวังลมๆแล้งๆ จากอาจารย์ชาล หรือ ชาญ ที่หล่อนคิดว่าเป็นภาพสวยงามต่อไปเพียงผู้เดียว


          ดอกเตอร์ธุมชาล เชษฐภักดี...


           คันธรสขันกับความคลั่งไคล้ของเพื่อนสาว เมื่อรับรู้ความจริงทุกอย่างจากพี่โชติมาหมดแล้ว แท้จริงดอกเตอร์รูปงามคนนั้นก็ไม่ต่างกับมนุษย์ปุถุชนทั่วไป มีชนักติดหลังที่ไม่อาจถ่ายถอน เป็นตราบาปและรอยด่างพร้อยบนความสวยงามและทรงภูมิของอาจารย์มหาวิทยาลัย ที่เสพย์กินความศรัทธาของลูกศิษย์เป็นภักษาหาร


          แต่มีเบื้องหลังก็สกปรกและผ่านความดำมืดในจิตใจมาไม่ต่างกับบุรโชติ!!


        “มันเป็นเพื่อนของผมเอง  ชื่อไอ้ชาญ...”


          “หมายถึงดอกเตอร์ธุมชาล?”


            จากนั้น บุรโชติก็เผยเรื่องราวทุกสิ่งเกี่ยวกับดอกเตอร์หนุ่มผู้นั้นอย่างหมดเปลือก ทุกสิ่งที่ทำร่วมกัน ภายในจิตใต้สำนึกดำมืด ชายหนุ่มมีอาการไม่ต่างกับเด็กน้อยผู้เหว่ว้าในยามที่ภาคแห่งวัยเยาว์ปรากฏขึ้น ทดแทนภาคแห่งชายหนุ่มวัยฉกรรจ์ผู้รุ่มร้อนเดือดพล่าน เขาคือทารกที่หวาดกลัวและแสวงหาไออุ่นจากสตรีเพศ ในเวลานั้น คันธรสจะสวมบทบาทเป็นมารดาผู้แสนอบอุ่น คอยปลอบประโลมใจอีกฝ่ายให้หายจากอาการฝันร้าย


             ไม่ต่างกับบทบาทที่เล่นซ้ำซากจนจำขึ้นใจมาแล้วกับเกตุมาลานั่นเอง

                 **********************


              แล้วคาเรนก็ได้ผีเสื้อตัวนั้นมาจริงๆ ผีเสื้อสีขาวเหลือบเงินยวงประหลาดตาอย่างที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน มันคือตัวอย่างสำหรับใช้เป็นผีเสื้อพาหะที่สมบูรณ์แบบที่สุด หล่อนส่งมันให้คันธรสเพื่อการศึกษารูปแบบของไวรัส ไวรอยด์ หรือพรีออนที่เหมาะสมสำหรับการ “แปลงโฉม” ระบายสีให้ผีเสื้อชนิดนี้ ซึ่งถ้าการดีไซน์หรือจัดรูปแบบของสิ่งมีชีวิตที่สามารถแทรกสอดเข้าไปอยู่ภายในโครงสร้างยีนของผีเสื้อตัวนี้ได้สำเร็จ การดำเนินการที่ผาติ้วก็จะเริ่มต้นขึ้นเช่นเดียวกัน


              เมื่อนั้นโปรเฟสเซอร์สาวใหญ่ก็จะเป็นผู้นำพรีออนสังเคราะห์ที่ได้มา เดินทางไปยังผาติ้วเพียงลำพัง เพื่อทำให้พวกมันทุกตัวติดเชื้อทั้งหมด!


          น่าขัน เกตุมาลาที่เอาแต่ไล่จับผีเสื้อมาศึกษา หาได้คิดเฉลียวใจแม้แต่น้อยไม่ นึกเพียงว่าคันธรสแวะเวียนมาเยี่ยมเยียนด้วยความคิดถึงประสาเพื่อนรักเท่านั้นเอง แต่เบื้องหลังการมาเยือนตึกกีฏวิทยาแห่งนี้ แท้จริงคือการติดต่อส่งถ่ายข้อมูลกับคาเรนตลอดเวลา ด้วยวัตถุประสงค์ลึกเร้นเกินกว่าทุกคนจะคาดคิด....


              แล้วการดีไซน์พรีออนสังเคราะห์ก็เกิดขึ้นโดยสมบูรณ์ ดอกเตอร์สุคันธาผู้เป็นแอดไวเซอร์หรืออาจารย์ที่ปรึกษาซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญสาขาไวรัส หาได้เฉลียวใจแม้แต่น้อย เมื่อหล่อนเข้าไปขอคำปรึกษา ดอกเตอร์สาวใหญ่ก็หลงปลาบปลื้มพึงใจ คิดแต่เพียงว่า แอดไวซี หรือลูกศิษย์คนสวยที่ถูกใจไปเสียทุกอย่างช่างมีความสนอกสนใจในการทำวิจัยอย่างน่าภาคภูมิใจ และยินดีถ่ายทอดความรู้ต่างๆให้อย่างเต็มที่ โดยไม่มีปิดบัง... รวมทั้งให้ความหวังว่าจะขอทุนเพื่อส่งเสริมให้หล่อนได้ไปฝึกงานทำ Post doc ต่อยังมหาวิทยาลัยต่างประเทศ


              คันธรสได้แต่ทำทีรับปากเหมือนดีใจสุดขีด ทั้งที่ในความเป็นจริง รู้สึกขบขันกับข้อเสนอนั้นเสียมากกว่า ในเมื่อจุดหมายของหล่อนมันก้าวไกลไปมากกว่านั้นแล้ว...


              “ฉันยินดีสนับสนุนเธอเต็มที่นะ คันธรส”


             แทบจะขนลุก เมื่อได้ยินเสียงอีกฝ่ายพูดอยู่ใกล้หู ร่างผอมสูงจนเหมือนโครงกระดูก ผมตัดสั้นระแนบใบหูแทบไม่ต่างกับเด็กผู้ชาย... ทอมบอย และกลิ่นลมหายใจอุ่นระอุด้วยแรงปรารถนาเร้นลับ แต่คันธรสก็ฉลาดพอที่จะทิ้งความหวังไว้ให้อีกฝ่าย...


              เพราะหล่อนมีโปรเจคพิเศษสำหรับตัวเองเพียงเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นดอกเตอร์สุคันธา หรือแม้แต่คาเรนเองก็ยังไม่รู้ นั่นก็คือการสร้างโปรแกรม ให้เกิดกระบวนการก่อพยาธิสภาพใส่เข้าไปในพรีออนชนิดนั้นด้วย


                 กลไกทางพยาธิสรีรวิทยาที่ศึกษามาอย่างหนักล่วงหน้า และโปรแกรมให้มันพร้อมสรรพ สำหรับจัดการกับ “คาเรน” โดยเฉพาะ


             คิดไว้ว่าเมื่อการทดลองที่ผาติ้วเกิดขึ้น นอกจากจะเป็นติดเชื้อให้กับผีเสื้อหิมะแล้ว นังปีศาจนั่นก็จะได้ติดเชื้อไปพร้อมกันเสียด้วยเลย เพื่อที่หล่อนจะได้เป็นฝ่ายจัดการทุกอย่างแต่เพียงผู้เดียว


                 พรีออนเป็นรูปแบบที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการทดลองนี้ มากกว่าไวรัส หรือไวรอยด์ ด้วยคุณสมบัติการเป็นอนุภาคโปรตีนขนาดเล็กจิ๋วของมันมากกว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีรหัสพันธุกรรมชัดเจนอย่างสองประเภทแรก และยิ่งยุ่งยากขึ้นไปอีก ถ้าหากจะมีการตรวจสอบขึ้นมาจากบุคคลภายนอก


            แน่นอนคนฉลาดอย่างหล่อนย่อมไม่มีทางประมาท คันธรสเตรียมการสร้าง “ภูมิคุ้มกัน”ของตัวเองเอาไว้แล้ว ไม่มีทางที่ผู้ให้กำเนิดมันขึ้นมากับมือ จะได้รับผลกระทบจากฤทธานุภาพของพรีออนมรณะนี้ไปด้วยเด็ดขาด


             แต่ไม่น่าเชื่อว่า เมื่อคาเรนกลับมาอย่างน่าประหลาดจากผาติ้ว แล้วเกิดนึกอะไรพิลึกขึ้นมา นำผีเสื้อหิมะมอบหมายให้เกตุมาลาเอาไปศึกษา จนเจ้าหล่อนเกิดความสงสัย เมื่อศึกษาลักษณะทางกายภาพของมันผ่านทางจุลทรรศน์อิเลคตรอน แล้วเห็นอะไรบางอย่างที่จุดชนวนความสงสัยนั้นมาก เกตุมาลาจึงตัดสินใจส่งตัวอย่างส่วนหนึ่ง ไปตรวจที่สถาบันวิจัยทางอณูชีววิทยา โดยพลการ...


            เกตุมาลาเห็นอะไร??


             พยายามถามตัวเองตลอด แม้ว่าจะไม่ทันเห็นผลการทดสอบที่จะถูกส่งกลับมาภายหลังจากนั้น คันธรสเชื่อแน่นอน ว่าสิ่งนั้นจะเป็นหลักฐานการพิสูจน์ “สาเหตุ”ของอาการติดเชื้อจากผีเสื้อหิมะเป็นพาหะ ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน นงลักษณ์คือเหยื่อรายแรกที่เกิดความผิดพลาด โดยไม่ทันป้องกัน แต่หลังจากนั้น?


               ด้วยความสงสัย หล่อนพยายามหาทางติดต่อกับคาเรนเพื่อสอบถามความจริง


                  แต่ภายหลังจากที่กลับมาจากผาติ้ว ดูเหมือนคาเรนจะเปลี่ยนไปราวกับเป็นคนละคน และนั่นก็ทำให้ต้องตัดสินใจครั้งใหม่ หล่อนเชื่อว่าพรีออนไม่น่าทำงานผิดพลาด เพราะนงลักษณ์เองก็เป็นตัวอย่างความสำเร็จในผลลัพธ์จากการทำงานของมัน แม้ว่าจะไม่ใช่เป้าหมายที่ตั้งใจจะให้เกิดขึ้นก็ตามที


               หรือว่า... คาเรนอาจจะมีภูมิต้านทานพรีออนขึ้นมาเสียเอง?


                และจะมัวไว้วางใจอาจารย์สาวใหญ่ผู้นั้นไม่ได้เสียแล้ว ดูเหมือนว่านังแม่มดตัวแสบจะพยายามปิดบังบางอย่าง โดยเฉพาะผู้หญิงลึกลับที่พากลับมาด้วย


             ผู้หญิงที่มีชื่อตรงกับรหัสพรีออนที่หล่อนเพิ่งตั้งชื่อเอาไว้ไม่มีผิด


               พรีออน... กีฏยา อันหมายถึงนางแมลง ผู้เป็นพาหะนำพรีออน!!


               จากนั้น เหตุการณ์วุ่นวายหลายอย่างก็บังเกิดขึ้นตามมาระลอกแล้วระลอกเล่า เหมวดีหรือพี่เหม และมาถึงบุรุษยอดชู้คู่สวาท... บุรโชติ


                  รู้สึกเจ็บใจไม่น้อย เมื่อรู้ว่าเหมวดีนั่นก็เป็นสปายในการสืบหาผีเสื้อหิมะอีกทางหนึ่งให้กับพี่โชติโดยไม่เคยล่วงรู้ความสัมพันธ์นั้นมาก่อน คันธรสแน่ใจว่าทุกอย่างไม่ได้เริ่มต้นที่บุรโชติก่อนเป็นแน่


                   หล่อนเห็นสายตาเหมวดี ยามเผลอจ้องมองชายคนรักด้วยความปรารถนาจนปิดไม่มิด ในครั้งหนึ่ง ผู้หญิงวัยสาวใหญ่ที่ผ่านมือชายมามากอย่างนั้น ก็คงไม่แคล้วจะหาผู้ชายที่ “ใจถึง”และ“ถึงใจ” มาบำบัดความใคร่ของตัวเอง ก็เพียงเท่านั้น...


                   แต่บุรโชติมองไกลไปกว่านั้น เขาเล็งเห็นการได้มาซึ่งผีเสื้อหลากหลายชนิด หลายช่องทาง มันคงไม่ต่างกับการ ซุกซ่อน ความลับไม่ให้ล่วงรู้ และสนุกกับสิ่งที่ทำขึ้นนั่นเอง แลกกับการปรนเปรอสาวใหญ่ใจถึงคนนั้น ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับหนุ่มรูปงามอย่างเขาอยู่แล้ว...


                 เรื่องแบบนี้คันธรสใจกว้างพอ หล่อนไม่โทษบุรโชติ รู้ดีว่าสุดท้าย เมื่อเขาคืนกลับสู่สภาพเด็กชายเหว่ว้าขาดความอบอุ่น ก็ต้องซมซานกลับมาหาตามเดิม ไม่มีวันทิ้งอีกภาคหนึ่งของตัวตนเขาไปได้


               แต่หล่อนเกลียดเหมวดีจับใจ พอๆกับนงลักษณ์ ทั้งสองคนมีส่วนทำให้สถานการณ์ทุกอย่างเลวร้ายมากขึ้น  


                 คิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นต้องพึ่งคาเรนอีกต่อไป ในเมื่อหล่อนต่างหากเป็นคนสร้างพรีออนกีฏยาขึ้นมาด้วยมือตัวเอง และควบคุมมันได้เพียงผู้เดียว...


                   ไม่ยาก ในเมื่อรู้แล้วว่าพรีออนสังเคราะห์สามารถก่อปฏิกิริยาผ่าเหล่าเกิดอันตรายขึ้นในมนุษย์ได้ ถ้าหากจะปล่อยพวกมันให้กระจัดกระจายอยู่ภายในห้องพิพิธภัณฑ์แมลงอันเป็นสถานที่ปิด?


             คันธรสก็คิดว่าจะลองดูอีกสักครั้งว่านังแม่มดนั่นหัวแข็งจริงหรือไม่! ในเมื่อคาเรนซึ่งทำงานอยู่ภายในนั้น มีโอกาสจะได้รับละอองเรณูมรณะเข้าไปโดยไม่รู้ตัว วงจรการก่อโรคของมันน่าจะใช้เวลาไม่เกินยี่สิบสี่ชั่วโมง จากนั้นพรีออนในสภาพธรรมชาติ จะไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้เองอย่างอิสระ ก็จะสลายไป โดยไม่เหลือร่องรอยใดๆ ทุกอย่างจะหมดสิ้นโดยไม่มีผู้ใดสงสัยและสาวกลับมาถึง...


                     ถ้าผลลัพธ์นั้นจะไม่เกิดกับเหมวดีซะก่อน... นักวิทย์สาวนั่นดันโชคร้ายรับเคราะห์ไปเอง เพราะขึ้นไปรับตำแหน่งใหม่แทนนงลักษณ์ และจากนั้น ก็ประสบชะตากรรมเช่นเดียวกัน โดยไม่มีผู้ใดตรวจพบสาเหตุสำคัญ นอกจากเข้าใจว่าเกิดจากปัญหาทางสุขภาพจิตทำให้ทั้งสองสาวกระทำอัตวินิบาตกรรมตัวเอง!


            ส่วนอาจารย์คาเรน? คันธรสไม่แน่ใจ หล่อนไม่พบอาจารย์สาวใหญ่ผู้นั้นอีกเลย


                         แต่สิ่งที่น่ากลัวไปกว่านั้นก็คือ ธุมชาล... อาจารย์ชาล ที่หล่อนได้กุมความลับ ความอ่อนแอ ในวัยเยาว์ของเขานั้นเอง วันเกิดเหตุที่เกตุมาลา และเหมวดีหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ผนวกกับนงลักษณ์ฆ่าตัวตายในเวลาไล่เลี่ยกัน


               หล่อนจึงแอบขึ้นมาที่ห้องแล็บอีกครั้ง ในขณะทุกคนกำลังวุ่นวายกับการหายตัวไปของเหมวดีและคาเรน ตั้งใจจะมาค้นหา “ผีเสื้อหิมะ” ที่คิดว่าคาเรนนำมาจากผาติ้วมาเก็บเอาไว้ที่ใดที่หนึ่ง แต่กุญแจดอกสำคัญที่จะเปิดเข้าไปภายในชั้นบนสุดของอาคารแห่งนี้ มีเพียงโปรเฟสเซอร์สาวใหญ่ และเกตุมาลาที่จะเก็บมันเอาไว้ตลอดเวลา


            แต่เกตุมาลาก็หายตัวไปเสียแล้ว และรู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่มีทางจะมอบกุญแจดอกนั้นมาให้อย่างเด็ดขาด ระหว่างการพยายามค้นหาตามลิ้นชักในห้องแล็บนั้นเอง คันธรสกลับมองเห็นจดหมายแจ้งผลการทดสอบจากศูนย์อณูชีววิทยาวางเอาไว้พอดี ซองรายงานผลการตรวจที่เกือบจะมองข้ามมันไปแล้ว ถ้าไม่เห็นตราสัญลักษณ์สถาบันวิจัยทางอณูชีววิทยาเสียก่อน


              กำลังคิดว่าจะนำมันไปทำลายทิ้งให้สิ้นซากหมดหลักฐาน แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร  ธุมชาลก็เกิดเปลี่ยนใจเดินกลับขึ้นมาที่ห้องแล็บนั้นเสียก่อน หญิงสาวรีบหลบเข้าไปแอบอยู่หลังตู้บรรจุสารเคมีขนาดใหญ่ด้วยหัวใจเต้นระทึก ลอบชะเง้อศีรษะแอบมองออกมาจากมุมตู้  เห็นเขาคลี่ผลการทดสอบนั้นออกอ่านด้วยใบหน้าครุ่นคิด แค่นั้นหัวใจก็แทบจะเลื่อนหลุดลงมากองอยู่ที่ตาตุ่ม


               ถ้าเกิดมีใครสักคนหนึ่งโยงใยเรื่องราวทั้งหมดได้สำเร็จ คนๆนั้นก็น่าจะเป็น ดอกเตอร์       ธุมชาล เชษฐภักดี นั่นเอง!!


             และความจริงก็อาจจะเปิดเผยออกมาว่าหล่อนเองที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด...


             แต่ธุมชาลกลับเป็นฝ่ายนิ่งเฉย เขาไม่ได้มีท่าทีตื่นเต้นอะไรทั้งสิ้น เหมือนกำลังพยายามขบคิดปริศนาสำคัญที่แก้ไขไม่ออก สักครู่ดอกเตอร์หนุ่มก็สอดจดหมายแจ้งผลการตรวจกลับคืนเข้าไปในซองแล้ววางกลับเข้าที่เดิม ก่อนจะรีบผลุนผลันกลับออกไปด้านนอก หล่อนไม่รีรอที่จะรีบตะครุบมันเอามาไว้กับมือก่อนจะมีบุคคลอื่นเข้ามาพบอีก แว่วเสียงเขาบอกกับกนกกาญจน์เจ้าหน้าที่ห้องแล็บด้านนอกว่าจะเดินทางไปต่างจังหวัด


                 มั่นใจอย่างแน่นอนว่าต้องเป็นผาติ้ว...


                   หญิงสาวรีบกระชากลิ้นชักสุดท้ายหลุดออกมาพอดี เห็นพวงกุญแจพวงเล็กซ่อนเอาไว้มุมสุดของในกล่องพลาสติกใส โดยมีหนังสือตำรับตำราหลายเล่มวางทับเอาไว้ด้านบน ลักษณะของกุญแจดอกหนึ่งคล้ายคลึงกับที่เคยเห็นคาเรนแขวนห้อยติดตัวเอาไว้ตลอดเวลา สัญชาตญาณทำให้แน่ใจว่านี่แหละคือกุญแจพวงสำคัญ สำหรับใช้เปิดเข้าไปในพิพิธภัณฑ์แมลงด้านบน นักศึกษาสาวรีบคว้ากุญแจที่ซ่อนอยู่ในลิ้นชักเกตุมาลาออกมาไว้กับตัวเองอย่างรวดเร็ว อย่างน้อยโอกาสทุกอย่างก็เป็นของหล่อนแล้ว


                  คันธรสตั้งใจว่าจะรีบติดต่อกลับไปหาบุรโชติชู้รัก เพื่อนัดหมายให้เขาเดินทางมาด้วยกันในราตรีนั้น ความฝันส่วนหนึ่งของชายหนุ่มก็คือการมีโอกาสเข้ามาที่นี่เพียงลำพัง แต่ยังไม่เคยมีสักครั้งเดียว แม้แต่ธุมชาลเอง ก็ยังอ้างว่าไม่ได้รับการอนุญาตจากคาเรน เพราะสถานที่แห่งนี้ยังไม่ได้เปิดเป็นทางการ

            แต่แล้ว ความต้องการนั้นก็กลายเป็นโมฆะ


               บุรโชติหายตัวไปอย่างลึกลับเช่นเดียวกัน... หล่อนปลอบใจตัวเองว่า บางทีเขาอาจจะออกไปหาเหยื่อเพื่อบำบัดความต้องการของตัวเองเหมือนกับทุกครั้ง


              ในเมื่อแผนการทุกอย่างเดินหน้ามาแล้ว ไม่มีทางที่จะถอยกลับไปอีก จึงตัดสินใจที่บุกเข้ามาในพิพิธภัณฑ์แมลงยามวิกาลเพียงลำพัง มันไม่ใช่เรื่องยาก ในเมื่อรู้แผนผังทุกตารางเมตรของตึกเป็นอย่างดีอยู่แล้ว เหลือเพียงชั้นบนสุดเท่านั้น แม้ว่าคาเรนจะเคยนัดหมายมาคุยเรื่องการร่วมมือกันสร้างพรีออนสังเคราะห์ แต่นังแม่มดนั่นก็ไม่เคยเปิดโอกาสให้หล่อนเข้ามาภายในห้องพักด้านในสุดแห่งนี้สักครั้งเดียว


               เหมือนกับรู้ความปรารถนาที่จะเห็นห้องชั้นบนสุด ห้องที่เจ้าตัวน่าจะเก็บตัวอย่างแมลงล้ำค่าเอาไว้โดยเฉพาะ


                      คันธรสมั่นใจว่านี่จะเป็นโอกาสเดียว ที่ปราศจากคนอื่นรู้เห็น นอกจาก รปภ. ที่ประจำอยู่ป้อมยามด้านนอก เคยสังเกตว่าคนพวกนี้มักจะนั่งประจำ อ่านหนังสือพิมพ์หรือไม่ก็พูดคุยกันเองเสียมากกว่าจะสนใจอาคารเก่าๆภายในมหาวิทยาลัยที่มีแต่อุปกรณ์ทางการทดลองทางวิทยาศาสตร์


                   คืนนั้น หล่อนจึงลอบเข้าไปภายในชั้นบนของอาคารได้สำเร็จ แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น นอกจากผีเสื้อหิมะจะเกิดมีชีวิตขึ้นเองแล้ว มันยังแปรสภาพเป็นมนุษย์อย่างน่าสยดสยอง จนทำให้ถึงกับควบคุมสติไม่อยู่ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือความจริงหรือภาพลวงตาที่เกิดขึ้นจากความฝัน หรือเป็นอีกอาการหนึ่งที่เกิดขึ้นจากการสัมผัส พรีออน?


                    แต่ทุกอย่างก็สายไปเสียแล้ว ร่างของหล่อนหล่นละลิ่วมาความสูงจากดาดฟ้าลงมา ผ่านความยาวนานของช่วงเวลาในอดีตทั้งชีวิต จนสัมผัสกับพื้นศิลาแข็งกระด้างเบื้องล่างในห้วงวินาทีสุดท้ายของชีวิต


               โพละ!!


               นั่นคือเสียงสุดท้ายที่ได้ยิน มันเกิดขึ้นจากเสียงของกะโหลกศีรษะตนเองแตกร้าวในทันทีเมื่อร่างทั้งร่างกระแทกอย่างแรงกับพื้นซีเมนต์ด้วยแรงโน้มถ่วงของโลก โดยส่วนศีรษะโหม่งกระทบลงมาก่อน


              ท่ามกลางสายตาตื่นตะลึงของ โสภณ เพชรช่วง รปภ. ประจำมหาวิทยาลัยเพชรพยัต หนุ่มใหญ่เบิกนัยน์ตากว้างสุดชีวิตเมื่อความทรงจำฉายชัดขึ้นมา เขาจำร่างที่แหลกเหลวเบื้องหน้าได้ชัดเจนไม่ผิดพลาด


            คุณคันธรส... เพื่อนของเกตุมาลานั่นเอง


            ด้วยมืออันสั่นเทา โสภณ รีบกดปุ่มสัญญาณฉุกเฉินทันที

                  ***********************
ปล. คราวหน้าคงมีโอกาสมาเล่า รายละเอียดเรื่องใหม่ให้ฟังนะครับ กำลัง "ขัดเกลา"อยู่ครับ ตั้งใจว่าถ้าส่งให้สำนักพิมพ์เรียบร้อยปลายเดือนนี้ จะเริ่มลงได้ ต้นเดือนหน้าเลยครับ

จากคุณ : สามปอยหลวง
เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 14:04:12




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com