Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
แรกรัก ปมลวง..?? ปมรัก..รอยแค้น ตอนที่ 1..(นิยายรักฆาตกรรม..ต่างแดน) ติดต่อทีมงาน

..คงเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์กับความรู้สึกค่อยๆผ่อนคลายหลังมื้ออาหาร
ชายหนุ่มจึงได้เห็นแก้มนวลในแสงสลัวมีสีเข้มขึ้น ดวงตาคู่สวยที่เค้าประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็นเมื่อเช้า
บัดนี้ดูเหมือนจะหรี่ปรือลง เล็กน้อย  ริมฝีปากอิ่มสวยแดงเรื่อ
กระตุกหัวใจชายอย่างเค้าไม่ใช่น้อย ชายหนุ่มรู้สึกเกร็งๆในช่วงนาทีอย่างบอกไม่ถูก..
ก่อนจะเรียกสติตัวเองกลับคืนมาฟังเจ้านายอย่างเดิม..



ตอนที่ 1 แรกรัก..ปมลวง
   
 สายลมเย็นแห่งฤดูใบไม้ร่วงพัดพาเอาความเย็นพร้อมกับพัดเอาใบไม้ที่เกลื่อนพื้นกับฝุ่นใบไม้แห้งปลิวกระจาย
แสงแดดอ่อนยามสายส่องทอประกายในท้องฟ้ากว้าง ต้นเมเปิลสูงตระหง่านผลัดใบสีแดงปนส้มเต็มพื้นพาให้เช้าวันใหม่ดูเงียบเหงา

หญิงสาวก้าวขายาวๆอย่างรีบเร่ง ผ่านสายตาหลายคู่ของคนงานชายหญิงในลานโล่งหน้าโรงนาที่กำลังเตรียมเครื่องมือเพื่อจะออกไปทำงาน
เสียงพลั่ว จอบ กับเสียงสตาร์ทเครื่องรถแทรกเตอร์เซ็งแซ่ปนกับเสียงคงานคุยกันพึมพำ เต็มไปด้วยความสงสัย
ทุกคนมองตามจนหญิงสาวไปหยุดอยู่ที่โต๊ะไม้หน้าประตูทางเข้าโรงนา

ที่หัวโต๊ะ ชายสูงอายุ นั่งก้มหน้าอ่านหนังสือพิมพ์ ถ้วยกาแฟส่งควันลอยกรุ่นพร้อมกับส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ  อยู่บนโต๊ะกว้าง
พื้นโต๊ะไม้ขึ้นมันเป็นเงาบ่งบอกถึงเวลาแห่งการใช้งานที่ผ่านมานาน
“พ่อคะ ลูกได้ยินจากมาร์กี้ว่ามีคนงานใหม่มาเริ่มงานเช้านี้  ทำไมเรื่องนี้ลูกไม่รู้ ??”
หญิงสาวถามรวดเร็วทันทีที่พาตัวเองมาหยุดอยู่ที่โต๊ะ คิ้วขมวดเข้าหากัน
ดวงตากลมโตฉายแววกล้า จมูกโด่งรับกับริมฝีปากเรียวสวยที่บัดนี้ปราศจากรอยยิ้ม

ผู้เป็นพ่อยกถ้วยกาแฟร้อนขึ้นจิบละเลียด สายตายังคงไล่เรียงไปตามตัวอักษรในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นเล่มบางในมือ
“ ตื่นแล้วหรอลูก ดื่มกาแฟก่อนสิ มาร์กี้เอากาแฟมาเร็ว  “  
พ่อบอกเรียบๆน้ำเสียงอย่างคนใจเย็นแต่ก็แฝงด้วยพลัง ทำทีเป็นไม่สนใจคำถามนั้น
หญิงสาว จุ๊ปากด้วยความขัดใจ ยกขาข้ามม้านั่งไม้ตัวยาวนั่งลงตรงด้านที่ติดกับที่พ่อนั่งอยู่ก่อน

“ ลูกถาม ทำไมพ่อไม่ตอบ..”  ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆอย่างร้อนใจ
จนผู้เป็นพ่อต้องเงยหน้า ละสายตาจากหนังสือพิมพ์ ริมฝีปากหนาส่งยิ้มอ่อนโยน รู้ใจเสมอว่าไม่เคยชนะลูกสาวคนนี้ได้เลยสักที
จะเอาอะไรต้องให้ได้อย่างใจเสียทุกครั้ง
“ กินก่อนลูก มาร์กี้ทำมาอร่อยเชียวใส่แฮมพริกไทยที่ลูกชอบนะ”     พ่อพับหนังสือพิมพ์วางลง เลื่อนจานขนมปังมาตรงกลางโต๊ะ
หยิบแซนวิชส่งให้ลูกสาวคู่หนึ่ง
หญิงสาวรับมาอย่างไม่มีอารมณ์ มุ่งแต่จะเอาคำตอบจากผู้เป็นพ่อเสียให้ได้

“พ่อคะ แล้วเค้า..เอ่อ คนงานใหม่ล่ะคะ? อยู่ที่ไหน ลูกยังไม่เห็นหน้าเลย แล้วพ่อจะให้เค้ามาทำงานอะไร
เพราะอีกสองวันเราก็จะจัดการแปลงผักเสร็จแล้วนี่คะ ?? ”  
หล่อนยังไม่หยุดยิงรัวถำถามใส่พ่อที่ยังนั่งใจเย็นนิ่งอยู่
ถ้วยกาแฟร้อนหอมกรุ่นถูกวางลงตรงหน้า  จากมาร์กี้หญิงคนงาน  
เหลือบมองนายสาวแว่บหนึ่งรู้ว่าอารมณ์ขุ่นๆแกว่งไกวพอๆกับสายลมวูบใหญ่เมื่อครู่ ก่อนที่หล่อนจะถอยออกไป

“พรุ่งนี้ คนงานทั้งหมดจะเก็บแปลงผักจนเสร็จ ก็จะจบสัญญาจ้างของฤดูใบไม้ร่วงปีนี้พอดี
ส่วนคนใหม่นี่พ่อจะให้มาทำงานให้เราตลอดช่วงหน้าหนาวเพราะจากนี้ไปพ่อยังมีอะไรจะต้องทำเพิ่มอีกทำหลายอย่าง
ทั้งงานกวาดหิมะ ทั้งดูแลเครื่องยนต์รถแทร็กเตอร์ พ่อคงไม่มีเวลาทำเองเหมือนที่ผ่านมา พ่อเลยจ้างให้เค้ามาทำงานต่างๆนี้แทนพ่อ”
พ่อพูดชัดเจน น้ำเสียงแบบนี้ที่ลูกสาวรู้ว่า..นี่คือการตัดสินใจ..

“แล้วไหนล่ะคะ คนงานของพ่อ ลูกยังไม่เห็นหน้าเลย มาร์กี้บอกว่า เอ่อ..เค้ามาแล้ว”
เป็นอันว่าเข้าใจ แต่หญิงสาวก็ยังถามติดขัด อยากเห็นเป็นที่สุด มองไปรอบๆ ก็เห็นแต่คนงานกลุ่มที่เดินผ่านไปมา
ต่างค่อยๆทยอยออกไปทำงานกันทีละคนสองคน
“อยู่ข้างในแน่ะ พ่อให้ซ่อมรถไถคันเล็กอยู่  แมทธิว ออกมานี่หน่อย “
พ่อส่งเสียงเรียกดังเข้าไปด้านใน  หญิงสาวหัวใจเต้นแรง มองตามสายตาพ่อไปที่ประตูทางเข้าโรงนา

เสียงเครื่องรถไถที่ติดๆดับๆอยู่เมื่อครู่เงียบลง
ฝีท้าวใครคนหนึ่งก้าวออกมาจากด้านใน

เทย่าหัวใจเต้นแรงกว่าเดิม หล่อนหลุบสายตาต่ำลงพื้น ขาคู่หนึ่งก้าวออกมา รองเท้าบูทหนังเก่าๆสูงถึงใต้เข่า
พ้นขึ้นไปกางเกงยีนส์เข้ารูป ถูกคลุมด้วยเสื้อเชิ้ตลายสก๊อตสีน้ำตาลเข้มลงมาถึงสะโพก
หญิงสาวไล่สายตาสูงขึ้น..หัวใจหล่อนแทบจะหยุดเต้น  ไม่จริง..!! ไม่จริง..!

ชายร่างสูงผิวสีแทน ผมเส้นหนาเหยียดตรงสีน้ำตาลเข้มปัดแสกปรกหน้าผาก ดวงตาคม จมูกโด่งเป็นสันนูน
ริมฝีปากหนาหยักเชิดที่หญิงสาวจำได้ไม่เคยลืม หล่อนหัวใจกระตุกวูบ
หน้าซีดเผือด รู้สึกเหมือนโลกทั้งโลกจะหยุดหมุน สายลมหยุดพัด รอบตัวเงียบสงัด
และนาทีนี้หล่อนรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออก

“แมทธิว นี่เทย่า ลูกสาวคนเดียวของเรา  เทย่า นี่แมทธิว  “
เสียงของผู้เป็นพ่อลอยหายไปในสายลมแผ่ว

“คุณหนูคะ..??” มาร์กี้ที่เฝ้าดูอยู่เห็นนายหญิงหน้าซีดเผือด
หล่อนรีบถลาเข้ามาหา

“มาร์กี้ ชั้นจะกลับห้อง เดี๋ยวนี้ “  หญิงสาวนิ่งอึ้ง
หล่อนลุกขึ้นช้าๆ ปล่อยแซนวิชร่วงจากมือลงบนโต๊ะ โงนเงนเหมือนจะยืนไม่อยู่
มาร์กี้รีบเข้ามาหายื่นมือให้ฝ่ามือเย็นเฉียบของนายหญิงเกาะแขนแน่น

“เทย่า ลูก..!”     พ่อเรียกเมื่อเห็นอาการลูกสาวผิดสังเกต
“ลูกรู้สึกเหมือนจะไม่สบาย ขอลูกกลับห้องก่อนค่ะพ่อ”    
หญิงสาวหลบตาผู้เป็นพ่อ
แวบหนึ่ง เธอแน่ใจว่ามีประกายบางอย่างส่งมาจากสายตาคมกล้าของผู้มาใหม่

มาร์กี้ค่อยๆเดินจูงมือนายหญิงห่างออกไป  ชายหนุ่มเจ้าของดวงตาคู่นั้นมองม้านั่งว่างเปล่าที่หญิงสาวเพิ่งลุกออกไป
ด้วยดวงตาที่แฝงประกายบางอย่าง

..........................................................................................

“ไม่จริง  มันเป็นไปไม่ได้ มาร์กี้ ทำไม ทำไม..??? เค้าเหมือน เหมือนอย่างกับเป็นคนๆเดียวกัน.. ”
ในห้องนอนหญิงสาวทรุดนั่งลงบนเตียงอย่างหมดแรง ปากพูดเลื่อนลอยเหมือนเพ้อ
ดวงตาคู่สวยเปลี่ยนเป็นแดงก่ำแล้วน้ำใสๆก็ไหลออกมาในที่สุด

“คุณหนูคะ ตอนแรกชั้นก็แทบไม่เชื่อสายตาจนได้เห็นหน้าชัดๆเมื่อเช้านี้ตอนออกไปเตรียมโต๊ะกาแฟ
นายนั่นมาแต่เช้า พร้อมกระเป๋าเสื้อผ้า
นายท่านให้พักที่ห้องเล็กในโรงนาน่ะค่ะ เห็นว่ามาจากแบล๊คฟอเรสต์ ”
มาร์กี้ลากเก้าอี้มานั่งข้างเตียง

“ ใช่ที่เดียวกับ เอ่อ..เมืองเดียวกันกับ..เอ่อ..หรือเปล่าคะ..??...”  
สาวใช้ถามติดขัดไม่เต็มปาก

“มาร์กี้.. ทำไม เค้าเหมือน เหมือนมาก เหมือนอย่างกับเป็นคนเดียวกัน
แล้วพ่อก็ย่อมรู้..ว่า..??  มาร์กี้ นี่มันอะไรกัน..??  ”
หญิงสาวพึมพำกัดริมฝีปาก ข่มใจ ปาดน้ำตา กระพริบตาถี่ๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยคำถาม  
ได้เห็นหยดน้ำตาอาบแก้มของนายหญิงสาวใช้ก็ยิ่งรู้สึกสงสารจับใจ

“เทย่า..พ่อเองลูก พ่อเข้าไปได้มั้ย..?”      เสียงพ่อเรียกจากด้านนอก  เคาะประตูถี่ๆ
“ค่ะพ่อ “            เทย่าปาดน้ำตาให้แห้งด้วยสองมือ สูดลมหายใจ
มาร์กี้รีบเดินไปเปิดแล้วจึงค่อยๆปิดงับประตูโดยพาตัวเองเลี่ยงออกนอกห้องไป

ผู้เป็นพ่อก้าวท้าวยาวๆมาหยุดยืนข้างๆ มองลูกสาวคนเดียวอย่างรักใคร่
“เทย่า  พ่ออยากให้ลูกรู้ ไม่ว่าสิ่งใดก็ตามที่พ่อได้ทำ..
ก็เพื่อลูกจะได้มีความสุข  ลูกไม่โกรธใช่มั้ย ที่พ่อไม่ได้บอกเรื่องนี้ให้ลูกรู้ก่อน
พ่อมีความจำเป็นที่จะต้องให้แมทธิวมาช่วยทำงาน และบางสิ่งบางอย่าง
และพ่อก็เชื่อ..ว่าเค้าจะทำหน้าที่ต่างๆแทนพ่อได้เป็นอย่างดี ”
น้ำเสียงของพ่อเด็ดขาด แต่ก็แฝงด้วยความอ่อนโยน

แววตาแห่งความรักที่พ่อมีต่อลูกฉายแววให้เห็น เขาลูบหัวลูกสาวอย่างรักใคร่
ตั้งแต่แม่ของเทย่าจากไปด้วยโรคร้ายเมื่อสิบสองปีที่แล้ว ตอนนั้นเทย่าอายุเพียงแค่เก้าขวบ
การใช้ชีวิตกันสองคนพ่อลูกก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก พ่อจึงชดเชยความสูญเสียแม่ผู้เป็นที่รักของเทย่า
ด้วยการให้..ทุกสิ่งทุกอย่างที่เทย่าต้องการ และไม่เคยมีอะไรที่พ่อจะให้ไม่ได้

“ขอบคุณค่ะพ่อ...”       หล่อนเงยหน้าตอบพ่อ ความโกรธหายไปจนหมดสิ้นเมื่อเห็นแววตาของพ่อเต็มเปี่ยมด้วยประกายความรัก
และปรารถนาดีส่งมา แววตาคู่นี้ที่อยู่ในใจเทย่าเสมอตั้งแต่จำความได้
และความรักที่พ่อมอบให้ยิ่งเพิ่มมากมายเมื่อแม่จากไป
เทย่ารู้และซาบซึ่งในใจเป็นอย่างดี

“งั้นต่อไปนี้ พ่อก็ไม่ต้องเหนื่อยอีกแล้วนะคะ ก็ดีเหมือนกันค่ะ  
พ่อก็จะได้มีเวลาพักผ่อนเสียทีและพ่อต้องอยู่กับเทย่าไปนานๆนะคะ”
หญิงสาวกุมมือส่งผ่านความรักจากลูกสาวให้พ่ออย่างสุดหัวใจ หล่อนยกฝ่ามือหนาหยาบกร้านของพ่อขึ้นแนบแก้มอย่างมีความหวัง
ว่าต่อไปนี้ หล่อนจะได้ทำหน้าที่ดูแลพ่อให้พ่อได้หยุดทำงานเสียที
หลังจากที่พ่อต้องเหนื่อยมามากแล้วทั้งชีวิต  

แม้ว่านาทีนี้ในอกจะหนักอื้งเต็มไปด้วยคำถามมากมาย กับสิ่งที่เกิดขึ้น
แต่เอาเถอะ..แม้วันนี้เธอยังไม่รู้ถึงที่มาของเขา แต่ในไม่ช้าเธอจะต้องรู้ให้ได้..!!
หล่อนแนบหน้าลงกับอกอุ่นของผู้เป็นพ่อ ดวงตาคู่สวยแม้จะแดงช้ำแต่ยังคงประกายความมาดมั่นและเด็ดเดี่ยว

........................................................................................

ดวงอาทิตย์ส่องแสงสุดท้ายแห่งวัน ท้องฟ้าสีแดงจัดกว้างไกลลับตา
หญิงสาวสะบัดหน้าไล่ภาพของชายผู้มาใหม่เมื่อเช้าออกจากห้วงคำนึง
ถอนหายใจซบหน้าลงกับเข่าทั้งสองข้างดวงตาแดงก่ำเปียกชื้น
ใต้ต้นแอปเปิลที่มีผลแดงสุกหล่นเกลื่อนเต็มพื้น เทย่านั่งกอดเข่าร้องไห้สะอื้นจนตัวโยน  ลมเย็นพัดกรรโชกวูบไหว
หัวใจดวงน้อยล่องลอยไปไกลเท่าที่จะไกลได้ อยากจะไกลให้ถึงหัวใจอีกดวงหนึ่ง  เพียงเพื่ออยากให้รู้ว่า
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน
ใจดวงนี้ก็จะยังรอเธอเสมอ..

ภาพที่เห็นจากดวงตาคู่คมของชายหนุ่ม เขายืนแอบอยู่ข้างกองหญ้าแห้งตัดซ้อนกองโต ชายหนุ่มผู้มาใหม่กับใบหน้าเรียบเฉย  
และในเวลาเดียวกันจากอีกมุมหนึ่ง ที่ข้างโรงนาทางด้านหลัง ชายสูงวัยก็ยืนมองภาพเดียวกันนั้นอยู่เช่นกัน

“คุณหนูคะ  ชั้นเดินหาจนทั่ว คุณหนู..เอ่อ..”   มาร์กี้ผลุนผลันออกจากห้องครัวมายังโถงทางเดิน
เมื่อมองออกจากหน้าต่างห้องครัวที่หล่อนสาละวนทำอาหารเย็น และก็เฝ้ามองอยู่
เห็นนายหญิงเดินกลับเข้ามา แต่หญิงรับใช้เลือกที่จะไม่ถามต่อ
เพราะคำตอบที่ได้จากนายหญิงที่เพิ่งก้าวเข้าประตูมาจากด้านนอก คือดวงตาแดงช้ำบนใบหน้าสงบนิ่ง

หญิงสาวส่งตะกร้าหวายใบเล็กที่มีเพียงแอปเปิลสามผลให้หล่อน
ช่วงนาทีที่เต็มไปด้วยคำถามหมดลงเมื่อร่างบางที่ดูไร้เรี่ยวแรงพาตัวเองเข้าห้องแล้ว ปิดประตูลงอย่างเงียบๆ
..........................................................................  

ควันอุ่นร้อนเต้นเป็นเงาเหนือชามซุปมะเขือเทศที่ถูกวางลงสามที่บนโต๊ะอาหาร

โคมไฟกลางโต๊ะส่องแสงให้ขนมปังชิ้นโตร้อนๆที่เพิ่งอบเสร็จยิ่งดูเหลืองนวลน่ากิน

“ วันนี้เป็นวันแรกพ่ออนุญาตให้แมทธิวมาร่วมโต๊ะ เพราะเห็นว่าเพิ่งมาอยู่ คงจะแปลกที่ และกินเสร็จแล้วจะได้คุยเรื่องงานกันอีกนิดหน่อย “
พ่อพูดเสียงดังและชัดเจน เมื่อเทย่านั่งลง หลังจากที่ปล่อยให้ผู้เป็นพ่อและผู้มาใหม่มานั่งรออยู่ก่อนแล้วเกือบสิบนาที

ถ้าเป็นอย่างทุกครั้ง  มื้อค่ำหลังจากที่ต้องเหนื่อยกับงานในฟาร์มมาทั้งวัน
เทย่าจะรีบเอร็ดอร่อยกับขนมปังและซุปมะเขือเทศเข้มข้นของโปรด ที่กินไปก็ส่งเสียงใสชมแม่ครัวไปอย่างไม่รู้เบื่อ  
แต่วันนี้ หล่อนรู้สึกเหมือนนั่งอยู่บนโต๊ะว่างเปล่า ที่ไม่มีอาหารหริอสิ่งใดอยู่ตรงหน้า

หญิงสาวไม่แม้แต่จะจับช้อนซุป หรือหยิบขนมปังสักก้อน ผู้เป็นพ่อกระแอมเสียง ให้รู้ว่าควรเริ่มลงมือกับอาหารตรงหน้าได้แล้ว
หญิงสาวจึงสะดุ้งจากภวังค์ความเงียบที่หอบเอามันมาด้วยที่โต๊ะอาหาร

“กินกันได้แล้ว “           น้ำเสียงของพ่ออ่อนลง แวบหนึ่งที่มองก็ได้เห็นแต่ดวงตาคู่สวยของลูกสาวที่ยังแดงช้ำ
บอกให้รู้ว่าผ่านการร้องไห้มาไม่น้อย หัวใจของผู้เป็นพ่อกระตุกวูบ
“กินให้อร่อยลูก กินเยอะๆ”
พ่อเลือกที่จะลูบหัวลูกสาวก่อนที่จะจับช้อนซุปของตัวเอง ไม่ว่าสถานการณ์ใด สิ่งแรก สำหรับพ่อ คือลูกสำคัญเสมอ
ลูกสาวก็สัมผัสได้เช่นกันว่านี่คือการปลอบโยนจากพ่อผู้เป็นที่รัก รอยยิ้มจางๆจึงส่งกลับไปให้

แขกผู้ได้รับเชิญนั่งเงียบเหมือนมีก้อนแข็งๆในลำคอ ภาพที่เห็นตรงหน้ากำลังบอกเค้าว่า
ความรักระหว่างพ่อลูกคู่นี้ที่เค้ากำลังก้าวเข้ามาในชีวิตของทั้งสองคนนั้นช่างมากมายและมีความหมายต่อกันเพียงใด
และนาทีนี้เค้าแน่ใจว่าตาไม่ฝาด ที่เห็นหยดน้ำใสๆเอ่อจากดวงตาของหญิงสาวผู้นั่งตรงข้าม  

เทย่ารู้สึกว่าขนมปังมันแข็งฝืดคอเสียยิ่งนักกับซุปมะเขือเทศก็รสชาดแปลกไปอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
หล่อนรู้ดีถึงสาเหตุของความรู้สึกอึดอัดปั่นป่วนในท้อง
ที่เป็นเพราะ สายตาคู่คมของผู้มาเยือนโต๊ะอาหารมื้อค่ำนี้

แม้หัวใจจะเต็มไปด้วยความสงสัย  และอยากจะมองหน้าคนที่นั่งตรงข้ามเต็มๆตา แต่หล่อนกลับรู้สึกว่าหล่อนสู้ไม่ได้กับดวงตาคู่นั้น
จึงได้แต่ก้มหน้าฝืนใจกินเงียบๆ ดวงตาคู่สวยบอบช้ำเพ่งมองชามซุปตรงหน้าอย่างกับว่ามันมีอะไรน่าสนใจเสียนักหนา  
เจ้าของดวงตาผู้เป็นต้นเหตุ เหลือบมองเทย่า วูบหนึ่งที่ทั้งสองสบตากัน
หล่อนต้องเป็นฝ่ายหลบจากสายตาคู่นี้ เป็นครั้งที่สองของวันนี้แล้วสินะ  
คงต้องบอกว่าไม่รู้จริงๆ..ว่ามีอะไรในนั้น  รู้แต่เพียงว่า มันบั่นทอนความเข้มแข็งที่เธอเคยมีให้ลดน้อยลง
กลับกลายเป็นความวูบไหวแปลกๆเข้ามาแทน

ชามสตูว์เนื้อส่งกลิ่นหอมเนื้อชื้นโตที่โผล่พ้นน้ำสตูว์ข้นก็ส่องแสงเงาวับน่าอร่อยถูกวางลงตรงหน้าพ่อ เทย่า และแมทธิวเป็นคนสุดท้าย  
กลิ่นหอมอ่อนๆของออริกาโน่ชวนให้อร่อยยิ่งขึ้นนัก  
แม้วันนี้จะไม่ได้ทำงานอะไรมากเหมือนทุกวัน เพราะเธอเอาแต่แอบไปนั่งร้องไห้อยู่ใต้ต้นแอปเปิลหลังโรงนาเสียเกือบครึ่งค่อนวัน
แต่ดูท่าว่าการหวนระลึกถึงความหลังอะไรบางอย่างด้วยความเสียใจท่วมท้นที่เธอระบายออกมาด้วยการร้องไห้อยู่หลายชั่วโมงนั้น
ได้เผาผลาญพลังงานไปพอควร ไม่หิวก็ต้องกินละ ของอร่อยอยู่ตรงหน้าอย่างนี้แล้ว
ทั้งสามคนต่างลงมือจัดการกับอาหารของตัวเองอย่างเงียบๆ บรรยากาศเริ่มจะผ่อนคลายลง...

คราวนี้ละ บททดสอบบทแรก ของนาย มาถึงแล้ว เทย่าได้แต่แอบคิดในใจ

เมื่อมาร์กี้ลำเลียงชามเปล่าทั้งหมดออกไปจากโต๊ะแล้วจึงส่งขวดไวน์แดงให้หญิงสาวอย่างเคย
แก้วไวน์เปล่าบางใสสามใบ ที่ถูกจัดวางรอไว้ตรงสามตำแหน่งบนโต๊ะอาหารอยู่แล้วนั้น

แก้วแรกของพ่อ เทย่ารินไวน์ให้เหมือนทุกวัน เสร็จแล้วจึงรินของตัวเธอเองแต่วันนี้มีแขกแปลกหน้ามาร่วมโต๊ะ
หญิงสาวส่งขวดไวน์กลับคืนให้มาร์กี้ อย่างรู้หน้าที่สาวใช้รับขวดไวน์แล้วเดินอ้อมโต๊ะ
เพื่อรินให้เขาที่นั่งอยู่ตรงข้ามนายหญิงเป็นแก้วสุดท้าย

เทย่ามองทะลุจากแก้วใวน์ใสของเธอไปยังแก้วของคนฝั่งตรงข้าม ที่บัดนี้ถูกรินไวน์รอไว้พร้อมแล้ว
พ่อกระแอมนิดหนึ่งก่อนจะยื่นมือออกมาชูแก้วขึ้นสูงระดับใบหน้า และหันมองสบตาทั้งสองคน
เทย่าจำได้ตั้งแต่เด็กหลังอาหารมื้อที่ปรุงจากเนื้อ พ่อจะดื่มไวน์แดงเสมอ ด้วยเหตุผลว่าไวน์แดงจะช่วยย่อยอาหารพวกเนื้อสัตว์ได้ดี
และการดื่มไวน์หลังมื้ออาหารก็เป็นธรรมเนียมอย่างหนึ่งที่อบรมกันมาจากครอบครัวชนชั้นกลางถึงชั้นสูง
และสำหรับผู้ที่จบการศึกษาไม่ว่าระดับใดก็ตาม
ไวน์หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก้วแรก
ที่หนุ่มสาวจะต้องหัดดื่มตามธรรมเนียมการเริ่มต้นเข้าสู่สังคม
ตอนเรียนจบและเข้างานเลี้ยงรับประกาศนียบัตรไฮสคูลนั่นเอง

หญิงสาวยื่นมือไปด้านหน้าชูแก้วไวน์สูงระดับเดียวกัน หล่อนหันสบตาผู้ร่วมโต๊ะ สบตาพ่อพร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่นเหมือนเคย  
หล่อนหันมาสบตาเขาชายหนุ่มยืนมือออกมาและชูแก้วไวน์ตรงหน้าระดับเดียวกันอย่างเป็นธรรมชาติ
และแววตาที่สบมองกลับมายังหล่อนแฝงด้วยรอยยิ้มอ่อนๆ เขาก้มหัวเล็กน้อยเป็นเชิงให้เกียรติ
จิบไวน์และวางแก้วลงเบาๆ อย่างคนมีมารยาท ธรรมเนียมปฏิบัติ

หญิงสาวสัมผัสรสขมของไวน์ในลำคอ นึกฉงนเล็กน้อย
คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจมากนักหากใครสักคนจะดื่มไวน์เป็นหรือไม่เป็น
แต่ที่สำคัญและน่าสนใจสำหรับหล่อน คือ ผู้ชายคนนี้ไม่เหมือนคนงานทั่วๆไปในฟาร์มที่หล่อนเคยทำงานคลุกคลีด้วย

เค้ามีอะไรบางอย่างที่หล่อนสัมผัสได้ว่าแตกต่าง  บุคลิกเงียบขรึม ดูฉลาดมีความคิด
มากกว่าที่จะมาทำแค่งานที่ต้องใช้แรงงานในฟาร์มเล็กๆอย่างนี้
แต่นั่นละ คือสิ่งที่เธอต้องค้นหาว่า เพราะอะไร...??

ทันใดนั้น   “ปัง ..ปัง...ปัง..”   เทย่าสะดุ้งสุดตัว
หล่อนตื่นจากภวังค์เงียบงันที่พาหล่อนล่องลอยไป
หญิงสาวดีดตัวจากพนักเก้าอี้ นั่งหลังตรง พร้อมกับมาร์กี้ร้องวี้ดหวาดกลัววิ่งเข้ามาหานายหญิงอย่างรวดเร็ว
    ชายหนุ่มสะดุ้งตกใจเช่นกัน เขาเหลียวมองไปรอบๆห้องครัวทั้งที่รู้ว่าเสียงนั้นดังอยู่ข้างนอกและคงจะห่างไปจากบ้านหลังนี้พอสมควร

เทย่าเห็นพ่อบีบก้านแก้วไวน์แน่นขึ้น  แต่ยังคงยกมันขึ้นดื่มอึกสุดท้ายอย่างใจเย็น ดวงตาของพ่อฉายแววท่ามกลางแสงสลัว
   
  “แมทธิว  ถ้านายคิดจะอยู่ที่นี่ต้องเข้มแข็ง อย่าตื่นกลัวหรือหวั่นไหวกับเสียงประหลาดยามค่ำคืน
บางทีคงจะเป็นเสียงปืนจากพวกล่าสัตว์น่ะ”   พ่อพูดเรียบๆไม่ได้มองหน้าเขา
แมทธิวรับรู้ได้โดยสัญชาติญาณบางอย่าง เขาขบกรามนูนเป็นสันที่โหนกแก้ม ไม่ตอบอะไร กระดกแก้วดื่มไวน์ที่เหลือจนหมดแก้ว
ยอมรับว่าเขาแอบมองหญิงสาวตรงข้าม และคราวนี้เขาได้สบตาหญิงสาวอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้ที่เขาได้เห็นคือแววตาตื่นตระหนกหวาดกลัว
และเขาแน่ใจว่าเธอพยายามข่มความกลัวนั้น  หญิงสาวนั่งนิ่งเงียบ เนิ่นนาน

 อาหารมื้อนี้เทย่าอาจไม่ได้อิ่มมากมายพร้อมกับเสียงหัวเราะพูดคุย    หยอกล้อกับพ่อเหมือนทุกวัน  

แต่คงเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์กับความรู้สึกค่อยๆผ่อนคลายหลังมื้ออาหาร ชายหนุ่มจึงได้เห็นแก้มนวลในแสงสลัวมีสีเข้มขึ้น
ดวงตาคู่สวยที่เค้าประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็นเมื่อเช้า
บัดนี้ดูเหมือนจะหรี่ปรือลง ริมฝีปากอิ่มสวยแดงเรื่อ กระตุกหัวใจชายอย่างเค้าไม่ใช่น้อย ชายหนุ่มรู้สึกเกร็งในช่วงนาทีอย่างบอกไม่ถูก
ก่อนจะเรียกสติกลับมาฟังเจ้านายอย่างเดิม...


ปมรัก..รอยแค้น ตอนที่ 2 http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11606063/W11606063.html

แก้ไขเมื่อ 21 ม.ค. 55 16:56:52

แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 55 23:37:14

แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 55 23:17:48

แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 55 22:57:42

แก้ไขเมื่อ 20 ม.ค. 55 22:42:32

จากคุณ : ณัชชนม์
เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 22:39:44




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com