Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เปิดหัวใจ~..ปมรัก..รอยแค้น ตอนที่ 4(นิยายรัก..ฆาตกรรม..ต่างแดน) ติดต่อทีมงาน

เขาไม่รู้ตัวเลยว่า นอกจากความสงสารแล้ว ยังมีความรู้สึกใดอีกที่เกิดขึ้น
รู้แต่ว่า มันทำให้หัวใจของเค้าอ่อนลง..

จุดมุ่งหมายและความตั้งใจที่พาให้เค้ามาที่นี่ แม้ไม่ได้ถูกลืม
แต่ก็ถูกหัวใจแยกไว้อีกฟากหนึ่ง..  



เปิดหัวใจ  (ปมรัก..รอยแค้น ตอนที่ 4)


“ ก๊อกๆ  ก๊อกๆ  “    
“ก๊อกๆ ก๊อกๆ “
เสียงหน้าต่างกระจกถูกเคาะ  ???  หญิงสาวรู้สึกตัว ลืมตาตื่น เงี่ยหูฟังที่มาของเสียงนั้น ให้แน่ใจ

“ก๊อกๆ ก๊อกๆ “   เสียงเคาะซ้ำไม่ดังนัก จากหน้าต่างกระจกฝั่งซ้ายมือที่ห่างเตียงนอนไปเพียงสองก้าว  
ใช่เสียงคนเคาะหน้าต่างจริงๆ   ใครกันนะ..??   เทย่าหัวใจเต้นแรง   ค่อยๆพลิกตัวไปอีกด้านหนึ่ง
เอื้อมมือหยิบเสื้อคลุมนอน ที่พาดอยู่บนเก้าอี้ข้างเตียงมากอดไว้กับอก
โคมไฟหัวเตียงที่เปิดทิ้งไว้ก่อนที่จะหล่อนจะม่อยหลับไปยังส่องแสงสลัว เธอเอื้อมมือกดสวิทช์ดับมันลง

ภายในห้องนอนมืดสนิท  หล่อนขยับตัว ก้าวขาลงข้างเตียง  ก้มตัวเดินไปยืนกลางห้องอย่างเงียบๆ
แล้วจึงยืดตัวตรง รีบสวมเสื้อคลุมนอนทับ ชุดนอนอีกชั้นหนึ่ง
เมื่อโคมไฟดับลง ทำให้หล่อนได้เห็นเงาตะคุ่มด้านนอกหน้าต่างชัดขึ้น
จากความสูงที่ตัวบ้านสร้างยกสูงจากพื้นดินแล้ว สองฟุต ความสูงจากพื้นห้องถึงขอบหน้าต่างอีกน่าจะราวๆเกือบหนึ่งเมตร
หล่อนมองทะลุผ้าม่านเห็นเงาตะคุ่มของคนที่อยู่ด้านนอกระดับอกพอดีกับขอบหน้าต่าง

“ คุณหนูคะ “     เสียงมาร์กี้เรียกเบาๆ เคาะประตูอยู่หน้าห้อง หญิงสาวใจชื้นขึ้น รีบเดินไปเปิด
มาร์กี้แทรกตัวเข้ามาในห้องแล้วปิดประตู  ในมือหล่อนมีไฟฉายขนาดเล็กที่ยังเปิดสว่างอยู่

“ แมทธิวค่ะ แมทธิวเคาะเรียกอยู่ข้างหน้าต่าง  ชั้นได้ยินเสียงคนเคาะ เลยตื่น พอมองลงมาจากหน้าต่างข้างบน
เห็นจากแสงไฟห้องคุณหนูเมื่อกี๊ที่ยังเปิดอยู่ ได้ยินเค้ามาเคาะอยู่แป๊ปนึงแล้วค่ะ ชั้นเลยรีบลงมา “

ห้องนอนของเทย่าอยู่ชั้นล่างมุมสุดของตัวบ้าน ติดกับห้องรับแขกที่อยู่ตรงกลาง  ที่หล่อนขอพ่อนอนห้องข้างล่าง ตั้งแต่เรียนอยู่ไฮสคูล
เพราะเป็นเรื่องสนุกของเด็กหญิงที่ได้อยู่ห้องนอนชั้นล่าง  หรือเพื่อนบางคนมีบ้านชั้นเดียว
และเพื่อนๆวิ่งมาเคาะหน้าต่างเรียกกันในวันหยุดเพื่อจะพากันเล่นสนุกตามประสาเด็กๆได้โดยง่าย
เมื่อหล่อนเห็นเพื่อนๆที่บ้านใกล้กันหลายคนเล่นกัน จึงนึกสนุกบ้าง เลยขอพ่อย้ายลงมาใช้ห้องนอนนี้
แลกกับที่ให้มาร์กี้ขึ้นไปนอนห้องนอนของหล่อนที่อยู่ตรงกันชั้นบนแทน และก็ไม่เคยคิดอยากย้ายกลับขึ้นไปอีกเลย

“แมทธิว ?? เค้ามาทำไม?? ต้องการอะไร?? “  หญิงสาวขมวดคิ้วรู้สึกแปลกใจ
แต่ก็ยังใจชื้นขึ้นที่เป็นเขา ดีกว่าที่จะเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่ใช่..

“ ไม่รู้สิคะ นี่ยังไม่ตีห้าเลย หรือจะมีอะไร เดี๋ยวชั้นถามเค้าเองค่ะ “    มาร์กี้เดินออกหน้า ดึงแขนเทย่าให้มาเดินซ้อนอยู่ด้านหลัง  
ไฟฉายเล็กๆส่องลงพื้นให้พอมองเห็น ไม่กี่ก้าวก็เดินมาถึงหน้าต่าง
เงาตะคุ่มที่ยังยืนนิ่งอยู่ด้านนอก

มาร์กี้ค่อยๆแง้มม่านออก โดยมีหญิงสาวยืนอยู่ข้างหลัง  
แสงสลัวจากหลอดไฟถนนบนต้นเสาสูงที่ห่างตัวบ้านออกไปไม่กี่เมตรส่องให้เห็นใบหน้าของเขา  

จากที่โล่งใจเมื่อรู้ว่าไม่ใช่คนแปลกหน้า  แต่ตอนนี้ที่เห็นเสี้ยวหน้าชายหนุ่มในเงาสลัวข้างบานหน้าต่าง
หัวใจหล่อนกลับเต้นแรงยิ่งกว่าตอนที่สะดุ้งตื่นเพราะเสียงเคาะหน้าต่างเสียอีก
เหมือน..เหมือนเหลือเกิน..

“แมทธิว นายมาทำอะไร ?? “    มาร์กี้แง้มเปิดบานหน้าต่าง ถามเบาๆ เห็นชายหนุ่มแววตาร้อนรน

“  นายท่านเป็นอย่างไรบ้าง ตอนเกิดเรื่องแล้ว ผมเอาของเข้าไปเก็บในห้อง ตั้งใจจะตามคุณเทย่ามา
จะได้ขับรถพานายไปโรงพยาบาล แต่ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตอนไหน ผมขอโทษจริงๆ  แล้วนายเป็นอย่างไรบ้างครับตอนนี้ “    

เขาถามย้ำน้ำเสียงเป็นห่วงจริงจัง ส่วนของที่เขาบอกว่าเอาเข้าไปเก็บนั้น
หมายถึงซากงูที่ติดอยู่กับปลายคราดเหล็กนั่นเอง แต่เค้าไม่อยากเอ่ยย้ำว่าเป็นมัน..

ชายหนุ่มเงยหน้ามองข้ามไหล่มาร์กี้ ไปยังเทย่าที่ยืนเงียบอยู่ด้านหลัง
แต่หล่อนเบือนหน้าหนี หันไปอีกทางหนึ่ง  หัวใจเขากระตุกวูบ

“ นายถึงมือหมอแล้ว ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล คุณหนูขับรถพาไป ตอนที่กลับมาจากโรงนานั่นแหละ
ก็รีบออกไปเลย  หมอบอกว่างูมันกัดแต่ยังไม่ได้ปล่อยพิษ  ตอนนี้ต้องเฝ้าระวัง 24 ชั่วโมง
และก็ให้ออกซิเจนรักษาระบบการหายใจให้ปกติอยู่ก่อน “
มาร์กี้ตอบละเอียด

“  ผมแค่ปวดหัวนิดหน่อย ว่าจะเอนหลังแค่ไม่กี่นาที ไม่รู้หลับไปได้ยังไง  ผมขอโทษจริงๆ “
คำขอโทษสุดท้าย เขาหันมองหน้าหล่อน แต่หญิงสาว ยังยืนนิ่งไม่หันหน้ากลับมามองเขา

“ พอรู้สึกตัวตื่น ก็ตกใจเลยรีบมา  ตอนแรกก็ไม่รู้จะเรียกยังไงเพราะเห็นบ้านปิดไฟมืดหมด
เหลือแต่หน้าต่างบานนี้  ผมเห็นไฟเปิดอยู่  มาเคาะเรียกเพราะคิดว่าเป็นห้องนอนมาร์กี้น่ะครับ “

เขาพยายามจะอธิบาย  เหมือนจะขอโทษอยู่ในทีที่มาเรียก ทำให้ทั้งสองคนต้องพากันตื่น  
และมันเป็นอย่างที่พูดจริงๆ เพราะเขาไม่มีกุญแจประตูบ้าน เมื่อมาถึงเห็นไฟปิดหมด มีก็แต่แสงไฟสลัวจากหน้าต่างบานนี้เท่านั้น
และเค้าคิดว่าเป็นห้องนอนของมาร์กี้ จึงกล้ามาเคาะเรียก

หวังว่าหล่อนจะเข้าใจในเจตนาที่แท้จริงของเขา

ถึงตอนนี้แมทธิวก็ยังไม่รู้อยู่ดี ว่าจริงๆแล้ว ตอนที่เค้ามาเคาะแล้วเห็นแค่เหมือนมีใครในห้อง ช่วงแปปเดียว
ก่อนที่ไฟจะถูกดับลงนั้น ไม่ใช่มาร์กี้ แต่เป็นเทย่า

“ งั้นก็ไม่มีอะไรแล้วละ “    มาร์กี้บอกเขา และหันกลับมาถามเทย่า ที่ยืนเงียบอยู่ด้านหลัง
เผื่อว่าหล่อนจะมีอะไรสั่งให้เค้าทำ

“  นี่ก็จะตีห้าแล้ว ให้เค้ากลับไปนอนต่อมั้ย? หรือว่าคุณหนูมีอะไรจะให้แมทธิวทำมั้ยคะ..? “ มาร์กี้หันมาถาม  

เทย่าไม่มองตอบ สองมือกระชับเสื้อคลุมนอนให้แน่นเข้า คิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจ
“  ยังไม่มีอะไรให้ทำหรอก แต่ฉันมีอะไรอยากถามเค้านิดหน่อย  มาร์กี้จะไปนอนต่อหรือ จะไปทำอะไรก็ไปทำเถอะ “

มาร์กี้แปลกใจเล็กน้อย กับท่าทีของหญิงสาว  ดูเหมือนเทย่ากำลังคิดอะไรอยู่  แต่หล่อนก็พอจะเข้าใจได้
จึงเบี่ยงตัวออกมา หันหลังเดินกลับไปที่ประตูและออกจากห้องไป  

เทย่าและเขาเผชิญหน้ากัน เขาเงยหน้ามองขึ้นมา เพราะขณะนี้หล่อนอยู่ในระดับที่ใบหน้าหล่อนอยู่สูงกว่า

คราวนี้หญิงสาวเป็นฝ่ายมองหน้าเขา เต็มตา  เป็นฝ่ายสบตาเขาก่อน  ไม่มีใครพูดอะไร

ช่วงนาทีแห่งความเงียบ หล่อนมองลึกลงไปในดวงตาคู่นั้น  คำถามที่ผุดขึ้น กลับถูกกลืนหายไปในลำคอ พร้อมกับก้อนอะไรสักอย่าง  

เทย่าพูดอะไรไม่ออกรู้สึกว่าใบหน้า ตัวเองร้อนผ่าว และเหมือนดวงตาจะมีน้ำใสๆเอ่อออกมา

ชายหนุ่มสบตากลับ  เขาเห็นแววตาคู่สวยเต็มไปด้วยความว้าวุ่น และรู้ว่าหล่อนมีอะไรที่อยากถามเขา
แมทธิวยังยืนนิ่งรอ  แม้ในแสงสลัว แต่เค้าก็ได้เห็นแล้วว่าหล่อนมีน้ำตาเอ่อคลอดวงตา

เขาไม่รู้ตัวเลยว่า หัวใจตัวเองอ่อนยวบลงตั้งแต่นาทีไหน

“  นายกลับไปเถอะ ชั้นเปลี่ยนใจแล้ว   ไว้พรุ่งนี้เช้านายขึ้นมากินกาแฟที่ห้องครัว  แล้วเราค่อยคุยกัน “
หญิงสาวบอกเขาเสียงเครือ  น้ำใสๆหยดไหลจากดวงตาลงอาบแก้มทั้งสองข้าง

ภาพที่เห็น  ทำให้เขาอึ้งไปชั่วขณะ  จนหล่อนค่อยๆปิดบานหน้าต่าง แล้วดึงม่านกลับปิดทับอีกชั้นหนึ่ง  

เขายืนนิ่งเงียบอยู่ในความมืดสลัวอย่างนั้น ชั่วอึดใจ  จึงค่อยๆก้าวเท้าเดินกลับไปอย่างเงียบๆ

หญิงสาวยังไม่ยอมเปิดไฟ ในห้องมืดและเงียบสนิท หล่อนทรุดตัวนั่งลงบนเตียง

เหมือนเหลือเกิน  ใบหน้าของใครคนหนึ่ง ในความสลัวที่นอกหน้าต่างบานนี้

ภาพที่ปรากฏขึ้นให้เห็น คือผู้ชายคนที่หล่อนรัก ยืนอยู่ข้างนอก ส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้
พร้อมดอกกุกลาบสีขาวในมือ และหญิงสาวร่างบางที่ยื่นมือจากหน้าต่างบานนี้ออกไปรับดอกกุหลาบนั้น
คือตัวหล่อนเอง  หล่อนยิ้มให้เขา  ยื่นหน้าออกไปและโน้มลงหาให้ชายหนุ่มจุมพิตอ่อนโยนที่หน้าผาก  
ก่อนที่เขาจะหันหลังรีบเดินข้ามฟากหายกลับเข้าไปในโรงนา

ภาพแห่งความสุขปิดฉากลง  หญิงสาวนั่งยิ้มทั้งน้ำตา  

โคมไฟหัวเตียงถูกเปิด มันทำหน้าที่ส่องแสงนวลอีกครั้ง เทย่าล้มตัวลงนอนตะแคงหันหน้าไปทางโต๊ะเล็กข้างเตียงที่โคมไฟตั้งอยู่  

ใกล้กันนั้น  ดอกกุหลาบแห้งเดียวดายดอกหนึ่งเสียบอยู่ในแจกันขวดแก้วสีน้ำทะเล

หญิงสาวมองผ่านม่านน้ำตา  ไปยังกุหลาบแห้งดอกนั้น  แม้กลีบบางนุ่มของมันจะเปลี่ยนเป็นแห้งแข็ง
และสีกลีบที่เคยขาวนวลที่บัดนี้กลายเป็นสีน้ำตาลหมองหม่น
แต่มันก็ยังให้ความชุ่มชื่นแก่หัวใจ และทำให้หล่อนรู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้เฝ้ามอง
.............................................................................................................


แมทธิว ค่อยๆไขกุญแจ เปิดประตูเข้ามาในบ้านอย่างเงียบๆ  ที่เค้าได้กุญแจบ้านมา เพราะมาร์กี้ไปเคาะเรียก
เอากุญแจไปให้ตั้งแต่ยังไม่เจ็ดโมง  โดยหล่อนให้เหตุผลว่า จะรีบไปให้ทันรถประจำทางเที่ยวเจ็ดโมงเช้า ที่จะขับจากหมู่บ้านใกล้ๆ
ผ่านมาหน้าฟาร์ม เข้าไปยังเมืองเล็กที่เป็นที่ตั้งของโรงพยาบาล เพื่อจะไปเฝ้านาย
แล้วหล่อนจึงรีบออกไปพร้อมตะกร้าใส่ขวดน้ำซุป และของใช้จำเป็น

หล่อนฝากให้เขาคอยมอง ถ้าเทย่าเปิดไฟห้องครัว เพราะหล่อนตั้งนาฬิกาให้ปลุกเจ็ดโมงครึ่ง แล้ววางไว้ให้ที่ข้างประตูด้านหน้าห้องนอนของเธอ พร้อมกับเขียนโน้ตบอกไว้ด้วยแล้วว่าหล่อนจะไปเยี่ยมนายท่านที่โรงพยาบาล

แต่มาร์กี้ก็อยากวานให้เขาช่วยมาดู ว่าเทย่าจะตื่นไหวไหม หรือหากหล่อนมีอะไรต้องการ เขาคงจะช่วยเธอได้บ้าง
จัดการไว้อย่างนี้แล้ว หล่อนจึงออกไปอย่างหมดห่วง
และที่สำคัญ  ก่อนวันวานที่แมทธิวจะมาถึง นายท่านได้บอกหล่อนไว้แล้วว่า  จะมีคนงานใหม่ มาทำงาน
ในช่วงฤดูหนาวนี้ ซึ่งเป็นคนที่นายมั่นใจแล้วว่าไว้ใจได้ ที่จะให้มาทำงานที่นี่


แต่ถึงแม้มาร์กี้จะไม่มาไหว้วานขอแรง เขาก็ตั้งใจและตั้งนาฬิกาปลุกตัวเองไว้ว่าจะตื่นเจ็ดโมงอยู่แล้ว
เพราะมีนัดสำคัญ ที่คิดว่า คงต้องเตรียมตัวตอบคำถาม อย่างที่เทย่าได้บอกเขาเมื่อคืน

หลังจากมาร์กี้ออกไป  เขารีบจัดการตัวเองเสร็จแล้วจึงออกมาเก็บใบไม้แห้ง หน้าโรงนา
แมทธิวเลือกใช้วิธีกอบใบไม้แห้งด้วยมือ ใส่ลงในถุงขยะชีวภาพ ที่แยกเฉพาะพวกเศษใบไม้แห้งต่างๆ
แทนที่เขาจะใช้ไม้กวาด เพราะไม่อยากให้เสียงดังรบกวนคนขี้แงที่ยังไม่ตื่น

เก็บไปใจก็คิดไปถึงแต่ใบหน้าสวยหวาน กับหยาดหยดน้ำตา ที่ผลิตออกมาทั้งวันอย่างกับเป็นโรงงานผลิตน้ำตา

เพราะตั้งแต่เมื่อวานตอนบ่ายที่เขาเห็นหล่อนแอบไปนั่งร้องไห้ใต้ต้นแอปเปิล
จนกระทั่งนั่งกินอาหารค่ำตรงข้ามเขา ดวงตาคู่สวยก็มีแต่น้ำตากลบตาอยู่แทบจะตลอดเวลา

แม้กระทั่งเมื่อคืน ไม่ใช่สิ เกือบจะรุ่งสาง โรงงานน้ำตากะดึก ก็ยังทำงานอยู่อีก

ริมฝีปากหนาหยักอมยิ้มน้อยๆ  ให้กับใบไม้แห้งในมือ นี่เขาเป็นอะไรไปกันนี่..??

หลายครั้งที่เฝ้ามอง ไปที่หน้าต่างห้องครัว ว่าเมื่อไหร่ไฟจะเปิด หรือเมื่อไหร่จะมีคนมาเปิดม่านออก
ให้เขาได้เห็นร่างบาง เคลื่อนไหวไปมาบ้าง
แต่จนเกือบแปดโมง ทุกอย่างยังเหมือนเดิม เขาจึงตัดสินใจไขประตูเข้ามาดูหล่อนตามที่มาร์กี้บอกไว้

ในบ้านยังเงียบกริบ ไม่มีไฟดวงใดถูกเปิด  แต่ในห้องก็สว่าง เพราะเป็นเวลาเกือบจะแปดโมงแล้ว

เขาหยุดยืนอยู่ตรงกลางโถงทางเดิน ไม่รู้จะยังไงต่อไปดี ซ้ายมือเป็นห้องครัว ประตูเปิดแง้มไว้ ก็ไม่เห็นมีใคร
ขวามือเป็นห้องรับแขกที่เมื่อวานเขาเห็นแล้วครั้งหนึ่งตอนมากินอาหารค่ำ
และบานประตูถัดไปดูจากตำแหน่งแล้ว น่าจะเป็นห้องนอนของมาร์กี้ที่เมื่อคืนเขามาเคาะเรียกที่หน้าต่าง ชายหนุ่มคิด

และถ้าห้องนอนหล่อนอยู่ชั้นบน จะให้เค้าขึ้นไปเคาะเรียกหรืออย่างไร คงไม่ดีแน่ ถ้าจะทำอย่างนั้น
เขาตัดสินใจเข้าไปในห้องครัว ถ้าหล่อนยังไม่ตื่น ก็จะเตรียมกาแฟรออยู่นี่ล่ะ และถ้าสายมากแล้วยังไม่ลงมาจริงๆค่อยว่ากันอีกที

คิดได้แล้ว เขาจึงเข้าไปในห้องครัว บนโต๊ะมีตะกร้าหวายใบเล็กที่มีผ้าดิบขาวสะอาดคลุมไว้
เปิดดูข้างใน มีก้อนขนมปังอบแล้วยังอุ่นๆหลายชนิดปนกันอยู่
ข้างกันเป็นกล่องพลาสติกหลายชั้น บรรจุชีสแผ่นรสชาดต่างกันในแต่ละชั้น
ที่มาร์กี้เอาชีสออกมาไว้นอกตู้เย็น  ก็เพราะว่า ชีสจะรสชาดดี ถ้าทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องสักครึ่งชั่วโมงหรือนานกว่านั้น
เพื่อให้ชีสอ่อนตัวลงและส่งกลิ่นหอม  ดูแลกันดีจริงๆ เจ้านายน้อยตื่นมาก็คงได้กินอร่อยพอดิบพอดี

และถัดมา เป็นจานเซรามิกใบใหญ่ที่มีแซนด์วิชห่อพลาสติกใส วางเรียงไว้ทั้งหมดห้าคู่
คงจะทำเตรียมไว้สำหรับพนักงานโรงงานผลิตน้ำตาสินะ  ตัวนิดเดียวทำไมกินเยอะ ตั้งห้าคู่  ใจคอจะไม่กินอย่างอื่นเลยหรือยังไง

ไม่ทันจะได้คิดอะไรต่อ เสียงฝีท้าวก้าวเข้ามา หยุดอยู่ในห้อง  เขาหันไปตามเสียงนั้น  

เทย่าตกใจที่เห็นเค้าอยู่ในห้องครัวก่อนแล้ว หล่อนเพิ่งอาบน้ำเสร็จออกมาจากห้องน้ำ
ตั้งใจจะมาเอาน้ำดื่มสักแก้ว ไปดื่มในห้องระหว่างที่แต่งตัว

แมทธิว  เองก็ตะลึงงันไปเช่นกัน หญิงสาวเข้ามาในชุดคลุมอาบน้ำผ้าขนหนูแขนยาวขาวสะอาด
ที่ยาวคลุมลงไปถึงแค่หัวเข่า  หล่อนถือผ้าเช็ดตัวผืนเล็กค้างอยู่ในมือ เช็ดผมเปียกที่เพิ่งสระเสร็จพอหมาดๆ

ใบหน้าสะอาดสะอ้านปราศจากเครื่องสำอางค์  ดวงตาสวยใส ที่ถุงใต้ตายังบวมๆคงเพราะอดนอนและร้องไห้หนักเหลือเกิน
ปลายจมูกแหลมเชิด  รับกับริมฝีปากอิ่มแดงเรื่อ ที่หยุดชายหนุ่มให้นิ่งงัน  

แมทธิวรู้สึกว่าเป็นนาทีที่โลกหยุดหมุน และจมูกของเขาสัมผัสกลิ่นหอมอ่อนๆแบบผู้หญิง
เขารู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออกเสียดื้อๆ ยิ่งเขาสูดลมหายใจกลิ่นหอมนั้นยิ่งเย้ายวน

เขาหันหนี ภาพตรงหน้า เปลี่ยนเป็นยืนหันข้างให้หล่อน

เทย่าเองก็ชะงัก หยุดยืนอยู่กับที่แค่สองก้าวแรกที่ผ่านประตูเข้ามา  หล่อนอึกอัก ตกใจ ทำอะไรไม่ถูก

“นายเข้ามาได้ยังไง ?? “  ถามเขาเสียงดุ กระชับเสื้อคลุมอาบน้ำแน่นเข้า  

แมทธิวกดเปิดสวิทช์เครื่องต้มกาแฟ  ตักผงกาแฟใส่ถ้วยกรอง มือไม้เหมือนจะพันกันไปหมด

“ มาร์กี้เอากุญแจไปให้ผม บอกให้คอยดูถ้าคุณตื่น หรือถ้าเผื่อคุณอาจจะตื่นไม่ไหว หรือยังไง..??  "    เขาพูดติดขัด  
“ ผมรอจนเกือบแปดโมง เห็นคุณยังไม่เปิดม่านห้องครัว เลยตั้งใจจะเข้ามาดูว่า เผื่อคุณอาจจะไม่สบาย  หรือว่า..”
เขาพูดได้ไม่จบประโยค และก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่ออีก

“ ชั้นตื่นตามนาฬิกาที่มาร์กี้ปลุกไว้ให้นั่นแหละ ไม่เป็นอะไรหรอก สบายดี “
หญิงสาวหยุดเช็ดผมนานแล้ว ผ้าเช็ดตัวสีขาวผืนเล็กถูกหล่อนกำขยำๆอยู่ในสองมือ
หล่อนรู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองร้อนขึ้นทีละนิด ทีละนิด

“ จะไปแต่งตัวแล้ว แต่หิวน้ำ อยากได้น้ำดื่ม..” คราวนี้หล่อนติดอ่างบ้าง  และกลายเป็นว่าก้าวขาไม่ออก
เขาหันกลับมามองหล่อน นิดหนึ่ง ใบหน้าเรียวสวย ล้อมกรอบด้วยเส้นผมยาวเปียกชื้นยุ่งเหยิงระแก้มนวลลงมาถึงลำคอเรียวระหง

ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์แบบแขวนติดผนัง ดังมาจากข้างประตู
ชายหนุ่มนึกขอบคุณที่มันช่วยดึงเขาขึ้นมาจากอารมณ์ที่กำลังดำดิ่งลงสู้ห้วงลึก

เทย่าหันกลับไปคว้าหูโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างรวดเร็ว มาร์กี้แน่ๆ หล่อนคิด
“ มาร์กี้ พ่อเป็นอย่างไรบ้าง ...... ฉันเพิ่งอาบน้ำเสร็จ กะว่าแปดโมงครึ่งจะโทรไปหา “
หญิงสาวกรอกเสียงกลับไป หยุดฟังและโต้ตอบเป็นระยะ

เนื่องจากกฏการงดใช้เครื่องมือสื่อสารส่วนบุคคลในบริเวณทั้งหมดของโรงพยาบาลอย่างเคร่งครัด
เพราะคลื่นความถี่โทรศัพท์จากภายนอก จะส่งผลรบกวนการทำงานของเครื่องมือทางการแพทย์บางชนิด  
ซึ่งเรื่องนี้หล่อนรู้ดีอยู่แล้ว จึงต้องรอให้เข้าสู่เวลาทำงานช่วงเช้าแปดโมงครึ่งแล้วค่อยโทรเข้าโทรศัพท์สายตรงของโรงพยาบาลจะดีกว่า

แมทธิวยังยืนอยู่ที่เดิม เมื่อเขาได้ยินจึงรู้ว่าเป็นมาร์กี้ที่โทรมา  
ใจที่คิดว่าจะออกไปนอกห้อง จึงเปลี่ยนเป็นหยุดฟัง ด้วยความอยากรู้และเป็นห่วงนายท่าน

แต่มันยิ่งกลับทำให้สถานการณ์เลวร้ายไปกว่าเดิมสำหรับเขา

เมื่อหญิงสาวหันหลังกลับไปคุยโทรศัพท์ที่แขวนติดอยู่บนผนังข้างประตู
ทำให้เขาได้เห็นสัดส่วนของหล่อนชัดเจน  เสื้อคลุมนอนที่ถูกผ้าคาดเอวมัดไว้แน่น
ยิ่งเน้นให้เห็นหญิงสาวที่เคยมองว่าร่างบาง แต่บัดนี้ เขาได้เห็นว่าแท้จริงแล้วซ่อนสะโพกผาย กลมกลึงน่ามอง

ความเป็นชายอัดแน่นเกร็งอยู่ภายใน หญิงสาวยังคงจดจ่อคุยโทรศัพท์กับมาร์กี้ต่อไปอย่างไม่รู้ตัว

เขาหันหลังกลับมายังเครื่องต้มกาแฟ ที่กำลังส่งเสียงเดือด หยดกาแฟสีเข้มไหลต่อเนื่องออกจากถ้วยกรอง
ลงสู่หม้อแก้วใสที่รองรับอยู่ด้านล่าง  เขาเพ่งมองมันหยดแล้วหยดเล่า เรียกสมาธิกลับคืนให้ตัวเอง

กลิ่นหอมของกาแฟกรุ่นอยู่ปลายจมูก  แมทธิวสูดลมหายใจเอากลิ่นกาแฟเข้าปอด รู้สึกโล่ง และหายใจสะดวกขึ้น
เขาหันไปเทน้ำแร่สำหรับดื่ม ที่วางเรียงอยู่สองสามขวดข้างตู้เย็น เทลงใส่แก้วน้ำดื่มบางใสให้หล่อน
ไม่เคยรู้เลยว่าปกติหล่อนดื่มน้ำดื่มแบบไหน แต่ก็เอาเถอะ

หันกลับมาอีกครั้งหล่อนคุยโทรศัพท์เสร็จและวางสายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
    “ ขอบใจนะ”      หล่อนเดินเข้ามาหาเขาห่างกันเพียงสองก้าว ยื่นมือรับแก้วน้ำจากเขา              

จากที่หล่อนมองเห็นทางด้านหลัง แมทธิว  เขาช่างเหมือน เหมือนอย่างกับเป็นคนๆเดียวกัน
แต่ในแววตาเวลาที่มองมาอย่างคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกัน และบางสิ่งที่หล่อนสัมผัสได้  
มันบอกหล่อนว่า เขาไม่ใช่แน่ๆ ไม่ใช่คนที่หล่อนเคยรัก  ไม่ใช่ใครคนนั้น

บางครั้งหญิงสาวก็อยากเข้าใกล้เขาให้มากที่สุด อยากสบตาใกล้ๆ อยากค้นหาอะไรบางอย่างในแววตาคู่นั้น
ว่ามีอะไรที่ซ่อนอยู่   บางทีมันอาจคลายปมปริศนาในใจหล่อนออกได้

แต่นี่เพิ่งผ่านไปวันเดียว เทย่าคิดว่ายังมีอีกหลายวิธีที่จะค้นหาคำตอบ โดยไม่ต้องเข้าใกล้เขาให้มากไปกว่านี้
เพราะในเมื่อเขาเป็นคนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกัน และยิ่งไปกว่านั้น หล่อนรู้สึกได้ถึงความผิดปกติในตัวเอง
เมื่อได้เข้าใกล้เขา  มันเป็นความรู้สึกที่ยากเกินจะบรรยาย   หัวใจเต้นแรงแทบทุกครั้งที่แววตาคู่นั้นมองมา
ยิ่งเข้าใกล้เท่าไหร่  ยิ่งรู้สึกว่าหล่อนจะควบคุมตัวเองได้ยากยิ่ง
หล่อนและเขา ก็ไม่ควรใกล้กันให้มากนัก จะเป็นการดีที่สุด

เขาส่งแก้วน้ำให้ นิ้วมือสวยเรียวรับไป  ทั้งสองคนต่างนิ่งงันในความเงียบ
จิตภาวนาของเขาบรรลุผล เมื่อหล่อนรีบหันหลังออกไป จากห้องครัวพร้อมแก้วน้ำในมือ

ชายหนุ่มเสยผมที่ตกลงมาปรกหน้าผาก ด้วยความยุ่งยากใจเป็นที่สุด  
หน้าเครื่องต้มกาแฟ เขาเท้ามือทั้งสองข้างกับเคาน์เตอร์ ก้มหน้ามองปลายเท้าตัวเอง
ยืนทิ้งน้ำหนักตัวลงบนขาทั้งสองข้าง

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับความรู้สึกของเขา..???  ต่อหญิงสาวร่างบางที่แจ่มชัดอยู่ตรงหน้า

เขามาที่นี่เพื่ออะไร ?? เขาบอกตัวเอง ย้ำความรู้สึกตัวเอง ว่าอย่าลืม..

เขามาที่นี่เพื่ออะไร..?? และเขา ไม่มีสิทธิ์ที่จะคิด หรือรู้สึกอื่นใดกับหล่อนมากไปกว่านี้

หล่อนเป็น ลูกสาวนายจ้าง..ส่วนเขา เป็นแค่คนงานเท่านั้น เป็นแค่คนงาน ที่รับหน้าที่มาทำงาน เท่านั้น..!!!!

แมทธิว ถอนหายใจ เขาขบกรามเป็นสันนูน แนวเส้นเลือดปูดขึ้นใต้ผิวหนังจากโหนกแก้มขึ้นไปถึงขมับสองข้าง

นี่เขาจะทำอย่างไรต่อไปดี..

..................................................................................................................................................

เทย่าวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะหน้ากระจก แม้จะดื่มมันไปแล้วค่อนแก้ว แต่ความรู้สึกยังแห้งผากในลำคอ
ด้ามแปรงหวีผมในมือถูกกำแน่นขึ้น

ส่วนหนึ่ง หล่อนรู้ว่ามันคือความปรารถนา  ไม่ใช่ต่อความเป็นชายชาตรีที่หล่อนมองเห็น

แต่เป็นเพราะหลายสิ่งที่หล่อนคุ้นเคยเสียเหลือเกิน ทั้งน้ำเสียง และท่าทาง  

จะมีก็เพียงแววตาเท่านั้น ที่ถึงแม้จะฉายแววอ่อนโยนให้เห็นบ้าง ในบางครั้ง
แต่มันแตกต่าง อย่างชัดเจน หล่อนจึงเชื่อแน่ว่าไม่ใช่  

อดใจรอไม่นาน หล่อนจะต้องได้รู้แน่ๆ ว่าเขาคือใคร

หญิงสาวร่างบาง  ในเสื้อคอจีนทรงเชิ้ตพอดีตัวแบบผ่าหน้าติดกระดุมผ้ามัสลินขาวสะอาด
เย็บตีเกล็ดเป็นทางลงจากไหล่ด้านหน้าลงไปถึงอกในแบบเสื้อของผู้หญิง
แขนเสื้อยาวถูกพับขึ้นมาถึงข้อศอกและชายเสื้อถูกเก็บซ่อนในเอวกางเกงยีนส์สีซีดเข้ารูป  
ผ้าพันคอคอตตอนผืนบางสามเหลี่ยม ถูกม้วนผูกเป็นปมหลวมๆไว้ตำแหน่งเดียวกับกระดุมเม็ดบนสุด  
ลายจุดสีวงกลมต่างสีกระจายอยู่ทั่วผืน ส่งให้เสื้อสีขาวดูสดใส
ผมเส้นเล็กสีน้ำตาลอ่อนยาวสยายลงมาถึงกลางหลัง

เทย่ามองตัวเองในกระจก แล้วเลยมองไปที่กรอบรูปขนาดเล็กที่ถูกวางคว่ำหน้าลง กับพื้นโต๊ะ
ข้างเครื่องประทินผิวต่างๆที่วางเรียงราย

ภาพชายหนุ่มกับหญิงสาวในชุดคาวบอย หน้าร้านยิงปืนอัดลมในงานออกร้านของหมู่บ้าน
เทย่าถือปืนอัดลมกระบอกยาว ข้างๆหล่อนเป็นชายหนุ่มเจ้าของใบหน้าคมคาย แววตาอ่อนโยน
เขายิ้มน้อยๆที่มุมปาก ยืนโอบเอวหล่อนไว้หลวม ๆ  หญิงสาวยิ้มกว้าง อย่างมีความสุข

กรอบรูปบานเล็กถูกหงายขึ้น หล่อนเบียดขวดเล็กขวดน้อย ไปรวมกันด้านหนึ่ง พอให้มีที่ว่างสำหรับตั้งมันขึ้นมาใหม่

ภาพแห่งความทรงจำแสนสุข หล่อนยิ้มให้ชายหนุ่มในภาพถ่ายนั้น

ฉันคิดถึงคุณค่ะ  คิดถึง และยังรักคุณอยู่เสมอ หากวันพรุ่งนี้ฟ้าจะส่งใครสักคนเข้ามาในชีวิต
ฉันก็อยากให้เป็นคุณ เป็นคุณคนเดียวเท่านั้นที่จะกลับมาพร้อมกับวันแห่งความสุขที่หายไป

หล่อนวางกรอบรูปลงอย่างทนุถนอม ชายหนุ่มและหญิงสาวในรูปส่งยิ้มกลับมาให้

หญิงสาวละสายตาจากภาพถ่ายมองออกไปนอกหน้าต่าง
ท้องฟ้ากว้างเป็นสีฟ้าใสกว่าทุกวัน เหมือนจะตอบคำถามที่หล่อนถามท้องฟ้าไปเมื่อคืน

.....................................................................................

เทย่ากลับมาที่ห้องครัวอีกครั้ง แมทธิวจัดโต๊ะพร้อมสำหรับอาหารเช้าสองที่
ที่หนึ่งคือหัวโต๊ะกับอีกที่หนึ่งนั่งมุมโต๊ะติดกัน

ม่านหน้าต่างถูกเขารูดเปิดออกแล้ว แสงแดดอุ่นสองไล้บางๆลงบนพื้นโต๊ะ

เขาแอบมองใบหน้าสวยใส ที่มาในชุดทะมัดทะแมง สะอาดสะอ้านสะดุดตา

หญิงสาวเดินเลยไปที่หน้าต่าง มองออกไปข้างนอก คนงานชายหญิงออกไปแปลงผักกันเกือบจนหมดแล้ว
วันสุดท้ายแล้วสินะ พรุ่งนี้ลานหน้าบ้านก็จะเงียบสนิท ปราศจากเสียงพลั่ว จอบ
เสียงพูดคุยสนทนาสารพันของคนงานที่หล่อนคุ้นเคย  

ภาพแห่งชีวิตจะหยุดลง อีกเกือบครึ่งปี กว่าจะกลับมาโลดแล่นเหมือนเดิมอีก
เทย่าหันกลับมาที่โต๊ะ หล่อนเดินอ้อมมานั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามหน้าต่าง  
ชายหนุ่มจึงต้องนั่งลงหัวโต๊ะเสียเอง ทั้งๆที่จัดเตรียมไว้ให้หล่อน

เขาวางถ้วยกาแฟที่เพิ่งรินกาแฟร้อนจากหม้อกรองลงตรงหน้าหญิงสาว
เลื่อนถาดที่ใส่น้ำตาลและนมสำหรับใส่กาแฟมาให้ใกล้ๆ
เสร็จแล้วจึงรินกาแฟของตัวเองและนั่งลง

น้ำตาลหนึ่งช้อนใส่นมเยอะๆ เขาแอบมอง อดอมยิ้มไม่ได้กับฝีมือปรุงกาแฟของพนักงานโรงงานผลิตน้ำตา
ถ้าหล่อนรู้ว่าเขาแต่งตั้งตำแหน่งใหม่ให้ หล่อนจะโกรธเขาไหมนะ..??  

“ นายเป็นอย่างไรบ้างครับ “   เขาถามสุภาพ ทำลายความเงียบ เพราะหล่อนดื่มกาแฟไปหลายอึก
และกินแซนด์วิชแฮมพริกไทยหมดไปสองคู่แล้ว ยังไม่คุยกับเขาสักคำ

“ มาร์กี้บอกว่าพ่อดีขึ้นแล้ว ระบบหายใจเกือบเป็นปกติ แต่ยังต้องใช้ถังออกซิเจนอยู่
ส่วนรอยแผล หมอตรวจแล้ว เป็นแค่รอยเขี้ยว คิดว่างูมันคงตกใจ เลยฉกกัดพ่อ
แต่ยังไม่ทันได้พ่นพิษ พ่ออาจจะสะบัดมือออกทัน และมันเลื้อยหนีไปก่อน “    
เทย่าตอบเรียบๆ หล่อนครุ่นคิดกลับไปถึงเรื่องเมื่อคืน ความโมโห เจ็บแค้นยังอยู่เต็มอก

“ แล้วทำไมคุณไม่เรียกผม ไม่เอางูไปให้หมอตรวจด้วย  “
เขาถาม รู้สึกสงสัยว่า หล่อนตั้งใจจะไม่เอามันไปด้วย เพราะบอกให้เขาเอามันเข้าไปเก็บ
และตอนเช้าจะจัดการกับมัน จึงอยากรู้ว่าหล่อนจะจัดการกับมันอย่างไร

“แมทธิว  ฉันจะเล่าให้ฟังนะ   “      หญิงสาวเช็ดปลายนิ้วกับผ้าเช็ดปากที่พับวางอยู่ข้างจาน  
สายตาหล่อนมองตรงออกไปในความว่างเปล่านอกหน้าต่าง

“  งูเห่าที่ผูกเชือกแดง มันถูกส่งมา   นี่เป็นครั้งที่สองแล้ว   ครั้งแรก เมื่อกลางปีที่ผ่านมา เพิ่งสามสี่เดือนมานี่แหละ
ปกติพ่อจะตื่นเช้ามากเพราะช่วงหน้าร้อนสว่างเร็ว  จำได้ว่าตีห้า ก็สว่างแล้ว พ่อลงไปในโรงนา
พ่อเล่าให้ฟังว่าได้กลิ่นคาวจากเครื่องรถแทรกเตอร์ หาดูจนเจอ ก้อนเนื้อสดๆถูกซ่อนอยู่ในซอกเครื่องยนต์
กับงูเห่ามันก็ม้วนตัวอยู่ในซอกนั้นแหละ แล้วพ่อก็ถูกกัดเข้าที่หลังมือ ดีว่าคราวที่แล้วก็แค่รอยเขี้ยว
เล็กกว่าคราวนี้อีก มาร์กี้ได้ยินเสียงพ่อร้องเรียก รีบลงไปดูพ่อ แล้วขึ้นมาปลุก
ชั้นก็รีบพาพ่อไปโรงพยาบาล โชคดีที่สุดที่พ่อไม่เป็นอะไร พอโดนกัดแล้วพ่อก็ตกใจทำอะไรไม่ถูก
และก็ไม่ทันเห็น ไม่รู้มันเลื้อยหายไปทางไหน ตอนไหน  “

หญิงสาวก้มมองถ้วยกาแฟตรงหน้า ที่พร่องไปเกือบหมดแล้ว
ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณว่าต้องการเพิ่ม แต่กาแฟร้อนๆก็ถูกเขาเทเติมลงอีกจนเกือบเต็ม

“บ้านเรามีศัตรู ก็ไร่ข้าวโพดติดกันนี่แหละ พอดีมีเรื่องขัดใจกันตั้งแต่เมื่อต้นปีตอนก่อนจะเข้าหน้าร้อน
เพราะเรื่องคนงานของไร่โน้น ย้ายกันมาทำงานที่นี่เกือบสิบคน ตอนที่พวกเค้ารู้ว่าพ่อขยายแปลงผักเพิ่ม

ทางโน้นไร่ใหญ่กว่าจริง แต่คนงานก็เยอะมาก พอแบ่งค่าแรงเหมาเก็บฝักข้าวโพด  
คนงานก็ได้ค่าแรงกันน้อยมาก เขาเลยพากันมาทำที่นี่
พ่อถามแล้วคนงานบอกว่า ไม่ได้ต่อสัญญากับเค้าปีนี้ พ่อก็เลยรับไว้  

วันนึง นายอีริค เจ้าของไร่ผ่านมาเห็นคนงานของเขา  เกิดถกเถียงถึงขั้นเกือบจะวางมวยกับพ่อ ตรงมุมสุดฟาร์มเราเขตที่ติดกับไร่เขานั่นแหละ
หลังจากนั้นก็มีปัญหาเรื่อยมา ท่อน้ำบนดินโดนทุบแตกบ้างละ แปลงผักที่กำลังจะได้เก็บผักขาย
ก็โดนลุยเละไปสองรอบ พ่อเลยไปแจ้งตำรวจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้หรอก เพราะเราไม่มีหลักฐาน  
แต่ก็ดีขึ้นนิดหนึ่ง คือเรื่องเงียบไป
แต่พอพ่อโดนงูกัดแล้ว คนงานที่ย้ายมาอยู่กับเราบอกว่าน่าจะมาจากทางโน้น
เพราะตอนที่ทำงานอยู่เค้าเคยรู้มาว่า นายอีรีคสนใจเรื่องงู และเคยแอบซื้อลูกงูมาเลี้ยงไว้ “

“ เรามั่นใจว่าต้องเป็นมัน แน่ๆ “   หล่อนเล่ายาว ทั้งหมดให้เขาฟัง

“พ่อเราไม่ได้กลัวนะ แต่บอกว่า อย่าไปมีเรื่องกับเค้า ปล่อยให้มันเงียบๆไปเอง
แต่ก็ระหองระแหงมาเรื่อย ถ้าออกไปด้านหลังนายจะมองเห็นหอคอยแท้งน้ำสุดมุมไร่อีกด้านหนึ่งของพวกมัน
นั่นแหละ วันดีคืนดี เราก็ได้ยินเสียงปืน มันคงยิงขู่มั้ง แต่ก็ไม่บ่อยหรอก ยิงแล้วพวกมันก็ขึ้นไปจุดคบไฟเยาะเย้ยอีก จำได้ว่าน่าจะสามสี่ครั้ง
ตำรวจก็มาไม่ทันหรอก ไม่มีหลักฐาน ไม่มีใครโดนยิง ก็ทำอะไรมันไม่ได้ .”

“สงสารพ่อ เหนื่อยงานแล้วยังต้องมาเหนื่อยใจอีก “   หญิงสาวเสียงอ่อนลงพูดเหมือนระบาย

ชายหนุ่มพอจะเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานทั้งหมดแล้ว
เขาเหลือบมองมือเล็กๆ นิ้วเรียวไล้หูถ้วยกาแฟไปมา  หญิงสาวพาตัวเองล่องลอยไปกับอดีตที่เจ็บปวด

ความเงียบแทรกตัวเข้ามาอีกครั้ง  คราวนี้เขาเป็นฝ่ายเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างบ้าง
ลานนาโล่ง เงียบจนดูอ้างว้าง  ทั้งหมดพื้นที่ในบ้านหลังใหญ่ โรงนากว้าง คอกม้า
ไม่รวมกับแปลงผักอีก มันจะหนักไปไหม สำหรับสองคน พ่อผุ้สูงวัย กับลูกสาวคนเดียว

เขาไม่รู้ตัวเลยว่า นอกจากความสงสารแล้ว ยังมีความรู้สึกใดอีกที่เกิดขึ้น
รู้แต่ว่า มันทำให้หัวใจของเค้าอ่อนลง..

จุดมุ่งหมายและความตั้งใจที่พาให้เค้ามาที่นี่ แม้ไม่ได้ถูกลืม
แต่ก็ถูกหัวใจแยกไว้อีกฟากหนึ่ง  

.................................................................

ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ
Have a Good day ka.


ปมรักรอยแค้น ตอนที่ 1
http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11604579/W11604579.html

ปมรักรอยแค้น ตอนที่ 2  http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11606063/W11606063.html

ปมรักรอยแค้น ตอนที่ 3  http://www.pantip.com/cafe/writer/topic/W11608769/W11608769.html

แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 55 09:56:00

แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 55 09:27:36

แก้ไขเมื่อ 24 ม.ค. 55 08:37:13

จากคุณ : ณัชชนม์
เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 08:31:31




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com