Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เมืองมายา มนตราอลเวง บทที่ 1 ติดต่อทีมงาน

            บทที่ 1

            ผู้คุมกฎแห่งกิลด์เมสทิค

                นานมาแล้ว ณ ดินแดนซึ่งยังคงเต็มไปด้วยกลิ่นไอของเวทมนตร์และคาถา ดินแดนที่พ่อมดและแม่มดหาใช่สิ่งที่ถูกตีตราว่าชั่วร้าย หากแต่เป็นบุคคลที่ประชาชนทั่วไปให้ความนับถือในฐานะของจอมเวท พวกเขารวมตัวกันจัดตั้งเป็นองค์กรที่มีชื่อว่ากิลด์เมสทิค เพื่อคอยควบคุมเหล่าผู้ใช้เวทมนตร์และรับบริการจากข้อร้องขอของผู้คนโดยแลกเปลี่ยนกับค่าตอบแทน มิได้ใช้เวทมนตร์เพียงเพื่อตัวเองอีกต่อไป

                เมื่อเหล่าผู้ใช้เวทมนตร์สอบผ่านหลักสูตรจะได้รับใบประกาศและการบรรจุเข้าสู่สถานะของพ่อมดและแม่มดอย่างแท้จริง หลังจากนั้นจะกระจายกันไปยังดินแดนต่าง ๆ ตามแต่ใครจะปรารถนา บางส่วนเข้าทำงานกับกิลด์เมสทิค แต่ส่วนใหญ่เลือกที่จะขึ้นตรงต่อตนเอง

                หากภายในน้ำใสก็ใช่ว่าจะสะอาดบริสุทธิ์เสมอไป จะอย่างไรในหมู่ผู้ใช้เวทมนตร์นั้นก็ไม่ได้มีแต่คนที่จะทำตามกฎบทบัญญัติแห่งกิลด์เมสทิคอย่างสัตย์ซื่อ จึงได้มีการแต่งตั้งผู้คุมกฎแห่งกิลด์เมสทิคขึ้นมาเพื่อคอยแฝงตัวตรวจหาผู้กระทำผิดแล้วนำตัวมาลงโทษ ทั้งยังเป็นการกำราบมิให้ใครใช้เวทมนตร์ในทางที่ผิดอีกด้วย

                ถึงกระนั้น...ความหอมหวนอันชั่วร้ายก็ยังไม่วายล่อลวงให้มนุษย์ผู้หลงผิดต้องเดินเข้าสู่เส้นทางแห่งความมืดมน

                */*/*/*/*

 

                สตรีนางหนึ่งแต่งกายด้วยชุดกระโปรงยาวกรอมเท้าสีน้ำตาลเข้มสวมทับด้วยผ้าคลุมสีทึบนั่งกระสับกระส่ายอยู่ภายในร้านค้าเวทมนตร์ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากภายในเมืองไปไม่ไกลนัก

                ทั้งที่เป็นยามวิกาล อากาศนั้นค่อนข้างเย็น หากแต่ไม่ทำให้ความร้อนรุ่มภายในใจบรรเทาเบาบางลงได้เลย นางขยับกระชับผ้าคลุมศีรษะอยู่ตลอดเวลาราวกับกลัวว่าใครจะเห็นหน้าแล้วจดจำได้ถึงฐานะของตน

อากัปกิริยาทั้งหมดนั้นเรียกรอยยิ้มหยันให้ปรากฏยังมุมปากของบุรุษผู้นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

“วันนี้ข้าไม่มีลูกค้าอื่นใดนอกไปจากท่าน ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครเข้ามาเห็นหรอก ท่านหญิงเอลิเซีย” พ่อมดผู้เป็นเจ้าของร้านค้าเวทมนตร์กล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

                เพื่อเป็นการประกันชื่อเสียงของลูกค้า ในหนึ่งวันเขาจะรับเรื่องร้องขอจากลูกค้าเพียงรายเดียว และแขวนป้ายปิดบริการพร้อมกับลงอาคมมิให้ใครลอบเข้ามาก้าวก่ายในงานของตนได้ ซึ่งนั่นก็เพื่อประกันความปลอดภัยของตัวเองเช่นกัน

                ท่านหญิงเอลิเซียลดผ้าคลุมศีรษะลงอย่างกลัว ๆ กล้า ๆ ดวงหน้าที่เต็มไปด้วยความเศร้าหมองผสมผสานกับความโกรธแค้นและมีริ้วรอยของความกังวลก้มลงต่ำ นางยังไม่แน่ใจในความคิดของตนนักว่าดีแล้วหรือที่นำพาตัวเองเข้ามาสู่สถานที่แห่งนี้ ทว่าเมื่อนึกถึงความเจ็บแค้นในใจนางก็ไม่คิดจะถอยหลังกลับไปเป็นอันขาด

                “ข้าอ่านคำขอของท่านแล้ว อยากให้สังหารสตรีผู้นี้สินะ” พ่อมดวางจดหมายของเอลิเซียลงตรงกลางโต๊ะ ซึ่งในซองนั้นมีเพียงกระดาษสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดเล็กที่เขียนคำขอกับชื่อของบุคคลผู้หนึ่ง

                “ท่านไปจ้างมือสังหารจะไม่ดีกว่าหรือ”

                “ข้าอยากให้นางเพื่อนแพศยานั่นตายอย่างทรมาน น่าอับอายและน่าสมเพชเวทนาอย่างที่สุด” สายตายามเอ่ยคำขอนั้นทอประกายกร้าวน่ากลัว หากเมื่อกล่าวประโยคต่อมาน้ำเสียงกลับสั่นเครือจนเหมือนจะร้องไห้ออกมาได้ทุกขณะ “และ...และข้า...อยากให้เขาคนนั้นกลับมาหาข้า ข้าอยากได้เขาคืนมา ท่านพ่อมด...ข้าได้ยินมาว่าท่านสามารถทำได้ ท่านจะทำให้ข้าใช่ไหม”

                ท่านหญิงโผเข้าเกาะแขนทั้งสองข้างของพ่อมดหนุ่มวัยฉกรรจ์เอาไว้แน่นราวกับไม่ต้องการจะให้เขากล่าวคำปฏิเสธออกมา

                ผู้ค้าเวทมนตร์หรี่ตามองหญิงสาว รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ยังคงไม่หายไปจากมุมปาก เขาโน้มใบหน้าลงมาใกล้นางและกล่าวด้วยเสียงแผ่วเบา

                “คำสาปสังหารกับเวทชักจูงใจ ท่านรู้ไหมว่ามันผิดต่อกฎของผู้ใช้เวทมนตร์ทั้งสองข้อ”

                “ข้ารู้...” เอลิเซียตอบ “และท่านก็รับทำตามข้อร้องขอนี้มาแล้วมิใช่หรือ”

                “เช่นนั้นท่านก็คงรู้ใช่ไหมว่าค่าตอบแทนต่อข้อร้องขอนี้ราคาสูงและข้าไม่ได้รับแต่เงินเท่านั้น”

                ท่านหญิงเอลิเซียเม้มเรียวปากอวบอิ่มสีแดงสดจนแทบจะเป็นเส้นตรงก่อนพยักหน้า

                “รู้แล้วอย่างนี้ก็ดี“

                พ่อมดหนุ่มยิ้มร่าแล้วจึงกล่าวเชิญนางเข้าไปยังห้องทำพิธีกรรม

                ผ้าม่านสีทึบซึ่งผูกกั้นบานประตูเอาไว้ถูกปลดลงทันทีที่เอลิเซียก้าวเท้าเข้าไป ภายในห้องสว่างไสวด้วยแสงจากเปลวเทียนหกเล่มซึ่งตั้งไว้ในแต่ละจุดของวงเวทที่เขียนไว้บนพื้น

                หญิงสาวเหลือบมองพ่อมดซึ่งเดินเลี่ยงไปยังชั้นวางของเตรียมพิธีแล้วจึงกวาดมองไปรอบห้องพร้อมกับถอนหายใจ

                หากเลือกได้...นางก็ไม่อยากทำนักหรอก

                คนหนึ่งนั้นเป็นอดีตเพื่อนรัก ส่วนอีกคนนั้นเป็นดั่งดวงใจ หากทั้งสองไม่ได้ทรยศนาง ก็คงไม่ต้องลงเอยเช่นนี้

                เคยคิดอยู่เหมือนกันว่าอยากอภัยและขอให้ทั้งสองมีความสุข ทว่าตัวนางที่กำลังหลงวนเวียนอยู่ในห้วงแห่งความสิ้นหวัง ความเศร้าและความโกรธแค้นกลับไม่เห็นหนทางแห่งการพ้นทุกข์นอกจากจะทำให้คนสารเลวทั้งสองนั้นได้พบกับความพินาศย่อยยับไปต่อหน้าต่อตา

                ทั้งที่เคยอดทนต่อความทุกข์ยากสาหัสมาได้โดยตลอด ทว่า...นางอดทนต่อความเจ็บแค้นในใจไม่ได้ วันนี้ท่านหญิงเอลิเซียจึงไม่อดทนอีกต่อไปแล้ว

                “ท่านมีสิ่งของส่วนตัวของสองคนนั่นไหม” พ่อมดถามโดยไม่ละสายตาจากหม้อดินเผาขนาดย่อมที่ตั้งอยู่บนโต๊ะมุมหนึ่งของห้องอันมืดสลัว เขากำลังเทส่วนผสมอะไรบางอย่างลงไปในนั้น และทั้งที่หม้อไม่ได้ตั้งอยู่บนเตาไฟกลับมีควันและกลิ่นหอมประหลาดลอยกรุ่นออกมา

                “มีค่ะ” เอลิเซียซึ่งเพิ่งถูกดึงออกจากห้วงภวังค์ละล่ำละลักบอก นางหยิบสิ่งของออกจากกระเป๋าถือด้วยท่าทางลนลานและนำไปมอบให้ถึงมือของพ่อมด

                มันเป็นผ้าเช็ดหน้ากับหวีสับที่ประดิษฐ์อย่างประณีตงดงาม หญิงร้ายชายเลวคู่นั้นเคยลืมทิ้งเอาไว้ที่บ้านของนางตอนที่ไปร่วมดื่มน้ำชายามบ่ายอันสดใส ไม่นึกเลยว่าหลังจากนั้นจะมีแต่วันที่เลวร้ายสำหรับนาง

                พ่อมดใช้ไม้พายคนของเหลวภายในหม้อดินเผาแล้วร่ายมนต์ด้วยท่วงทำนองสม่ำเสมอโดยไม่รู้สึกถึงบุคคลหนึ่งซึ่งเป็นส่วนเกินที่รุกล้ำอาณาเขตเข้ามา เมื่อเวทมนต์ร่ายมาจนถึงบทสุดท้ายเขาจึงหยิบสิ่งของชิ้นหนึ่งเตรียมหย่อนลงไปในหม้อซึ่งใช้สำหรับสร้างคำสาป ชั่วจังหวะนั้นเองที่หางตาพ่อมดพลันเห็นประกายแสงวูบหนึ่งกำลังพุ่งตรงเข้ามา เขากระโดดถอยหลังหลบในทันที 

จากคุณ : AMA-chun
เขียนเมื่อ : 25 ม.ค. 55 00:44:12




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com