xxxซีรี่ย์ ดอกไม้ หัวใจในควันปืน : ไฟซ่อนรัก xxx (กรณ์ วรรณกานต์)
|
|
สวัสดีค่า.. มาลงนิยายภาคต่อแล้วนะคะ..เรื่องนี้ยังเขียนๆหยุดๆ และถ้าจู่ๆคนเขียนหายไปสักอาทิตย์-สองอาทิตย์ก็ไม่มีอะไรมากนะคะ สาเหตุเพราะเขียนม่ายทันค่า แหะๆ ^^"
.................................................................
เสียงดนตรีคลาสสิกบรรเลงสดด้วยท่วงทำนองเสนาะหูดังมาจากห้องบอลรูมของโรงแรมชั้นนำ ซึ่งภายในตกแต่งอย่างหรูหราอลังการต้อนรับบรรดาแขกคนพิเศษ คลาคล่ำด้วยบุคคลชั้นสูง นักธุรกิจชั้นนำทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ คละเคล้าด้วยนักการเมืองใหญ่ที่คุ้นหน้าค่าตากันดีทางหน้าสื่อต่างๆ แยกกันจับกลุ่ม นั่งบ้าง ยืนบ้างสนทนาด้วยเรื่องหลากหลาย แต่ส่วนใหญ่จะครอบคลุมอยู่ในหัวข้อทิศทางเศรษฐกิจในอนาคตของประเทศไทย
เหล่าบริกรพากันเดินเสิร์ฟเครื่องดื่มชั้นดีบนพื้นพรมนุ่มกระจายตามมุมห้องไม่ให้ขาดตกบกพร่อง จนถึงกลุ่มของท่านรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงใหญ่ กำลังพูดคุยกับนักธุรกิจแถวหน้า และข้างกายมีชายหนุ่มผิวกายขาว รูปร่างท่าทางสะโอดสะองของลูกชายซึ่งเริ่มลงเล่นการเมืองเจริญรอยตามผู้เป็นพ่อยืนฟังบทสนทนาอยู่เงียบๆ ซึ่งคู่สนทนาของบิดาเป็นนักธุรกิจใหญ่ และนอกเหนือจากนั้น เขายังเป็นผู้สนับสนุนเงินให้พรรครายใหญ่เช่นกัน
บริกรหนุ่มหยุดเดิน เมื่อร่างสูงเพรียวกำยำในชุดสูทเรียบหรูที่ยืนรวมในกลุ่มหันมาหมายต้องการเครื่องดื่ม ผิวสีแทนของชายหนุ่มวัยฉกรรจ์ ส่งเสริมให้องค์ประกอบของเครื่องหน้าทุกส่วนคมเข้มสมบูรณแบบไร้ที่ติ ไม่ว่าจะเป็นดวงตาคมลึกสีน้ำตาลเข้ม เรียวคิ้วยาวพาดเฉียงรับสันจมูกโด่ง และริมฝีปากได้รูปล้วนแต่ชวนสะดุดสายตา ซึ่งแม้แต่เพศเดียวกันยังต้องมองชวนทึ่ง
และหันกระซิบถามกับชายสูงวัยร่างสูงใหญ่กว่าตนเล็กน้อยที่ยืนด้านซ้ายมือ เอาไหม อาเจ็ก
อีกฝ่ายส่ายหน้า ชายหนุ่มจึงหยิบเครื่องดื่มสำหรับตัวเองและอีกหนึ่งแก้วส่งให้ชายสูงวัยอีกคนที่ยืนด้านขวาโดยไม่เอ่ยถาม ซึ่งผู้รับมีเครื่องหน้าคล้ายคลึงกันแต่ออกจะขาวกว่าเล็กน้อย และแม้จะมีอายุมากแล้ว แต่รูปร่างสูงเพรียวในชุดสูทสีเข้มยังคงได้สัดส่วนอย่างคนที่ชอบออกกำลังกายสม่ำเสมอและท่าทีที่สงบนิ่งกลับดูสง่างามข่มราศีของท่านรัฐมนตรีที่อายุน้อยกว่าเป็นสิบปี แต่พุงนั้นหลามยื่นจนชุดสูทราคาแพงระยับที่สวมใส่ไม่สามารถยกระดับให้ร่างกายตุ๊ต๊ะนี้เปล่งรัศมีสู้คู่สนทนาได้เลย
ใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มพยักเพียงเล็กน้อยให้บริกรหนุ่มคล้ายจะขอบใจ ก่อนยกเครื่องดื่มในมือขึ้นจิบขณะหันกลับมาฟังการสนทนา โดยท่านรัฐมนตรี นพคุณ กำลังเอ่ยกับบิดาของตน ซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการของ บริษัทไพศาล ดีเวล็อปเม้นต์ ซึ่งครอบคลุมธุรกิจด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในทำนองชักชวน
คุณอชิรน่าจะเก็บข้อเสนอของผมไปคิดดูให้ดีนะครับ หากคุณมาร่วมกับพรรคของเรา จะเป็นการช่วยพัฒนาประเทศไปได้มากทีเดียวนะครับ พูดจบ ดวงตาเล็กหยีก็เหลือบมองซ้ายที ขวาที ก่อนจะเอนร่างหนาใหญ่ของตนเข้ามาใกล้ กระซิบกระซาบพอให้ได้ยินในกลุ่ม ..รวมทั้ง..ผลตอบแทนที่คุ้มแสนคุ้มนะครับ
ผู้ที่ถูกชักชวนอมยิ้มเล็กน้อยในสีหน้าขณะตอบ คงไม่หรอกครับ..แค่ทุกวันนี้ เวลาผมทำแต่ละโครงการก็ถูกประชาชนในท้องถิ่นรุมด่าจนหูชาหมดแล้ว ขืนผันตัวเองมาเป็นนักการเมือง คงถูกคนด่าทั้งประเทศแน่
ท่านรัฐมนตรีหัวเราะครืน คุณจะต้องไปสนใจทำไม คนพวกนั้นมันจะไปรู้เรื่องอะไรกับการพัฒนาระดับประเทศ ก็ดีแต่แหกปากประท้วงตามพวกมากลากไปอย่างนั้นเอง แค่เดี๋ยวเดียวก็กลับบ้านใครบ้านมันไปทำมาหากินเหมือนเดิมแล้ว..น่า..คุณลองไปคิดดูอีกทีดีกว่า ยังไงผมก็อยากได้คุณมาร่วมพรรคจริงๆนะครับ คุณอชิร
เมื่อถูกคะยั้นคะยอ อีกฝ่ายก็ได้แต่แบ่งรับแบ่งสู้ แล้วผมจะคิดทบทวนอีกทีก็แล้วกันครับ
มันต้องอย่างนั้นสิ ผมว่าภรรยาคุณก็คงสนับสนุนคุณอยู่แล้ว รวมทั้งลูกๆของคุณด้วย และหันสายตามายังชายหนุ่มที่ยืนเคียงข้างบิดา ใช่ไหม หนุ่มน้อย
ชายหนุ่มอมยิ้ม ก็แล้วแต่ป๊าน่ะครับ
ท่านรัฐมนตรีหัวเราะอีกครั้ง เห็นไหม แม้แต่ลูกคุณก็สนับสนุน
ในขณะที่ผู้ถูกกล่าวอ้างแค่นยิ้ม และแอบทักท้วงในใจ ..ยังไม่ได้พูดสักคำ
และพูดคุยไม่นาน จตุพล ซึ่งเป็นหนึ่งในบอร์ดบริหารของไพศาลกรุ๊ป และเป็นผู้โน้มน้าวอชิรให้สนับสนุนพรรคการเมืองของน้องชาย เดินมาร่วมวงสนทนาด้วย..แต่บทสนทนายังคงดำเนินต่อไปได้ไม่กี่อึดใจก็ถูกขัดจังหวะ เมื่อบุคคลอีกกลุ่มเดินเข้ามาทักทาย นำทีมด้วยชายสูงอายุท่าทางสง่าภูมิฐานของ ชนาธิป ผู้คุมบังเหียนธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของ บริษัทรัตนากร เรียลเอสเตท ตามด้วย คณินผู้เป็นพี่ชายที่อยู่ด้านขวา และด้านซ้ายเป็นลูกสาวคนโตของตระกูล รูปร่างเพรียวอรชรอยู่ในชุดราตรีเรียบหรูเปิดผิวเนื้อเนียนลออช่วงเนินอกแต่พองาม แม้ว่าใบหน้าของหญิงสาวจะสวยงามน่ามองไม่น้อย
ทว่า..สายตาของเหล่าบุรุษกลับมองเลยไปด้านหลังอย่างไม่ตั้งใจ กับอีกหนึ่งหญิงสาวที่สวมชุดราตรีสั้นสีเขียวน้ำทะเลที่การดีไซน์ไม่ได้วาบหวิวอะไรนัก แต่ยังสามารถดึงดูดสายตาผู้คนให้สนใจ ไม่ใช่เพียงแค่ว่า เธอเป็นดารานางแบบเท่านั้น แต่องค์ประกอบหลักคือรูปลักษณ์ของเธอที่ดวงหน้าหวานซึ้งอยู่ภายใต้เรือนผมหยักศกสีน้ำตาลอมทองยาวเคลียร์แผ่นหลังเป็นลอนสลวย ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลสุกใสภายใต้แผงขนตายาวสีน้ำตาลบ่งบอกถึงสายเลือดผสมที่มีอีกครึ่ง เรือนร่างเย้ายวนด้วยทรวงอกอวบอิ่มเกินมาตรฐาน เอวคอดเล็กรับสะโพกผายกลมกลึง ช่วงขายาวเพรียวสวย ผิวกายขาวละเอียดแลเจิดจ้ายามต้องแสงโคมระย้าส่งให้หญิงสาวดูผุดผาดสวยงามราวกับภาพในความฝันของเหล่าบุรุษ
และด้วยรูปสมบัติที่มีมาแต่กำเนิด ทำให้ชื่อเสียงของเธอลือเลื่องในหมู่ชายหนุ่มทั้งน้อยใหญ่ในวงสังคมชั้นสูง ที่หมายตาจะนำเธอเพิ่มเข้ามาเป็นอีกหนึ่งในของสะสมชิ้นงาม และต่างพยายามส่งคนไปทาบทามหลากหลายรูปแบบ แต่ทุกคนก็ถูกหญิงสาวปฏิเสธกลับมาอย่างถ้วนหน้า..และด้วยบารมีที่ชนาธิปมี จึงสามารถกางปีกปกป้องหลานรักให้อยู่รอดปลอดภัยจากการภัยคุกคามทั้งหลายทั้งปวงมาจนถึงทุกวันนี้
สวัสดีครับ ท่านนพคุณ
เสียงทักทายของผู้มาใหม่เรียกสติบุรุษทุกคนให้กลับมาอยู่ในอาการสงบนิ่งเช่นปกติ จะเหลือเพียงแต่เจ้าของชื่อที่ยังนิ่งขึง สายตายังคงไม่ถอนจากความเย้ายวนตรงหน้า..ดาราสาวผู้นี้แม้จะไม่ค่อยมีผลงานการแสดงมากนัก แต่ส่วนใหญ่จะเฉิดฉายตามหน้าปกนิตยสารมากกว่า แต่เพียงแค่นั้นมันก็เพียงพอที่จะสามารถกระตุ้นความรู้สึกเขาให้ปั่นป่วนจนแทบคลั่งอยากครอบครองความสวยงามตลอดเรือนร่างนี้ใจแทบขาด ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ ได้เพียรพยายามส่งคนไปติดต่อขอแค่ให้เธอยอมมาร่วมดินเนอร์ด้วยกันสักมื้อ แต่ก็ถูกปฏิเสธกลับมาทุกครั้ง และตัวเขาก็ไม่สามารถใช้อำนาจที่มีข่มขู่ได้ ขืนเธอเอาเรื่องขึ้นมาจะลุกลามบานปลายทำลายชื่อเสียงที่สั่งสมมานานหลายสิบปีและพานกระทบมาถึงฐานเสียงของพรรคได้ เขาจึงจำต้องข่มกลั้นความต้องการของตนเองไว้ให้ถึงที่สุด
นพคุณครุ่นคิดและมารู้สึกตัวก็จากการแอบกระตุกดึงชายเสื้อจากพี่ชาย เขาจึงรีบปรับสีหน้ารับการทักทายจากผู้มาใหม่ ..สวัสดีคุณชนาธิป มาถึงนานรึยังครับ
สักครู่แล้วครับ แต่เห็นท่านกำลังคุยอยู่กับคุณอชิร ผมเลยไม่อยากจะเข้ามารบกวน และปรายตามองผู้ที่เอ่ยถึง ก่อนหยัดยิ้มทักทาย สวัสดี คุณอชิร
สวัสดี คุณชนาธิป ผู้ถูกทักทายตอบพร้อมรอยยิ้มในดวงหน้า มีเพียงสายตาเท่านั้นที่เผยความเย็นชายามมองสบ ซึ่งผู้คนในแวดวงธุรกิจนั้นต่างรู้ดีถึงความบาดหมางระหว่างสองกลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่นี้ ที่ขยายวงกว้างร้าวลึกเกินเยียวยา แต่ยามเมื่อต้องเผชิญหน้ากันในสังคม ทั้งสองต่างสงบนิ่งเพื่อรักษาภาพลักษณ์อันดีไว้
และเมื่อผู้นำทั้งสองต่างส่งยิ้มทักทายกัน ผู้ติดตามที่อ่อนวัยกว่าก็แสดงความเคารพอีกฝ่ายตามมารยาทของสังคม โดยเริ่มจากสองสาวที่พนมมือไหว้อชิรกับศรา ในขณะที่อนาวินไหว้ชนาธิปกับคณิน
ชญาภาเห็นว่าอนาวินนั้น อายุไล่เลี่ยกับเธอจึงลดมือลงและส่งยิ้มให้พอเป็นพิธีเท่านั้น จะเหลือเพียง ราโมน่าญาติสาวผู้น้องที่ไหว้เขา พร้อมเอ่ยทักทายแผ่วเบา
สวัสดีค่ะ พี่จิล
ชายหนุ่มรับไหว้ด้วยสีหน้าเรียบเฉย ..ครับ
ดวงตาสีเขียวฉายแววระยิบระยับสดใสยามเงยหน้าสบเขา แต่เพียงครู่เดียวก็ต้องรีบก้มหลบเก็บซ่อนความรู้สึกตื่นเต้นที่มันกำลังกระโจนอย่างลิงโลดไว้ภายในอก หันมาตั้งใจฟังสิ่งที่พวกผู้ใหญ่คุยกัน
นพคุณแย้มยิ้มกว้าง แม้ใจอยากเอนเอียงเข้าข้างชนาธิป เพราะเขาพาหลานสาวคนสวยมาให้ได้ชื่นชมใกล้ๆ แต่ติดที่ฝ่ายอชิรนั้นเป็นผู้สนับสนุนพรรครายใหญ่ เขาจึงจำต้องเลือกอยู่ข้างอชิรมากกว่า แหม คนกันเองทั้งนั้น..ถ้าเป็นไปได้ ผมอยากให้คุณเข้าร่วมวงสนทนาพร้อมๆกันนั่นล่ะครับ เผื่อเราจะมีไอเดียดีๆร่วมกัน
แม้ชนาธิปจะรู้ว่าเป็นการเชื้อเชิญตามมารยาทเท่านั้น แต่ตัวเขาแสร้งรีบตอบรับเพราะอยากจะเห็นปฏิกิริยาของคู่แข่ง ทุกอย่างเป็นไปได้เสมอครับ และผมเองก็อยากจะหาโอกาสแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์กับคุณอชิรเหมือนกัน และคืนนี้ ก็คงจะเหมาะที่สุดแล้ว และหันมาทางคู่แข่ง ที่ยังคงรักษาท่าทีสงบเช่นเดิม ว่าไงครับ คุณอชิร
ผมก็คิดเช่นนั้น แต่ติดตรงที่ว่า เวลาของผมกับคุณมันไม่เคยว่างตรงกันเลยสักครั้ง..รวมทั้ง คืนนี้ด้วยเช่นกัน ตอบน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนหันไปทางรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงใหญ่
พอดีผมมีนัดสำคัญอีกงานที่ต้องรีบไป..ผมเลยขอตัวลาตรงนี้เลยนะครับ
อ้าว..จะกลับแล้วหรือครับ
ครับ ก็อย่างที่บอก ว่าผมมีนัดสำคัญ อชิรย้ำอีกครั้ง
นพคุณเห็นความมุ่งมั่นนั้นก็เกรงใจ อะ..ครับ..แล้วพบกันใหม่นะครับ
ครับ.. อชิรหันเดินนำคนของตนก้าวจากมา
จตุพล ลอบตวัดสายตาตำหนิน้องชายถึงความผิดพลาดในครั้งนี้ ก่อนก้าวตามอชิรไป
นพคุณ เห็นว่าไม่มีอะไรแก้ไขได้แล้ว และมันก็เป็นเพียงความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆเท่านั้น จึงไม่คิดจะใส่ใจ และที่สำคัญ ตอนนี้เขามีสิ่งที่น่าสนใจกว่าอยู่ตรงหน้านี้แล้ว จะมัวไปเสียเวลากับเรื่องอื่นอีกทำไม สายตากะลิ้มกะเหลี่ยลอบมองหญิงสาวที่หมายปอง ก่อนยิ้มร่าพูดคุยกับชนาธิปเพื่อเชื้อเชิญทั้งหมดให้ไปนั่งร่วมโต๊ะ เพราะตนนั้นเริ่มเมื่อยแล้ว..สองสาวก้าวตามผู้ใหญ่ไปเงียบๆ แต่ราโมน่าลอบชายสายตามองตามร่างของอนาวินด้วยความเสียดาย เพราะอยากจะอยู่ใกล้ชิดเขาให้นานกว่านี้ ถึงแม้ว่าเขาจะจำไม่ได้ ว่าเธอเคยเป็นรุ่นน้องร่วมสถาบันเดียวกับเขาสมัยชั้นมัธยมก็ตาม แต่เพียงครู่จำต้องรีบหันสายตากลับมาจากเสียงกระซิบของชญาภา ที่เปรยออกมาคล้ายหยามหยัน
รู้สึกว่าเสน่ห์ของเธอมันใช้ไม่ได้ผลกับนายคนนั้นเลยนะ
ชญาภามักจะติดตามบิดาออกงานสังคมหลายครั้ง และทุกครั้งเธอจำต้องเก็บซ่อนความไม่พอใจ เพราะบิดามักจะพาญาติสาวผู้น้องที่อ่อนกว่าสามปี ให้ติดสอยห้อยตามมาด้วยทุกครั้ง แม้จะรู้ว่า บิดาหมายจะใช้ชื่อเสียงและหน้าตาของญาติสาวเรียกความสนใจของผู้คน แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะหงุดหงิดกับสายตาของใครหลายๆคนที่เปรียบเทียบความสวยงามซึ่งเธอก็รู้ดีว่าตนนั้นด้อยกว่าญาติผู้น้องคนนี้อยู่มาก และความสนใจทั้งหมดก็จะข้ามหัวเธอไปรุมล้อมอยู่ที่ญาติสาวจนหมด ในขณะที่เธอ..มีค่าไม่ต่างอะไรกับหัวหลักหัวตอ !
จนกระทั่ง..พวกเธอได้พบกับอนาวินภายในงานเลี้ยงแห่งหนึ่งเมื่อหลายเดือนก่อน และเธอมารู้ทีหลังว่า เขาเป็นรุ่นพี่สมัยเรียนมัธยมของญาติสาว ซึ่งดูจะชื่นชมชายหนุ่มอยู่ไม่น้อย แต่อีกฝ่ายแสดงท่าทีเมินเฉย ไม่ได้หลงใหลในความสวยงามที่เห็นแม้สักนิดเดียว มิหนำซ้ำ ยังมีทีท่าว่าจะจำรุ่นน้องของตัวเองไม่ได้เสียด้วยซ้ำ ซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกสะใจอย่างบอกไม่ถูก
ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลตวัดมองผู้พูดอย่างไม่พอใจในคำกระทบกระเทียบ แม้ว่าสิ่งที่ญาติผู้พี่พูดออกมานั้นจะเป็นความจริง..เพราะทุกครั้งที่เจออนาวินตามงานเลี้ยง เขาก็ยังคงรักษาระดับความเฉยชาได้เสมอต้นเสมอปลาย โดยความสวยงามที่เธอเคยภาคภูมิใจนักหนา ไม่สามารถสะกิดใจให้เขาสนใจในตัวเธอได้เลยแม้สักนิดเดียว
และชญาภาก็ยังคงตอกย้ำความเป็นจริงอีกข้อให้เธอได้สำนึก แล้วอีกอย่าง..อย่าลืมเสียล่ะว่าผู้ชายคนนั้นน่ะ เป็นศัตรูของเรา
ราโมน่าแย้งในใจ พี่จิลเป็นแค่คนของคู่แข่งเท่านั้น ไม่ใช่ศัตรูเสียหน่อย
แต่จำต้องปิดปากเงียบ เพราะชญาภานั้นไม่ค่อยชอบหน้าตนเองนัก ขืนต่อปากต่อคำมากกว่านี้ แล้วมันจะลุกลามสร้างปัญหาหนักใจให้กับคุณลุงที่ชุบเลี้ยงเธอมาตั้งแต่เล็ก..พลางตวัดสายตามองไปยังร่างอุ้ยอ้ายของนพคุณ
และอีกอย่าง..ถ้าหากว่าไม่สำนึกบุญคุณของคุณลุงแล้วล่ะก็ เธอจะไม่มีวันยอมนั่งร่วมโต๊ะกับไอ้อ้วนจอมหื่นคนนี้เด็ดขาด!
อนาวินเห็นว่าจตุพลเดินตามมาด้วย เขาจึงเลี่ยงจากบิดามาเดินเคียงข้างฝั่งของผู้เป็นอาแทน และฟังการสนทนาไปเงียบๆ ซึ่งจตุพลเอ่ยขึ้นมาก่อน คุณน่าจะอยู่ฟังฝ่ายนั้นหน่อยนะครับ ว่าเขาจะมีลูกล่อลูกชนอย่างไง
ผมไม่เห็นถึงความจำเป็น เพราะทุกเรื่องที่ผ่านน้องคุณ มันก็จะเลยมาถึงคุณอยู่แล้วไม่ใช่หรือครับ
มันก็ใช่..
เพราะอย่างนี้ไง มันจึงไม่มีอะไรให้น่ากังวล
จตุพลยิ้มรับเต็มดวงหน้า กับความไว้วางใจที่อชิรมีให้
แล้วค่อยพบกันในห้องประชุมนะ คุณจตุพล
ครับ แล้วค่อยพบกัน
เมื่อแยกจากจตุพล อนาวินก็กลับมาเดินเคียงข้างบิดาอีกครั้ง และถูกตั้งคำถามทันที เรารู้จักหลานสาวของนายชนาธิปเป็นการส่วนตัวเรอะ
ก็แค่เคยอยู่โรงเรียนเดียวกันน่ะป๊า
ตัวเขาเองก็อยากจะลืมเหมือนกันว่าเคยรู้จักผู้หญิงคนนั้นมาก่อน แต่เขาก็ทำไม่ได้แม้ว่าจะผ่านมาแล้วเป็นสิบปี เพราะยังติดตากับภาพของตัวเองที่ยืนซักกระโปรงนักเรียนให้เจ้าหล่อนในห้องน้ำหญิง โดยไม่รู้เลยว่า เธอคือคนของคู่แข่งทางธุรกิจ และไม่รู้ว่าหลังจากนั้น เรื่องของเขาจะถูกโพนทะนาให้ใครต่อใครได้รับรู้อีกมากน้อยแค่ไหน เพราะหลังจากสำเร็จการศึกษาในชั้นมัธยมปลาย เขาก็เดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศจนจบปริญญาโทถึงได้กลับมา
แต่เมื่อต้องมาพบกันอีกครั้ง ไม่นึกว่าเด็กหญิงตัวยาวเก้งก้างเมื่อสิบปีก่อน จะเติบโตเป็นสาวสวยแสนเย้ายวนใจได้ถึงเพียงนี้ โดยเฉพาะ ดวงตากลมโตสีเขียวน้ำทะเลสุกใสคู่นั้น มันคอยจะสะกดให้เขาเฝ้ามองความสวยงามที่เสมือนมีมนต์สะกดให้จิตใจลุ่มหลงดำดิ่งสู่ห้วงเวลาที่แสนวิเศษจนไม่อยากละสายตาไปไหน และเขาจะหงุดหงิดทุกครั้งยามที่ต้องเผชิญหน้ากัน เพราะเสน่ห์ที่เธอมีมันทำให้เขาต้องใช้พลังงานอย่างหนักในการควบคุมความรู้สึกรุ่มร้อนด้วยอารมณ์ดิบของตนให้สงบนิ่ง พลางคิดว่า หากเธอไม่ใช่คนของ รัตนากร รับรองได้ว่าเขาไม่มีทางปล่อยให้เธอตามมายั่วยวน รังควานในความคิดคำนึงเช่นนี้..เพราะเขาจะจัดการกับเธอขั้นเด็ดขาด ให้สิ้นเรื่องสิ้นราวไป!
จิล..
เสียงเรียก กระชากเขาหลุดจากภวังค์ ครับ และตั้งใจฟังว่า บิดาต้องการจะพูดอะไร
อย่าเผลอใจไปกับความสวยงามที่เห็นล่ะ เพราะผู้หญิงคนนั้นเป็นคนของ รัตนากร ผู้ให้กำเนิดเอ่ยเตือนเสียงราบเรียบ ราวจะหยั่งลึกถึงจิตใจของบุตรชาย
ไม่มีทางหรอกป๊า ผมไม่เคยข้องแวะกับผู้หญิงคนนั้นอยู่แล้ว..ไม่มีทางที่ผมจะไปชอบเธอหรอก ชายหนุ่มยืนยันหนักแน่นทั้งบิดา และตัวเขาเองเช่นกัน.. ใช่ มันไม่มีทาง!
ก็ดี..ป๊าไม่ชอบให้มีเรื่องยุ่งยากเกิดขึ้นในภายหลัง
ผมก็ไม่ชอบเหมือนกันน่า พลางพยายามตัดภาพของราโมน่าออกจากในหัว
กลุ่มของอชิรไปลาผู้จัดงานซึ่งเป็นหนึ่งในคณะบริหารของรัฐบาล ก่อนจะพากันออกจากห้องบอลรูมลงมายังชั้นล่างด้านหน้าโรงแรม เพื่อคอยรถยนต์ที่ลูกน้องขับมารับ
และอชิรเอ่ยกับบุตรชาย เรากลับบ้านไปก่อนนะ ป๊ากับเจ็กจะแวะไปที่บ่อนหน่อย
ครับ..กลับบ้านเลยก็ดีเหมือนกัน พรุ่งนี้ผมมีนัดตอนเช้าด้วย
ศราที่นิ่งเงียบฟังสองพ่อลูกอยู่นาน ก็เอ่ยออกมาบ้าง นัดกับสาวสิท่า หน้าระรื่นเชียว
แค่เพื่อนๆกันเท่านั้นล่ะอาเจ็ก..ไม่ใช่คนพิเศษอะไรเลย
ศราไหวไหล่ อั๊วก็ไม่ได้ว่าอะไร้..แค่เดาเรื่อยเปื่อยไปอย่างนั้นเอง
ผมยังไม่อยากหาเรื่องยุ่งยากมาถ่วงคอน่ะ ชายหนุ่มหัวเราะครืน และรถเอสยูวีสีดำของเหล่าบอดี้การ์ดก็ขับผ่านจอดเลยหน้าไปไม่กี่เมตรเพื่อเว้นระยะให้รถของบิดาปราดเข้ามาจอดรับผู้เป็นนายได้พอดี
กู๊ดไนท์นะป๊า
อชิรพยักหน้ายิ้มรับให้กับลูก ที่เดินไปขึ้นรถสปอร์ตสีดำ ซึ่งคนสนิทขับมาจอดต่อท้ายจากรถของเขา และแล่นปราดขึ้นหน้าออกไปก่อนโดยไม่รอ ตามวิสัยที่ค่อนข้างใจร้อนของลูกชาย
ต่อค่ะ
แก้ไขเมื่อ 25 ม.ค. 55 19:24:17
จากคุณ |
:
ระรินใจ
|
เขียนเมื่อ |
:
25 ม.ค. 55 01:01:43
|
|
|
|