ละเลียดคำกรองกานท์ประสานสม ลอยตามลมหนาวเหน็บมาเก็บฝัน สรวลสันต์หรรษาท่ามแสงงามตะวัน ทอดไหนทันสายลมที่ห่มมา
ลมลอยลิ่วปลิวปรายม่านสายหมอก ผะแผ่วออกหนาวไอลมใดหนา บนกองฟืนอบอุ่นละมุนตา ใครคลี่ผ้าห่มนอนไม่จรเลย
หนาวเนื้อเย็นยะเยียบค่อยเลียบให้ บนหาดทรายไคลคลาลีลาเอ่ย ลมโสมนัสเริงหมุนอย่างคุ้นเคย พริบตาเผยสั่นเทาหยอกเย้ากาย
ลมแห่งคืนสำเริงบันเทิงหาญ แม้นเลยกาลไม่กริ่งมาทิ้งสาย ผู้คนพ่ายยอมจากดูมากมาย สถิตคล้ายแต่งหาวไม่ก้าวไป
นัยลมหนาวคอยเหนี่ยวให้เปลี่ยวกว้าง เคว้งคว้างทางลึกลึกรู้สึกไหว หนาวทำนองพัดพานหมดฐานใจ หลับสลบไสลไร้สิ้นไม่ดิ้นกวน
ลมหนาวคลุ้งกลิ่นหญ้าดั่งทาสรรค์ แสงตะวันอ้อยส้อยไม่ค่อยหวน หาวดำคล้ายคืนค่ำยิ่งรำจวน ทำแย้มสรวลลืมสรงหลงรำพึง
หมอกคลี่ม่านจางขาวทั่วหาวหม่น ทักไปหลายหนผลต้องมนต์อึ้ง ดุจหยอกเย้ายวนยีไมตรีตรึง ทำนองซึ้งสวาทคิดวาดเวียน
ฟ้ายังอับพยับแดดไร้แสดสวย ก่ออำนวยให้หลับไม่ขยับเปลี่ยน ฟ้าฟากค่ำสรวงสุดดังจุดเทียน ลัดฉวัดเฉวียนกายาไม่อาวรณ์
ลมมากเล่ห์ลืมหลักจรจักโหม คิดน้าวโน้มไม่ผละเฝ้าฉะอ้อน เรียบเร่งหยอกหยิกไปซิกซี้ซ้อน ไม่มีค่อนเคลิบเคลิ้มมีเพิ่มเพลิน
ลมระรื่นเรณูร่วงทุกช่วงขจร แมลงผึ้งคลึงเคล้าหอมเข้าเหิน ละอองอ่อนอาบเอิบกำเริบเกิน กลีบเกสรเยิ่นเสาวรสค่อนอดอิง
จากคุณ |
:
ญามี่
|
เขียนเมื่อ |
:
25 ม.ค. 55 13:09:29
|
|
|
|