Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ล่าพระจันทร์ Luna in the darkness 4 ติดต่อทีมงาน

สวัสดีค่ะ

เพิ่งผ่านตรุษจีนมาสดๆ ร้อนๆ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ
ได้แต๊ะเอียกันเยอะไหม? หรือไปเที่ยวไหนเป็นพิเศษบ้างคะ
เล่าสู่กันฟังบ้าง ส่วนตัวไม่ได้ไปไหนเลยค่ะ แพ้คนเยอะๆ

ล่าพระจันทร์ ตอนนี้เริ่มบู๊แล้วนะคะ เชิญติดตามได้ค่ะ

 

XueYitan : ปิดตาอ่านเดี๋ยวมองไม่เห็นนะคะ

Hexi : ตอนนี้ท่านเคานท์ฟื้นมาเต็มตัวแล้วค่ะ

Travel to the moon : นางเอกกลายเป็นแวมไพร์ค่ะ แต่ไม่เหมือนคนอื่น
พิเศษกว่าตรงไหนต้องอ่านเองนะคะ

จันทร์ฉายแสง : โดนดูดเลือดเรียบร้อยแล้วค่ะ เขินนิดหน่อยนะคะเดี๋ยวต่อไปจะบู๊แล้ว


============================================

 

4

 

 

จู่ๆ ร่างที่นั่งนิ่งมานานหลายศตวรรษขยับลุกขึ้นช้าๆ  !!

 

สร้างความตื่นตระหนกหวาดกลัวแก่คนทั้งหลาย เป็นไปได้อย่างไร รูปสลักหินอ่อนไร้ชีวิตนั้นขยับลุกขึ้นได้  แล้วความโกลาหนอันน่าสะพรึงก็เริ่มขึ้น

 

 

“กรี๊ดดดดดดดดดด!!!!” ผู้หญิงกรีดร้องสุดเสียง    ทุกคนเว้นแต่ลูน่ากรูกันไปที่ประตูจะหนีออกไป แต่ประตูถูกปิดติดแน่นราวถูกเชื่อมติด

 

 

“เปิดประตู ใครก็ได้!!! เปิดประตูที” แมตต์วิ่งมาหน้ากล้องวงจรปิดโบกมือทำสัญญาณฉุกเฉินขอความช่วยเหลือ แล้วตะโกนร้องเรียกเต็มที่

 

 

“วิลลี่!! ช่วยด้วย  ช่วยพวกเราที” ความกลัวถาโถมปานถูกคลื่นยักษ์สาดซัดอย่างบ้าคลั่ง ทุกคนลนลานหาทางออกอย่างสิ้นหวัง  

 

 

ร่างสีเทาหม่น ผิวเรียบมันค่อยๆ ลุกขึ้นช้าๆ  หินอ่อนกลายเป็นเนื้อหนังที่เหี่ยวย่น สีเทาจางลงกลายเป็นสีเสื้อผ้าดำเก่าและขาดวิ่น

 

 

“กรี้ด!!!” นักศึกษาสาวโชคร้าย ซึ่งอยู่ใกล้อมนุษย์นั่นที่สุดตกเป็นเหยื่อรายแรก   เธอถูกลากตัวเข้ามาแล้วฝังคมเขี้ยวลงบนต้นคออย่างไร้ปรานี เลือดสดๆ ไหลทะลักออกจากบาดแผล แล้วไม่นานนักปีศาจจากอดีตกาลก็โยนร่างเธอทิ้งอย่างไร้ค่าไม่ต่างกับผ้าขี้ริ้วผืนหนึ่งเท่านั้น  

 

 

ยิ่งทำให้คนที่เหลือกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว ราวกับอเวจีอวตารมาอยู่เบื้องหน้า   ห้องเก็บวัตถุโบราณของมหาวิทยาลัยกลายเป็นกับดักปิดตาย สำหรับเกมจับหนู เหยื่อทั้งหมดวิ่งพล่านด้วยความตื่นกลัว ในขณะที่แมวไล่ล่าจับกินด้วยความสำราญใจ เสียงหวีดร้องดังระงม เกมยังดำเนินต่อไปเพียงไม่กี่นาที จนเกือบจบ...

 

 

ผู้ล่าดื่มเลือดเหยื่อจนเกือบหมดตัว ทิ้งซากลงไปกองพะเนินบนพื้น  ผิวซีดเซียวนั้นกลับมีเลือดฝาดขึ้นมา  สีสันแห่งการมีชีวิตกลับคืนสู่ร่างปลุกให้บุรุษศิลากลายเป็นชายหนุ่มวัยฉกรรจ์ที่เปี่ยมไปด้วยพลัง ผมสีน้ำผึ้งสยายเงางาม เขาหันมาเหยื่อรายสุดท้าย 

 

 

แมตต์ยืนนิ่งด้วยความตื่นตระหนก ความน่าสะพรึงกลัวสะกดเขาไว้กับที่จนไม่อาจขยับเขยื้อนได้ ในขณะที่มัจจุราชคืบคลานเข้ามาหา ร่างอ้อนแอ้นของลูน่ากลับเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วหลังได้สติ จากการอาการตกตะลึงเมื่อครู่  หญิงสาวพุ่งเข้าไปประชิดแมตต์ แล้วเงื้อเท้าแบบบางของตนยันประตูแค่ครั้งเดียว แผ่นไม้หนาใหญ่ก็กระเด็นฝางออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ  จากนั้นก็คว้าเสื้อของเพื่อนชาย เหวี่ยงร่างของชายหนุ่มลอยสูงข้ามศีรษะของตนเองไปไกลหลายเมตร จนแรงส่งนั้นตกแมตต์จึงค่อยหล่นลงมากองกับพื้นทางเดิน

 

 

“หนีไปซะ อย่ากลับมาอีกหนีไปสิ

 

 

“ลูน่า มาด้วยกัน”

 

 

“บอกให้ไป ดวงตาสีน้ำเงินของหล่อนเจิดจ้าคล้ายมีเปลวเพลิงอยู่ภายใน เขาได้แต่มองด้วยความอึ้งจนกระทั่งลูน่าตวาดซ้ำ

 

 

“หนีไปอย่าหันกลับมาอีก” ในใจของแมตต์นั้นไม่ยินยอมกับคำขอนั้น ทว่ามันคล้ายประกาศิต คล้ายคำสั่งที่กำกับลงมนต์ ชายหนุ่มตัวแข็งทื่อไปก่อนจะวิ่งสุดแรงเกิดไปให้เร็วที่สุดตามที่เธอสั่ง

 

 

แมตต์วิ่งหนีไปแล้วทิ้งความสยดสยองให้จมหายอยู่เบื้องหลัง รวมทั้งลูน่าหญิงสาวที่เขาหมายปองให้เผชิญหน้ากับปีศาจไม่สิจะเรียกว่าแวมไพร์ตามลำพัง ภาพซากศพของเพื่อนทุกคนที่ถูกฆ่าหมด ตอกย้ำให้ชายหนุ่มแน่ใจว่านี่ไม่ใช่ความฝัน เขาได้แต่ถามตนเองซ้ำแล้วซ้ำเล่านี่มันเรื่องอะไรกัน เรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นตรงหน้าเขาได้ยังไง แต่ไม่มีคำตอบใดกระจ่างแจ้งแก่ใจ แมตต์ได้แต่วิ่งกระเจิดกระเจิงไปอย่างไม่มีจุดหมายแล้วหายในความมืดของรัตติกาล ด้วยความรู้สึกว่าโลกทั้งใบถล่มใส่เขาในคืนเดียว

 

 

*************************************************

 

 

“เจ้าบังอาจมาก เสียงทุ้มทรงพลังกล่าวน้ำเสียงเนิบนาบ

 

 

“กล้าปล่อยเหยื่อของข้าไปไม่ขออนุญาตข้าสักคำ”

 

 

“คุณกินมาเกินพอแล้ว”

 

 

หญิงสาวหันมาเผชิญหน้า ใช่ว่าเธอไม่กลัวเขา แต่ในสมองลูน่ารับรู้ว่าเธอเปลี่ยนแปลงไปแล้วไม่เหมือนมนุษย์ปถุชนทั่วไป  อีกทั้งเขานับเธอเป็นพวกเดียวกัน  ความกล้าจึงบังเกิดขึ้นมา แต่ไม่ทันได้เอ่ยอะไรอีก ทันใดนั้นร่างของเธอก็ถูกเหวี่ยงลงกระแทกบนโต๊ะทำงาน อุ้งมือใหญ่ทรงพลังบีบคอเล็กจนเธอร้องไม่ออก แรงความโกรธแผ่ซ่านเหมือนฟ้าถล่ม

 

 

“ข้ายังกินไม่พอ!!!” เขาตวาด “ไม่มีวันพอสำหรับข้า จนกว่าข้าจะกินมันให้หมดทั้งโลก ข้าถึงจะบอกว่าพอ ไม่ใช่เจ้า”

 

 

“คงสนุกนะถ้าไม่มีเหยื่อให้ล่าอีกแล้ว”

 

 

นัยน์ตาสีเขียวเรืองแสงนั่นมีปฏิกิริยาเล็กน้อย ริมฝีปากคลี่ยิ้มอย่างรู้ความหมายและนึกสนุก เหยื่อรายแรกที่กัด มีความคิดเป็นของตนเองต่างจากเหยื่อที่ผ่านๆ มา ผมสีดำ ดวงตาสีน้ำเงิน ผิวขาวเนียนเหมือนกระเบื้องเนื้อดี ทำให้นึกถึงสาวน้อยผมดำคนหนึ่งที่ถูกขายมาเป็นทาสจากแดนตะวันออกอันไกลโพ้น ทาสสาวที่เขาเคยปรารถนาจะโอบกอดเธอไว้ข้างกายชั่วนิรันดร์

 

 

ช่วงเวลาที่หลับใหลมันช่างแสนสั้น ทว่าโลกหมุนเร็วไปกว่า  ความจำจากเลือดเหยื่อถ่ายทอดเรื่องราวมากมายให้เขาได้เรียนรู้ทดแทนเวลาที่เสียไปศึกษาโลกยุคใหม่ โดยเฉพาะเลือดของดร.เกรท ตาแก่หนังเหนียวนั่นทำให้เขารู้ว่าโลกเดี๋ยวนี้มีอะไรสนุกๆ ให้ทำมากกว่าล่าเหยื่อแบบไม่ลืมหูลืมตาเหมือนแต่ก่อน งั้น...เขาน่าจะเริ่มจาก ตุ๊กตากระเบื้องแสนสวยนี่เสียก่อนก่อน

 

“สมัยก่อน ข้าเคยเห็นตุ๊กตากระเบื้องจากแดนไกล มันสวยมาก...เหมือนเจ้า ผิวมันลื่น...และเย็น” ฝ่ามือเย็นพอๆ กับน้ำแข็งลูบไล้ใบหน้าเธอไปมา หญิงสาวไม่รู้สึกเลยว่านี่เป็นสัมผัสของสิ่งมีชีวิต

 

 

“ข้าชอบมันมากรู้ไหม”

 

 

ลูน่าคอแข็งกลืนน้ำลายไม่ลงเลย เธอรู้โดยสามัญสำนึกว่าคนผู้นี้อยู่มาแสนนานท้าทายกาลเวลา  และทรงพลังอำนาจยิ่งนัก เทียบกับเธอแล้วลูน่าเป็นแค่แมลงที่อยู่ในมือผู้ที่สร้างโลก อย่าว่าแต่ต่อต้านเลย แค่คิดก็ยังไม่ได้ ความรู้สึกนึกคิดทั้งมวลของเธอบอกผ่านลมหายใจได้ไปสู่เขาได้

 

 

(มีต่อ)

 

 

แก้ไขเมื่อ 26 ม.ค. 55 14:49:52

จากคุณ : นวลน้ำผึ้ง
เขียนเมื่อ : 26 ม.ค. 55 14:37:44




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com