“เพลิน”
เสียงเรียกชื่อของเธอที่ดังอยู่ด้านหลังทำให้ ณิชนันท์หันกลับไปถามผู้เป็นอาด้วยน้ำเสียงประชด
“เพลินผิดอีกแล้วใช่มั้ยคะอาทัช”
นนทัชส่ายหน้าน้อยๆ ตาม ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ตัวหลานสาวพลางวางมือหนาๆ ข้างหนึ่งตามลงไปที่ศีรษะทุยได้รูปนั้นทันที
“ไม่มีใครผิดทั้งนั้น มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันไง ตอนนี้เข้าใจกันแล้วนี่”
เข้าใจกันแล้ว อย่างนั้นหรือ?
แต่ทำไมตอนเมื่อครู่ เธอถึงได้รู้สึกว่าตัวเองกำลังเป็นเหมือนตัวประหลาดอยู่ท่ามกลางสายตาของพ่อแม่ และอาทัชของเธอก็ไม่รู้... เด็กสาวส่ายหน้าไปมา เหมือนสับสนกับตัวเองอย่างหนัก
“แต่เมื่อกี้ทำไมเพลินถึงรู้สึกว่าตัวเองผิดอยู่คนเดียวก็ไม่รู้”
และแล้วณิชนันท์ก็ตัดพ้อออกมาและเกือบจะสะอื้นไห้ตามความน้อยใจของตนเองด้วยซ้ำ ดีที่เด็กสาวกักกั้นมันได้ก่อน ตามแบบของคนเจ้าทิฐิแข็งนอก อ่อนแอข้างใน
ก่อนนึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ เธอก็หันกลับไปถามผู้เป็นอาด้วยความไม่เข้าใจแกมน้อยใจนัก
“ทำไมอาทัชถึงได้ให้ปิ๊กอันนั้น กับฝ้ายไปล่ะคะ ทั้งพี่เพลินเคยขออาทัชเอามาเก็บไว้เองบ่อยๆ ”
คำถามของณิชนันท์ทำให้นนทัชหลุบสายตามองหลานสาวน้อยๆ และเขาก็ได้เห็นแววตาที่เจือไปด้วยน้ำตาน้อยๆ ของณิชนันท์ได้ทีเดียว ก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายกลับมานิ่งคิดเสียเอง ว่าทำไมเขาถึงได้ให้ของรักของหวงชิ้นนั้นแก่ มนัญชยาไปก็ไม่รู้ ทั้งที่เขาน่าจะเสียดายมัน แต่กลับไม่นึกเสียดายเอาเสียเลย
หากเขาได้มองถึงผลของการกระทำของตนเอง เพราะการที่เขาได้มอบของรักของหวงชิ้นนั้นของเขาไปให้เด็กสาวที่ใบหน้าไม่เคยพานพบกับรอยยิ้มมานาน จะทำให้เธอมีรอยยิ้มพิมพ์ตาขึ้นมาได้ เขาก็ถือว่ามันก็น่าจะเสียสละของสิ่งนั้นไปไม่ใช่หรือ
“อามีเหตุผลของอาเองที่ต้องทำอย่างนั้น”
“เหตุผล?”
นนทัชยิ้มที่มุมปากเพียงเล็กน้อย กับเหตุผลข้อนั้น ก่อนจะวางมือหนาลงไปที่ศีรษะหลานสาว แล้วขยี้เบาๆ แล้วเพื่อให้ณิชนันท์รู้สึกดีขึ้น
“ช่างเถอะน่า เป็นเหตุผลของคนที่เป็นผู้ใหญ่อย่างอา เพลินเองไม่จำเป็นต้องเข้าใจหรอก แต่ถึงแม้อาจะให้อะไรกับฝ้ายไป แต่เพลินก็ยังเป็นหลานสาวคนเดียว หลานสาวที่อารักมากที่สุดคนเดียวเข้าใจมั้ย”
“จริงๆ หรือคะ”
นนทัชหลุบสายตามองดู ดวงตาสองคู่ของณิชนันท์ที่เปล่งประกายเจิดจรัสขึ้น ยามที่ได้ฟังคำพูดเอาอกเอาใจของเขานั้น ซึ่งมันจะแตกต่างจากก่อนหน้านี้ลิบลับ นนทัชรีบสำทับเพื่อให้หลานสาวคนเดียวของตน เกิดความสบายใจและมั่นใจขึ้นว่า ไม่ว่ายังไง เธอก็ยังเป็นหลานสาวคนเดียวที่เขารักและปรารถนาดี “จริงสิ...”
มนัญชยา เอาเจ้าหวานเย็นที่ลุงธีซื้อและตั้งชื่อให้วางกลับไว้ที่เดิมด้วยอาการแผ่วเบา แสดงให้เห็นว่าเธอให้ความทะนุทนอมกันมันปานใด มนัญชยาค่อยๆ ใช้สายตาที่ดูไร้ความรู้สึกขึ้นมาจับจ้องมันอีกครั้ง ก่อนจะยกมือข้างหนึ่งไปสัมผัสกับมันเบาๆ เรื่องที่เกิดขึ้นมาเมื่อครู่เธอรู้อยู่เต็มอกดีว่า ใครเป็นคนก่อ และใครกันที่ผิดจริงๆ
ความจริงเธอก็ไม่อยากจะทำอะไรนัก แต่ยามใดที่ได้กลับไปคิด ว่าณิชนันท์คือลูกที่ลุงธีและป้ามนหรือเป็นหลานสาวที่นนทัชรัก ยามนั้นเธอจะเกิดความรู้สึกร้อนรุ่มอยู่ในอกทุกครั้ง ยากเหลือเกินที่จะควบคุมกะเกณฑ์ความรู้สึกเหล่านี้ ที่เผาไหม้อยู่ภายในใจจนเกิดความทุรนทุรายได้เอาไว้ในอกได้
มนัญชยารู้ว่ามันคอยแต่จะทำลายเธอขึ้นมาอย่างเงียบๆ และรุนแรงขึ้น
“ฉันไม่ผิดใช่มั้ยหวานเย็น ลุงธีและป้ามนเต็มใจที่จะมอบความรักให้กับฉันเอง โดยที่ฉันไม่เคยไปขอจากท่านมาก่อนนี่ ฉันไม่ได้ไปแย่งของๆ ใครสักหน่อย”
เด็กสาวยังคงพึมพำพูดอยู่กับเจ้าตัวสีชมพูตัวใหญ่ราวกับมันมีชีวิตจิตใจ เพื่อระบายความสับสนและรู้สึกที่อัดแน่นไปด้วยความชิงชังต่อเด็กสาวอีกคน ออกจากใจไปทีละน้อยๆ ... (จบตอนที่6)
จากคุณ |
:
พิณพลอย
|
เขียนเมื่อ |
:
26 ม.ค. 55 21:19:31
|
|
|
|