Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เมืองมายา มนตราอลเวง บทที่ 2 ประทับตรา ติดต่อทีมงาน

          บทที่ 2

          ประทับตรา

ภายในคฤหาสน์หลังหนึ่งซึ่งเป็นที่พักชั่วคราวของเจ้าชายจากต่างเมือง งานเลี้ยงรื่นเริงยังคงดำเนินต่อไปแม้เวลาจะล่วงเลยผ่านไปจนดึกดื่นมากแล้ว เสียงพูดคุยหัวเราะดังอยู่เป็นระยะราวกับว่างานเลี้ยงนั้นสนุกสนานเสียเต็มประดา ทว่าใครคนหนึ่งกลับไม่คิดเช่นนั้นทั้งที่รอยยิ้มยังระบายอยู่บนใบหน้า

            สการ์เล็ต เรสเทล เจ้าหญิงองค์โตผู้รั้งตำแหน่งรัชทายาทอันดับสองแห่งอาณาจักรเรสทอเรียลอบระบายลมหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ไม่มีความหมายใดมากไปกว่าการต้องให้เกรียติแก่แขกเมืองที่ทำให้นางจำยอมตอบรับคำเชิญงานเลี้ยงในคืนนี้ แม้ว่าผู้เชิญจะเป็นคู่หมั้นหมายของนางเองก็ตาม

            ด้วยฐานะทางสังคมและความงดงามอันยากจะหาผู้ใดมาเทียบเคียงจึงทำให้เจ้าหญิงสการ์เล็ตเป็นที่สนใจของผู้คนมากมาย โดยเฉพาะบุรุษหนุ่มผู้ต้องการความก้าวหน้าและชื่นชมหลงใหลในความงดงามแห่งอิสสตรี

            ทั้งคหบดีและผู้มียศศักดิ์ต่างพากันแวะเวียนมาทักทายชวนสนทนากันได้ไม่หยุดหย่อน สร้างความเหนื่อยอ่อนให้นางซึ่งต้องคอยปั้นสีหน้ายิ้มแย้มอยู่เสมอ และยังผลให้เกิดความรู้สึกไม่พอใจแก่เจ้าชายเฟร์นานโดซึ่งต้องการหาโอกาสใช้เวลากับเจ้าหญิงเพียงลำพังอยู่ไม่น้อย

            เฟร์นานโด เฮย์เดน เจ้าชายลำดับที่สามแห่งอาณาจักรเฮย์เดนซึ่งอยู่ติดกับอาณาจักรเรสทอเรียทางด้านตะวันตก เขาผู้เป็นที่หมายปองจากหญิงสาวทั่วทั้งอาณาจักรด้วยรูปลักษณ์อันงดงามราวเทพบุตรจากสรวงสวรรค์ เรือนกายกำยำสูงโปร่งทรงสง่า เส้นเกศาดุจไหมสีทองยามต้องแสงตะวัน ดวงเนตรแวววาวราวมรกตเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ทำเอาสาวน้อยสาวใหญ่แทบละลายยามได้ประสานสายตา

            ทว่าไม่ใช่กับสการ์เล็ต

            นางไม่เคยหลงใหลในเสน่ห์ของเขาและคงไม่คิดให้ความสนใจแม้แต่น้อยหากไม่ใช่เพราะพันธะหน้าที่ซึ่งบังคับให้ทั้งสองต้องผูกพันกัน

            กลับเป็นเฟร์นานโดเสียอีกที่หลงใหลได้ปลื้มในรูปโฉมอันงดงามราวกับเทพธิดาของเจ้าหญิง ดวงหน้าขาวแก้มเนียนเปล่งปลั่งชวนลูบไล้ เรียวปากอวบอิ่มแดงระเรื่อ นัยน์ตาสีทับทิมรับกับเรือนผมสีน้ำตาลทองยาวหยักศกดูลุ่มลึกนุ่มนวลชวนฝัน มันสะกดเขาให้ชะงักงันตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้สบตา หลายครั้งคราที่เจ้าชายเทพบุตรลอบมองสำรวจเรือนร่างสมส่วนกลมกลึงน่าเคล้าคลึงสัมผัสจนยากนักที่จะอดใจมิให้ไขว่คว้าร่างนั้นมาเชยชม

            ดวงตาสีมรกตเชื่อมหวานยามจับจ้องเรือนร่างของเจ้าหญิงสการ์เล็ตจนมิได้รู้สึกถึงสัมผัสริษยาจากสตรีอีกนาง

            “ท่านคงหลงใหลในความงามราวกับเทวีจุติของเจ้าหญิงมาก จึงได้จับจ้องอย่างไม่วางตาเช่นนี้”

            เสียงหวานเอ่ยขึ้นข้างตัวเจ้าชาย เฟร์นานโดจับได้ถึงแววประชดประชันในน้ำเสียงเรียบเรื่อยนั้น ทว่ามันกลับทำให้เขาพึงพอใจ รู้ดีว่านางผู้นี้หลงใหลในตัวเขามากแค่ไหนจึงได้มีปฏิกิริยาหึงหวง

            “ของสวย ๆ งาม ๆ ใครบ้างไม่อยากมอง”

            เฟร์นานโดตอบพร้อมกับหันไปมองหญิงสาวในชุดราตรีสีหวาน เรียวปากบางกระตุกยิ้มเมื่อเห็นดวงตากลมโตของอีกฝ่ายลุกวาว

            “ถึงกระนั้นก็ไม่มีใครติดตรึงใจข้าได้มากไปกว่าเจ้าหรอก เซเซีย”

            เจ้าชายหยอดคำหวานเพื่อมิให้เจ้าของนาม เซเซีย ต้องขุ่นเคืองใจมากเกินไปนัก

            นางยังมีประโยชน์ควรค่าแก่การเอาใจอยู่บ้าง

            “คำหวานเช่นนี้ ท่านคงโปรยให้สตรีไปทั่ว” ถึงปากว่าอย่างนั้นแต่เซเซียกลับพึงพอใจอยู่มิใช่น้อย

            หญิงสาวรู้ดีว่าเจ้าชายผู้หล่อเหลาองค์นี้เป็นที่หมายปองของสตรีทั่วแดน ทั้งยังมีคู่หมั้นหมายเป็นตัวเป็นตน แต่บางสิ่งก็ทำให้นางถือสิทธิ์ในตัวเขา แม้ว่ามันยังเป็นสิ่งที่ต้องซ่อนเร้นต่อผู้คนก็ตาม

            ทว่าอีกไม่นานนักหรอก...

            “คุยอะไรกันอยู่หรือ ท่าทางน่าสนุก” เสียงเอ่ยถามจากเจ้าหญิงสการ์เล็ตทำให้ความสำราญภายในใจของเซเซียมลายหายไปทันที ทว่าด้วยมารยาทแล้วเซเซียจำต้องยิ้มตอบ แม้ว่าใจจริงอยากไล่นางออกไปให้พ้นก็ตาม

            “คุยเรื่องทั่วไปน่ะค่ะ ไม่มีอะไรน่าสนใจนักหรอก”

            สการ์เล็ตได้แต่ยิ้มกับคำตอบอย่างเสียมิได้ของสตรีตรงหน้า ช่างเป็นการยากนักกับการจะหาโอกาสคุยกับน้องสาวต่างมารดาผู้นี้สักครั้ง เจ้าหญิงทอดถอนใจภายในห้วงดำริก่อนหันไปกล่าวกับเฟร์นานโด

            “นี่ก็ดึกมากแล้ว เห็นควรได้เวลากลับเสียที ข้าขอลาเจ้าชายตรงนี้เลยนะคะ”

            “จะกลับแล้วหรือ เรายังไม่ได้คุยกันเท่าไหร่เลย” เฟร์นานโดถามอย่างนึกเสียดาย ทว่านางจะกลับหรือจะอยู่เขาก็ไม่ได้รู้สึกขัดข้องอะไรนักหรอก เพราะยังมีอีกตัวเลือกสำหรับฆ่าเวลาอยู่ข้าง ๆ อีกทั้งคน

            “ข้าเป็นห่วงท่านพี่อัลเบิร์กน่ะค่ะ วันนี้อาการของท่านไม่ดีนัก อย่างน้อยข้าก็อยากกลับไปดูแลท่านสักหน่อย”

            “ถ้าอย่างนั้นก็แล้วแต่เจ้าหญิงเห็นควรเถิด ข้าฝากความห่วงใยถึงเจ้าชายอัลเบิร์กด้วยก็แล้วกัน”

            “ข้าขอขอบคุณแทนท่านพี่อัลเบิร์กนะคะ” สการ์เล็ตคำนับเจ้าชายคู่หมั้นแล้วหันไปถามเซเซีย “แล้วน้องจะกลับหรือยังจ๊ะ เราจะได้กลับพร้อมกัน”

            “ข้าคิดว่าจะอยู่ต่ออีกสักพัก ท่านพี่กลับไปก่อนเถอะค่ะ” เซเซียกล่าวปฏิเสธ นางจะรีบร้อนกลับไปทำไม ในเมื่อความสำราญที่แท้จริงจะเริ่มต่อไปนับจากนี้ เพราะตัวขวางหูขวางตากำลังจะกลับไปแล้ว

            “ถ้าอย่างนั้นพี่ไปก่อนนะจ๊ะ”

            “ขอให้ท่านพี่เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพค่ะ” เจ้าหญิงองค์รองอวยพรทั้งที่ใจจริงอยากให้มันเป็นในสิ่งตรงกันข้าม

            หลังจากสการ์เล็ตลับหลังไปแล้ว เจ้าหญิงเจ้าชายทั้งสองต่างสบตากันก่อนจะลอบหลบผู้คนออกไปอยู่เพียงลำพังเพื่อสานสัมพันธ์ที่ยังมิอาจเปิดเผยต่อผู้ใด

            */*/*/*/*

 

            ระหว่างรอรถม้าของตนอยู่ที่บันไดทางเข้าประตูหน้าคฤหาสน์ สการ์เล็ตขยับเสื้อคลุมขนสัตว์ให้กระชับขึ้นเมื่อสายลมเย็นยะเยือกพัดมากระทบผิวกาย นางเงยหน้ามองท้องฟ้าอันมืดสลัวซึ่งมีเมฆหมอกอยู่เพียงเบาบาง เพิ่งผ่านพ้นคืนเดือนเพ็ญไปแค่สองราตรีดวงจันทร์จึงยังส่องแสงสว่างกระจ่างนัก

            “ท่านหญิงสนใจทำนายดวงชะตาบ้างหรือไม่”

            เสียงทุ้มที่เอ่ยถามทำให้เจ้าหญิงสการ์เล็ตหันไปมองยังที่มาอย่างแปลกใจ บุคคลในชุดคลุมสีดำปกปิดมิดตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า มีเพียงแว่นตารูปทรงเรียวรีกรอบหนากับใบหน้าขาวเผือดโผล่พ้นชายผ้าออกมาให้เห็น ความสูงที่มีมากกว่ามาตรฐานทั่วไปของหญิงสาวกับน้ำเสียงทุ้มต่ำทำให้สการ์เล็ตพอจำแนกได้ว่าเขาเป็นบุรุษที่ยังไม่น่าจะสูงวัยนัก

            เจ้าหญิงยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งพลางมองอีกฝ่ายอย่างพิจารณา

            “ข้าไม่สนใจในโชคชะตา ข้าเชื่อว่าอนาคตย่อมเกิดจากผลของการกระทำของข้าเอง”

            สการ์เล็ตปฏิเสธนักทำนายไปอย่างนั้น หากนางต้องการดูดวงจริง มีหรือนักพยากรณ์ประจำราชสำนักจะใช้การไม่ได้

            “น่าเสียดาย...นึกว่าจะได้ลูกค้าอีกสักคน” นักทำนายพ่นลมหายใจพร้อมกับขยับแว่น “ไม่อย่างนั้นก็คงได้เงินพอสำหรับค่าที่พักในคืนนี้”

            “ถ้าเรื่องนั้นข้าพอช่วยได้” สการ์เล็ตแย้มยิ้มบางเมื่อได้ยินดังนั้น นางหยิบเหรียญเงินสกุลการ์ตออกมาจำนวนหนึ่งแล้วส่งให้กับนักทำนาย “จงรับเอาไว้ หากเจ้าจำเป็นต้องใช้มันจริง ๆ “

            “ยังใจดีต่อคนแปลกหน้ามิเคยเปลี่ยน...” นักทำนายเอ่ยพึมพำแผ่วเบา เจ้าหญิงจึงมิอาจได้ยินและไม่ทันเห็นรอยยิ้มบางที่ผุดขึ้นบนเรียวปากเพียงวูบหนึ่งของเขา

จากคุณ : AMA-chun
เขียนเมื่อ : 28 ม.ค. 55 02:35:53




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com