Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
+ + + ขอความกรุณาวิจารณ์งานเขียนด้วยค่ะ + + + ติดต่อทีมงาน

ยินดีรับฟังคำวิจารณ์ทุกรูปแบบค่ะ

            เรื่องชุด มะแฮง  ตอนที่ 1 บ่วงใย

เมื่อก่อนสมัยที่ดิฉันยังเป็นเด็ก ในคืนที่ร้อนอบอ้าว ย่ามักจะพาหลานๆ คือ ดิฉันกับน้องชาย 2 คน ออกไปปูเสื่อนอนที่ระเบียงหน้าบ้าน ซึ่งพวกเราชอบกันมาก เพราะนอกจากจะได้รับลมเย็นสบายที่พัดจากต้นไม้ใหญ่ อย่างต้นมะเฟือง ต้นมะม่วง แล้ว ลมยังโชยเอากลิ่นหอมของดอกไม้ไทยๆชนิดต่างๆ ที่ปลูกเอาไว้รอบบริเวณบ้าน ประเภท กระดังงา เล็บมือนาง จำปี รวมถึงดอกราตรีหมู่ใหญ่มุมรั้ว ช่วยสร้างบรรยากาศให้พวกเราได้หวาดผวาและสนุกตื่นเต้น แย่งกันนอนตรงกลาง ทั้งนี้ก็เพราะความกลัวผีตามประสาเด็กนั่นเอง

บางครั้งการทะเลาะเพื่อแย่งกันนอนตรงกลางนี้ ถึงขั้นลงไม้ลงมือใช้กำลังกันวุ่นวายไม่เกี่ยงว่าใครเป็นพี่ ใครเป็นน้อง จนย่าต้องล้มเลิกกิจกรรม “นอนนอก”ไปเลยก็มี ปล่อยให้พวกเรานอนร้อนเหงื่อแตกซิกๆกันอยู่ในห้อง แม้ว่าจะเปิดหน้าต่างรับลมทุกบาน ก็ช่วยไม่ได้มากนัก สู้นอนรับลมเย็นสบายข้างนอกไม่ได้

ย่าจะกลัวผีหรือไม่ประการใดดิฉันไม่ทราบ แต่การออกไปนอนข้างนอกระเบียงนั้น ย่ามักจะเลือกเอาคืนเดือนหงายพระจันทร์ ส่องแสงนวลสว่างไสว มองเห็นบริเวณรอบนอกได้อย่างชัดเจน แต่ย่าจะไม่มีกิจกรรม “นอนนอก” ในคืนวันพระโดยเด็ดขาด


อย่างไรก็ตามขึ้นชื่อว่าเป็นหมู่บ้านชนบทห่างไกลแล้ว ในเรื่องของความเชื่อ สิ่งแปลกประหลาดลี้ลับอันยากต่อการพิสูจน์ ความมืดมิดของยามค่ำคืน ความเงียบวังเวง เสียงหมาหอน กลิ่นหอมของดอกไม้กลางคืน เสียงพระสวดยามค่อนรุ่ง ต่างๆเหล่านี้ ยังคงความขลังอยู่ทุกยุคทุกสมัย ยิ่งเด็กอย่างพวกเรา ไม่มีทางที่จะเข้าใจกฎเกณฑ์ธรรมชาติ โดยเฉพาะเรื่องของความตายและวิญญาณ ดังนั้นความกลัวผี จึงซอกซอนอยู่ในทุกอณูของร่างกาย

คืนนั้น พวกเราออกไปนอนข้างนอกกันเช่นเคย อากาศร้อนอบอ้าวมาก ดิฉัน เป่ายิงฉุบแพ้น้องชายคนรอง จึงได้นอนริมกลุ่มทางด้านซ้าย ส่วนย่านั้นมีที่นอนประจำตายตัวคือริมด้านขวาอยู่แล้ว ดิฉันจึงขนหมอนและผ้าห่มมากองสุมข้างๆตัว ทำให้ดูเหมือนมีใครอีกคนนอนอยู่ข้างๆ พอปลอบใจตัวเอง ส่วนน้องชายคนเล็กนั้นไม่ได้ออกแรงอะไรในการแย่งที่นอน เพราะได้อภิสิทธิ์โดยชอบธรรมในการได้นอนกลางใกล้ย่าอยู่แล้ว

กระนั้น ดิฉันก็ยังนอนไม่หลับในคืนวันนั้น ซึ่งปกติก็เป็นคนนอนหลับยากอยู่แล้ว อาจเพราะเป็นเด็กขี้กลัวมาก เด็กอายุ 9 ขวบอย่างดิฉันกำลังอยู่ในวัยที่ช่างคิด ช่างอยากรู้อยากเห็น อีกอย่างการที่ดิฉันนำเอาหมอนและผ้าห่มมากองสูงๆข้างๆตัว มันก็เปรียบเสมือนเป็นการสร้างกำแพงกั้นทิศทางลมไว้นั่นเอง

ดิฉันจึงนอนกระสับกระส่ายพลิกตัวไปมา ย่าและน้องทั้ง 2 คนหลับไปนานแล้วตั้งแต่เล่านิทานจบ ขณะนี้มีแต่ความเงียบสงัด นานๆจึงจะได้ยินเสียงลมพัดผ่านยอดไม้เสียครั้งหนึ่ง ดิฉันนอนตะแคงลืมตาโพลงมองออกไปข้างนอกรอบบริเวณบ้าน มองเห็นเงาต้นไม้สูงใหญ่ไกลออกไปตะคุ่มๆท่ามกลางแสงจันทร์บางครั้งก็ส่ายไหวๆตามแรงลม มองดูแรกๆก็เห็นเป็นเงาต้นไม้ดีอยู่หรอก แต่พอจ้องมองให้ชัดๆมันกลับเหมือนเงาของภูตผี ปีศาจ ตัวมหึมา กำลังแสยะแยกเขี้ยวกวักมือเรียกอยู่ไหวๆ ทำเอาดิฉันต้องรีบดึงผ้าห่มขึ้นคลุมโปง ให้สายตาพ้นจากภาพน่าเกลียดน่ากลัวนั้น ถึงแม้ภายใต้ผ้าห่มจะร้อนอบอ้าวเหงื่อแตกซิกๆยังไงก็ต้องทน แต่ก็ทนได้ไม่นานนักก็ต้องดึงผ้าห่มออกเหมือนเดิม จึงได้แต่พยายามข่มตาให้หลับลงอย่างลำบากยากเย็น

ดิฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมาอีกครั้งท่ามกลางความเงียบสงัดของกลางดึก เพราะน้องชายที่นอนข้างๆละเมอขึ้นเบาๆ รู้สึกได้ถึงมือของย่าที่เอื้อมมาลูบหัวน้องอย่างปลอบโยน ดิฉันถอนหายใจอย่างโล่งอก ที่อย่างน้อยก็ไม่ใช่ดิฉันเพียงคนเดียวที่ตื่นขึ้นมากลางดึกเช่นนี้ ขณะที่ดิฉันกำลังจะหลับต่อนั้น พลันก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ มันเป็นเสียงของคนคุยกันแว่วๆจากที่ไกลๆสักแห่ง แต่สักพักก็เงียบไป แต่แล้วกลับได้ยินเสียงนั้นดังขึ้นมาอีก ครั้งนี้ดูเหมือนจะใกล้เข้ามา ไอ้แดงหมาที่เลี้ยงไว้ใต้ถุนบ้าน ส่งเสียงขู่คำรามเบาๆ ดิฉันเงี่ยหูฟังด้วยใจระทึก แล้วเสียงนั้นก็เงียบไปอีก

ในขณะที่ดิฉันกำลังคิดว่าตัวเองหูฝาดไปนั้น เสียงนั้นก็ดังขึ้นมาอีก คราวนี้เป็นเสียงรองเท้าแตะ ดังใกล้เข้ามา ใกล้เข้ามา เสียงดังชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ดิฉันขนลุกซู่ กลัวจับใจจนทนไม่ไหว กระซิบปลุกย่าเบาๆ ด้วยเสียงที่สั่นเทา ดูเหมือนย่าเองก็ตื่นและได้ยินเสียงเหมือนกับดิฉัน ย่าจึงกระซิบบอกไม่ให้ดิฉันส่งเสียงดังใดๆ ตัวย่าเองค่อยๆลุกขึ้นนั่ง หันหน้าไปทางถนนหน้าบ้าน พยายามเพ่งมองไปยังต้นเสียงที่กำลังเดินใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ดิฉันเองก็ค่อยๆลุกขึ้นขยับเข้าไปนั่งแอบอยู่ข้างหลังย่า ด้วยหัวใจเต้นระรัว ร่างกายสั่นเทิ้ม ด้วยความกลัว

ในความสว่างโพลนของแสงจันทร์ ปรากฏเงาดำร่างหนึ่ง กำลังเดินตะคุ่มๆ อยู่บนถนนลูกรังที่ทอดผ่านหน้าบ้าน มุ่งหน้ามาทางบ้านพวกเรา ก่อนที่ทั้งดิฉันและย่าจะทันได้ทำการใดๆลงไป ไอ้แดงก็เห่ากรรโชกขึ้น พร้อมกับวิ่งพรวดพราดออกไปยืนเห่ากลางถนน ร่างที่กำลังเดินตะคุ่มๆนั้นหยุดชะงักลงทันที พร้อมกับส่งเสียงตวาดด่าไอ้แดงขรม ย่าถอนหายใจออกมาดังเฮือกใหญ่ พร้อมกับตะโกนดุให้ไอ้แดงเงียบเสียงลง พลางถามออกไปว่า

“นั่นลุงทิดเสาหรือ จะไปไหนดึกๆดื่นๆอย่างนี้”
“อ้าว!นั่นยายอำรึ ออกมานอนข้างนอกอย่างนี้ไม่กลัวผีตายโหงหลอกเอาหรือ?”ปู่ทิดเสาตอบย่ามา พร้อมกับพูดต่อว่า
“จะไปดูศพอียุลูกยายจันทร์สักหน่อยมันผูกคอตายใต้ต้นมะไฟข้างบ้านมัน ไอ้ยันต์พี่มันมาพบศพเมื่อตอนราวๆเที่ยงคืนนี่แหละ เฮ้ย! ไอ้แดงเอ็งจะเห่าหาสวรรค์วิมานพ่อเอ็งเรอะ เงียบสิ จุ๊ๆๆ” ปู่ทิดเสาพูดพลางดุไอ้แดงไปพลาง

“ห๊า!! ลุงทิดเสา ว่าไงนะ ไหนพูดใหม่ชัดๆซิ” เสียงย่าอุทานอย่างตกใจ พร้อมร้องเรียกให้ปู่ทิดเสาขึ้นมาคุยกันบนบ้านแต่ปู่ทิดเสาบอกว่าจะรีบไป เพราะศพยังไม่ได้ปลดลงมาจากกิ่งมะไฟ พี่ยันต์พี่ชายพี่ยุ กลับมาจากเที่ยวงานวัดบ้านดอนใหญ่ เป็นคนเห็นศพห้อยโตงเตงคนแรก ยังไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ก็วิ่งตะโกนโหวกเหวกไปบอกชาวบ้านแถวนั้นให้รู้

ย่ารีบสั่งให้ดิฉันปลุกน้องชายทั้งสองคน เพื่อย้ายเข้าไปนอนข้างในบ้าน ขณะเดียวกันอาป้อมก็ถือตะเกียงเปิดประตูออกมาดู พอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นก็ตกใจใหญ่ รีบเข้ามาจูงแขนน้องทั้งสองที่กำลังสะลึมสะลืองัวเงีย ให้เข้าไปในบ้าน ส่วนดิฉันกับย่าก็ช่วยกันขนเสื่อ ผ้าห่ม หมอน กันอย่างโกลาหล

เมื่อย้ายที่นอนกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็พอดี ปู่ใหญ่กับย่าใหญ่ ที่บ้านอยู่ข้างๆกัน ซึ่งเป็นพี่ชายและพี่สะใภ้ของย่า ก็มาเคาะประตูเรียกให้เปิดบ้านรับ ท่านมาถามข่าวเพราะได้ยินเสียงพูดคุยเอะอะ จึงอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อรู้อะไรเป็นอะไรแล้ว ท่านทั้งสองก็อยู่พูดคุยกับย่าและอาป้อม และนอนเป็นเพื่อนพวกเราจนกระทั่งรุ่งเช้า ทั้งนี้เพราะว่า พ่อแม่ของดิฉันไม่ได้อยู่ที่บ้าน ไปนอนนากันนานแล้ว ส่วนพี่ชายคนโต ก็ไปเรียนต่อระดับชั้นมัธยมในเมือง เมื่อตอนต้นปี


* * * "มะแฮง" คือป่าช้าที่ฝังศพของคนตายโหง ตามภาษาอีสาน * * *

แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 21:32:50

แก้ไขเมื่อ 01 ก.พ. 55 11:23:47

 
 

จากคุณ : เพชรน้ำนิล
เขียนเมื่อ : 31 ม.ค. 55 20:44:36




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com